|
|
หารายได้เสริมเพิ่มกำไร
หารายได้เสริมเพิ่มกำไร
รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล witawat@marketingmoves.co.th
ภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้ไม่ค่อยสู้ดีนัก ผมจะได้ยินเพื่อนฝูงในวงการธุรกิจบ่นให้ฟังถึงรายได้ของบริษัทที่มีทีท่าว่าจะทรงตัวหรือแย่กว่าปีที่ผ่านมา ในสถานการณ์เช่นนี้ทำอย่างไรที่จะรักษาผลกำไรของบริษัทเอาไว้ได้ ?
ผมเห็นว่า การหารายได้เสริมให้กับธุรกิจเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าจะหยิบขึ้นมาพิจารณาครับ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผมเห็นว่าหลายๆ บริษัทที่มีอัตราเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง กำไรไม่ได้มาจากธุรกิจเดียวแต่มาจากรายได้หลายแหล่งที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับฐานธุรกิจเดิม
ในธุรกิจผลิตภาพยนตร์รายได้หลักมาจากส่วนแบ่งค่าบัตรชมภาพยนตร์(แบ่งกับเจ้าของโรงภาพยนตร์) รายได้เสริมมาจากการนำภาพยนตร์ไปผลิตในรูปแผ่น VCD, DVD จำหน่าย (หนังบางเรื่องยอดจำหน่ายแผ่นสูงกว่ายอดรายได้ในโรงด้วยซ้ำ)
วันนี้แหล่งรายได้เสริมของธุรกิจภาพยนตร์อยู่ที่โฆษณาแฝงในภาพยนตร์ ผู้บริหารระดับสูงของ RS เคยให้สัมภาษณ์ว่า แต่ก่อนต้องลงทุน 10-20 ล้านเพื่อสร้างภาพยนตร์ โดยไม่รู้ว่าฉายออกไปแล้วจะได้เงินเท่าไร แต่ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่วันนี้ยังไม่ทันได้ฉายก็ได้เงินแล้ว
เงินที่ว่าก็มาจากค่าโฆษณานั่นละครับ
วันนี้แค่คิดว่าบทหนังจะออกมาอย่างไร ยังไม่ทันเริ่มถ่าย เจ้าของค่ายหนังก็เริ่มคิดแล้วว่า จะหาใครมาเป็นสปอนเซอร์
ถ้าเป็นหนังเกี่ยวกับสุนัขก็ไปคุยกับผู้ผลิตอาหารสุนัข โรงพยาบาลสัตว์ของเอกชน แชมพูสุนัข เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายละ 1-5 ล้าน ก็ได้เงินร่วม 10 ล้านหรือกว่านั้น มาเป็นรายได้ก่อนหนังฉายแล้ว
ละครโทรทัศน์ของหลายๆ ค่าย วันนี้ก็รับรายได้จากโฆษณาแฝงมาเสริมรายได้หลัก จึงไม่แปลกใจว่าละครบางเรื่อง พระเอก นางเอก ตัวอิจฉา ล้วนใช้โทรศัพท์มือถือยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน โดยกล้องถ่ายให้เห็นโทรศัพท์ระหว่างที่พระเอกนางเอกคุยกันอย่างจงใจให้เห็นยี่ห้อของโทรศัพท์ บทพูดของตัวละครก็มีการกล่าวถึงยี่ห้อสินค้าของผู้สนับสนุนอย่างชัดเจน
ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ นอกจากการหารายได้เสริมจากค่าโฆษณาแล้ว การขายข้าวโพดคั่ว น้ำอัดลม หน้าโรงก็เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่มีกำไรมหาศาล (กำไรดีกว่าฉายภาพยนตร์ด้วยซ้ำ) แต่รายได้ที่เป็นกอบเป็นกำของธุรกิจโรงภาพยนตร์วันนี้มาจากธุรกิจให้เช่าพื้นที่บริเวณรอบๆ โรงภาพยนตร์เพื่อทำการค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ กิ๊ฟท์ช็อป ร้านขายมือถือ จนถึงธนาคารที่มาเช่าพื้นที่ค้าขายรอบๆ โรงภาพยนตร์นั้น เป็นรายได้ที่ช่วยให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ยุคใหม่มีกำไร
ในธุรกิจธนาคาร รายได้หลักมาจากส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากกับดอกเบี้ยเงินกู้ แต่วันนี้ทุกธนาคารหารายได้เสริมจากการจำหน่ายบริการทางการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายกองทุน ขายประกันชีวิต ประกันรถยนต์ ตลอดจนสินค้าต่างๆ บางธนาคารจัดสรรพื้นที่ให้ร้านกาแฟชื่อดังมาเปิดในสาขาของธนาคาร รายได้ที่รับแน่ๆ ต่อเดือนก็คือค่าเช่าพื้นที่
ในต่างประเทศ เกษตรกรหารายได้เสริมจากการขายโฆษณาบนผลผลิตของตนเอง เช่นฟาร์มผลิตไข่ไก่ จะสกรีนโลโก้และข้อความโฆษณาของสปอนเซอร์บนเปลือกไข่ เกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ก็จะติดสติกเกอร์โฆษณาของสปอนเซอร์ลงบนผลไม้ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร
วันนี้เราจะเห็นธุรกิจเล็กๆ พยายามหารายได้เสริม เช่น รถขายไอศกรีมหรือปลาหมึกปิ้งมีบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือขาย ร้านขายต้นไม้ตั้งป้ายว่า ที่นี่มีหวยบนดินขาย
รายได้เสริมอาจไม่มากนักแต่ก็ช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้กิจการ ในอนาคตบางครั้งรายได้เสริมนี้ละครับอาจสร้างกำไรให้กิจการมากกว่ารายได้ประจำด้วยซ้ำ
ผมมีเพื่อนที่เปิดบริษัทวิจัยและเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาด นามบัตรเขามี 2 ด้านครับ ด้านหนึ่งระบุว่าเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาด อีกด้านหนึ่งระบุว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูฮวงจุ้ย ดูลายเซ็น โหงวเฮ้ง ตั้งศาลพระภูมิ ทั้ง 2 ธุรกิจทำในนามบริษัทเดียวกันที่เขาเป็นเจ้าของ
พอผมถามว่าลูกค้าไม่งงหรือว่าบริษัททำธุรกิจอะไรกันแน่ เขาบอกว่า ธุรกิจทั้ง 2 เสริมซึ่งกันและกัน จะว่าไปแล้วธุรกิจหลักก็คือ ที่ปรึกษาทางด้านการตลาดแต่การเปลี่ยนแปลงปรับปรุงธุรกิจตามหลักวิชาการตลาดเห็นผลช้าและถ้าต้องการให้พนักงานและเจ้าของเปลี่ยนแปลงต้องแก้จากทัศนคติและกำลังใจก่อน
การให้บริการตั้งศาลพระภูมิ ปรับฮวงจุ้ยให้ห้องทำงานผู้บริหาร เปลี่ยนลายเซ็น เปลี่ยนชื่อ ทำให้เจ้าของกิจการเกิดกำลังใจและรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งกับตัวเองและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ทำให้การเปลี่ยนแปลงในบริษัททำได้ง่ายขึ้นและเมื่อลูกน้องรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในบริษัท โดยเฉพาะจากเจ้าของบริษัท ก็ช่วยเปิดใจให้เขายอมรับความเปลี่ยนแปลงได้ดี กับพนักงานระดับล่างบางครั้งการแนะนำให้เปลี่ยนวิธีการทำงาน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหรือระบบการทำงานใหม่ จะเกิดกระแสต่อต้าน อธิบายด้วยหลักทางธุรกิจหรือเชิงกลยุทธ์ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรือเป็นที่ยอมรับ แต่พอบอกว่าต้องเปลี่ยนที่ตั้งเครื่องจักรและระบบการทำงานใหม่เพื่อปรับฮวงจุ้ยให้ค้าขายดีขึ้น พนักงานไม่ค่อยโต้แย้ง ดูจะยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้มากกว่า
วิธีการนี้จะเรียกว่า โหรามาร์เก็ตติ้ง ก็เห็นจะได้ครับ อาศัยทั้งโหราศาสตร์และการตลาดมาผสมกัน ในการให้คำปรึกษาเพื่อพัฒนาธุรกิจ สุดยอดครับ ลูกค้าก็พอใจ ส่วนเพื่อนผมก็ได้รายได้เสริมจากการปรับฮวงจุ้ย ตั้งศาลพระภูมิ ไปๆ มาๆ ยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี รายได้ของธุรกิจหลังดูจะมาแรงแซงธุรกิจที่ปรึกษาทางด้านการตลาดไปเสียแล้ว
| Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2550 |
| Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2550 16:16:40 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 453 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| hoon_vi |
 |
|
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
