แหล่งรวบรววมวิธีเล่นหุ้น
 
สร้างนักเตะ สไตล์ 'อินเตอร์ มิลาน' อินเตอร์ ไทยแลนด์

สร้างนักเตะ สไตล์ 'อินเตอร์ มิลาน' อินเตอร์ ไทยแลนด์

จะทำโรงเรียนสอนฟุตบอล ต้องมั่นใจในหลักสูตร และหัวใจสำคัญอยู่ที่สนาม ไม่ใช่อยู่ที่ออฟฟิศสวยๆ ลงทุนเยอะๆ



โรงเรียนฟุตบอล อินเตอร์ ไทยแลนด์ คือ โรงเรียนสอนฟุตบอลที่ถอดสูตรสไตล์การเล่นบอลของทีมงูใหญ่ "อินเตอร์ มิลาน" สโมสรฟุตบอลชื่อดังของอิตาลี โดยมี "สมบัติ ลีกำเนิดไทย" อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นทั้งเจ้าของและโค้ชผู้สอน

"สไตล์ของอินเตอร์ มิลาน คือ มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ความสนุกจะเป็นรอง เวลาเล่นเขาจะ "แอ็คเกรสซีฟ เพลย์" คือเล่นจริงจัง ไม่เล่นแบบเหยาะแหยะ เขาจะมุ่งฝึกคนให้เป็นมืออาชีพ ต้องฝึกเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์

ขณะที่คนไทยเวลาเล่นจะออมแรง เล่นประคองให้หมดเวลา ซึ่งของเขาจะใส่เต็มที่ไปเลย เล่นช่วงสั้น แต่เต็มที่"

ก่อนหน้านี้สมบัติและเพื่อนฝูงได้เปิดโรงเรียนสอนฟุตบอล "อินเตอร์ แคมปัส" ซึ่งเป็นแฟรนไชส์จากอิตาลีที่มาเปิดสาขาในไทย แต่ด้วยรายจ่ายที่สูงกว่ารายได้ โรงเรียนอินเตอร์ แคมปัส จึงต้องปิดตัวเองไป สมบัติเลือกที่จะเปิดโรงเรียนสอนฟุตบอลต่อ โดยเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "อินเตอร์ ไทยแลนด์" พร้อมนำหลักสูตรเดิมที่เขาผ่านการเทรนจากโค้ชต่างชาติมาสอนนักเรียนต่อ

"อินเตอร์ แคมปัส คือ การเรียนฟุตบอลในสังกัดของอินเตอร์ มิลาน ในแต่ละประเทศ ส่วนเราเป็นอินเตอร์ ไทยแลนด์ ก็เหมือนกับว่าเป็นแฟนคลับของอินเตอร์ มิลาน

เราสอนสไตล์อินเตอร์ มิลาน คือจะเล่นสนุกก็ได้ แต่เทคนิคกับทักษะต้องซีเรียส มิฉะนั้นคุณภาพจะไม่ได้"

สมบัติบอกว่า สิ่งที่เขาประทับใจในฟุตบอลอิตาลี คือ ระบบทีมจะสำคัญ ระบบทีมทำให้อิตาลีได้เป็นแชมป์โลก ทั้งๆ ที่นักฟุตบอลไม่ได้โดดเด่นทุกคน "แต่พอรวมกันแล้วไม่มีใครเอาชนะอิตาลีได้ง่ายๆ เพราะเป็นระบบทีมเวิร์ค" สมบัติกล่าว

ดังนั้นจุดแข็งของอินเตอร์ แคมปัส คือ หลักสูตรสไตล์อิตาลีที่วางรายละเอียดชัดเจนในการฝึกแต่ละครั้ง เช่น จะซ้อมทักษะใดบ้าง การผ่านลูก ส่งลูก รับลูก กำหนดไว้เป็นนาที ตอนไหนจะมีเบรก มีเล่นเกม เพื่อให้ได้คุณภาพที่กำหนด

"ที่อื่นจะอาศัยประสบการณ์การสอน แต่ที่นี่จะวางหลักสูตรไว้ละเอียด ต้องทำอะไรบ้าง เด็กเขาก็ไม่รู้ว่า เรียนชั่วโมงหนึ่งเนี่ยเขาได้ฝึกผ่านลูกเป็นสิบยี่สิบครั้งแล้วนะ

2 ปีกว่าที่เราทำมา ผู้ปกครองที่เขาส่งลูกมาเรียนบอกว่าไม่มีใครทำมาก่อน" สมบัติบอก

แต่เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของเด็กไทย โค้ชสมบัติก็มีเพิ่มเติมช่วงเล่นทีม เพื่อให้ผู้เรียนรู้สึกสนุก มิฉะนั้นจะทำให้เบื่อกัน

นอกจากนี้ การเรียนการสอนจะเน้นพัฒนาคนเรียน โดยประเมินทุก 3 เดือนว่า ในวันนี้กับวันแรกนักเรียนพัฒนาไปได้แค่ไหน ใครขาดทักษะใด เช่นรับไม่ดี ยิงไม่ดี ก็จะเน้นให้แก้ไข ฝึกตรงนั้นเพิ่มเติม

ใครทำได้ดีก็มีรางวัลพัฒนายอดเยี่ยม

"การพัฒนาจะดูเป็นคนๆ ไป คือ ทั้งกลุ่มฝึกเหมือนกัน แต่คนไหนต้องแก้ไขอะไร ก็จะเน้นเพื่อให้เขาตามเพื่อนให้ทัน

เราสอนแบบให้เขาหมด เพื่อการสานต่อ มิฉะนั้นจะเสียชื่อ"

โบนัสแถมท้ายสำหรับนักเรียนที่นี่ คือ ถ้าใครมีแวว โค้ชสมบัติจะส่งตัวให้คัดระดับชาติต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักเรียนจากที่นี่ติดทีมชาติระดับเยาวชนทั้งอายุ 13 ปี และ 14 ปีแล้ว

"เราเป็นโรงเรียนเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ เวลาเด็กเติบโต ก็ป้อนระดับโรงเรียน ระดับทีมชาติต่อไป

นักเรียนที่มาเรียนในช่วงแรกจะเรียนเพื่อสนุก เพราะยังเตาะแตะ แต่เวลาผ่านไปก็จะเริ่มคิด มีเป้าหมาย น่าจะเล่นทีมชาติ น่าจะเล่นทีมโรงเรียน

บางครั้งพ่อแม่ก็ดึงมา เพราะอยากให้เด็กห่างจากเกมคอมพิวเตอร์ ซ้อมไปซ้อมมา เด็กก็ติดกีฬาจริงๆ"

สมบัติบอกว่า ฟุตบอลยังเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้ บางทีพ่อแม่สอนไม่ได้ แต่เกมสอนได้ เพราะถ้าเขาอยากเป็นนักกีฬาจริงจัง เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องฝึก ต้องทำตามโค้ช

จะทำโรงเรียนสอนฟุตบอล สมบัติบอกว่าต้องมั่นใจในหลักสูตร และหัวใจสำคัญอยู่ที่สนาม ไม่ใช่อยู่ที่ออฟฟิศสวยๆ ลงทุนเยอะๆ

"การเปิดโรงเรียนลงทุนสูง กำไรต่ำ ถ้าบริหารไม่ดีเจ๊ง เพราะฉะนั้นต้องเริ่มจากเล็กไปหาใหญ่ สนามก็ควรเช่าเขา เพราะถ้ามีสนามเองอาจลงทุน 3-4 ล้านบาท แล้วเมื่อไหร่จะคืนทุน"

นอกจากนี้ถ้ามีสนามเอง การบำรุงรักษาหญ้าก็แพง หน้าฝนหญ้าเสีย หน้าร้อนก็แห้ง

ถ้ามีนักเรียนในมือ มีสนามเอง สมบัติบอกว่า น่าทำ แต่ถ้าเช่าสนามแพง เก็บค่าเรียนถูก ก็ไม่คุ้มกัน

"เพราะฉะนั้นเงินทองต้องไม่กู้ การประชาสัมพันธ์ต้องเยอะ มีจูงใจเช่นให้ทดลองเรียน ซึ่งที่นี่ใช้ได้ผล คนมาเรียนครั้งเดียว ส่วนใหญ่ติดใจ และถ้าคนเรียนต่ำกว่าร้อยต้องลดโค้ชลง"

จากประสบการณ์ทางธุรกิจครั้งแรก สมบัติได้ปรับวิธีการทำธุรกิจใหม่ เริ่มต้นเช่าสนามชานเมืองแทนที่จะมุ่งเน้นสนามใหญ่ใจกลางเมืองพร้อมออฟฟิศหรู เพื่อลดค่าใช้จ่าย

"ออฟฟิศของเรา คือ สนามฟุตบอล คิดว่าเราเริ่มจากเล็กๆ ไปหาใหญ่ดีกว่า ไม่ทำอะไรให้เกินตัว

ส่วนรายรับมีประมาณ 1 แสนบาทต่อเดือน จากคนเรียนที่มีประมาณ 100 คน และเปิดให้เรียนฟรีอีกประมาณ 7-8 คนสำหรับเด็กที่ฐานะทางบ้านไม่เอื้อ แต่มีใจรัก อัตราค่าเล่าเรียนปกติจะคิด 3,200 บาทต่อคอร์ส เรียน 12 ครั้ง

ถ้าลงต่อเนื่องก็มีส่วนลดให้ โดยเรียนวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่ 4 โมงครึ่งถึงทุ่มหนึ่ง เรียนครั้งละประมาณ 40 คน เนื่องจากพื้นที่สนามที่จำกัด

ธุรกิจขณะนี้ สมบัติบอกว่า "พออยู่ได้" โดยมีกำไรประมาณครึ่งหนึ่ง ผู้เรียนก็หลากหลาย มีทั้งคลาสเริ่มต้นไปจนคลาสขั้นสูง คนเรียนมีตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป ผู้ใหญ่ก็มี บางคนต้องการพัฒนาฝีเท้า บางคนต้องการเพื่อน บางคนยอมเรียนเป็นปี ที่มาเรียนเป็นกลุ่มก็มี

ขนาดของตลาดจึงมีโอกาสพอควร โดยเฉพาะจำนวนของเด็กๆ ที่มีหลายล้านคน

"ตอนนี้รายรับดีขึ้น พออยู่ได้ ไม่ถึงกับดีมาก ถ้าดูในระดับโรงเรียนสอนฟุตบอลด้วยกัน จำนวนคนเรียนถือว่าของเราสูงที่สุด"

ถึงโรงเรียนสอนฟุตบอลจะไม่ใช่ธุรกิจที่ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ แต่สมบัติบอกว่า เป็นอาชีพที่ดี "เพราะเราอยู่กับกีฬา ได้ออกกำลังกาย มีธุรกิจไหนที่ทำไปแล้ว ได้ออกกำลังกายไปด้วย

เราทำธุรกิจไปด้วย ร่างกายแข็งแรง แล้วก็เป็นอะไรที่เรารัก ไม่มีอาชีพไหนที่ดีเหมือนอาชีพนี้"



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2550 16:30:35 น. 0 comments
Counter : 1248 Pageviews.  
 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

hoon_vi
 
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




เป็นนักลงทุนมือใหม่ กำลังหาวิธีการเหมาะสำหรับตัวเอง ชอบการถ่ายรูป ท่องเที่ยว เขียนบทความ
[Add hoon_vi's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com