|
ธปท.คลอดคัมภีร์ทวงหนี้แบบสุภาพ
ย้ำชัดห้ามปฏิบัติการหลัง2ทุ่ม หมดทางเอาผิดบ.รับจ้างบี้หนี้
ธปท.คลอดแล้วคัมภีร์ทวงหนี้แบบไม่กระโชกโฮกฮาก กำหนดช่วงเวลาตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ต้องแสดงตัวให้ลูกหนี้รู้ และต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามโพนทะนา และห้ามใช้ความรุนแรง ขุ่มขู่คุกคาม แย้มไต๋แค่ขอความร่วมมือ แต่ถ้าไม่ทำตาม ระวังมีกฎหมายใหม่เมื่อไหร่ จะออกเป็นข้อบังคับ
เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกแนวปฏบัติในการติดตามทวงถามหนี้ โดยมีสาระสำคัญ เช่น ผู้ประกอบการต้องติดต่อลูกหนี้ในช่วงเวลา 08.00-20.00 น. ในวันจันทร์-วันศุกร์ และ 08.00-18.00 น. ในวันเสาร์และอาทิตย์ และต้องแสดงตนต่อลูกหนี้ในการเรียกเก็บหนี้ ซึ่งต้องแจ้งชื่อและวัตถุประสงค์อย่างชัดเจน กรณีเผชิญหน้ากันต้องแสดงหลักฐานการได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนจากผู้ประกอบการด้วย และต้องเก็บความลับของลูกหนี้ ห้ามเรียกเก็บหนี้จากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ ยกเว้นแต่มีการตกลงตามสัญญา ไม่ให้ใช้ความรุนแรงที่ทำร้ายร่างกาย และชื่อเสียงของลูกหนี้ ตลอดจนห้ามข่มขู่คุกคาม
นอกจากนี้ ในการใช้บริการตัวแทนเรียกเก็บหนี้รายอื่น ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบต่อลูกหนี้เสมือนเป็นผู้ดำเนินการเอง โดยต้องกำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการควรจัดให้มีนโยบาย ขั้นตอน ในการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้อย่างเหมาะสม และต้องรายงานให้ผู้บริหารรับทราบอย่างสม่ำเสมอ
นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการสำนักนโยบายความเสี่ยง สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวว่า ถึงแม้การออกแนวทางปฏิบัติในการติดตามทวงถามหนี้ให้กับผู้ประกอบการทั้งธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) ซึ่งเป็นลักษณะของการขอความร่วมมือ ไม่ได้ใช้วิธีการบังคับหรือลงโทษ เนื่องจากไม่มีอำนาจตามกฎหมาย แต่หากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ายังมีการใช้วิธีทวงหนี้ที่ไม่เหมาะสม และไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ ทาง ธปท.จะดำเนินการตักเตือน
นายสมบูรณ์กล่าวว่า ในอนาคตเมื่อร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน มีผลบังคับใช้จะทำให้ ธปท.มีอำนาจในการกำหนดข้อบังคับต่างๆ มากขึ้น เพราะฉะนั้น หลังจากนี้หาก ธปท.ประเมินผลแล้วพบว่าผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ก็อาจจะใช้อำนาจออกข้อบังคับและกำหนดบทลงโทษตามบทกฎหมายไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเคยได้รับข้อร้องเรียนการติดตามทวงถามหนี้ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้วาจาไม่สุภาพ การใช้วิธีข่มขู่ ประจาน สร้างความอับอาย หรือทวงหนี้ยังไปบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการใช้วิธีที่รุนแรงจะทำให้ได้รับหนี้คืนมากกว่าวิธีตามปกติ
"เราไม่เคยทำแบล๊คลิสต์ของพวกบริษัทติดตามทวงหนี้ เพราะเราเองก็ไม่มีข้อมูล ลูกหนี้ที่เขาร้องเรียนเข้ามาก็ไม่รู้ว่าตัวแทนที่มาเป็นบริษัทใดเช่นกัน"
Create Date : 20 กันยายน 2550 |
Last Update : 20 กันยายน 2550 7:05:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 755 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
hoon_vi |
|
|
|
|