|
ประสบการณ์จากมาราธอน (ตอนที่ ๗)
หลังจากการแข่งขันคาวะกูจิมาราธอนจบลง ผมสมัครเข้าแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนในรายการโยชิกาว่า นามัทสึ มาราธอนต้นเดือนเมษายน
ใช้เวลาฝึกซ้อมก่อนแข่งขันราวๆ ๒ เดือน ในช่วงนั้นมีไข้หวัดใหญ่ระบาด วันหนึ่งผมนั่งรถไฟกลับบ้าน มีอาแปะรายหนึ่งไอส่งเสียงดังในรถไฟโดยไม่เอาผ้าปิดปาก ในสังคมญี่ปุ่นถือว่าพฤติกรรมแบบนี้เสียมารยาทมาก เป็นการแพร่เชื้อโรคให้สังคม ไม่คิดว่าการนั่งรถไฟคันเดียวกับอาแปะวันนั้นจะมีผลต่อการแข่งมาราธอน
วันรุ่งขึ้นผมเริ่มมีอาการไอ มีไข้ ตามมาด้วยอาการไอกรน ซึ่งเชื้อหวัดในญี่ปุ่นแรงมากและเชื้อโรคคนละตัวกับเชื้อไข้หวัดในไทย ยาที่แรงๆที่เอามาจากไทยเอาไม่อยู่
ยาในญี่ปุ่นก็ฤทธิ์อ่อนมาก ทานเข้าไปแล้วกว่าจะหายกินเวลานานมาก
อาการไอแรงมากจนทำให้กล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ วันนึงในขณะที่ซ้อมมีอาการเจ็บหน้าอกจนวิ่งต่อไม่ไหว ทานยาอาการก็ไม่ดีขึ้น ช่วงนั้นใกล้แข่งขันมากแล้ว ขนาดซ้อมวิ่งได้ไม่นานยังเจ็บหน้าอกมากขนาดนี้ ถ้าต้องแข่งวิ่งที่ใช้เวลาร่วม ๒ ชั่วโมงคงไม่ไหว เลยตัดสินใจถอนตัวไม่ลงแข่ง ไม่เป็นไรคงมีโอกาสได้วิ่งในโอกาสต่อไป แต่ถ้าฝืนวิ่งครั้งนี้ร่างกายอาจจะทรมานมากๆ มันไม่คุ้ม
แต่มีโอกาสไปรับเสื้อยืดที่ระลึกจากการแข่งขันและถ่ายภาพบรรยากาศการแข่งขัน มีโอกาสได้เห็นคนพิการเข้าร่วมแข่งขันมาราธอน
ภาพนี้ให้ความรู้สึกมาก เด็กผู้หญิงเรียนมัธยมแข่งระยะ ๒ กิโลเมตร ในขณะที่เด็กผู้ชายแข่งมินิมาราธอนระยะทางเท่ากัน เป้าหมายของแต่ละคนอาจจะเหมือนกันแต่วิธีการจะไปถึงเป้าหมายของแต่ละคนอาจจะต่างกัน ถึงแม้จะมีอุปสรรคระหว่างทาง แต่ถ้าไม่ล้มเลิกความตั้งใจ สุดท้ายย่อมไปถึงเป้าหมายได้ในที่สุด
Create Date : 21 พฤษภาคม 2550 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2550 23:27:35 น. |
|
0 comments
|
Counter : 606 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|