ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
ชีวิตเปลี่ยนแปลงภายหลังออกกำลังกาย

เมื่อตอนหัวค่ำดูรายการ "แผ่นดินไท" เขานำเสนอชีวิตของคนสี่คนทีใช้กีฬาในการเปลี่ยนแปลงชีวิตในทางที่ดีขึ้น

ผู้ชายรายหนึ่งเป็นโรครูมาตอยด์...แต่เพราะเขาต้องการเอาชนะโรคนี้ เขาจึงหันมาเล่นกีฬาขี่จักรยานเสือภูเขา ระยะทางที่คิดว่าเขาทำได้แค่ไม่กี่กิโลเมตร กลายเป็นว่าเขาพัฒนาตนเองจนสามารถขี่จักรยานข้าม ๔ ประเทศคือ ไทย ลาว กัมพูชา และปลายทางที่เวียดนาม เขาใช้เวลา ๓ อาทิตย์ในการขี่จักรยานเสือภูเขาระยะทางกว่า ๑ พันกิโลเมตรสำเร็จ และจากการเอาชนะตนเองสำเร็จจากการเล่นกีฬาเสือภูเขาทำให้เขาได้รับพลังใจที่สามารถเอาชนะโรคที่คุกคามเขา กลับมาเป็นกำลังให้แก่ครอบครัวต่อไป

พี่นงค์พงาที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว...หมอบอกกับพี่เขาเมื่อ ๑๐ ปีก่อนว่าคงมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน ๖ เดือน จากเดิมที่เหมือนไม่มีความหวังในชีวิตแล้ว แต่พี่นงค์พงากับสู้ชีวิตด้วยการหันมาออกกำลังกาย จากการที่สามารถขยับร่างกายได้ พี่นงค์พงาหันมาวิ่ง เพิ่มระยะทางเรื่อยๆ จนกลายเป็นว่า มาราธอนเป็นกีฬาโปรดปรานของพี่นงค์พงาไป สุขภาพแข็งแรง และเอาชนะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวสำเร็จ และมีชีวิตอยู่ต่อมาจนถึงวันนี้ ทุกวันนี้พี่นงค์พงายังคงรักที่จะวิ่งมาราธอนเป็นประจำ พี่นงค์พงาให้สัมภาษณ์รายการว่า ทุกวันนี้พี่เขาไม่ได้วิ่งเพื่อเอาชนะใคร แต่วิ่งเพื่อเอาชนะตัวเอง เมื่อเอาชนะตัวเองได้ เหรียญต่างๆก็จะได้เอง และกีฬาทำให้พี่เขามีชีวิตอยู่รอดถึงวันนี้

คุณสมชาย ดวงแก้ว (ผมเคยเขียนเอาไว้ในบล็อกเมื่อปีที่แล้ว) นักว่ายน้ำที่ไม่มีแขน แต่สามารถคว้าเหรียญทองในกีฬาว่ายน้ำท่าผีเสื้อสำหรับคนพิการ คุณสมชายบอกว่า กีฬาทำให้คนทั่วไปเห็นคุณค่าในตัวเขาแม้ว่าเขาจะเกิดมาพิการ

นักกีฬาฟันดาบคนพิการหญิงทีมชาติไทย...เธอประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายส่วนล่างได้ เธอเคยร้องไห้มาตลอดทีเห็นตนเองเป็นคนพิการ เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่เมื่อได้สติ...เธอหยุดความคิดที่โง่เขลาแบบนี้ เธอเริ่มหันมาออกกำลังกาย....และในทึ่สุดเธอก็แสดงให้คนอื่นเห็นว่าแม้เธอจะพิการเธอก็ยังสามารถแสดงฝีมือให้คนปกติเห็นว่าคนพิการทำอะไรได้มากมาย

กีฬาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คน เพราะสุขภาพที่ดีย่อมนำมาซึ่งชีวิตที่ผาสุก....แต่คนไทยจำนวนมาก (กว่า ๕๐ % ของคนไทยไม่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ) กลับมองว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย

สมัยเด็กๆเคยเรียนวิชาสุขศึกษาที่กล่าวว่า

"จิตแจ่มใส อยู่ในกายอันผาสุก"

ผมยอมรับว่าจริง....ตอนที่เราเจ็บป่วย ทำให้เรามองว่า สุขภาพเป็นสมบัติที่มีค่า ถ้ามันพังลงไปแล้ว...ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เดินหน้าทำอะไรต่อไม่ได้ เท่ากับทุกอย่างหยุดนิ่งไปเฉยๆ

คนเราถ้าเราไม่คิดรักตัวเอง ไม่คิดเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง แล้วใครจะมารักเรา เรื่องแบบนี้จะให้คนอื่นมาออกกำลังกายทดแทนกัน...ก็ทำไม่ได้เช่นกัน





Create Date : 30 กรกฎาคม 2551
Last Update : 30 กรกฎาคม 2551 21:49:06 น. 2 comments
Counter : 568 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ ดร.
พี่รัตน์มีปัญหาเกี่ยวกับหัวไหล่ขวามาตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุ
ทางรถยนต์ ทำกายภาพบำบัดมานานค่ะ
คุณหมอแนะนำให้ออกกำลังเบาๆ เช่นกัน
ขอบคุณ ดร. ที่มีข้อแนะนำดีๆเกี่ยวกับสุขภาพมาฝากค่ะ


โดย: รัตตมณี (kulratt ) วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:8:15:40 น.  

 
สวัสดีครับพี่รัตน์ ผมดูรายการทีวีเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาแล้วเห็นด้วยว่าเรามักมีข้ออ้างให้กับตัวเราเองบ่อยๆซึ่งเป็นเหตุผลอธิบายว่าทำไมเราไม่ได้ออกกำลังกายเสียที


โดย: ชีวประภา วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:20:15:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.