ชีวิตคือความไม่แน่นอนแต่ในความไม่แน่นอนของชีวิตเรากลับพบความสวยงามของชีวิต
Group Blog
 
All Blogs
 
ประสบการณ์จากมาราธอน (ตอนที่ ๙)

วันแข่งขันคาวะกูจิมาราธอนปี ๒๐๐๕ อุณหภูมิยามเช้าหนาวมากๆ เห็นคณะกรรมการจัดการแข่งขันรายงานว่าต่ำกว่า ๑๐ องศาเซลเซียส ตอนแรกคิดว่าจะสวมเสื้อยืดและกางเกงวอร์มเหมือนหลายๆครั้งที่เคยสวมในการแข่งขันมาราธอน แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะอากาศเย็นมาก ตัดสินใจสวมลองจอห์นข้างในอีกชั้น

ก่อนการแข่งขันเขามีการเชิญอดีตนักวิ่งมาราธอนหญิงชาวเยอรมันที่ชื่อแคทเธอลีน โดล มาทักทายกับบรรดานักวิ่ง เํธอเป็นอดีตแชมป์รายการนาโงย่ามาราธอน โอซาก้ามาราธอน และเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกที่บาเซโลน่า



โดลได้รับเชิญให้มาวิ่งร่วมกับนักวิ่งรายอื่นๆในรายการฮาล์ฟมาราธอนด้วย ตอนก่อนปล่อยตัวผมมีอาการตื่นเต้น โดลยืนอยู่ข้่างหน้าผมใกล้เส้นปล่อยตัว เขาเริ่มนับเวลาถอยหลังก่อนปล่อยตัว ผมสังเกตควันจากปืนที่ใช้ยิงปล่อยตัวนักวิ่งมากกว่าฟังเสียงปืน

พอเสียงปืนดัง..ปั็ง....ผมเริ่มสตาร์ทและกดนาฬืกาข้อมือเพื่อเริ่มจับเวลา นาฬืกาข้อมือเรือนที่สวมวันนั้น..เจ้านายที่ทำงานด้วยซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้า เขาทราบว่าเราชอบวิ่งเลยซื้อนาฬิกาคาสิโอรุ่นโซล่าร์ทัฟที่บันทึกสถิติเวลาได้ทั้งหมด ๖๐ รายการให้ ผมมีโอกาสได้ใช้นาฬิกาเรือนนี้เป็นครั้งแรกก็ในการแข่งขันมาราธอนวันนี้

ระยะ ๑๐๐ เมตรแรก ผู้คนจำนวนมากต่างเร่งสปีดกันมาก ทำให้เราพลอยเร่งตามไปด้วย แล้วอยู่ดีๆก็เกิดความคิดแผลงๆขึ้นมาว่า...

การได้มีโอกาสวิ่งมาราธอนพร้อมกับอดีตนักวิ่งมาราธอนหญิงที่มีชื่ออย่าง แคทเธอรีน โดล ถือเป็นเกียรติอย่างมาก แล้วก็รู้แน่ๆว่าการจะเอาชนะโดลที่ระยะ ๒๑.๐๙๕ กม. เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถ้าระยะ ๒๐๐ เมตรอยากรู้ว่าเราจะวิ่งแซงโดลสำเร็จไหม? ตอนนั้นโดลวิ่งนำหน้าผมประมาณ ๑๐ เมตรได้ ผมอยากลองทำอะไรท้าทายดูบ้าง ดูว่าจะทำได้ไหม? ผมเริ่มเร่งความเร็วมากขึ้นจนวิ่งจังหวะฝีเท้าเท่ากับโดล...ผมเร่งแรงขึ้นกะจะแซงโดลให้ได้ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่าเราจะวิ่งแซงโดลสำเร็จก่อนเข้าโค้งระยะ ๒๐๐ เมตร แต่หลังจากที่พยายามเร่งขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก่อนถึงโค้ง ๒๐๐ เมตรผมแซงหน้าโดลขึ้นไปได้สำเร็จ โดยโดลอยู่ข้างหลังผมประมาณ ๒๐ เมตรได้ ผมพอใจที่บันทึกเอาไว้ในประสบการณ์การวิ่งมาราธอนว่่าครั้งหนึ่งเคยวิ่งกับอดีตนักวิ่งเหรียญทองแดงโอลิมปิกหญิงที่ชื่อว่า แคทเธอรีน โดล และสามารถแซงเธอสำเร็จที่ระยะ ๒๐๐ เมตร

ผมยังคงวิ่งนำหน้าโดลจนถึงระยะ ๔๐๐ เมตร ผมสังเกตจังหวะที่ใช้ในการวิ่งว่าเราเร่งเกินไป ถ้าขืนวิ่งด้วยความเร็วขนาดนี้เราจะแรงหมดเสียก่อน เพราะนี่ไม่ใช่จังหวะในการวิ่งที่เราเคยชิน ผมเริ่มผ่อนความเร็วลงเพื่อรักษาจังหวะในการวิ่งให้คงที่ พอลดความเร็วของฝีเท้าลง...คนที่อยู่ข้างหลังเริ่มแซงเีราขึ้นมาเรื่อยๆ ก่อนถึงประตูืทางออกของสนามกีฬา่อาโอกิโจว แคทเธอรีน โดลก็แซงหน้าผมออกไป ผมไม่เสียดายอะไำรแล้ว...แล้วก็รู้ว่าจากนี้ไปจะไม่มีโอกาสได้้เห็นแม้แต่หลังของเธอด้วย เพราะความเร็วในการวิ่งของเธอคงเร็วมากๆจนเราตามไม่มีทางทัน

ผ่านระยะ ๓ กิโลเมตร...อากาศหนาวเย็นจนทำให้รู้สึกปวดฉี่ ถ้าขืนอดทนต่อไป...จะทำให้ความเร็วในการวิ่งตกลง และทรมานมาก เห็นข้อดีของการเป็นนักวิ่งชาย..การหาที่ยิงกระต่ายง่ายกว่านักวิ่งหญิง ที่นี่นักวิ่งหญิงมีจำนวนมาก...แต่เขาก็อดทนกันจนกว่าจะเจอส้วมเคลื่อนที่ซึ่งอยู่ห่างๆเป็นจุดๆตามระยะที่ทางผู้จัดได้จัดไว้

ที่ระยะ ๕ กิโลเมตรเริ่มเจ็บบริเวณสีข้าง ผลจากการเร่งความเร็วเกินไป ผมใช้มือบีีับนวดบริเวณสีข้างในระหว่างวิ่ง แล้วชะลอความเร็วลงมา วิ่งจนอาการปวดสีข้างทุเลาลงมา นี่เป็นครั้งแรกในการแข่งมาราธอนที่มีอาการปวดสีข้าง

การจัดการแข่งขันเขามีตำรวจคอยโบกรถห้ามแล่นผ่านในขณะที่มีนักวิ่งกำลังวิ่งอยู่ ผมวิ่งผ่านระยะ ๑๐ กิโลเมตรโดยใช้เวลาราวๆ ๕๕ นาที แล้วก็มาถึงระยะ ๑๓ กิโลเมตรซึ่งเป็นเนินขึ้นสูง จุดนี้จำได้ว่าปีที่แล้วดูดแรงเราไปมาก พอลงเนินแล้วแรงหายไปเลย แต่ปีนี้เป็นผลมาจากการซ้อมอย่างดี แรงไม่หายไปหลังจากลงเนิน แต่เราจะระมัดระวังจังหวะในการลงเนินเพราะถ้าลงไม่ดีจะมีปัญหาที่ข้อเท้าทันที พอจังหวะวิ่งลงเนิน...จะเป็นแรงเสริมทำให้เราวิ่งได้เร็วมากขึ้น จากลงเนินก็เป็นช่วงขึ้นสะพานอีก เห็นความแตกต่างจากการวิ่งปีที่แล้วได้อย่างชัีดเจน ปีนี้ฟิตซ้อมดีกว่า แรงไม่ตก มีกำลังวิ่งสบายๆแม้ว่าจะขึ้นจะลงเนินอย่างไรก็ตาม

วิ่งผ่านระยะ ๑๖ กิโลเมตร ณ.จุดที่เราเคยถอดใจเดินเอาเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้เรายังคงวิ่งผ่านจุดนี้แบบสบายๆ ดูจากเวลาแล้วทำเวลาได้ตามที่กำหนดเอาไว้ ผ่านระยะ ๑๗ กิโลเมตร จนมาถึงระยะ ๑๘ กิโลเมตร เริ่มได้ยินเสียงกลองไทโกะที่เขาตีบริเวณประตูทางออกจากสนามกีฬาอาโอกิโจว ปกติน้องๆเขาจะตีกลองตอนส่งตัวนักวิ่งออกจากสนามแล้วเขาก็ตีต่อเนื่องจนกระทั่งนักวิ่งคนสุดท้ายที่วิ่งเข้าสนามภายในเวลา ๒ ชั่้วโมงครึ่ง




มารู้สึกชอบกลองไทโกะก็ตอนวิ่งมาราธอน ตอนได้ยินเีสียงกลองที่จังหวะเข้ากับจังหวะการวิ่ง ทำให้มีพลัง รู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น

พอมาถึงระยะ ๒๐ กิโลเมตร เริ่มมีอาการเหมือนจะเป็นตะคริวขึ้นมา เลยชะลอความเร็วลง ตอนที่ีวิ่งคิดในใจว่าถ้าวิ่งคราวนี้ทำเวลาได้ภายใน ๒ ชั่วโมงกับ ๑๐ นาทีก็จะพอใจแล้ว เพราะตอนซ้อมทำเวลาได้ดีที่สุดอยู่ที่ ๒ ชั่วโมงกับ ๑๓ นาที แต่พอวิ่งจริงๆพบว่าน่าจะทำเวลาได้ดีกว่า ๒ชั่วโมง ๑๐ นาที

พอเหลือระยะราวๆ ๖๐๐ เมตร ดูจากนาฬิกาข้อมือ เรารู้ว่าเป็นไปได้ที่จะวิ่งไปถึงเส้นชัยด้วยเวลาน้อยกว่า ๒ ชั่วโมง ๑๐ นาทีแน่ๆ แต่จะทำเวลาให้ได้ภายใน ๒ ชั่วโมงกับ ๕ นาทีไ้ด้ไหม? อันนี้ตอบยากมาก ดูเหมือนฉวดเฉียดเต็มที ตอนวิ่งมาถึงปากทางเข้าสนามกีฬาอาโอกิโจวเห็นนาฬืกาจับเวลาที่ติดบนรถที่นำขบวนนักวิ่งกลุ่มแรกที่จอดอยู่ เวลาบนบอร์ดบอกว่าใช้เวลาไป ๒ ชั่้วโมงกับ ๔ นาที ตอนนั้นพยายามเร่งเพื่อให้ได้เวลาภายใน ๒ ชั่วโมงกับ ๕ นาที แต่แรงไม่มากพอที่จะเร่งให้วิ่งได้เร็วกว่านี้ ผมกัดฟันพยายามวิ่งเพื่อให้ได้เวลาที่ดีที่สุดเวลาใหม่ของตัวเอง

พอเท้าเหยียบไม้กระดานที่มีตัวเซ็นเซอร์อยู่ข้างใต้ ได้ยินเสียงสัญญาณวี๊ดๆ ดังยาว เป็นอันว่าการแข่งขันฮาล์ฟมาราธอนคาวะกูจิของผมปีนี้เป็นอันสิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่มาฉีกตัวชิพที่อยู่ใต้หมายเลขนักวิ่งออก ผมไปเข้าคิวรับใบประกาศนียบัตรที่มอบให้นักวิ่ง เขาให้น้ำดื่มมา ๑ ขวดพร้อมใบประกาศนียบัตรที่แสดงว่าเราวิ่งครบระยะ ๒๑.๐๙๕ กิโลเมตรด้วยเวลา ๒ ชั่วโมงกับ ๖ นาที

ถึงแม้ว่าจะทำเวลาภายใน ๒ ชั่วโมง ๕ นาทีไม่สำเร็จ แต่ก็พอใจกับผลงานการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนวันนี้ เราสร้่าง My Best Time ให้กับการวิ่งฮาล์ฟมาราธอนของตัวเองสำเร็จ ระยะเวลา ๑ ปีที่คอยล้างตากับการแข่งฮาล์ฟมาราธอนปีที่แล้วที่ผลการแข่งขันจบลงแบบไม่ประทับใจ วันนี้ได้แก้มือสำเร็จ



มีโอกาสได้เจอคุณลุงที่เป็นนักเรียนภาษาไทยที่ผมสอนในชั้นเรียนซึ่งเป็นคนแนะนำให้ผมลองแข่งโตเกียวอารากาว่ามาราธอน แกดีใจที่ทราบผลการแข่งขัน ผมสัญญากับคุณลุงว่าถ้าปีหน้าสุขภาพของเขาและผมดี เรามีเป้าหมายว่าจะไปแข่งกรุงเทพอินเตอร์เนชั่นแนลมาราธอนในเมืองไทย


Create Date : 07 มิถุนายน 2550
Last Update : 7 มิถุนายน 2550 2:15:06 น. 0 comments
Counter : 1155 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชีวประภา
Location :
พิษณุโลก Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ชีวประภา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.