สำหรับบล็อคนี้เป็นยำใหญ่ใส่สารพัด จัดหมวดหมู่เขียนหัวข้อไม่ถูก รวมๆเป็นเรื่องของวันหยุดหน้าหนาวที่ผ่านมานี้ ทั้งคริสมาสต์ ทั้งปีใหม่และเทศกาลเซลล์ถุงโชคดี ทั้งปรากฏการณ์อาราชิที่บังเอิญไปเจอเข้า และของสวยๆน่ารักๆที่ได้ไปเจอ(ซื้อ)มาด้วย

สำหรับโรงเรียนและมหาลัยนั้น Winter holiday จะเริ่มอย่างจริงจังตั้งแต่ประมาณวันคริสมาสต์และก็ยาวไปจนถึงประมาณอาทิตย์แรกของเดือนมกราเลย ถือเป็นหยุดยาวที่สุดของภาคการศึกษาฤดูหนาวนี้

ใครใคร่ไปเที่ยวไปเล่นสกีก็ไปกันช่วงนี้ ใครอยากกลับบ้านกลับช่องก็บินกลับกันได้ยาวหน่อยตอนนี้แหล่ะ (แต่ก็มีบางคนที่ยังต้องทำงานอยู่มหาลัยเช่นกัน) ถ้าเป็นบริษัทจะหยุดสั้นกว่า เริ่มหยุดก็ประมาณ 2-3 วันก่อนสิ้นปีแล้ววันที่ 4 มกราก็เปิดทำการตามปกติแล้ว

คริสมาสต์ปีนี้เป็นปีแรกที่ต้องอยู่โตเกียวคนเดียว (ทุกปีจะไปดู illumination กับคุณแฟน) แปลกดีเหมือนกันว่ากลับไม่ได้รู้สึกเหงาอะไรเป็นพิเศษเหมือนที่คนอื่นๆเค้าชอบพูดกันเลย อยู่คนเดียวก็ยังดี๊ด๊าได้ตามปกติ คืนวันอีฟต้องไปมีตติ้งและทำงานที่แล็บ แต่ก็ยังอุตส่าห์รีบวิ่งออกมาทันต่อคิวซื้อเค้กคริสมาสต์กะเค้า ไม่ได้ชอบกินเค้กเป็นพิเศษหรอกนะ แต่อยากจะร่วมเทศกาลเท่านั้นล่ะ พูดถึงคริสมาสต์ญี่ปุ่นก็ต้องนี่เลย Shortcake ครีมสีขาว สตรอเบอรี่สีแดง


โชคดีมีคนกินเป็นเพื่อน งานนี้กินกันหนึ่งคนและหนึ่งตัว(ในรูป) กินกันไปกอดกันไปฉลองคริสมาสต์กันตามประสา จะว่าไปเค้กนี่ก็อร่อยดีนะเนี่ยแต่ให้กินบ่อยๆคงไม่ไหวล่ะ นานๆกินทีอย่างงี้ล่ะอร่อยได้บรรยากาศดี


พูดถึงคริสมาสต์นอกจากเค้กนี่แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วล่ะ แบบว่ามันหนาว เก็บไว้ไปเที่ยววันอื่นดีกว่า ถ้าคุณแฟนไม่อยู่นี่เที่ยววันไหนก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ ที่เกี่ยวกับคริสมาสต์อีกอย่างที่นึกได้คือเจ้านี่ล่ะ ซื้อมาเป็นเดือนๆแล้วนะเป็นคลิปติดผมของ Complex Biz เซ็ตสองตัว X'mas limited

จขบ ชอบคลิปติดผมยี่ห้อนี้มากๆเลย ใช้ง่าย ติดผมได้แน่นมาก ตัวเดียวเก็บผมอยู่ทั้งหัว เอามาอแด๊ปจัดทรงต่างๆก็สวย&หรูดีแท้ (เสียตรงว่าราคาแพงไปหน่อย)

หลังคริสมาสต์มีนัดกับพี่สาวห้อง @Japan ไปกิน ไปช้อปกันที่ชินจูกุ ได้ของขวัญ Handmade น่ารักๆติดไม้ติดมือมาด้วย ดูออกกันไหมเอ่ยว่าคืออะไร


ดูภาพเฉลยกันเลย เป็นพวงกุญแจรูปถ้วยไอศครีมนั่นเอง ขอบคุณมากๆนะค้า (ขอโทษด้วยค่ะ ว่าไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย)


เดินช้อปเดินเม้าส์กันพอประมาณ(จริงๆคือเดินจนขาลากเลย) ผู้หญิงด้วยกันเดินช้อปกันนี่ไม่มีการดึงไม่มีการห้ามกันเล้ย มีแต่ "ซื้อเลย ซื้อเลย" งานนี้เลยเสียเงินกันไปคนละนิดละหน่อยแล้วแต่ความเข้มแข็งของตบะแต่ละคน ^_^

สำหรับ จขบ นั้นเสียไปนิดหน่อยเอง(ถ้าเฉพาะวันนี้นะ) ก็มีการ์ดปีใหม่ไว้ส่งให้ที่บ้าน(กว่าจะถึงก็คงเลยปีใหม่ไปแล้ว) กับ ครีมขวดนึงที่หมดพอดี


ตบท้ายมื้อเย็นก่อนลากันด้วย ปาร์ตี้เนื้อแกะย่าง ปกติเคยกินแต่เนื้อหมูหรือเนื้อวัวย่าง เพิ่งได้กินเนื้อแกะ (lamb) หนนี้เอง พี่เค้าบอกว่า Lamb หมายถึงเนื้อแกะที่ยังเด็กๆอยู่ ไม่เหมือน ヒツジ ที่จะเป็นเนื้อแกะแก่แล้วที่จะกลิ่นแรงกว่า เผอิญเคยซื้อ ヒツジ มาทำกินเล่นๆเหมือนกัน(แบบว่าเจอมันลดราคา) อันนั้นก็กลิ่นแรงกว่าจริงๆนั่นล่ะ รู้สึกเนื้อ Lamb นี่จะไม่ค่อยมันด้วยนะเนี่ย น่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่าพวก Toro (แต่สรุปคืออะไรก็กินทั้งนั้น ชอบกินเนื้อๆเ้น้นๆ)


แยกย้ายกับพี่ๆแล้ว กลับมาถึงบ้านเที่ยงคืนยังอุตส่าห์มีอารมณ์กินต่อ ก็วันนี้เดินเยอะไง กินเยอะได้ไม่อ้วนชัวร์ ;-) ยังมีเค้กอีกก้อนที่ซื้อมาตอนวันอีฟเหลือในตู้เย็น รีบจัดการซะเลย อันนี้เรียกว่า 苺バニラショート ก็ shortcake vanilla+strawberry นั่นล่ะ ซื้อมาเพราะหน้าตาล้วนๆเลย หน้าตาน่ารักมากๆ พลอยทำให้อยากลองกินไปด้วย กินแล้วก็ไม่ผิดหวังนะ อร่อยหวานๆมันๆดี


วันไปช้อปกับพี่ๆอุตส่าห์สะกดใจไม่ซื้อของได้ แต่กิเลสตัวเบ้งยังวนเวียนอยู่ในหัว ในที่สุดวันสิ้นปีก็ตัดสินใจออกไปซื้อของที่เล็งไว้ เดินหาอยู่ตั้งนานกว่าจะเจอร้าน แล้วสิ่งที่เห็นคือ ป้าย "Close" ร้านปิดไปยันปีใหม่โน่นเลยอ่ะ โธ่ ฝ่าลมหนาวมาเสียเที่ยวจริงๆ (สะเพร่าจริงๆ ดันลืมเช็คก่อนว่าร้านเปิดหรือเปล่า)


แต่อารมณ์คนอยากช้อปมีหรือจะยอมแพ้แค่นั้น กะว่าไปดูที่อิเซตัน ชินจูกุแทนก็ได้ แต่ยังไม่ทันจะไปไหนเลย เข้าสถานี Omotesando มาก็เจอปรากฏการณ์แปลกประหลาด มันเกิดอะไรกันขึ้นแฮะ ทำไมในสถานีมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมด แถมยืนมุงถ่ายรูปอะไรกันก็ไม่รู้ จนนายสถานีต้องถือโทรโข่งมาคอยประกาศไม่ให้ยืนบังทางเข้าออกกัน


จขบ ก็นึกว่ามีดาราที่ไหนมาซะอีก มุดๆเข้าไปดูกะเค้าบ้าง ที่แท้ยืนถ่ายรูปโปสเตอร์กันนี่เอง ว่าแต่ห้าคนนี่มันใครกันแฮะ จขบ ไม่มีความรู้เรื่องดาราในหัวเลย เท่าที่รู้คือคนที่สองจากซ้ายนี่หล่อถูกสเป็ค ^^


มารู้ทีหลังจากคนที่เป็นแฟนคลับ(ที่แทบกรี๊ดสลบ ตอน จขบ เอารูปถ่ายโปสเตอร์พวกนี้ให้ดู)ว่า ห้าคนนี้คือ Arashi นั่นเอง เห็นว่าสองสามปีมานี้ที่ญี่ปุ่นบูมสุดๆ แล้วที่สาวๆมารวมตัวกันที่สถานีนี้น่ะ ก็เพราะมันเป็นที่เดียวที่มีโปสเตอร์แบบพิเศษ

ไอ้โปสเตอร์แผ่นใหญ่ๆรูปด้านบนน่ะที่อื่นๆก็มี แต่โปสเตอร์แบบที่อยู่ตามเสา มีเชือกมัด มีเทปดำปิดปากนี่ เห็นว่ามีแต่ที่สถานีนี้เท่านั้น ว่าแล้วก็ขอแถมรูปโปสเตอร์แบบพิเศษให้ไปดูกันเล่นๆ


อีกภาพสุดท้ายก่อนขึ้นรถไฟไปชินจูกุ ที่เห็นๆในภาพนี่ขอบอกว่าผู้หญิงล้วนๆเลย


อุตส่าห์นั่งรถไฟมาถึงชินจูกุแท้ๆ ห้างกลับปิด T_T เซ็งเลยอะไรๆก็ปิดไปหมด สุดท้ายวันนี้ออกมาฝ่าลมหนาวเล่นไม่ได้อะไรกลับไปอย่างที่ตั้งใจสักอย่าง นั่งรถไฟกลับไปนอนพักที่บ้านรอเวลาออกมาไหว้พระรับปีใหม่แทน (รายละเอียดอยู่ ที่นี่)


วันปีใหม่นั้นนอนชาร์จพลังอยู่ที่บ้านเพื่อให้พร้อมลุยวัน D-day 2 มกราที่เป็นมหกรรมลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี ปีนี้ขอลองไปอิเซตัน ชินจูกุกันสักที อยากเห็นนักว่าที่ร่ำลือกันว่าห้างนี้เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในการเซลล์ปีใหม่นี้ จริงแท้แค่ไหน รูปด้านล่างถ่ายมาให้ photo hunt กันเล่นๆ หาเจอไหมเอ่ยว่ามีอะไรผิดปกติตรงไหน (ใบ้ให้ว่าอยู่ที่เสาสีน้ำเงิน)


มาเห็นกับตาแล้วต้องบอกว่าสมคำร่ำลือจริงๆ อิเซตัน ชินจูกุ วันนี้คนแทบล้นห้าง มองไปร้านไหนมีแต่คนๆๆๆๆ(ส่วนใหญ่ผู้หญิงทั้งน้านนน) แทบมองหาที่ว่างไม่ได้กันเลยทีเดียวขนาดว่าไปตอนบ่ายๆนะเนี่ย กว่าตอนห้างเปิดนี่ ศึกชิงถุงโชคดี(ที่ว่ากันว่าของห้างนี้เป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในหมู่ผู้หญิง)จะดุเดือดขนาดไหนกันหนอ

งานนี้ห้างถึงกับจัดคนไว้ตามจุดต่างๆคอยเดินตรวจตราและชี้ทาง แถวต่อคิวจ่ายเงินนั้นจัดแยกไว้ต่างหากแล้วยาวไปจนถึงบันไดหนีไฟโน่นเลยทีเดียว(ในห้างไม่ให้ถ่ายรูป เลยไม่กล้ากดมาเท่าไหร่) ทั้งชั้นและทุกชั้นเต็มไปด้วยป้าย SALE เต็มไปหมด ยี่ห้อที่ไม่ลดมีน้อยมากๆ(และก็จะโดนย่อเคาเตอร์ชั่วคราว เหลือเป็นโต๊ะตัวนิดเดียวแทบจะหายไปจากแผนที่ห้าง เพราะงานนี้ของลดมาก่อน)


เป้าหมายของเราคือ Q-Pot ที่วันก่อนแห้วไปเจอร้านปิดนั่นเอง ยี่ห้อนี้พี่สาวห้อง @Japan พาไปรู้จักแล้วก็ติดกับเข้าอย่างจัง แบบว่ามันน่าร๊ากกกกกกกกมากๆเลย กลับไปกลิ้งคิดก็แล้ว ตีลังกาคิดก็แล้วก็ยังอดไม่ได้ สุดท้ายก็หาทางกลับมาซื้อจนได้ (ยี่ห้อนี้ไม่ลดราคา กว่าจะหาเจอแทบตาย โดนซุกอยู่มุมนึงของห้าง)


ด้วยงบที่จำกัดคงซื้อได้แค่อันเดียว แต่ก็เลือกย๊ากยาก แบบว่ามันน่ารักไปหมดเลยอ่ะ ยืนเลือกอยู่นานมากๆ ดีว่าพนักงานญี่ปุ่นเค้า service mind ยอดเยี่ยมเลยไม่มีการชักสีหน้าหรือว่าอะไรเราเลย ส่วนตัวอยากได้เป็นสร้อยคอเพราะรู้สึกใช้งานง่ายกว่า พวกแหวนนี่ จขบ ซุ่มซ่ามอ่ะเดี๋ยวแกว่งไปชนอะไรเข้า



Credit: //www.q-pot.jp

และแล้วก็ได้มาหนึ่งชิ้นสมใจ ถือเป็นของขวัญคริสมาสต์และปีใหม่(ไม่มีใครซื้อให้ ซื้อให้ตัวเองก็ได้) เห่อขนาดนี้มีหรือจะซื้อมาเก็บเฉยๆ ต้องมีโชว์ตัวกันอยู่แล้ว ของวิบๆวับๆอย่างนี้นี่ถ่ายรูปขึ้นดีนักแล ภาพแรกกับใบรับรองสินค้าของ Q-pot (ขนาดตรา Q-Pot ยังออกแบบมาสวยเลย)


ภาพสองมุมข้างๆมั่ง เป็นขนมเค้กทำเป็นชั้นๆน่ารักน่ากินมากๆเลย โดยเฉพาะที่ทำเป็นคล้ายๆมูสใสๆสีแดงด้านบนตรงนี้ชอบมากๆ >.< ถ้าจำไม่ผิดพนักงานบอกว่าอันนี้ทำเป็นเค้กรส カシス หรือ black currant (แต่กินไม่ได้นะ)


และภาพสุดท้าย ใช้ถุงของ Q-Pot ที่ทำเป็นลายตารางช็อคโกแล็ตเป็น background เสียหน่อย เข้ากั๊นเข้ากัน


ในห้างอิเซตันค่อนข้างถ่ายรูปลำบาก เลยมาเก็บบรรยากาศเซลล์ถุงโชคดีกันที่ข้างนอกแทน ช่วงเดือนมกรา(โดยเฉพาะช่วงวันที่ 2-3)นี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่ของลดราคา ไม่เฉพาะเสื้อผ้าแต่ทุกอย่างเลย (ถ้าเสื้อผ้าก็จะเฉพาะของหน้าหนาวเท่านั้นที่ลด)


ส่วนตัว จขบ ไม่ชอบการเสี่ยงกับถุงโชคดีเท่าไหร่ เกิดได้ไม่ถูกใจมาก็ไม่รู้จะเอาไปปล่อยต่อยังไงดีรกเปล่าๆ ไปเหล่ๆของลดราคาปกติที่ให้เลือกให้ลองได้ดีกว่า (ถ้าใครไม่รู้ดูเผินๆอาจเห็นว่าเสื้อผ้าลดกันทั้งร้านทุกตัว แต่จริงๆคือช่วงนี้เค้าจะโชว์แต่ของที่ลดราคา ส่วนของคอลเลคชั่นใหม่ Early spring ที่ไม่ลดส่วนใหญ่จะโดนเก็บไปพักนึงก่อน)


แต่ถึงไม่ชอบซื้อก็ยังชอบดูนะ พนักงานขายช่วงนี้นี่กระปรี้กระเปร่ากันดีแท้ ตะโกนเรียกลูกค้ากันสุดชีวิตเลย (ยังนึกอยู่ว่าตะโกนขนาดนี้ วันรุ่งขึ้นคอเค้าจะไหวไหมเนี่ย เสียงดังไปแปดร้านสิบร้านใช้แค่กระบอกพลาสติกธรรมดาๆเป็นโทรโข่ง)


สำหรับการเซอเวย์วัน D-day ก็มีเพียงเท่านี้ ภาพด้านล่างนี้ไม่เกี่ยวอะไร แต่เห็นไฟหน้าร้านสวยดีเลยถ่ายมา ไม่ได้เข้าไปดูข้างในด้วย Gucci ขายที่ญี่ปุ่นแพงชัวร์ๆ มีเงินซื้อกะเค้าซะที่ไหน


เที่ยวครั้งสุดท้ายก่อนต้องกลับไปปั่นงานต่อที่มหาลัยกับเพื่อนซี้เก่าตั้งแต่สมัยยังไม่เข้ามหาลัย ก็คุณแฟนไม่อยู่นี่นะ จะให้นั่งหง่าวอยู่กับบ้านคนเดียวก็ยังไงอยู่ ขอออกมานัดเจอเพื่อนๆกันบ้างเถอะ

งานนี้นัดกันไปดู Avatar ที่โรงหนังสามมิติแถบชินจูกุ(อีกแล้ว) ดูโรงสามมิติเป็นครั้งแรกเลย ตอนยังไม่ชินนี่แอบรู้สึกมึนๆนิดๆ แต่ชินแล้วก็โอเคนะ ข้อเสียที่สุดคือ แว่นนี้ไม่เผื่อสำหรับคนไม่มีดั้งอย่าง จขบ เล้ยยย ต้องคอยเอานิ้วมายันแว่นไว้ตลอดไม่งั้นร่วงอยู่นั่นล่ะ


ผลพลอยได้จากการดูหนังเรื่องนี้คือ เจอหนังน่าดูสุดๆอีกเรื่องชื่อภาษาอังกฤษน่าจะ Percy มั้งนะ (เห็นที่โรงหนังเขียนแต่ชื่อญี่ปุ่นไว้ ไม่แน่ใจตัวสะกดอังกฤษ) เข้าโรงที่ญี่ปุ่นตอน 26 กุมภา เข้าเร็วๆอย่างนี้ต้องเป็นหนังฟอร์มใหญ่นะเนี่ย ไม่งั้นปกติที่ญี่ปุ่นหนังเข้าช้่าสุดๆที่ไทยฉายไปแล้วครึ่งปีเพิ่งจะเข้าโรงที่ญี่ปุ่นเอง

ช่วงสิ้นปีและปีใหม่นี้ได้กินแต่ของดีๆนับเป็นนิมิตหมายที่ดีมากๆ(ยกเว้นเรื่องที่ว่าทำเอากระเป๋าเบาไปพอประมาณ) มื้อกลางวันวันนี้ได้กิน Tonkatsu แบบเป็นชิ้นเป็นอัน(ร้านชื่อ とんかつ和幸 Tonkatsu Wako) ที่ไม่ได้กินมาน๊านนาน อร๊อยอร่อย (คือปกติกินแบบตามโรงอาหารบ้าง ร้านฟาสฟู้ดบ้าง ซึ่งก็ไม่อร่อยเท่าร้านที่ทำจริงๆจังๆอย่างนี้อ่ะ)


ไม่พอมื้อเย็น ด้วยการรีเควส(ของ จขบ เอง)จบลงที่เนื้อย่างอีกแล้ว(ขอเซนเซอร์หน้าคุณเพื่อนไว้หน่อย) แบบว่าคนเก็บกดอ่ะนะ สมัยคุณแฟนอยู่ไม่ค่อยยอมพาไปกินเนื้อย่างเลย นี่คุณแฟนไม่อยู่แล้วเลยไม่ต้องง้อ ไปกินเองก็ได้ ;P


เดินเล่นในชินจูกุวันนี้เจอของน่ารักอีกแล้วววว ช่วงนี้ยิ่งเป็นอะไรที่บ้าของรูปขนมหวานอยู่ด้วย อันนี้เจอที่แผนกเย็บปักถักร้อย เป็นเซ็ตที่ให้เอาไปเย็บเองออกมาเป็นรูปขนมหวานน่ารักๆแบบต่างๆ


ชอบเค้กอันใหญ่นี่มากที่สุดเลย ทำออกมาน่ารักจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าห้องที่ญี่ปุ่นมันแคบไม่มีที่จะวางล่ะก็ซื้อมาลองทำดูแล้ว


พวกที่เป็นพวงกุญแจรูปขนมอบก็ดูเข้าท่า น่าเอามาเย็บเล่นแจกเป็นของขวัญนะเนี่ย


พวกที่ทำเป็นเค้กอย่างนี้ก็น่าสน ใช้เป็นกล่องเก็บของได้อีกด้วย แต่อันนี้ท่าทางจะยากนะเนี่ยน่ากลัวต้องมีการถักๆอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้


เฮ้ออออ สรุปว่าบล็อคเพ้อเจ้อนี้จบลงเพียงเท่านี้ หยุดหน้าหนาวหนนี้ถือว่าได้เที่ยวเปิดหูเปิดตาเยอะพอควรเลย(ปกติโดนคุณแฟนจองเต็มเวลา เลยไม่ได้เที่ยวกับเพื่อนๆเท่าไหร่) ได้เจอใครๆก็เยอะ เจอของน่ารักๆก็แยะ แถมได้กินแต่ของอร่อยๆทั้งนั้นเลย คาดว่าปีใหม่นี้คงจะเป็นปีที่ดีนะ ก็เริ่มต้นปีมาได้ดีซะอย่างนี้ ^_^

Happy New Year อีกครั้งแด่ทุกท่านที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ

----------------------------------------------------------------

ภาพทั้งหมดถ่ายจาก Canon Kiss X3 + เลนส์คิต EF-S 18-55mm F3.5-5.6 IS ย่อทีละ 500 pixels ด้วย USM

Create Date : 10 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 23:18:38 น.		5 comments
Counter : 7920 Pageviews.
Share Tweet