เดินเลือกซื้อโน่นนี่ หาดูอาหารตาไปเรื่อยๆ มาเจอที่ชั้นล่างจัดแสดงตกแต่งแบบอียิปต์อยู่ เห็นใครๆก็ถ่ายรูปกันเราเลยถือโอกาสถ่ายมั่งค่ะ รูปปั้นคล้ายๆที่เห็นที่ British Museum เลยแต่มาอยู่นี่เราว่าดูน่าสนใจกว่าเยอะนะคะเนี่ย ;) #2
เสร็จจาก Madame Tussauds ก็ยังมีเวลาเหลือค่ะ จะมาเก็บตกพิพิธภัณฑ์อื่นๆในลอนดอนกัน จริงๆแล้วเราไม่ใช่คนชอบเข้าพิพิธภัณฑ์เลยนะคะ แต่ในลอนดอนนี่นอกจากที่ๆเราไปมาแล้วก็เหลือแต่พวกพิพิธภัณฑ์นี่ล่ะค่ะที่แนะนำให้ไปกัน (ถ้าเกิดใน Tower of London อนุญาตให้ถ่ายรูปล่ะก็ มันจะเป็น Must go อีกแห่งของเราเลยค่ะ ชอบถ่ายรูปของวิบๆวับๆสวยดีน่ะค่ะ ^_^ )
จาก Baker Street Station นั่ง Tube มาลงที่ Tottenham Court Road Station เพื่อไป British Museum กันเลยค่ะ จริงๆ museum นี้ดูในแผนที่มีสถานีล้อมอยู่สี่อัน แต่ไม่มีอันไหนอยู่ติดเลยสักอันค่ะ เราก็เลยเลือกๆมาอันนึงแล้วค่อยไปงมหาทางเดินไปอีกที #1
เดินตามป้ายว่าจะออกทาง Museum นะคะแล้วก็มาโผล่ที่นี่เลยค่ะ ยืนงงเลยว่าแล้วมันไปต่อทางไหนยังไงล่ะเนี่ย ไม่มีป้ายอะไรบอกเลยสักนิด นี่มันที่เที่ยวแนะนำจริงๆเหรอเนี่ย (ที่อื่นๆที่ไปมาเนี่ย ออกจากสถานีไปได้ง่ายๆทั้งนั้นเลย) #2
เสร็จแล้วก็พากันนั่ง Tube กลับ South Kensington ค่ะสถานีที่โรงแรมเราอยู่นี่มีพิพิธภัณฑ์ดังๆอยู่ถึงสามอันเลย (รู้สึกจะเข้าฟรีหมดด้วยค่ะ) อันที่เราเล็งๆไว้ก็คือ National History Museum นี่ล่ะค่ะ อยากมาถ่ายรูปกับโครงกระดูกยักษ์แบบที่เห็นในหนัง Night at the musuem กะเค้าบ้าง (แต่รู้สึกในหนังจะเป็น National History Museum ที่อเมริกา) ออกจาก Tube มาฟ้าก็เริ่มมืดซะแล้ว (สี่โมงกว่าๆก็เริ่มมืดแล้วค่ะ) #12
สำหรับวันนี้ก็หมดเท่านี้แล้วล่ะค่ะ เสียดายว่า British Museum น่าเบื่อ(มาก)กว่าที่คิดไว้ รู้งี้น่าจะเปลี่ยนมาให้เวลากับ Science museum (อยู่ติดๆกับ National History Museum เลยค่ะ) แทนดีกว่า เพื่อนเคยไปมาแล้วบอกว่าน่าสนใจดี(สำหรับคนเรียนวิทย์น่ะนะคะ) ถ้าไม่มี Madame Tussauds ตอนเช้านี่วันนี้คงกร่อยแย่
ต่อไปเป็น Movie Zone ค่ะ ตรงนี้เราเริ่มใจกล้าขึ้นแล้วเพราะมีหุ่นคาแรคเตอร์ที่เราชอบมากอยู่ด้วย ด้านได้อายอดค่ะไม่งั้นไม่มีรูปตัวเองกลับไปแน่ๆ(ที่แบบนี้ถ้าไม่มีตัวเราเข้าไปในรูปด้วย มันก็ไม่เหมือนว่าเราได้มาแล้วจริงๆน่ะเนอะคะ)
เริ่มจากอันแรก Spider Man ก่อนเลยค่ะติดตามมาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว สนุกมาก (แต่ภาคสองเนื้อเรื่องออกจะเฉื่อยๆไปหน่อยนึง) ตอนไปนิวยอร์คก็อุตส่าห์ไปเก็บช็อตหน้า Columbia University ที่เป็นฉากแรกสุดในหนัง(ภาคแรก)ตอนตัวร้ายขับรถไปส่งลูกทัศนศึกษากะเค้าด้วย ^o^ #10
ถัดมาเป็นห้องของ Royal Gallery ค่ะ ม่านสีแดงดีได้ใจถ่ายรูปขึ๊นขึ้น แรกสุดเข้ามาก็เจอเจ้าหญิงไดอาน่ายืนต้อนรับอยู่ก่อนเลย (จำได้ว่าเพลง Candle in the wind ของ Elton John เพร๊าะเพราะเสียงดูมีพลังแฝงเศร้าๆ อารมณ์คนเสียใจมากจนต้องร้องระบายออกมา) #13
ขอแปะอีกหนึ่งผู้นำคนโปรดของคุณแฟนเรา Tony Blair นั่นเองค่ะ ถ้าไม่นับ(ที่พลาด)ตอนเรื่องที่ไปสนับสนุนอเมริกาบุกอิรัคแล้วล่ะก็ เค้าเป็นผู้นำที่คนอังกฤษชอบมากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์เลย(ได้ยินมาว่างี้น่ะค่ะ) คุณแฟนชอบฟัง speech ของเค้ามาก(พอๆกับที่ชอบฟังของ Obama) แล้วพูดประจำว่าภาษาอังกฤษแบบของ Tony Blair นี่ล่ะเท่ห์สุดๆ (เราก็แยกไ่ม่ค่อยออกนะคะว่าสำเนียงไหนเป็นอังกฤษ ไหนเป็นอเมริกา รู้แต่ปกติสำเนียงอังกฤษจะฟังยากกว่า แต่อย่าง Tony Blair นี่กลับชัดและฟังง่ายดี) #22
speech ของ Tony Blaire ที่คุณแฟนเราพยายามจะกรอกหูเราอยู่ตลอดเลยคือนี่ล่ะค่ะ "Ask me my three main priorities for government, and I tell you, Education, Education and Education." ( -"- รู้แล้วจ้า ว่าการศึกษาน่ะสำคัญ คุณแฟนเรานี่ย้ำจั๊ง ฟังจนเอียนแล้วเนี่ย speech คนสำคัญทั่วโลกทั้งอดีตและปัจจุบันที่พูดถึงความสำคัญของการศึกษา)
สรุปเลยต้องเดินย้อน(ไกลมาก)เพื่อมาขึ้นรถไฟค่ะ รู้งี้ขึ้นรถไฟซะตั้งแต่สถานีตรงที่จัดงานป่านนี้ถึง Tower of London ไปแล้วค่ะ ทำเก่งดีนักเสียเวลาเลย ถือซะว่ามาเดินเล่นถ่ายรูปก็ได้ #4
มัวแต่หลงทางกว่าจะมาถึง Tower Hill Station ก็เริ่มมืดซะแล้วคงเข้า Tower of London ไม่ทันก็เลยได้แต่เก็บภาพรอบๆเอาค่ะ ออกจากสถานีแล้วเดินตามๆคนตามๆป้ายไปก็ไป Tower of London กับ Tower Bridge ได้ไม่ยากเลยค่ะ #5
ตอนเดินผ่าน Tower of London ฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้ว แต่ยังแค่นิดๆหน่อยๆยังสบายๆค่ะ #6
ดูเหมือนว่าฝั่งนึงของ Tower Bridge จะปิดปรับปรุงอยู่ คนก็เลยมาเดินกันอยู่ฝั่งเดียวกันหมดเลย พอเดินผ่าน Tower of London โผล่มาที่ถนนก็จะมองเห็น Tower Bridge อยู่ไกลๆแล้วค่ะ #7
ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ แพลนวันนี้ของเราคือไปเก็บวิวกลางคืนของ Big Ben และ London Eye ด้วย (วิวกลางวันได้แล้วเมื่อวานแต่ยังไม่พอค่ะ จะเอาวิวกลางคืนอีก) ตอนโผล่ออกจาก Westminster Station ก็ดูเหมือนฝนจะซาลงดีอยู่นะคะเลยได้ภาพ Big Ben สีทองตัดกับฟ้าตอนกลางคืนมาได้ #10
รีบๆซ้อมให้เสร็จก็ออกจากโรงแรมเลยค่ะ ดูพยากรณ์อากาศทาง BBC ดูเหมือนช่วงสี่ห้าวันที่เราอยู่ที่นี่อากาศจะไม่ค่อยดีเลย ฝนตกๆๆๆทุกวันเลยค่ะ ถ้าจะมีช่วงที่พอจะมีแดด ฟ้าจะเปิดบ้างก็น่าจะช่วงสักเก้าโมงเช้าถึงบ่ายต้นๆนี่เอง ทริปนี้เราหมายมั่นปั้นมือว่าต้องพากล้องใหม่ไปเก็บภาพสวยๆของ Big Ben และ London Eye ที่เป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนมาให้ได้ งานนี้เลยรีบออกแต่เช้าค่ะจะได้มีเวลาถ่ายรูปก่อนต้องไปพรีเซนต์งาน ถ้าพลาดตอนเช้าฟ้าปิดจะได้ยังแก้ตัวไปถ่ายวิวตอนกลางคืนแทนได้
เติมพลังกันก่อนเล็กน้อยที่ร้านนี้ค่ะ ยังค่อนข้างแปลกถิ่นอยู่ก็เลยเดินงงๆเข้าร้านนึงใกล้ๆโรงแรมนั่นล่ะค่ะ ตอนสั่งก็ยังแอบเขินๆกลัวเค้าฟังเราไม่รู้เรื่องแต่สุดท้ายก็สั่งมาได้ค่ะได้ Porridge มาหนึ่งถ้วย(มีกล้วยแปะมาด้วย) จริงๆอยากทานประมาณ American breakfast แบบมีขนมปังและเนื้อหน่อย แต่ที่นี่เค้ามีแต่แบบ English breakfast น่ะค่ะไม่ค่อยมีเนื้อๆมื้อเช้าเลย (แถมท่าทางใหญ่เบิ้ม น่ากลัวจะกินไม่หมด) #2
สมแล้วที่เป็นจุดยอดฮิตของลอนดอน จากสถานีเดินตามป้ายบอกทางออกมาปุ๊บก็เจอ Big Ben เลยค่ะดูเหมือนจะมีการก่อสร้างอะไรกันอยู่ด้วย เลยมีไม้เกะกะตัวตึกหน่อยนึง ว่าแล้วก็แชะมาสักภาพค่ะ ฟ้ายังใสต้องรีบๆกันหน่อยเพราะมองไปเห็นเมฆก้อนเบ้อเริ่มมาแต่ไกลเชียว #5
แชะมาเยอะแล้วก็มานั่งคัด นั่งโพสเซสภาพกันอีกรอบค่ะ อย่างน้อยก็สมใจเราว่าได้ภาพที่เราคิดว่าโอเคมาบ้างเหมือนกัน ไหนๆแล้วขอลงภาพ Big Ben หลายอันหน่อยนะคะมันต่างกันที่องค์ประกอบนิดๆหน่อยๆ จขบ เลือกไม่ถูกค่ะ รักพี่เสียดายน้อง #6
#7
#8
#9
เมฆใกล้เข้ามาแล้ว รีบข้ามสะพานเพื่อไปถ่ายรูป London Eye กันบ้างค่ะ จาก Big Ben มองไปก็จะเห็น London Eye อยู่อีกฝั่งแล้ว #10
ตอนเราไปนั้นยังเช้ามาก เห็นแต่คนรีบเร่งเดินกันไปโรงเรียนไปทำงานทั้งนั้น นักท่องเที่ยวที่มาถ่ายรูปอย่างเรานี่ไม่ค่อยเจอเลย พวกชะโงกทัวร์อย่างเราที่มีเวลาแค่นิดเดียว ถ่ายรูปสวยๆได้สมใจแล้วก็กลับค่ะ ไม่ได้ขึ้น London Eye ชมวิว หรือเข้าไปดูข้างใน Parliament ตรง Big Ben แต่อย่างใด (ยังเช้ามากด้วย คาดว่าจะยังไม่เปิดให้ใช้บริการ) #15
ถ่ายรูปเสร็จเดินข้ามสะพานกลับอีกที ตรง Big Ben เมฆขาวจั๊วะบังแล้วค่ะ ไม่มีฟ้าสีฟ้าใสๆแล้วถ้าเรามาช้ากว่านี้นี่คงพลาดแน่ๆค่ะ
จากตรงนี้จะขอข้ามช่วงที่เราต้องไปพรีเซนต์งานนะคะ เอาเป็นว่ากลับถึงโรงแรมอีกทีประมาณสี่โมงครึ่ง จริงๆอยากแวะไป National History Museum หรือ Science Museum ที่อยู่ตรงสถานีโรงแรมเรา แต่เพราะตื่นเช้ามากเริ่มเกิดอาการหนังตาหนัก เลยขอแอบงีบพักที่โรงแรมแป๊บนึงค่ะ