|
คนญี่ปุ่นคิดยังงี้กับการอ่านการ์ตูนเหรอเนี่ย & อยู่ญีปุ่นอัดรูปกันยังไงดี
มึนๆหัวจากการตอบคำถาม reviewer ตอบเสร็จไปคนเลยอู้มาเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยคลายเครียดดีกว่า วันนี้เป็นสองเรื่องเล็กๆเรื่องแรกบังเอิญได้ยินมาแล้วคิดว่าแปลกดี เรื่องสองบังเอิญติดกล้องไปเลยถ่ายรูปมาแล้วถือโอกาสเล่านิดๆซะเลย
-------------------------------------------------------------------------------
เรื่องแรกอย่างที่จั่วหัวไว้ คือ คนญี่ปุ่นคิดยังไงกับการอ่านการ์ตูนกันนะ

ที่ผ่านมาเราคิดมาตลอดว่าการ์ตูนเหมือนเป็นส่วนนึงในวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไม่เฉพาะการ์ตูนเป็นเล่มๆหรือการ์ตูนทีวีเท่านั้น แต่อะไรๆในญี่ปุ่นก็มักมีตัวการ์ตูนเป็นสัญลักษณ์เสมอเลย ไม่ว่าจะ Pipo-kun (ピーポ君) ตัวมาสคอตของตำรวจโตเกียว (ดูรูปได้ที่ด้านล่าง) ไม่ว่าจะแผ่นป้ายต่างๆที่สอนวิธีใช้หรือแนะนำเรื่องต่างๆในสถานีรถไฟ ไปจนกระทั่งแผ่นพับโฆษณาหลายๆอย่าง มักจะมีการวาดภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจง่ายในลักษณะของตัวการ์ตูนเอาไว้เสมอ
 Pipo-kun เครดิตภาพจาก //3.bp.blogspot.com/_7qESQ7beFBE/R_pHoYXdNxI/AAAAAAAAAqM/ZZcIF8RqY_U/s320/Peepo-kun+Tokyo+Police+Mascot.gif
กระทั่งในการเขียนเปเปอร์งานวิจัยก็ตาม ก็พบได้บ่อยที่คนญี่ปุ่นมักชอบวาดเป็นรูปลักษณะของตัวการ์ตูนเพื่ออธิบาย concept ของงานแทนที่จะใช้รูปคนจริงๆ เราเองก็เป็นคนนึงที่ชอบทำอย่างนั้น ส่งให้อาจารย์ตรวจอาจารย์ก็ไม่ว่าอะไรเลย กลับเป็นคุณแฟน(คนไทย)ซะอีกที่ดูแล้วพูดว่า "เอ ใช้รูปแบบนี้มันจะดูไม่ค่อยทางการไปนะ"
ก่อนหน้านี้ช่วงว่างจัดๆเคยลองซื้อคินดะอิจิเวอร์ชั่นญี่ปุ่นมาอ่าน (ช่างกล้า ทั้งๆที่ภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เรื่องแท้ๆ) แล้วก็อย่างที่คิดอ่านไม่รู้เรื่องซะมากเปิดดิคมือระวิงอ่านทีเหนื๊อยเหนื่อยรู้เรื่องเต็มๆแค่บางตอนที่ศัพท์ง่ายหน่อย บางตอนที่ยากเหลือเกินรู้แค่คร่าวๆ แต่กลับไทยหนก่อนไปเจอเวอร์ชั่นแปลของสองเล่มนี้เข้า พอได้อ่านเวอร์ชั่นแปลไทยมาหนนึงแล้ว กลับมาอ่านเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอีกทีมันก็เข้าใจง่ายขึ้นเยอะ เก็บศัพท์น่าสนใจได้อีกหลายๆตัวเลย

มี adverb บางตัวที่สงสัยมานานไม่เข้าใจวิีธีใช้มันซะทีก็เลยเอาไปถามคนญี่ปุ่นในแล็บซะหน่อย ก็อธิบายกันนานพอควรกว่าจะเก็ตวิธีใช้มันได้ ตอนนั้นเองเรามีพูดว่าเราอ่านมาจากคินดะอิจินี่ล่ะ คนญี่ปุ่นก็บอกว่าเค้าไม่ได้อ่านการ์ตูนพวกนี้มาตั้งแต่ ม.ปลาย แล้วล่ะ(นอกจากคนที่เราถาม อีกคนใกล้ๆก็พยักหน้าเออออไปด้วย) นี่แหล่ะที่เป็นที่มาของเรื่องเล่าหนนี้
ถ้าเป็นการ์ตูนแนวๆอื่นยังไม่แปลกใจนะ แต่แนวนักสืบนี่ก็รู้สึกว่ามันก็ดังที่ญี่ปุ่นนี่นา โคนันถึงขนาดมีหนังแบบคนจริงๆเล่น แล้วหนังนักสืบสองชั่วโมงจบก็ฉายกันเป็นประจำในทีวี คินดะอิจิเองนี่ก็ไม่ได้ว่าอ่านแล้วไร้สาระสักหน่อย โดยหลักๆแล้วออกจะมีสาระมากจนเกินไปด้วยซ้ำ
ถามๆดูเค้าตอบประมาณว่าคนญี่ปุ่นพอโตแล้วไม่ค่อยอ่านการ์ตูนกันหรอก หรืออย่างน้อยคือไม่อ่านให้ใครเห็นในที่สาธารณะนั่นล่ะ ประมาณว่ามันจะทำให้ดูลุคไม่ค่อยดียังไงบอกไม่ถูก ต่อให้เป็นการ์ตูนแนวคินดะอิจิก็ตาม (แต่ไม่ดียังไงเราก็อธิบายไม่ถูกนะ ไม่ใช่คนญี่ปุ่นอ่ะ)
จะว่าไปเราก็ไม่ค่อยเห็นใคร(ที่โตๆแล้ว)มาอ่านการ์ตูนให้เห็นจริงๆนั่นล่ะ บนรถไฟที่เห็นอ่านๆกันซะมากก็เป็นพวกหนังสือตัวอักษรเป็นพรืด นานน๊านทีจะเห็นคนโตๆระดับทำงานอะไรแล้วถือการ์ตูนเล่มเบ้งๆอ่านให้เห็นกันจะๆ คนในแล็บเราก็ไม่เคยเห็นใครมาอ่านการ์ตูนเลย ถ้าไม่นอนหรือไม่อยู่หน้าคอม(ทำงานบ้าง เล่นเน็ตบ้าง)ก็เห็นนั่งเล่นโชงิ เล่นหมากรุก เล่นเกมส์Wii กันไปเรื่อย
ผิดคาดนะเนี่ย ประเทศเจ้าแห่งการ์ตูนแท้ๆ แต่ลุคของคนอ่านการ์ตูนกลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในสายตาคนญี่ปุ่นด้วยกัน นี่เป็นอีกเหตุผลนึงหรือเปล่านะที่ร้านหนังสือของญี่ปุ่นมีบริการห่อปกหนังสือ(ด้วยปกกระดาษลายของทางร้าน)ให้เสมอ เราก็เคยงงว่าการ์ตูนเราซื้อก็มีปกสวยๆดีๆอยู่แล้วไม่ใช่หนังสือโป๊สักหน่อยเค้าก็ยังห่อให้นะ (ขอปิดท้ายด้วยรูปนี้อีกสักที ชอบปกนี้อ่ะสวยดี ถ่ายรูปก็ขึ้นกล้องดีแท้)

-------------------------------------------------------------------------------
มากันที่เรื่องที่สองสั้นกว่าเรื่องแรก คือ เรื่องว่าคนญี่ปุ่นเค้าอัดรูปกันยังไงนะ
เดี๋ยวนี้สมัยใหม่คนอัดรูปก็น้อยลงเยอะ อาศัยดูกันจากในจอคอมนั่นล่ะ เราเองอยู่ไทยยังนานน๊านทีจะรวบรวมรูปไปอัดตามร้านมั่ง ที่ญี่ปุ่นเองก็มีร้านรูปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ทั่วไปหมด เดินผ่านบ่อยๆเห็นรูปที่โชว์อยู่หน้าร้านยังนึกอยู่เลยว่าที่นี่ร้านรูปไม่นิยม retouch รูปให้นะเนี่ย มองปุ๊ปรู้ปั๊บว่ารูปนี้สดๆจากกล้อง ท่าโพสเบสิคมากๆคาดว่าไม่มีการจัดการขยับการสอนโพสให้เท่าไหร่ กดได้ถ่ายเลย(มั้ง)
ส่วนมากรูปที่โชว์กันหน้าร้านรูปก็เป็นพวกรูปเป็นถ่ายเป็นการเป็นงานหน่อย เช่น ถ่ายรูปครอบครัว ถ่ายรูปกับปริญญา หรือ ถ่ายรูปในโอกาสสำคัญๆวันต่างๆของเด็กญี่ปุ่น ไอ้ประเภทรูปถ่ายไปเที่ยวกันเอง หรือ รูปถ่ายติดบัตรเนี่ยเจอน้อยมากๆ
สำหรับรูปถ่ายติดบัตรที่ญี่ปุ่นใช้วิธีการไปถ่ายตามตู้ถ่ายอัตโนมัติซึ่งหาเจอได้ทั่วไปในสถานีรถไฟ (ในมหาลัยก็มี) ค่าเสียหายประมาณ 5-700 เยนต่อหนึ่งแผ่น (ซึ่งได้รูปประมาณ 4-5 รูปเท่านั้น) เราเข้าไปถ่ายสภาพไหนรูปก็ออกมาสภาพนั้นเลยไม่มีการรีทัชอะไรให้ ที่สำคัญคือต้องหยอดเงินก่อนไม่งั้นเครื่องไม่ทำงาน ดังนั้นจะขอเทสก่อนแล้วรูปไม่สวยเปลี่ยนใจทีหลังก็ไม่ได้อีก
ถ่ายรูปติดบัตรที่ไทยก็ว่าออกมาไม่ค่อยสวยซะส่วนใหญ่แล้วนะ มาเจอถ่ายสดๆแบบนี้เข้าน้อยครั้งมากที่ออกมาแล้วจะพูดได้ว่าดูดี ส่วนใหญ่มีแต่แบบเสียดายตังค์ไม่อยากถ่ายใหม่ก็เลยหยวนๆใช้ๆมันไปก็ได้ <<รูปตู้ถ่ายรูปติดบัตรขอติดไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่มี>>
ครั้งนึงเคยเอารูปถ่ายจากไปเที่ยว เดินไปอัดที่ร้าน FujiFilm ตรงข้ามมหาลัย ไซส์ปกตินี่ล่ะใบละ 35 หรือ 40 เยนนี่ล่ะจำไม่ได้แต่รูปออกมานี่แบบว่าเห็นภาพเป็นเม็ดๆและภาพไม่คมเอาซะเลย สงสัยเราเลือกโหมดอัดรูปผิดหรือยังไงก็ไม่รู้ แต่ปกติอัดรูปมันน่าจะออกมาชัดกว่านี้นี่นะ นี่ยังกะเอาปริ๊นเตอร์ที่บ้านพิมพ์เอาแน่ะ
นึกได้ว่าที่ Yodobashi camera เห็นมีตู้ๆอัดรูปเรียงอยู่คนไปยืนอัดรูปเป็นปึกๆกันเป็นประจำเลย ก็เลยเอามั่งไปลองอัดดู ขนาด L-size แผ่นละ 30 เยนแต่รูปออกมาชัดแจ๋วแหวว ก็เลยรู้ละเค้าอัดกันที่นี่นี่เอง ถ้าไม่อัดรูปอะไรแบบไซส์พิเศษพิสดารกว่าปกติ ก็ถือ memory stick/cd/sd/มือถือ/.... มาอัดกันเองอย่างนี้เลย จะอัด 2P, 4P(เลือกหลายๆรูปมาประกอบเป็น 4P หนึ่งใบได้) จะขยับรูปซ้ายขวาบนล่าง หรือจะปรับแสงอะไรก็ตามสบายเลย งานนี้บริการตัวเองล้วนๆ (แต่ทำเองเยอะๆก็เหนื่อยนะ)

วันก่อนเพิ่งไปอัดมาอีกใบเอาไว้มาเทียบสีกับหน้าจอคอม ยืนรออยู่นานมากกว่าจะได้อัดเพราะคุณพี่เสื้อนวมสีม่วง(รูปด้านบน)อัดรูปเป็นร้อยกดอยู่นานมากกว่าจะเสร็จ คือเผอิญมันมีแต่เครื่องริมสุดนี้น่ะที่ใส่กรอบแฟนซีให้รูปได้เลยจำเป็นต้องรอคิวหน่อย มีกรอบซาริโอ กรอบดิสนีย์ และกรอบลายอื่นๆอีกสารพัด (ตู้พวกนี้จะให้จ่ายเงินตอนถึงขั้นสุดท้ายก่อนพิมพ์ ก่อนนี้กดๆเลือกๆไปได้ยังไม่เสียเงิน)

สรุปแล้วไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นเน้นบริการตัวเองแม้แต่การอัดรูป ไม่ต้องง้อร้าน ไม่ต้องรีทัช อยากอัดก็เดินมาอัดเองเลยได้รูปกลับบ้านทันที เสียก็ตรงว่ารูปที่เห็นมักจะสะท้อนความจริงมากไปนิดโทรมมายังไงก็ได้ยังงั้นกลับไป
Create Date : 20 ตุลาคม 2552 |
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 18:40:25 น. |
|
3 comments
|
Counter : 8772 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เบล IP: 125.26.219.188 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:13:39:29 น. |
|
|
|
โดย: เบล IP: 125.26.219.188 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:13:41:10 น. |
|
|
|
โดย: yorito IP: 101.109.232.151 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:9:36:41 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]

|
บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ
เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|