หมอกมุงเมือง
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2567
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 มีนาคม 2567
 
All Blogs
 
ตะวันลา : ทมยันตี

เรื่อง : ตะวันลา
ผู้เขียน : ทมยันตี
สำนักพิมพ์ : รวมสาส์น
ปีที่พิมพ์ : 2523
เล่มเดียวจบ


        ตะวันลา เป็นนวนิยายขนาดสั้นเพียงสิบห้าตอนจบ แต่สามารถสะท้อนเรื่องราวชีวิตอันเข้มข้นของตัวละครเอก ตั้งแต่ต้นเรื่องตราบจนถึงบรรทัดสุดท้าย ด้วยสำนวนภาษาอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของทมยันตี ที่นักอ่านคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับภายในเล่มที่ผมอ่านนี้ จะประกอบด้วยสองเรื่องคือ ตะวันลา กับ สำรองรัก ซึ่งเป็นเรื่องขนาดสั้นทั้งสองเรื่อง ภายหลัง เมื่อสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม นำมาจัดพิมพ์ใหม่ ได้พิมพ์แยกเป็นแต่ละเรื่องจากกัน

         ทมยันตี ใช้การบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ผ่านมุมมองของ “ฉัน” หรือ อนงคเลขา ตั้งแต่ยังเป็นเพียงเด็กหญิงตัวน้อยที่มองโลกอย่างสดใส ท่ามกลางชีวิตที่แวดล้อมไปด้วยความสุข จากคุณนิศาชลมารดาผู้เป็นที่รัก และอยู่บนกองเงินกองทอง พรั่งพร้อมบริวารคอยอำนวยความสะดวกมากมาย โดยที่เธอไม่เคยรับรู้ถึงความยากลำบากใดๆ รวมถึงป้าน้อม หญิงพี่เลี้ยงที่คอยเอาอกเอาใจไม่ห่างกาย

           สำหรับฉัน เพียงชี้นิ้ว ทุกอย่างที่อยากได้จะมาอย่างง่ายดาย
       “นิ้วหนูเป็นเพชร”

       ฉันเคยบอกป้าน้อม “ชี้ปุ๊บได้ปั๊บจับใจ”
        “สุขทุกขฺมันเหมือนลมนะคุณ เดี๋ยวมันก็ไป ยามมีความสุขใคล่ะจะไปรู้ว่าความทุกข์เป็นอย่างไร”


            อนงคเลขา ไม่เคยนึกถึงคำพูดเตือนสตินั้นเลย ตราบจนกระทั่ง...

         แม่ไม่เคยบอกฉันเลยว่า เรากำลังะล้มละลาย
        ในเช้าวันนั้น พอฉันตื่นนอนขึ้นมา แม่ก็ส่งธนบัตรใบละห้าร้อยให้ พลางบอกสั้นๆว่า
         “หนูจะไปเที่ยวไหน หรือซื้ออะไรก็ตามใจ”
แม่เป็นเช่นนั้นเสมอ จะยามสุขหรือยามทุกข์แม่ไม่เคยร้องไห้เท่ากับไม่เคยหัวเราะง่ายๆ

            ++++++++++++++++++++++++++
         และเด็กหญิงก็ไม่ล่วงรู้เลยว่า ในเย็นวันหนึ่งเมื่อได้กลับมาถึงบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงตู้ไม้สุดที่รักของตัวเอง ก็กำลังถูกลำเลียงออกขายทอดตลาด!
ส่วนบิดานั้นหรือ

          หน้าของพ่อแสดงอารมณ์ได้ทุกชนิด ยามพ่อสุขสมเช่นเล่นไพ่ได้ หรือหาผู้หญิงคนใหม่ได้ พ่อจะหัวเราะเสียงดัง ใจดีต่อทุกคนในบ้านโดยไม่เลือกหน้า แต่ในยามใดที่อารมณ์ร้าย พ่อจะขว้างปาข้าวของปึงปัง ถึงขนาดเคยขว้างแจกันเฉียดแม่ไปกระทบข้างฝาแตกกระจาย หากแม่ก็สามารถพลิกหนังสือในมืออ่านอย่างหน้าตาเฉย...

           นั่นคือสภาพภายในที่แตกร้าวของครอบครัว ภายใต้ฉากหน้าอันแสนสมบูรณ์พรั่งพร้อม ตราบจนกระทั่งถึงวันเวลาของล่มสลายมาถึง
             ++++++++++++++++++++++
        แม่ ถูกดำเนินคดี และจำคุก ขณะที่ พ่อ ก็เลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับสุรางค์ ผู้หญิงคนใหม่อย่างสุขสบายโดยไม่ยี่หระต่อปัญหาใดๆ ด้วยเงินส่วนเก็บของ อนงคเลขา และจากนั้นชีวิตฉากใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น

          จากเด็กหญิงที่มองโลกอย่างสวยงาม กลายเป็นสาวน้อยที่เติบโตขึ้นมาด้วยบาดแผลลึกภายในหัวใจ ภาพบ้านอันอบอุ่นที่เคยอยู่รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ ที่ถูกนำมาขายทอดตลาด อันตรธานไปในพริบตา หากยังดำรงอยู่ในความทรงจำมิเปลี่ยนแปร บัดนี้ อนงคเลขา ต้องมาอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเก่าๆ ซอมซ่อ มีป้าน้อมคอยช่วยเปิดร้านทำอาหารขาย เด็กสาวพอมีฝีมือการเพนท์ผ้า จึงนำมันออกมาใช้หาเลี้ยงชีพ จนกระทั่งภาพเพนท์เหล่านั้น เกิดไปสะดุดตาลูกค้าชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เข้ามาทานอาหารในร้านพอดี

           เขามีชื่อว่าตะวัน และบอกเธอว่า ทำธุรกิจอยากจะชวนให้เธอมาทำงานออกแบบให้กับเขา ตะวันเป็นเจ้าของบ้านหลังงาม ที่เคยเป็นของเธอมาก่อน เขาได้รับมรดกจากทางบ้านและทำธุรกิจเป็นของตัวเอง และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ เธอตัดสินใจ ที่จะทำงานกับเขา

          ความอ่อนโยน ก่อให้เกิดความผูกพันขึ้นระหว่างสองหนุ่มสาว ตะวันรักเธอด้วยความบริสุทธิ์ใจ เขารู้ว่าเธอโหยหาสิ่งที่เคยสูญเสียไปแล้วในอดีต แต่สำหรับอนงคเลขา ด้วยทิฐิในใจ ทำให้หญิงสาวคิดถึงแต่การได้บ้านสุดที่รัก กลับคืนมา แม้ว่าในส่วนลึกของหัวใจ เธอเองก็จะรักเขาไม่แตกต่างกัน

           และเมื่อตะวันขอเธอแต่งงาน อนงคเลขาก็ไม่ปฏิเสธ เมื่อคิดว่า มันจะทำให้บ้านหลังนั้น กลับคืนมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง
               ++++++++++++++++++++++
         ผมเสียใจแต่ว่า คุณไม่ได้รักผม...
         “ถ้าคุณรู้แต่แรก ทำไมคุณยังแต่งงานกับฉัน?”
         ถึงความจริงจะเป็นสิ่งทารุณ หากฉันก็ไม่เคยหลอกใคร
          “เพราะ...”
          เขามองฉันพลางยิ้มเศร้าๆ


            “เพราะผมรักคุณ รักทั้งๆที่รู้ว่าคุณไม่ได้รักผมเลย ผมถามตัวเองตั้งแต่แรกว่า ผมจะอยู่ได้ไหม โดยไม่มีคุณ คำตอบก็คือ... ไม่ได้ ฉะนั้น ให้คุณเป็นยังไง ผมก็รักคุณเสมอ อนงคเลขา จำไว้ ความรักนั้นเหมือนตะวันที่ฉายให้ความสว่าง อบอุ่น แก่คนโดยไม่เลือกหน้า ไม่ว่าตะวันดวงนั้นจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม แต่ทุกคนจะได้รับแสงฉายเหมือนกันหมด เมื่อผมรักคุณ ความรักก็เป็นความอบอุ่น เป็นแสงสว่างประจำใจผม
           ถ้าเมื่อใดไม่มีคุณ ชีวิตของผมก็คงจะมืดมนมีมีประโยชน์อะไรอีกสืบไป วันนี้... คุณยังไม่รู้จักแสงสว่างทางใจ ในวันหน้า คุณอาจ... อาจได้พบ”


          เขาเปิดเผยหัวใจ เปิดความรู้สึกทั้งหมดให้เธอรับรู้ ถ้าเพียงแต่อนงคเลขา จะไม่ “ปิดกั้น”ตัวเองเอาไว้ ด้วยปราการของอคติเสียก่อน กว่าที่เธอจะรับรู้คุณค่าแห่งแสงตะวันอันอบอุ่นด้วยความรักนั้น
ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว!

              เมื่อตะวันประสบอุบัติเหตุ ระหว่างที่เขาเพียรหา ตู้ไม้อันเป็นวัตถุแห่งความทรงจำล้ำค่ามาให้เธอ และต้องการนำมันมามอบให้ด้วยตัวเอง แต่ถูกรถชนจนเสียชีวิตไปก่อน
            ตอนนั้นเอง ที่เธอจึงรู้ว่า รักเขา มากเพียงใด!

          ทมยันตี ได้เขียนตะวันลา จนจบเมื่อวันพุธ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2522 ด้วยประโยคความคิดคำนึงสุดสะเทือนใจของ อนงคเลขา ที่มีต่อดวงตะวันของเธอไว้ว่า

            ใช่แล้ว... บางสิ่ง... ที่ฉันทำหายไป และบัดนี้ ให้ฉันตามหาเท่าไร ฉันก็ไม่มีวันจะได้คืนมา เนื่องจาก ตะวันได้ลาจากไปแล้ว ท่ามกลางความโอ่อ่าของวัตถุ ชีวิตของฉันจะมีแต่ความืดมนตลอดกาล อา... ตะวันลา...



Create Date : 22 มีนาคม 2567
Last Update : 22 มีนาคม 2567 9:38:27 น. 0 comments
Counter : 336 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณRain_sk, คุณเมฆชรา, คุณnewyorknurse


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สามปอยหลวง
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




ฉันติดคุก ครั้งนี้ ชั่วชีวิต เพราะทำผิด คิดรัก ตัวอักษร ถูกคุมขัง ตั้งแต่เช้า จนเข้านอน ขอวิงวอน โปรดอย่า มาประกัน

คุกหนังสือ คือโซ่ทอง ที่คล้องล่าม คุกหนังสือ คือความงาม ในความฝัน คุกหนังสือ คือดนตรี กล่อมชีวัน คุกหนังสือ คือสวรรค์ ฉันรักเธอ

จาก คุกหนังสือ : แคน สังคีต

New Comments
Friends' blogs
[Add สามปอยหลวง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.