อยากร้องไห้กับความอ่อนหัดของตัวเองจริงๆ!! [ปูมวันที่ 18]
xx xxxx 2502
โป่งกระทิง
ตั้งแต่เกิดมา นั่งห้างมาก็หลายครั้ง ยิงได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย แต่การนั่งห้างทั้งชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีครั้งไหนจะซวยไปกว่าครั้งนี้อีกแล้ว ซวยซ้ำซวยซาก แล้วก็เหมือนผีซ้ำด้ามพลอย ตัวเราคนเดียวยังไม่เท่าไหร่ นี่ยังไปทำให้คนนำทางของเราต้องล้มหมอนนอนเสื่ออีก กลุ้มกับตัวเองจริงๆ นับวันเรายิ่งเป็นภาระของทุกคนเข้าไปทุกทีๆ
มันเป็นเรื่องเดียวของการเดินทางครั้งนี้ที่เราไม่อยากจะบันทึกลงในปูมนี้เลย แต่ก็ต้องบันทึก และต้องบันทึกอย่างบรรจงที่สุดด้วย สำหรับไว้เตือนใจตัวเองในความประมาทเลินเล่อ ถือดีในฝีมืออันอ่อนด้อยของตัวเอง
เมื่อคืนที่เราทั้งสามคนไปนั่งห้าง หลังจากแยกย้ายกันไปประจำตามห้างของแต่ละคนแล้ว เรากับเกิด ที่รพินทร์ให้มานั่งห้างด้วย ออกเดินแยกไปยังห้างที่รพินทร์มาขัดให้ไว้ตั้งแต่เมื่อวันก่อน มันเป็นห้างที่ดีเหลือเกิน มองผาดๆ จากด้านล่าง แทบไม่เห็นตัวห้างเลย พวกเราพักกินอาหารเย็นกันบริเวณโคนต้นไม้ที่ใช้ขัดห้างนั่นเอง พอเสร็จสรรพก็ปีนขึ้นห้าง ซักซ้อมลองปืนกับไฟฉายเป็นอย่างดี ทุกอย่างดำเนินไปตามขั้นตอนของมันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
พอล่วงเข้าสองทุ่ม โชคก็เข้าข้างเรา เกิดกระซิบบอกว่ากระทิงลงมากินน้ำด้านล่างนี่เอง ตอนนั้นหัวใจเราเต้นระรัวเชียวแหละ คิดอยู่ว่าทำไมถึงโชคดีอย่างนี้ ไม่เคยนั่งห้างแล้วสัตว์เข้าเร็วอย่างนี้มาก่อน แถมไอ้ตัวที่เข้ามา ยังเป็นกระทิงอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ด้วย
ทันทีที่ประทับปืนพร้อม เราก็พยักหน้าเป็นสัญญาณให้เกิดส่องไฟทันที ลำไฟถูกสาดลงมาอย่างเหมาะเหม็ง กระทบเข้ากับลูกตาของมันทั้งคู่ ด้วยความตื่นเต้นในขณะนั้น ทันทีที่เห็นลูกตามันสะท้อนแสงกลับมาเท่านั้น นิ้วของเราก็กระดิกไกออกไปทันที ได้ผล มันดิ้นปราดๆ ลงไปตายอยู่ตรงนั้นเอง แต่เสียงที่เกิดบอกมากลับทำให้หัวใจเราตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม “นาย นั่นลูกของมัน” เราร้องเฮ้ยออกมาได้คำเดียว ตัวแม่มันก็วิ่งปราดเข้ามาที่ศพลูกของมันอย่างเกรี้ยวกราด อารามตกใจ เราจึงลั่นไกออกไปอีกนัด ไปถูกส่วนไหนของมันก็ไม่รู้ รู้อย่างเดียวว่ามันไม่อยู่ แล้วก็ไม่มีโอกาสได้ยิงซ้ำด้วย เพราะตัวแม่มันเผ่นหนีกลับเข้าไปในทางเดียวกับที่มันลงมา
พอรู้ตัวว่ากระสุนนัดนั้นเอามันไม่อยู่ เราก็แทบจะกระโดดลงจากห้างตามมันไปในทันที ติดที่เกิดห้ามไว้ ให้รอพรานใหญ่มาเสียก่อน
ตลอดเวลาร่วมสิบชั่วโมงที่นั่งรอพวกเราอยู่บนห้าง ความผิดที่ยิงลูกกระทิงตายมันตามมาหลอกหลอนเราตลอดเวลา เล่นเอานอนไม่หลับ นั่งกระวนกระวายจนเช้า ถึงได้ชวนเกิดให้ไปดักรอพรานใหญ่ที่ทางด่านก่อนเข้าแค้มป์
สมควรแล้วล่ะที่จะถูกทั้งน้อยและใหญ่ตำหนิเราอย่างนั้น มันสมควรจริงๆ มีอย่างที่ไหน เค้าให้มายิงกระทิงที่โตแล้ว มือเจ้ากรรมดันไพล่ไปเล่นลูกมันซะได้ หลังจากให้ปากคำกับสองศรีพี่น้องเรียบร้อย เราก็ชวน รพินทร์ออกเดินแกะรอยตามมันทันที
รพินทร์เริ่มต้นตามรอยมันจากบริเวณห้างที่เรายิงลูกมันนั่นเอง นับเป็นการตามกระทิงลำบากครั้งแรกในชีวิตเราทีเดียว และก็จะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เราต้องจำไปจนวันตาย
ในที่สุดเราเจอตัวมันเข้าจนได้ แต่กลับไปเจอในภาวะที่น่ากระอักกระอ่วนเป็นที่สุด เสือลายพาดกลอนสามตัว กำลังล้อมวงเข้าเล่นงานแม่กระทิงลำบาก ทั้งๆ ที่รพินทร์ย้ำนักย้ำหนาแล้วว่า เป้าหมายอันดับแรกของเราคือแม่กระทิงตัวนั้น แต่ภาพที่ปรากฏอยู่ในคลองจักษุก็ทำให้เราตัวชา ไม่สามารถจะยกปืนขึ้นเล็งได้ มันเป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจ เสือสองตัวกำลังรุมเล่นงานกระทิงเพียงตัวเดียว เสือตัวนึงล่ออยู่ด้านหน้า อีกตัวหมายจะตะปบจากด้านหลัง แม่กระทิงตัวนั้นก็สู้ขาดใจ ขวิดซ้ายป่ายขวา ไม่ยอมให้เสือเข้าถึงตัวได้
มันเป็นการต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีที่สุด นี่ถ้าแม่กระทิงไม่บาดเจ็บอยู่ก่อน การต่อสู้ครั้งนี้จะน่าดูขนาดไหนนะ นึกๆ ไปก็ให้ทุเรศตัวเองเหลือเกิน ไม่น่าเลยเรา
ในชั่วขณะที่เสือตัวนึงกระโดดเข้าใส่หมายก้านคอ จะด้วยโชคช่วยหรือมันตั้งใจก็ไม่ทราบได้ แม่กระทิงตัวนั้นตักเขาขึ้นรับ และงัดมันลอยขึ้นก่อนที่เจ้าเสือเคราะห์ร้ายจะตกลงพื้น มันก็เสยเขาขึ้นอีกครั้ง เสียบทะลุเข้ากลางตัวเจ้าเสือตัวนั้นพอดิบพอดี ยังไม่ทันที่มันจะได้ชื่นชมกับชัยชนะ เสืออีกตัวที่คอยท่าอยู่ก็ได้โอกาส กระโจนพรวดเดียวไปกัดเข้าก้านคอของมัน
ฉับพลันเสียงปืนก็ดังกัมปนาทขึ้นข้างตัว รพินทร์ช่วยกระทิงตัวนั้นด้วยการดับลมหายใจของเจ้าลายพาดกลอน อยู่ไม่อยู่เจ้าลายพาดกลอนอีกตัวที่ซุ่มอยู่ก็กระโจนเข้าใส่เรา มันเป็นชั่ววินาทีที่ยาวนานเหลือเกิน ภาพลายเหลืองดำ ค่อยๆ ลอยเข้าหาเราจากทางด้านหน้า ด้วยความตกใจทำให้เราพลิกตัวหลบ แต่ก็ไม่พ้น แรงปะทะของมันทำให้เราล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า รพินทร์ก็ไวทายาด หันปากกระบอกใส่มันแล้วกดตูม เป็นผลให้มันลงไปชักอยู่กับพื้น
ยังไม่ทันที่ความตื่นเต้นจะหมดไป เราก็ยังนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ เงาดำของอะไรบางอย่างก็ควบเข้าใส่เราจากด้านหลัง รพินทร์ที่อยู่ในทางผ่านของมัน กระเด็นกระดอนไปตามแรงมันทันที ในขณะที่เรายังไม่ทันลุกขึ้น เจ้ากระทิงบ้าเลือดตัวนั้นก็วกกลับมาอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ครั้งนี้เรามีสติดี ส่งกระสุนขนาด .458 เข้าไปตัดซอกขาหน้าทำให้มันทรุดฮวบลงทันที เนื่องจากเราไม่ปล่อยให้ความประมาทเข้าครอบงำ พอลุกขึ้นได้ก็วิ่งเข้าไปยิงจ่อหัวมันอีกนัด เป็นอันจบสิ้นกันเสียที อโหสิกรรมให้ด้วยเถอะนะ ทั้งแม่ทั้งลูกเลย
พอจัดการเจ้ากระทิงตัวนั้นเสร็จเราก็เข้าไปดูอาการรพินทร์ทันที เสื้อที่เขาใส่ขาดกระจุยออก สีข้างเปิดออกเป็นแผ่น ราวกับมีใครเอามีดกรีด เชื่อว่าน่าจะเป็นกีบของมันที่เหยียบถากไป เดชะบุญเหลือเกินที่มันเหยียบพลาดไปเช่นนี้ ทันทีที่ปลุกเขาให้ฟื้นขึ้นมาได้ เราก็ชวนกลับเต้นท์ทันที ทีแรกรพินทร์จะไม่ยอม เราก็ไม่ยอมเช่นกัน ชั่วโมงนั้นต่อให้ต้องถูลู่ถูกังกันกลับก็ต้องเอา บาดแผลของเขาฉกรรจ์เหลือเกิน ทิ้งไว้คงไม่ดีแน่
และก็จริงดังคาดบาดแผลของรพินทร์ต้องเย็บเสียหลายเข็ม
ต่อไปไม่เอาอีกแล้ว ไอ้เรื่องหลับหูหลับตายิงนี่ พอกันที ใครจะไปคิดว่าเพราะกระสุนปล่อยออกจากมือของเราเพียงนัดเดียวจะก่อเรื่องได้มากมายขนาดนี้ เข็ดจริงๆ ให้ตายสิ คราวหน้าคราวหลังคงต้องเตือนตัวเองให้ดี “สติ สติ สติ” ท่องไว้ให้มั่น ย้ำเข้าไว้ ให้มันจารึกเข้าสู่รากเหง้าของสมองไปเลยยิ่งดี
::::::::::: credit ::::::::::::::::::::::::::::::
ตรวจคำผิด :mera , สหายน้อย
ตรวจเนื้อหา :wormy , นายเค
รวบรวมแก้ไข : ฟ้ากาง
ตรวจสำนวน :ภคิน , จตร
รูปประกอบ : นายเค
|