บ้านพักรับรองของบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์ ** (ปูมหน้าที่3)
xx xxxx 2502 บ้านพักรับรองของบริษัทไทยไวล์ดไลฟ์ ข่าวดี ...... พรานรพินทร์ตอบตกลงยอมนำทางพวกเรา ความจริงแล้วรพินทร์เองก็รู้เรื่องเขาพระศิวะมามากพอสมควร เพราะตัวเขาเองก็เคยได้ลายแทงจากพรานชาวพม่าชื่อเนวิน ลายแทงอันนั้นเป็นของเก่าที่ตกทอดลงมาจนถึงเขา ซึ่งนายเนวินเชื่อว่าลายแทงนี้จะพาเขาไปพบกับขุมทรัพย์มหาศาล แต่เพียงอาทิตย์เดียวเนวินก็ต้องยอมแพ้ต่อความยากลำบากในการเดินทาง ถึงกับต้องกระเสือกกระสนคลานกลับออกมาเพราะไข้ป่า และก่อนที่เนวินจะสิ้นใจลง เขาได้มอบลายแทงฉบับนี้ให้กับรพินทร์มิตรคนสุดท้ายในชีวิต หลังจากที่เนวินเสียชีวิตลง รพินทร์ได้ให้คนพม่าขี้เมาช่วยแปลข้อความนั้นเป็นภาษาไทย ซึ่งเขาได้นำมาให้พวกเราดู เราได้ขอคัดลอกข้อความในกระดาษแผ่นนั้นไว้ ซึ่งรพินทร์ก็ไม่ปฏิเสธ บันทึกของมังมหานรธาผู้เป็นเจ้าของลายแทงฉบับนี้ เขียนเอาไว้ว่า “ข้าพเจ้า มังมหานรธา ผู้ซึ่งกำลังจะตายอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว ด้วยความหิวและความเจ็บไข ้ในถ้ำเล็กๆ ทางด้านเหนือของเต้านมด้านใต้สุดของภูขาสองลูก ข้าพเจ้าขอให้ชื่อมันว่า ‘ถันพระอุมา’ ข้าพเจ้าได้เขียนข้อความนี้ขึ้น ณ ปี พุทธศักราช ๒๑๒๐ ด้วยเศษกระดูกของจะงอยปากนก สิ่งที่ข้าพเจ้าใช้เขียนส่วนหนึ่งของย่ามติดตัวที่ทำด้วยหนังโดยใช้เลือดของข้าพเจ้าเองแทนหมึก หากทาสของข้าพเจ้ามาพบมันขณะที่เขามาตามหาข้าพเจ้า เขาจะได้นำมันกลับไปยังเมาะลำเลิง ขอให้สหายของข้าพเจ้า (ชื่ออ่านไม่ออก) จงนำเรื่องราวนี้ขึ้นกราบบังคมทูลต่อพระเจ้า หงสาวดีผู้ทรงปัญญา เพื่อพระองค์จะได้เสด็จยาตราทัพมาตามลายแทงนี้ หากว่ากองทัพของพระองค์ไม่แหลกลาญเสียก่อนในป่าดงขุนเขาอันกว้างใหญ่ กันดาร และลี้ลับเต็มไปด้วยสรรพอันตราย และสามารถบุกเข้าไปจนถึงดินแดนที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ทารุณ อันเต็มไปด้วยภูตผี และอาคมแห่งมรกตนคร พระองค์ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ข้าพเจ้าได้เห็นสมบัติขุมเพชรอันเหลือคณาภายในขุมทรัพย์พระอุมานี้แล้วด้วยตาของข้าพเจ้าเอง ปรากฏอยู่เบื้องหน้าก่อนกาลมรณะของข้าพเจ้า แต่โดยการทรยศหักหลังของวาชิกา นางแม่มดมหาอุบาทว์ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถนำออกมาได้ แม้แต่ชีวิตของข้าพเจ้าเอง ขอให้ท่านผู้ที่มาตามทางในลายแทงนี้ จงพยายามฝ่าความกันดารของ ‘ถันพระอุมา’ ทางเบื้องซ้ายจนบรรลุถึงยอดของขุนเขาลูกนี้ทางด้านเหนือของมันจะเป็นถนนราบเรียบ กว้างใหญ่ ที่พระศิวะสร้างไว้จากนั้นเป็นเวลาสามวันในการเดินทางตามถนนสายนั้น ก็จะบรรลุถึงมหาปราสาทของพระอุมาเทวี” ขอให้ท่านจงสังหารแม่มดวาชิกาเสียด้วย เป็นการแก้แค้นให้แก่วิญญาณของข้าพเจ้า ลาก่อน มังมหานรธา สิ่งที่มังมหานรธาบันทึกเอาไว้นี้ ดูเหมือนจะเป็นนิยายหลอกเด็ก แต่เชษฐาดูเหมือนจะเชื่อข้อความที่ มังมหานรธาเขียนเอาไว้ ต่างไปกับน้อยรายนี้หัวเราะออกมาเสียจนรพินทร์แทบจะลุกกลับในทันใด แถมยังเยาะเขาทำนองที่ว่า เสียดายที่รพินทร์ไม่ได้เอาต้นฉบับมาด้วย น้อยนี่ถูกตามใจมากเสียจนเคยตัว จะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร ก็ ไม่น่าจะเสียมารยาทเช่นนี้ กับเราเองบอกตรงๆ ว่ายังเชื่อเพียงครึ่งเท่านั้น เพราะเรื่องที่รพินทร์เล่ามา ราวกับว่าเรากำลังนั่งฟังนิยายปรัมปราอยู่ก็ไม่ปาน แต่ก็อย่างว่าแหละนะของแบบนี้ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เก็บไว้ในใจ ไม่จำเป็นต้องแสดงออกมาให้เสียน้ำใจอย่างที่ยายน้อยทำเลย สุดท้ายเราตกลงกันว่าจะกลับไปร่างสัญญาว่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการตกลงเรื่องค่าจ้าง และส่วนแบ่งของสมบัติ ถ้ามันมีจริง ก็จะแบ่งออกเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน ข้อตกลงและอัตราจ้างที่ตกลงกันดูจะด้อยความสำคัญต่อเขาไปทันที เพราะส่วนที่สำคัญสำหรับเขาจริงๆ ก็คือสัญญารับประกันว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา ทางฝ่ายคณะนายจ้างจะต้องเลี้ยงดูแม่ของรพินทร์โดยมีเงินเดือนให้ทุกเดือนไปตลอดจนกว่าคุณแม่ของรพินทร์จะหมดบุญไป เชษฐาตอบตกลงในทุกข้อเสนอของรพินทร์แทบจะในทันที สำหรับเราเองก็เห็นสมควรแล้วที่เชษฐาตอบตกลงรพินทร์ไปเช่นนั้น แผนที่มังมหานรธา  |