~ ม้าศึก (War Horse) ~ by Michael Morpurgo
ชื่อหนังสือ : ม้าศึก (War Horse) ผู้แต่ง : ไมเคิล มอร์พูร์โก (Michael Morpurgo) ผู้แปล : ธิดารัตน์ เจริญชัยชนะ สำนักพิมพ์ : แพรวเยาวชน ในเครืออมรินทร์ พิมพ์ครั้งที่ 1 : ม.ค. 2012 จำนวนหน้า : 149 หน้า ราคา : 129 บาท จากปกหลังค่ะ
"จะบอกให้นะเพื่อน" เขาเอ่ยขึ้นในวันหนึ่ง "จะบอกให้ว่า ฉันเป็นคนปกติเพียงคนเดียวในกองทหารนี้ คนอื่นต่างหากที่บ้า แต่พวกเขาไม่รู้ตัว พวกเขาทำสงครามโดยที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร อย่างนั้นไม่เรียกว่าบ้าหรอกหรือ มนุษย์คนหนึ่งจะฆ่าคนอีกคนได้ยังไงกัน โดยที่ไม่รู้เหตุผลว่าทำไปเพื่ออะไร นอกจากเพราะว่าชายอีกคนสวมเครื่องแบบสีต่างกันและพูดคนละภาษา กลับกลายเป็นฉันที่พวกเขาหาว่าบ้า! สิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผลเท่าที่ฉันเจอในสงครามโง่เง่านี้ ก็มีเพียงพวกนายสองตัวเท่านั้น และเหตุผลที่ทำให้พวกนายต้องมาอยู่ที่นี่ก็เป็นเหตุผลเดียวกับฉัน ก็เพราะมีคนพาพวกนายมา ถ้าฉันกล้าสักหน่อย---ซึ่งฉันไม่กล้า--- เราคงจะเดินออกจากถนนสายนี้ไปโดยไม่ย้อนกลับมาอีกเลย..."
Review
ลูกม้าน้อยถูกซื้อไปโดยครอบครัวนาร์ราคอตต์ และได้รับชื่อว่า"โจอี้"จากลูกชายผู้ใจดีของพวกเขา"อัลเบิร์ต" ชีวิตที่มีเขาอยู่ เคียงข้างช่างมีความสุขนัก แม้จะต้องทำงานหนักในไร่ก็ตาม แต่เมื่อสงครามลุกลามรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โจอี้ต้องถูกขายให้กับ กองทัพเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว นั่นเองที่จะทำให้ชีวิตของม้าหนุ่มจากอังกฤษ ต้องเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ความยากลำบากและโหดร้ายของสงครามที่ต้องเผชิญ จะกัดกินทั้งร่างกายและจิตใจ ความหวังเดียวที่ซ่อนอยู่ในใจ คือการ ได้พบกับเจ้านายอันเป็นที่รักอีกครั้ง
ปกติถ้ามีหนังสือที่สร้างเป็นหนังอยู่ เราก็จะอ่านหนังสือก่อนแล้วค่อยไปดูหนังค่ะ เพราะกลัวจะเสียอรรถรสในการอ่าน แต่คราวนี้กลับกันค่ะ เพราะทางแพรวเยาวชนได้จัดกิจกรรมแจกตั๋วหนัง ไม่ใช่แจกหนังสืออย่างทุกที ก็เลยได้ไปดูหนังเรื่อง นี้ในรอบสื่อมวลชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอพูดถึงเวอร์ชั่นหนังภาพยนตร์ก่อนแล้วกันนะคะ หนังยาวถึง ประมาณ2ชม.20นาที ยาวมากๆ แต่เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัวเลยค่ะ หนังสร้างได้ดีและชวนติดตามมาก เป็นแนวดราม่าเรื่อง ราวของคนกับม้าซึ่งผูกพันกันมากในยุคสงครามโลกครั้งที่1 แม้สงครามจะทำให้ทั้งสองต้องแยกจากกัน และไม่รู้ว่าจะต้อง ไปไกลแค่ไหน แต่อัลเบิร์ตก็สัญญาว่าจะตามหาโจอี้ให้เจอ
หนังแสดงให้เห็นชีวิตของโจอี้ตั้งแต่แรกเริ่ม และความเปลี่ยนแปลงในชีวิตมากมายที่มันต้องเจอ สงครามไม่ได้โหดร้ายกับ มนุษย์เท่านั้น มันโหดร้ายกับสัตว์มากไม่แพ้กัน มีม้าจำนวนมากที่ต้องสูญเสียไปในสงครามครั้งนี้ โดยที่พวกมันไม่ได้เต็มใจ จะมาเลยแม้แต่น้อย ทั้งคนและสัตว์ต่างต้องพรากจากบ้านและผู้เป็นที่รักเพราะสงคราม
แต่คงต้องเรียกว่าเป็นความโชคดีเล็กๆบนความโชคร้าย ที่ทำให้โจอี้ได้พบเจอมนุษย์ที่รักม้าหลายคน หลายชาติ หลายภาษา พวกเขาไม่ได้มองเพียงว่าโจอี้เป็นสัตว์ตัวนึง แต่เป็นเพื่อนผู้อยู่เคียงข้าง ทำให้โจอี้สู้ผ่านสงครามอันโหดร้ายนั้นไปได้
ทั้งโจอี้และอัลเบิร์ตต่างแทบเอาชีวิตไม่รอดจากสงครามครั้งนั้น ทั้งสองต่างต้องผ่านความโหดร้ายและความสูญเสียมามาก แต่สนามรบอันกว้างใหญ่ ทั้งสองจะกลับมาพบกันได้หรือไม่ ต้องไปติดตามกันค่ะ
ภาพยนตร์สร้างออกมาได้ดีมากๆค่ะ รายละเอียดเยอะมากกก (จนนึกไม่ออกเลยว่านิยายต้นฉบับจะเล่มเล็กนิดเดียว) เดินเรื่อง ได้ดี ดนตรีประกอบก็ทำให้อินตามมาก ดูแล้วประทับใจมากๆเลยทีเดียวค่ะ (หักอารมณ์จากการดูUnderworld4สุดๆเลย) ซึ้งมากกับคนรักม้าทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของโจอี้ และเสียใจกับหลายชีวิตที่ต้องจากไปกับสงคราม ..มีแต่ทำให้เกิด ความสูญเสียจริงๆเนอะ ไม่รู้จะก่อสงครามกันไปทำไมหนอมนุษย์ สรุปว่าเป็นหนังดีที่ควรดูมากๆค่ะเรื่องนี้ พลาดไม่ได้
กลับมาที่เวอร์ชั่นหนังสือนิยายกันค่ะ เวอร์ชั่นภาพยนตร์กับเวอร์ชั่นหนังสือมีส่วนแตกต่างกันพอสมควรอยู่นะ ในหนังสือนั้น เขียนขึ้นเป็นวรรณกรรมเยาวชน โดยเล่าผ่านมุมมองของเจ้าม้าโจอี้ เล่มเล็กแต่เรื่องราวก็อัดแน่นทีเดียวค่ะ โทนเรื่องและการ ดำเนินเรื่องนั้นต่างกันอยู่เยอะ แต่โครงเรื่องยังคงไปในทางเดียวกัน และที่สำคัญเหมือนกัน คือสื่อให้เห็นชัดถึงความสูญเสีย ของสงคราม และชีวิตอันมีค่าอีกมากมายที่ต้องสูญเสียไป..นอกจากชีวิตมนุษย์...ผู้ก่อสงคราม ในหนังสือจะดราม่าน้อย กว่าหน่อยค่ะ เพราะเป็นมุมมองของม้า แต่พวกมันเองก็เครียดและเจ็บปวดกับสงครามไม่แพ้คน
ในหนังสือบรรยายได้ชัดเจนดีถึงความไร้ความหมายของสงครามนะเราว่า ทหารแนวหน้าที่ปะทะกัน ต่างไม่รู้หรือลืมเลือน ไปแล้วว่ากำลังฆ่าอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งไปเพื่ออะไร? อะไรเป็นสาเหตุที่ต้องทำแบบนั้น? ทุกคนเพียงแต่เดินหน้าต่อสู้ไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายที่แท้จริง
หลายคนอาจมองว่าม้าเป็นเพียงสัตว์ที่มีไว้ใช้งานให้ถึงที่สุด หากไร้ประโยชน์ก็สมควรกำจัดทิ้งไป แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ ได้มองเช่นนั้น และเห็นชีวิตของพวกมันเป็นสิ่งที่มีค่าไม่ด้อยไปกว่าชีวิตของมนุษย์ เห็นพวกมันเป็นฮีโร่ที่ทำงานอย่างหนักที่ สุดท่ามกลางสงครามอันทารุณร่างกายและจิตใจ จะมีชีวิตรอดจากสภาพแบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
ชอบทั้ง2เวอร์ชั่นเลยค่ะ ในคนละสไตล์ ทั้งอ่านและดู ไม่ผิดหวังเลยค่ะ เป็นเรื่องราวดีๆที่น่าอ่าน-น่าดูจริงๆ
"เราได้แสดงให้พวกเขาเห็นแล้วว่าปัญหาทุกอย่างระหว่างมนุษย์สามารถแก้ไขได้ ขอเพียงพวกเขาจะสามารถไว้ใจซึ่งกันและกัน เท่านั้นเองว่าไหม"
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2555 0:49:24 น. |
|
20 comments
|
Counter : 4386 Pageviews. |
|
|
|
แวะมาทักกันวันสีส้มค่ะ
เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่รับไว้พิจารณาว่าจะซื้อหรือไม่ดีค่ะ