1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
★★★★Ahnyong Hasaeyo Korea DAY 1 อันยองฮาเซโย เกาหลี วันที่ 1
Hi!! Let's change place eating and traveling. This time we go to Korea. This trip took 7 days 6 nights. This took place in Seoul, Nami Island, Sokcho, Seoraksan National Park and back to Seoul again. At first I would go alone but I eventually got 2 companies which are one of my sister and one nephew. We will go day by day through the blog , Hang on!!! Let's go. สวัสดีชาวบล๊อกและไม่บล๊อกทุกท่าน กระผมหายหัวไปซักพักเล็กๆทีเดียว หลายคนก็เดาถูกว่าหายหัวไปเที่ยว (แต่ทำไม้...ไม่มีใครสงสัยว่าหยุดไปทำงานเอย งานหนัก เหงื่อไหลไคลย้อย) ว่าแล้วงวดนี้ก็ไปลงเอยที่ประเทศเกาหลี กะว่าจะไปคนเดียวก็พลอยมีลูกทัวร์โผล่มาอีกสองคน นั่นคือพี่สาวผมคนหนึ่ง (ซึ่งไม่ใช่เจ๊หลี_ เพราะเจ๊หลีนี่ขาเดียวกัน แต่เด๋วนี้เที่ยวกันไม่ได้เพราะต้องให้ช่วยดูร้านให้ผม ดีจริงๆพีสาวผมคนนี้ รูปสวยจิตใจงาม....ฮิ้ว..วว เผลอหลุดปากไปหน่อย) และก็ลูกชายคนที่สองของเจ๊หลี รวมกันสามคนอลเวง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย ว่ากินเที่ยวกันยังไงเป็นวันๆก่อน เริ่มที่วันแรก กรุงเทพ-โซล ไปกันเล้ย...ย เอารูปมาโปรยหัวให้ดูก่อนเลย เพื่อเพิ่มความน่าเที่ยว (เห็นแล้วน่าเที่ยวมากกกก.....กก) หรือ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีจะให้ผมถอดรูปนี้ออกเนี่ยะ 555 This is supposed to make it more tempting for the Korea Trip. Do u think so?? or it's very discourage,hahaha ทริปนี้ เริ่มต้นด้วย ค่าตั๋วเครื่องบิน ของการบินไทยช่วงโปรโมชั่น รวมภาษีสนามบินต่างๆเรียบร้อย คนละ 16,135 บาท เครื่องออก คืนวันที่ 23 เกือบๆเที่ยงคืน ดีเลย์ซัก 10 นาที พร้อมแล้วก็ไปกันเล้ยย Trip started with plane ticket (airport tax included) approx. 460 US$ Final Call for flight at 23:50 on Mar 23rd. Let's go!! อาหารบนเครื่องครับเป็นอาหารเช้า ก่อนเกือบถึงสนามบินอินชอน อันนี้ผมเลือก เพราะอีกอันเป็นไข่เจียวออมเลต (ผมไม่ชอบเลย เพราะกลิ่นมันทำให้ผมเมาครับ เป็นเมนูเดียวเบนเครื่องที่ผมรับไม่ได้) เป็นปลาแซลมอนครับ อร่อยดี ผมชอบผักที่มาเป็นของเสริม คล้ายกับ จำไฉ่ หรือดอกไม้จีน มื้ัอนี้อร่อยใช้ได้เลยครับ ปลาเป็นปลา this is breakfast on the plane just about 1:30 hr before arriving Incheon Airport. There were 2 menus between Salmon in soya sauce and Omlette (Omlette is the only menu on airplane that I dont' eat because it makes me having airsick (because of its aroma). เกลี้ยง !! อันนี้เป็นปกติมากเลยครับ อาหารเครื่องบินผมไม่เคยเหลือซักอย่าง คนทำเคเทอร์ริ่งให้กับการบินไทย เห็นผมกินเนี่ยะคงปลื้มน่าดู แถมยังไปเบียดเบียนของพี่สาว กับของหลานอีก มื้อนี้อิ่มครับท่าน Wolfed them all, I finished my sister's and nephew's as well. Still keeping my reputation as "Human Garbage Disposal" ถึงที่นี่ 7:10 น. ผ่านตม.มาฉลุย ผมว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ก็คงเหมือนตม. ทั่วๆไปล่ะครับ เอาไปพูดกันปากต่อปาก (พูดหยั่งงี้ผมก็กันเหนียวไปเหมือนกัน ก็เพราะข่าวลือนั่นแหละ ) แต่ขอบอก ไม่ได้ใช้เลย แต่ผมมีใบจองโรงแรม เค้าขอดูแล้วก็บอกครั้งแรกที่เกาหลีเหรอ (ก็ตอบไป เออ!!) อยู่กี่วัน (ตอบไป 7 วัน ) ทำไมหล่อหยั่งงี้ (ตอบ อันนี้เลือกเกิดไม่ได้ ) 555 ไอคำถามสุดท้ายอย่าไปเชื่อ ไม่มีหรอกครับ สรุปคือผ่านฉลุย อ้อ รูปนี้เป็น ที่ขายตั๋วรถบัสเข้าเมือง สายที่ผมต้องนั่งคือ #6002 ราคา 9,000 วอน(ของโรงแรมผมต้องไปลงที่ จองโน่ โอ กะ (Jongno-5 (o)-ga) ) รู้สึกว่าจะอยู่ทางออกที่ เกท 15 (ถ้าจำไม่ผิดนะ) อยู่ด้านซ้ายมือ แต่ที่จะนั่งต้องไปลงที่ป้าย จองโน่ซาม(3)กะ หรือไม่ก็ จองโน่ยุก(6)กะ เพราะไม่มีป้ายที่จองโน่5(โอ)กะ แล้วต้องเดินไปอีก Arrived at 7:10 AM,I passed Korean Customs without any problem. There is a big rumor how difficult to get passed the customs here. Rumor is still a rumor. This Kiosk is a ticket kiosk for Central Seoul. I took the bus number 6002 costed 9,000 won I need to get off at Jongno-5(o)-ga. The kiosk is located near Gate 15 on your left handside. My hotel located at Jongno-5-ga but the bus stops at Jongno-3-ga and Jongno-6-ga. So.oo I need to walk to hotel for another 10 minutes. อันนี้ป้ายรถเมล์พร้อมบอกเวลารถเมล์ที่จะมาถึง This is bus stop with timetable อันนี้ตั๋วครับ คนละ 9,000 วอน These are tickets ,9,000 won each ได้ตั๋วละ ไป.. ใช้เวลาไปถึงจองโน่ซาม(3)กะ ประมาณ 1ชั่วโมง30นาที แล้วก็ตุเลง ตุเลงลากกระเป๋าหาซับเวย์จองโน่ซาม (3) กะ เพื่อจะนั่งรถไฟใต้ดินไปจองโน่(5)กะ ชีวิตรันทดล่ะครับตอนเนี่ยะ แล้วที่นี่ คนเกาหลี (ขอเม้าท์หน่อย) เป็นโรคบันไดอิซึ่มจริงๆ (ขอเอาคำจากพี่วุธกับพี่เคทหน่อยนะ) จะไปสถานีนึงเนี่ยะต้องมีขึ้นลงบันไดเป็นเกือบร้อยขั้นได้ สาบาน!!! ทุกที่เลยมีแต่บันได บันไดเลื่อนก็มีแต่น้อย วันนึงเนี่ยะ ขึ้นบันไดมีเกือบหลายร้อยขั้น อันนี้สำหรับพวกไปเที่ยวเองแล้วต้องพึ่งซับเวย์หรือรถไฟใต้ดินส่วนใหญ่นะครับ เตรียมใจกันได้เลยนะขอรับ I got bus tickets now, let's go!! It took me 1 hour and 30 mins then I had to drag luggage to subway of Jongno-sam(3)-ga in order to get to Jongno-o (5)-ga. It felt such a long way since you gotta drag and lift up and down the stairs. Here in Korea, you will be using stairs everywhere you go. For subway one station you would walk about 80-100 steps. For most asian viewers I know you would feel the same way as I did. But this trip, those stairs are too much work for me!! you'd better work out really hard if you wanna travel in Korea thru subways เนี่ยะครับนั่งไปหนึ่งสถานีลงที่ จองโนโอ(5)กะ แล้วก่อนมาออกทีทางออกที่ 14 เดินขึ้นมาดังรูปเลยครับ แล้วก็ตามลูกศรเลย ตอนผมมาครั้งแรกทำไมมันไม่ง่ายหยั่งนี้น๊อ.. ผมต้องไปถามร้านขายยาป้ายเขียวข้างหน้าเนี่ยะแหละ go for next stop, Jongno-o(5)-ga and go out at exit 14. Then turn back on the left according to arrow in the picture เดินย้อนมาก็จะเจอร้านขายยาอีกร้าน (ป้ายแดง) ซึ่งอยู่ติดกับร้านขายยาป้ายเขียวเลย แล้วก็จะเห็นแฟมิลี่มาร์ทอยู่อีกหัวมุมนึง แล้วก็เดินเลี้ยวขวา ตามลูกศรเลยคร้าบ..บ Then walk another 5 meters you will see (the other)Pharmacy with red color as you can see now. Then turn right as the arrow shown แถวนี้มีร้านอาหารหลายร้านหลายแแบบเลยแต่ไม่ได้กินเลย มาลองกินแค่ร้านเดียวเอง เด๋วจะมีรีวิว ว่าแล้วไปโรงแรมกันก่อนเลย เดินตามคนเกาหลีไปเลย เดินไปตามทางเลยนะครับ มีทางแยกอะไรก็ยังไม่ต้องเลี้ยว in this Alley, there are so many restaurants, unfortunately, I tried only one restaurant while I was there. However, follow this guys on the main street. Keep walking straight เดินเข้าซอยตะกี๊ อีกประมาณ 70 เมตรตามทางหลัก จะเจอโรงแรม ลีส์โฮเต็ล (Lee's Hotel) แล้วเดินเลยมาอีกประมาณ 10 เมตร เจอซอยแรกแล้วเลี้ยวตามลูกศรเลยคร้าบ..บ ตอนผมมาเองหลง ไปคนละโลกเลย ใครไปคิดโรงแรมมันจะอยู่ในซอยแบบนี้อ่ะ Walk further follow those guys in the early pix for 70 meters , you will see Lee's Hotel on your right handside. Walk 10 meter futher then turn right at the first alley you see as the arrow shown เนี่ยะครับพอเลี้ยวเข้าไปก็เป็นแบบเนี่ยะ เดินเข้าไปอีก 10 เมตรก็เจอโรงแรมแล้วครับทางขวามือ After turn right in the Alley, this is how alley look like . Then walk another 10 meter ,the hotel located on your right handside. ป้ายนี้ตอนกลางคืนเจ้าของโรงแรมจะมาตั้งปากทางเข้าซอยครับ This Sign , at night, the hotel owner will set this up in front of the allety. เนื้ยะครับ ป้ายหน้าโรงแรมมีสัญลักษณ์เหมือนออนเซน น้ำพุร้อน ผมเดาว่าเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมของที่นี่ เพราะไปเมืองอื่นโรงแรมอื่นก็จะมีสัญลักษณ์แบบเนี่ยะครับ This is the sign in front of hotel เนี่ยะครับโรงแรมอามิกะ (Amiga Hotel) ผมจองผ่านทางเนต คืนนึงก็ 70,000 วอน เห็นตัวโรงแรมจริงๆแล้ว แป้วเหมือนกัน เห็นเนี่ยะ หยั่งกับโรงแรมจิ้งหรีดชัวร์ กะขอดูห้องก่อน This is AMIGA HOTEL. I booked through internet. It's 60,000 won per night. I was sort of discourage when I saw hotel. it's not what I expected. I got my fingers crossed!! พอเห็นห้องแล้ว โล่งอก!! ดีเกินคาดไม่เหมือนกับภายนอกเลย What a relieve!! The room is much nicer than the outside of the hotel. (This is compliment, Mr. Hotel owner! hahaha) มีทั้งจอแบบแอลซีดี ทั้งเครื่องประทินโฉม ทั้งไดร์เป่าผม แถมมีตู้น้ำเย็นน้ำร้อนให้ดื่มอีก ครบสูตรแล้วครับท่าน Facilities in the room really nice, Flat Screen, Cosmetics , Hair Dryer, Water Cooler and Heater. The room has full option!! อันนี้เป็นห้องน้ำ จะอยู่เป็นอีกห้องนึงเลย ตัวประตูห้องน้ำเป็นกระจกใส ดีนะยังมีอีกประตูปิดแยกโซนระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน ไม่งั้นอาบไปก็คงกระดากน่าดู 555 ชักโครกก็จะมีที่ชำระแบบก้านโยก จะเห็นก้านโยกทางด้านขวาของชักโครก (ผมรู้แล้วล่ะมันสำหรับล้างชำระ) ผมโยกไปโยกมา มันดันปริ๊ด..ด ออกมาดี ดีนะหลบทัน (ถึงจะโดนแล้วคิดเหรอว่าผมจะบอก?? 555) อ้อ ที่นี่เสียอย่างเดียว ผ้าขนหนูผืนกระจิ๊ดไปหน่อย (เอาว่าปิดรอบตัวอันอ้อนแอ้นไม่มิดอ่ะครับ) ถ้ามีไปเองก็ดีขอรับ This is Bathroom. Nice and fully equipped!! นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี อังกุก (Anguk Station) ออกทางออกที่ 3 แล้วเดินดิ่งไปข้างหน้าเลยครับ อีกประมาณ 100 เมตรก็จะมาเจอเสาในรูปแบบเนี่ยะครับ ถึงแล้วพระราชวังชางด๊อกกุง Take Subway line 3 and get off at Anguk Station at exit 3, walking straight about 100 meter, you will see this post say Changdeokgung in Korean อันนี้เป็นเหมือนท้องพระโรงชื่อินชองชอน (Injeongjeon) ใครรู้ภาษาเกาหลี รู้ว่าผมออกเสียงผิดก็แก้ให้หน่อยนะคร้าบ ส่วนค่าเข้าชมที่นี่คนละ 3,000 วอนครับ ต้องเที่ยวแบบมีไกด์นำ ไม่สามารถเที่ยวเองได้ ซึ่งสามพันวอนเนี่ยะรวมค่าไกด์แล้ว รอบภาษาอังกฤษจะมีรอบ 11:30น. , 13:30น. , 15:30น. ซึ่งควรจะมาก่อน 10 นาที ผมว่าผมจะลงข้อมูลละเอียดเกินไปแล้วล่ะมั๊งเนี่ยะ แบบเที่ยวไม่มีไกด์ก็ได้ครับแต่ต้องทุกวันพฤหัส ช่วงเดือน เมษายน-พฤศจิกายน แต่ค่าเข้าชมก็แพงเลย คนละ 15,000 วอน This is the throne hall for all major state affairs including coronation of new king. The admission fee of Changdeokgung is 3,000 won with guide. You cannot look around without guide. It's prohibited to do so. With English guide there will be 3 times a day : 11:30 AM, 1:30 PM, 3:30 PM which you should come about 10 mins earlier. I got here 5 mins behind schedule มาดูรปโพสท์เท่ๆกัน (รึป่าวเนี่ะ??555) ว่ากันว่าพระราชวังชางด๊อกกุงสร้างขึ้นสมัยพระเจ้าเทจอง (Taejong) สร้างเป็นพระราชวังแห่งที่สองใน ปีคศ. 1405 หลังจากโดนทำลายโดยประเทศญี่ปุ่นในปีคศ 1592 ก็ได้มีการบูรณะใหม่ขึ้นในปีคศใ 1610 พระราชวังชางด๊อกกุงได้อยู่ในรายชื่อของมรดกโลกในปีคศ. 1997 ส่วนรายละเอียดลึกๆลงไปนี่คงต้องไปสัมผัสเองจะได้ อรรถรสกว่าครับ Amazing Pose, eh?? The Changdeokgung Palace was buit in 1405 during King Taejong's reign. It was destructed by Japanese invasion in 1592. It has been stored again in 1610 This palace was inscribed on the Unesco World Cultural Heritage list in 1997 อันนี้ตำหนักทำงานของพระราชา จะมีลักษณะพิเศษคือหลังคาเป็นสีน้ำเงินเข้ม มีชื่อว่า ตำหนักซอนชองชอน (Seonjeongjeon) This is the King's work place for state routine affairs. The building named Seonjeongjeon. This is the only building in Changdeokgung with a blue-tiled roof, symbolizing the king's administrative office ตอนมาที่นี่ตอนแรกกะว่าจะฟังรายละเอียดจากไกด์แล้วเด๋วเก็บถ่ายรูปทีหลัง (เพราะไม่รู้ว่ามีกฎว่าต้องเที่ยวแบบมีไกด์เท่านั้น) พอใกล้จบ เราก็ถามไกด์ว่าเด๋วเราเที่ยวเองได้รึป่าว เค้ากํ็บอกว่าไม่ได้ต้องออกไป ตอนหลังก็เลยมั่วนิ่มกับกรุ๊ปคนญี่ปุ่น แต่ดันบ้าถ่ายรูปกันไปหน่อย โดนกรุ๊ปคนญี่่ปุ่นทิ้งยาว เจ้าหน้าที่ในนั้นเลยสงสัยว่ามากับกรุ๊ปไหนเนี่ยะ พอบอกว่ากรุ๊ปภาษาอังกฤษ เค้าเลยบอกว่าไม่ได้กรุ๊ปนั้นเสร็จไปแล้วจึงต้องออก ดีนะที่พี่สาวผมมีถ่ายไว้มั่ง เด๋วคงต้องเอารูปที่พี่สาวถ่ายไว้มาลงมั่งแล้ว This is Mythical animals as Palace Guardians อันนี้ดอกของต้นแอปริคอต ถ้าจำไม่ผิด เค้าจะเรียกว่า ดอกเหมยฮัว พร้อมเบื้องหลัง Apricot blossom or they are called Mei Hwa เนี่ยะครับ ยืนฟังอย่างเดียวไม่รู้จักถ่ายรูป (ใครจะไปรู้ใช่มะ ว่าไม่เที่ยวเองโดยไม่มีไกด์) Listening to a guide เนี่ยะครับ สวนซีเครทการ์เด้นท์ (Secret Gardent) หรือสวนแห่งความลับ หรือเรียกในภาษาเกาหลีว่า ฮูวอน (Huwon) หรือ พีวอน (Biwon) ซึ่งมันไม่เห็นจะลับตรงไหนตามชื่อที่ตั้งเลย ก็เป็นแค่สวนพักผ่อนของพระราชา ซึ่งบางทีก็ใช้เป็นสถานที่เรียนรู้ หรือรำเรียน เพราะว่ามีอาคารที่เป็นห้องสมุด Secret Garden (Huwon or Biwon) which is just a garden for leisure or study. Nothing is so secret about. หลังจากโดนเจ้าหน้าที่เชิญออกจากพระราชวัง ก็เดินมาเจอร้านขาย โอเด้ง กับขนมไส้ถัวแดง คล้ายกับพวก โตเกียว ผมก็ลืมถามว่าเรียกอะไร อันที่นี่คือโอเด้ง เป็นเหมือนลูกชิ้นปลาเสียบไม้ พร้อมกับมีน้ำจิ้มให้ทา กินกันสดๆหน้าร้านเนี่ยะแหละ ไม้ละ 1,000 วอน อร่อยครับ ตั้งอยู่ใกล้ป้ายชางด๊อกกุงเลย This is Odeng, a sort of long fish ball on stick poached in stock. it's 1,000 won per stick. This kiosk located close by Changdeokgung sign post. เนี่ยะครับที่บอกคล้ายกับขนมที่เป็นรูปปลาที่ขายตามห้างอ่ะครับ ผมก็ไม่รู้จะเรียกอะไรดี อร่อยดีเหมือนกัน หรือหิวก็ไม่รู้ ขาย 6 อัน 1,000 วอน กินเป็นออเดิร์ฟแก้หิวไปก่อน This is similar to pancake with filling of red bean paste. They cost 6 pieces/ 1,000 won. เนี่ยะครับป้าคนขายใจดี คิดว่าพวกเราเป็นญี่ปุ่น เพราะเห็นบอก โออิชี่ๆ This is the seller of Odeng and this Pancake-like sweet. จากนั้นก็ตัดสินใจมากินแถวที่พักเพราะยังไม่ประสีประสา แล้วอีกย่างแถวที่พักร้านอาหารเพียบครับ แล้วก็กลับมาเอาเสื้อกันหนาวเพิ่มเพราะว่าเย็นนี้ท่าทางจะเย็นจนหนาว มากินร้านแถวปากซอยจะติดกับร้านขายไก่ทอดโคริโค่ (Koriko) ผมอ่านชื่อร้านไม่ออกซะด้วยสิ แต่สัญลักษณ์จะเป็นยายมีอายุ ดังรูปครับ We decided to have lunch near our hotel where has so many restaurants. The restaurant located next to Koriko Fried Chicken. I don't know how to say the name of the restaurant but the symbol of the restaurant is a senior lady. เนี่ยะครับ มาถึงก็มีแจกน้ำซุปมีถั่วงอกหรอมแหรมมาให้ล้างคอ Complimentary Soup อันนี้ มุลเน็งเหมี่ยน (Mul Naengmyeon) เส้นก๋วยเตี๋ยวทำจากแป้งท้าวยายม่อมในซุปเย็น (ขอบอกเย็นเจี๊ยบเป็นเกล็ดน้ำแข็ง) อร่อยดีครับผมชอบ ถูกใจ ชามละ 5,000 วอน พี่สาวผมช่วยทำมาหากินมาก มีดันกิมจิให้เป็นแบล๊คกราวนด์ด้วย Naengmyeon , noodle in icy broth. Very refreshing!! Strange but really nice!! It's originated from North Korea. 5,000 won a bowl. This is a must!! จานนี้เป็นเหมือนกับยำวุ้นเส้นที่ผสมผักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอัลฟาฟ่า สำหรับผมอร่อยอีกแล้ว จานนี้เรียกว่า ชาชักชางพันมูชิมนึน (Sae Ssack Jaengban Moo Chim Neun) อันนี้จานละ 8,000 วอน อันนี้จานเล็ก กินเกือบไม่หมด (เกือบไม่หมด ก็แปลว่าหมด) This dish called Sae Ssack Jaengban Moo Chim Neun. According to menu, it's called Spicy Noodle Salad. 8,000 Won for Regular. อันนี้ซีฟู้ดชีชิมิ (Seafood Jijimi) จานละ 10,000 วอน This is called Jijimi (pronounce like Chi-Chi-Mi) ผักดองนี้เป็นชนิดนึงของกิมจิ ตกลงมื้อนี้ตกลงกินไป 23,000 วอน A type of Kimchi. It costed us 23,000 won เนี่ยะครับลูกชายเจ๊หลีคนที่สอง มันเต๊ะท่าจิ๊บๆเลย จะเห็นว่ามีจูอง(Ju-on) เดินคอหักอยู่ข้างหลัง คนนั้นพี่สาวผม น้องสาวเจ๊หลีนั่นเอง กำลังจะเดินขึ้นเข้าเพื่อขึ้นกระเช้าขึ้นไปหอคอย นัมซาน โซล ทาวเวอร์ เดินทางมาที่นี่โดยรถไฟใต้ดินสายที่ 4 ลงที่สถานีเมียงดง (Myeongdong) ออกทางออกที่ 3 จะมาจ่อที่หน้าโรงแรมพริ้นซ์ (Prince Hotel) แล้วก็เลือกทางเดินทางซ้าย ถ้าหันหน้าไปทางหอคอย เพราะจะเจอนักเรียนสาวๆเยอะกว่า ถ้าเลือกด้านขวาระยะทางสั้นกว่าแต่ไม่มีอะไรเลย This is my Nephew. What a pose!! like uncle, like nephew, hahaha. The gal behind with broken neck is my sister. We were on the way to Namsan Seoul Tower. Take the subway Line 4 and get off at Myeongdong station and get out at exit 3. There will be right in front of Prince Hotel. If you are facing to Namsan Seoul Tower, take the route on your lefthand. It's much more lively!! เห็นตอนเนี่ยะ รำไรๆ เดินมาเกินครึ่งแล้วอีกแป๊ปนึงก็ถึงแล้ว ค่าขึ้นกระเช้าคนละ 7,500 วอน ไป-กลับ if you see this that means you have walk 2/3 to the cable car. Price for Cable Car (round-trip) is 7,500 won พวกมือบอนครับ อันนี้หลังจากขึ้นกระเช้าเคเบิ้ลคาร์มาแล้ว มีไปทั่วในเกาหลี Sigh!! Vandals are everywhere! ขึ้นไปบนหอคอยกันเลยคร้าบ คนละ 7,000 วอน ผมว่าไม่ค่อยมีอะไรเลย หรือขึ้นไปเร็วไปหน่อย ขึ้นไปก็งั้นๆ Let's go up!! 7,000 won per person!! Nothing special really!! or I went to early. I should have come at night. เข้าไปเดินวนรอบหอคอยหนึ่งรอบ เข้าห้องน้ำชายเป็นแบบนี้ทำธุระพร้อมกับดูวิวได้สุดลูกหูลูกตา แต่ระวังเลอะนะครับ I walk around on the tower and then enjoy the scenery while I do my business. What an experience!! hahaha ลงมาข้างล่างดีกว่า มาดูกุญแจล๊อคคู่รักดีกว่า ละลานตาดี ไอเดียดีด้วย ผมว่าจะซื้อแม่กุญแจมาจากเมืองไทยแต่ดั๊น..น ลืม ซะงั้น ได้แต่ตีอกชกหัวตัวเอง Let's get down and have a look at lovers' locks . what a neat idea!! แน่..มีร่วมแจมลางๆ เล็กน้อย ติดกันเต็มพรึ่ด..ด so many locks,eh?? อ้อที่นี่มี พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ด้วยครับ แต่ผมไม่ได้เข้าครับ There is also Teddy Bear Museum. But i didn't go in ลงจากนัมซานโชลทาวเวอร์ อากาศเย็นลงเลยแวะกินโอเด้ง กับน้ำซุป ในรูปนี้มีพวกของชุบแป้งทอด แล้วก็ต๊อกบ๊กกี (Tteokbokkiแป้งเหนียวเป็นท่อนๆในซอสคล้ายศรีราชา) These are all deepfried stuff and Tteokbokki (Sticky dumpling like dough in Spicy sauce). You can find nearly everywhere in Seoul on the streets ในที่สุดก็เลือกกินโอเด้งอีกเพราะอร่อยที่นี่ไม้ละ 1,500 วอน มีน้ำจิ้มให้ป้ายๆดังรูป แล้วก็มีน้ำซุปให้ตักกินได้ จะเห็นถ้วยขาวๆที่วางไว้นั่นแหละครับ หยิบแล้วตักน้ำซุปกินแก้หนาวได้ดีทีเดียว Finally i picked for Odeng because it is very tasty and cost only 1,500 won included Soup with dipping sauce (the second pix) หลังจากไปนัมซานโซลทาวเวอร์ ก็ตกลงกันว่าจะไปกิน ฮันจองซิก (Hanjeongsik) เป็นอาหารตำรับชาววัง แบบฟูลคอร์ส หรืออาหารเป็นเซท 10 อย่างหรือกี่อย่างก็ว่าไป แต่ว่าผมดั๊นลืมขอเมนูกลับมา (ตอนนี้ก็ตบหัวโทษตัวเองอยู่เนี่ยะ) มากินกันที่ โคเรียเฮ้าส์ (Korea House) ซึ่งถ้าอยู่สถานีเมียงดง ก็นั่งไปสถานีเดียวลงทีสถานี ชุงมูโร่ (Chungmuro) ซึ่งอยู่สายที่ 4 แต่ไปสามคนนั่งแท๊กซี่ถูกกว่าครับ 1,900 วอนเอง ถ้านั่งรถไฟฟ้าก็คนละ 900 วอนแล้ว ผมไม่ได้จองด้วยแต่ต้องรอประมาณ 10-15 นาทีในการเตรียมอาหาร After Namsan Seoul Tower, we decided to have Hanjeongsik (Korean Table d'hote), a full course Korean meal. The type of cusine is originated in royal palaces). If I am correct, it's about 10 course-meal. I forgot to aske for the menu (getting old, you know?) hahaha If you are at Myeongdont Station, you can take subway only one station to Chungmuro station. Or taking taxi if you have companies, it's much cheaper. อันนี้ที่คนไทยเรียกนพเก้า (อันนี้หมดก็เติมได้ครับ) แต่เพราะผมดันลืมขอเมนูมาเลยไม่รู้ว่าเรียกอะไรเลยครับ ขอโทษนะคร้าบท่านผู้ชม ถ้าใครจะให้ผมแก้ตัวใหม่ก็ส่งตั๋วเครื่องบินมาได้เลยครับ อ้อที่นี่หัวละ 57,200 วอน ไม่รวมเครื่องดื่ม แล้วไหนลืมขากล้องอีกผมเลยเซ็งถ่ายมาแล้วเบลอตอนหลังไม่ถ่ายเลย แฟลชไม่อยากเปิดครับเพราะจะรบกวนแขกคนอื่นๆเค้า อาหารจานเล็กแต่หลายจาน ล่อกินเกือบไม่หมดเหมือนกัน This is starters Sorry to my viewers, I forgot to ask for menu. So just enjoy the pix. This full course meal costs 57,200 won/pax. It's quite an experience. I think this is a must if you visit Korea. อันนี้เป็นเครื่องเคียง เติมได้ครับ อันนี้ผมไม่รู้ ตอนแรกกระมิดกระเมี้ยนกิน กินหมดมีคนมาเติมให้ตอนหลังผมกินแต่เครื่องเคียง แบบว่าเอาให้คุ้มหน่อย 555 These are savory sidedishes. They are really nice and tasty. The good thing is refillable!! ซุปฟักทองโรยด้วยถั่วเม็ดสน (ไพน์นัท) อร่อยดีครับ รสธรรมชาติดี Puree' Pumkin Soup มุมซ้ายมือท่านไม่รู้ว่าจะเป็น เท็ด เทอร์เนอร์ เจ้าของข่าวซีเอ็นเอ็น รึป่าวก็ไม่แน่ใจนะครับ ตอนแรกมั่นใจว่าใช่ แต่แอบฟังตอนเค้าคุยกับภรรยาเค้าเหมือนพูดฝรั่งเศสเลย ก็เลยไม่แน่ใจ (มีแอบถ่ายอีก ปาปาราซซี่มาเอง 555) On your left hand of the viewers, I am not sure whether he is Ted Turner and his spouse or not. Hopefully yes! (or maybe not??) When I eavesdropped them, they sounded like speaking French. พนักงานเสิร์ฟที่นี่จะแต่งชุดประจำชาติฮันบอคทุกคนครับ เป็นประสบการณ์ที่ดีจริงๆในการกินอาหารที่นี่ครับ สรุปคุ้มครับ กินเสร็จก็กลับโรงแรม จบแล้วล่ะครับสำหรับวันแรก ยาวไปมั๊ยเนี่ยะ ยังเหลืออีก 6 วันครับคอยติดตามนะคร้าบ...บ หลายๆคนคงรับไม่ได้กับรูปแบล๊คกราวนด์ของผมแน่ๆ หลั่มจุนซัง กับ จุงยูจิน 555 ขอบคุณครับที่ติดตามจนจบ Waitress here wears traditional costume, Hanbok. It's quite an experience, worth eating here. After big dinner, we went back to hotel and get ready for tomorrow. So this is only day 1, there is another 6 days to go. Stay tuned!! thank you for your attention!
Create Date : 10 เมษายน 2552
Last Update : 10 เมษายน 2552 10:44:33 น.
37 comments
Counter : 7356 Pageviews.
โดย: maew IP: 222.123.87.82 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:12:02:53 น.
โดย: ฮันนี่ IP: 202.3.71.26 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:13:55:05 น.
โดย: มูคินญ่า (Mukinha ) วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:14:44:56 น.
โดย: ลูกสาวเจ๊หลีค่ะ IP: 58.8.59.76 วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:18:45:44 น.
โดย: praewa cute วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:19:11:47 น.
โดย: Tristy วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:21:44:12 น.
โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:21:57:51 น.
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 10 เมษายน 2552 เวลา:23:28:02 น.
โดย: เคเค IP: 58.11.64.13 วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:12:55:28 น.
โดย: peijing วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:14:59:19 น.
โดย: น้ำพันซ์ วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:23:42:46 น.
โดย: Beebie วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:5:39:08 น.
โดย: vigannda วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:8:36:05 น.
โดย: annieake วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:9:59:54 น.
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:17:39:21 น.
โดย: kizz_j วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:19:51:46 น.
โดย: คุณย่า วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:21:03:39 น.
โดย: Apple Blue (appleblue ) วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:15:15:32 น.
โดย: นู๋เต้าหู้ วันที่: 14 เมษายน 2552 เวลา:23:28:51 น.
โดย: ดาว Kofschip IP: 83.82.217.178 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:2:15:46 น.
โดย: Tristy วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:10:02:49 น.
โดย: jubejaa วันที่: 19 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:30:10 น.
โดย: Yamaka วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:13:46:10 น.
Location :
นครปฐม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [? ]
เว๊บบล๊อกนี้ทำมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเองที่ชีวิตนี่มีแต่กินดะ เที่ยวดะ เพราะชีวิตนี้สั้นนัก มีเท่าไหร่ก็ต้องรีบกินรีบเที่ยว (พูดหยั่งงี้คนใกล้ตัวผมบอกว่าถ้าเกิด กินเที่ยวจนเงินหมด แล้วยังไม่ตาย ไอตัวผมไม่ต้องฆ่าตัวตายเหรอ) อันนี้ก้ไม่มีใครรู้ เพราะฉะนั้นรีบๆกินเที่ยวสะสมตุนๆไว้ก่อน ตายไปจะได้ไม่เสียดาย 555 มีหลายคนถามเรอะเกินว่า หลั่มหมั่นเหม่ง (Lum Mun Meng) มันแปลว่าอะไร (วะ) ก็ขอบอกกันเลย มันเป็นชื่อจีนกวางตุ้ง หมั่นเหม่งแปลว่า ทันสมัย (แต่ชื่อแสนจะเก่า ก็เหมือนกับสมชาย สมหญิงของไทย นั่นแหละ) ส่วนจีนกลางก็อ่านว่า หลินเหวินหมิง (ฟังแล้วเหมือนหลี่หมิงดี ชอบๆ) ส่วนแต้จิ๋ว ก็ ลิ้ม บุ่น เม้ง (ฟังแล้วจั๊กกะจี้) ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาที่บล๊อกที่มีแต่กินดะ เที่ยวดะ และให้การต้อนรับที่ดีกับผมคร้าบ เป็นปลื้มมั่ก และขอบคุณทุกๆท่านที่ให้กำลังใจกันคร้าบ ขอบคุณอีกทีคร้าบ...บ จาก หลั่มหมั่นเหม่ง LUM MUN MENG