Welcome to my blog…………..http://cookie-nim.bloggang.com
Be my guest I baked I churned I cooked I quilted I made I traveled
Leh ดินแดนแห่งขุนเขา และ...วัด - ทัวร์ไหว้พระ 9 วัด ...II









2 กค. 2552 - 7.30 น. ได้เวลารวมพลกินอาหารเช้ากัน อาหารเช้าของโรงแรมก็ไม่มีอะไรมาก มีขนมปังปิ้ง ไข่เจียวแบบแบนๆด้านๆ มีอะไรอีกจำไม่ได้แล้ว ดีที่ปลาเตรียมพวกน้ำขิง ซีเรียลแบบชงสำเร็จ คนที่ทานไม่ค่อยได้ก็มีพวกนี้ช่วยไว้

วันนี้เราจะไปดูเทศกาลหน้ากากที่วัดเฮมิส อันที่จริงแล้วเราเองเฉยๆกับเทศกาลหน้ากากนี้นะ อยากมาเที่ยวชมวัด ชมบรรยายกาศแบบสบายๆมากกว่า ใจจริงแล้วอยากมาเลห์ในช่วงเดือนกันยายน เพราะเท่าที่หารายละเอียดดูภาพแล้ว เลห์ช่วงกันยาอากาศกำลังดี ถ่ายรูปสวย แต่จุดขายหรือ High season ของ เลห์คือช่วงเทศกาลหน้ากากนี้ ถ้ารอถึงกันยาก็กลัวว่าจะไม่มีทริปออก

วัดเฮมิส Hemis Monastery เป็นวัดพุทธตันตระนิกายหมวกแดงซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิมของศาสนาพุทธสายทิเบต ถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่17โดยพระเจ้าเซงกีกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาดัก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ศาสนาพุทธในอินเดียกำลังล่มสลายเมื่อกองทัพชาวเติร์กได้บุกเข้าสู่อินเดีย ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานทังคาพระปทุมสมภพซึ่งเป็นของเก่าแก่ที่สำคัญมากสำหรับชาวพุทธตันตระซึ่งจะมีพิธีบูชาทังคาทุกๆ12 ปี




ทางขึ้นวัดเฮมิส





คุณยายคนนี้แกนั่งสวดมนต์อยู่คนเดียว ขณะที่รอบข้างชุลมุนวุ่นวาย




เส้นทางเข้าวัดเฮมิสเป็นเส้นทางที่สวยมากเส้นทางหนึ่งทีเดียว แต่ถ่ายรูปไม่ค่อยจะทัน เพราะรถเด้งดึ๋งกระดอนกระเด็นตลอดทาง พอเข้าใกล้เขตวัดเห็นผู้คนคึกคักรถติดกันเป็นทาง ไม่ต่างจากงานวัดบ้านเราเท่าไหร่ บางคนมากางเต็นท์นอนที่เชิงเขาวัดรอเวลา เรามาถึงสายไปหน่อยรถไม่สามารถขึ้นไปส่งถึงที่วัดได้แล้ว พวกเราต้องเดินขึ้นไปอีกตามเคย วันนี้อากาศหนาวเย็นมากๆ เดินๆหยุดๆพักเหนื่อยกันไป โดยที่มีชาวเลห์บ้างชาวต่างชาติบ้างเดินแซงหน้าพวกเราไปหลายคณะ

พอเข้าใกล้ตัววัด สองข้างทางมีร้านขายของตลอดแนว บ้างเป็นอาหารขนม ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว รวมถึงเครื่องประดับ ผู้คนคึกคักเดินกันแน่นทางเดิน จนลืมถ่ายภาพสถานที่ในวัดไปเลย เพราะหันไปทางไหนก็เห็นแต่คน




ลามะผู้หญิงนั่งรอชมพิธี




ลามะผู้หญิง พูดคุยทักทายกัน




ลามะชาย จะนั่งคนละฝั่งกับลามะผู้หญิง




เมื่อเข้าไปภายในวัดพวกเราพยายามสอดส่ายสายตาหาที่นั่งที่ยืนหรือมุมเพื่อชมพิธี แต่เราก็พบว่าไม่ว่าจะเป็นตามระเบียง ทางเดินล้วนแล้วถูกจับจองด้วยเก้าอี๊ทั้งของวัดเองที่จัดไว้ให้แขกวีไอพีที่ยอมควักกระเป๋าจ่ายในราคาสูง พวกบริษัททัวร์หัวใสส่งคนมาจับจองที่ตั้งแต่ตอนกลางคืน แล้วเอาไว้ขายให้พวกฝรั่ง ในขณะที่คนพื้นเมืองที่ต้องการเข้าร่วมพิธีถูกเบียดบังออกไปนั่งจนไกลจากบริเวณพิธี ทั้งๆที่เป็นเทศกาลที่พวกเขาเลื่อมใสศรัทธา
พวกเราได้ที่ยืนตรงทางเดินด้านหลังเก้าอี้ที่พวกบริษัททัวร์จองไว้ให้แขกฝรั่งซึ่งสามารถมองเห็นพิธีกรรมได้ดีพอควร กว่าพิธีจะเริ่มก็อีกร่วมชั่วโมงกว่าๆ แต่พวกเราไม่สามารถไปไหนได้ หากหลุดจากตรงนี้เราก็จะเสียพื้นที่ทันที ขนาดว่ายืนกันอยู่ยังมีพวกทำเนียนทำเป็นจะเดินผ่านให้พวกเราหลบ แล้วก็ยืนยึดพื้นที่กันหน้าตาเฉย

กว่าพิธีจะเริ่มพวกเราก็เริ่มขาแข็ง ปวดหลัง ปวดขากันแล้ว ไหนจะเจออากาศที่หนาวมากๆ ฝนตกพรำๆ จนกลายเป็นปุยน้ำแข็ง บ้างก็เป็นฝนเม็ดใหญ่ๆลงมา แต่เพียงชั่วไม่ถึงชั่วโมงแดดก็ออกเปรี้ยงส่องเข้ามาแบบเต็มๆหน้า ถึงตอนนี้เสื้อและอุปกรณ์กันหนาวเริ่มเกะกะและเป็นภาระ




ลามะสองรูปถือกระถางธูปออกมาวนรอบพิธี




อยากเตะก้นไอ้พวกนี้มากเลย




พิธีกรรมเริ่มเมื่อราวๆ 10 โมงกว่าๆ โดยมีลามะสองรูปเดินถือกระถางธูปออกมาวนรอบๆ และมีลามะอีกสองรูปเป่าแตรยาวๆ ถึงตอนนี้พวกเราเริ่มหงุดหงิดกับการจัดการของวัดที่ไม่เป็นระเบียบ ดูเหมือนวัดจะมองพิธีกรรมและการเข้าชมของนักท่องเที่ยวเป็นธุรกิจไปซะแล้ว มีการปล่อยให้เหล่าช่างภาพสื่อมวลชนเข้าไปรุมถ่ายภาพและวุ่นวายอยู่ในเขตพิธีจนผู้คนที่ชมอยู่รอบนอกเห็นแต่ก้นพวกช่างภาพ ช่างภาพบางคนมีการไปจัดท่าทางให้ลามะโพสท่าเพื่อถ่ายภาพแบบไร้มารยาทมากๆ พวกเราคุยกันว่าถ้ามาทำแบบนี้กับพระไทยแกโดนพวกฉันเหยียบแน่ๆ หลังจากนั้นทางวัดคงเริ่มคิดได้จำกัดพื้นที่พวกช่างภาพให้อยู่เป็นที่เป็นทาง พวกเราค่อยคลายความหงุดหงิดไปได้















ชมพิธีกรรมหน้ากากได้เพียง 2 ชุดเริ่มต้น ก็เริ่มไม่ไหวกันแล้ว เพราะยืนกันมากว่า 3-4 ชม. ขาเริ่มแข็งหลังเริ่มปวด จึงตกลงกันว่ากลับออกไปดีกว่า แต่การจะกลับออกไปไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะทุกช่องทางเดินเต็มไปด้วยผู้คนที่ยืนเบียดเสียดเพื่อดูพิธีกรรม กว่าจะฝ่าฝูงชนออกไปได้ก็เล่นเอาสะบักสะบอมกันที่เดียว เจอทั้งแขน ขา เท้า กลิ่น ครบส่วน ระหว่างทางเดินลงจากวัดดีที่คนรถของพวกเรามายืนดักรออยู่ ก็เลยไม่ต้องวนหารถกันอีก แต่ระยะทางจากวัดกว่าจะไปถึงตัวรถก็ไกลเอาการ จากรถของเรายังมีรถจอดต่อไปอีกไกลจนสุดสายตา ทั้งรถบัส รถส่วนตัว รถจี๊บนักท่องเที่ยว รถโดยสาร เรียกว่าคนทั้งเลห์คงมารวมตัวกันอยู่ที่วัดเฮมิสในวันนี้




คุณยายสุดเท่ห์ นั่งอยู่ท่ามกลางนักท่องเที่ยวฝรั่ง




คนพื้นเมืองถูกนักท่องเที่ยวเบียดบังพื้นที่จนต้องออกไปนั่งซะไกล




ออกรถได้พวกเราก็มุ่งหน้าไปที่วัด ธิคเชย์ (Thiksey Monastery) ก่อนเข้าตัววัดหยุดพักกินมื้อกลางวันกันที่ร้านอาหาร โดยมีอาหารกล่องที่ประกอบไปด้วยแซนวิช ที่ข้างในมีเพียงผักกาดหอม แตงกวาและมะเขือเทศ และมีซอสมะเขือเทศให้ 1 ซอง มีไข่ต้ม 1 ฟองเล็กๆ และมันฝรั่งต้ม 1 หัวเล็ก กล้วยหอม 1 ลูก น้ำผลไม้ 1 กล่อง ปลาสั่งซุปผักและแผ่นแป้งปิ้ง(เรียกไม่ถูกเพราะมีหลายแบบหลายชื่อ) มาเสริมให้อีก




วัดธิคเซย์มุมหนึ่ง เจอเสาไฟ สายไฟบดบังความงาม



วัดธิคเซย์ มุมยอดฮิต เพราะไม่มีอะไรมาเกะกะสายตา




หลังอาหารก็รีบออกไปเก็บภาพวัดธิคเชย์ตรงหน้าร้านอาหาร ที่จริงแล้วมุมนี้สวยมากเหมาะกับการถ่ายภาพ แต่ด้านล่างนี่สิ เต็มไปด้วยเสาไฟและสายไฟฟ้า เมื่อรถขับเลยไปได้นิดเดียวเราก็เจอมุมโล่งที่ไม่มีเสาไฟมาเกะกะสายตา อ้อ มุมนี้นี่เองที่เราเห็นภาพสวยๆจากหลายๆคน วันนี้แหละเราได้ถ่ายภาพนี้ด้วยมือตัวเองแล้วหลังจากที่ชื่นชมของคนอื่นมานาน

วัดธิคเซย์ ถือเป็นวัดที่สวยงามที่สุดของลาดัก เป็นวัดของนิกายเกลุคปา ภายในวัดมีรูปปั้นของพระศรีอารยะเมตไตรย์ ซึ่งชาวพุทธสายมหายานเชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์องค์ต่อไปที่จะคอยช่วยเหลือมนุษย์




พระศรีอารยะเมตไตรย์ ในวัดธิคเซย์



พระศรีอารยะเมตไตรย์


ซุ้มประตูทางขึ้นวัดธิคเซย์




เราใช้เวลาอยู่ภายในวัดนี้ค่อนข้างนาน เนื่องจากภายในค่อนข้างร่มเย็น ภายในวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปของวัดนี้กว้างกว่าทุกวัดที่เคยไปมาและมีแสงสว่างพอที่จะถ่ายภาพได้อย่างสบายๆโดยไม่ใช้แฟลช ภายในเย็นสบาย พวกเราเลยนั่งมองพระพุทธรูปไป ถ่ายภาพและคุยกันไปจนลืมตัวเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนลามะที่เฝ้าอยู่ต้องส่งสัญญาณให้เงียบๆ ถึงได้ขยับออกมาข้างนอกกันได้ ต่อจากนั้นก็เดินชมภายในบริเวณวัดกันอีกพักใหญ่




ตัวอาคารภายในวัด



อาคารภายในวัด


เหนื่อยแล้วพักก่อน




จากนั้นก็เดินทางต่อสู่เมืองเชย์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของลาดัก โดยแวะเที่ยวที่พระราชวังเชย์ (Shey Palace) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ Deldan Namgyal เพื่อระลึกถึงผู้เป็นพระบิดา Singge Namgyal กำแพงพระราชวังถูกฉาบด้วยทองคำผสมทองแดงก่อสร้างเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์แห่งลาดัก ภายในมีรูปปั้นของพระศากยมุณีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้




ทางขึ้น Shey Palace


ทางขึ้น Shey Palace


วิวถ่ายจากบน Shey Palace





มาถึงที่นี่เราเริ่มมีอาการหมดแรงแล้ว ชาร์ทแบตอย่างไรก็แทบจะไม่ขึ้น เริ่มมีเสียงโอดครวญลอยมาว่า เดินขึ้นอีกแล้วเหรอ วัดอีกแล้วเหรอ ไหว้พระอีกหรือเปล่าตกลงนี่เป็นทัวร์ไหว้พระ 9 วัดหรือเปล่า ถ้ารถเข้าถึงจ่อหน้าโบสถ์ล่ะก็ใช่เเลย ไหว้พระ 9 วัดอยุธยาแน่ๆ (ที่ลาดักนี้ถึงจะเป็นพระราชวังแต่ภายในก็จะมีวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ อย่างที่เชย์พาเลซนี้วันที่เราไปก็เปิดให้เข้าแค่ในวัดเพื่อไหว้พระ) พี่นุชพยาบาลสาวใสวัยละอ่อนเลยขอตัวรออยู่ข้างล่างดีกว่า ที่นี่ก็ต้องเดินขึ้นทางชัน เป็นระยะทางพอสมควร และยังมีบันไดขึ้นต่อไปอีก กว่าเราจะเดินขึ้นไปถึงบริเวณวัดที่เปิดให้เข้าไปชมได้ก็หมดแรง ดีนะที่ได้นั่งพักพอหายเหนื่อยก็ฮึดลุกขึ้นมาถ่ายรูปได้อีกนิดหน่อย อีกอย่างขาลงไม่ต้องใช้พลังมากเหมือนขาขึ้นแล้ว แต่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรให้ถ่ายภาพได้มากนัก




กำแพงใน Shey Palace


กำแพงใน Shey Palace





จากที่นี่พวกเราก็เดินทางกลับโรงแรมกัน เพราะทุกๆคนหมดแรงแล้ว โปรแกรมดูพระอาทิตย์ตกที่ Shati stupa ล้มเลิกอีกแล้ว

กลับถึงโรงแรมพวกเราก็นัดแนะกันว่าเย็นนี้จะไปช็อปปิ้งเสื้อกันหนาวกัน ปลาและน้องตาลไปค้นพบร้านที่ขายของคุณภาพดีและราคาไม่แพง เย็นนั้นพวกเราแห่ไปดูเสื้อร้านนี้กันจนแน่นร้าน ไปถึงก็เจอคนไทย 2-3 คนกำลังต่อรองราคากันอยู่ พวกเราเข้าไปอีกก็เต็มร้านพอดี จนคนขายทำหน้าตกใจว่าจะโดนคนไทยรุมต่อราคาหรือเปล่า รื้อๆค้นๆกันจนเสื้อกันหนาวกองจะท่วมคนขาย
ก็ได้เสื้อกันหนาวกันมา 4 คน 5 ตัว ที่เหลือที่ไม่ได้เพราะไม่มีไซส์และสีที่ต้องการ ไม่งั้นก็คงได้กันครบคน สรุปเย็นนี้เราใช้เวลาอยู่ร้านนี้ร้านเดียวร่วม 2 ชั่วโมง แล้วยังหมายมั่นว่ากลับจาก นูบราวาเล่ย์แล้วจะมาอีก

อาหารเย็นวันนี้ก็ไม่ค่อยต่างจากเมื่อวานมากนัก อาการกินไม่ลงของเรายังคงเป็นอยู่ ได้แต่กินพวกซุปและของหวานที่คล่องคอหน่อย ส่วนคนอื่นก็มีที่กินได้บ้างไม่ได้บ้างเหมือนกัน







ติดตามตอนอื่นๆ

Leh ดินแดนแห่งขุนเขา และ...วัด - ทัวร์ไหว้พระ 9 วัด ...I

Pangong Tso ทะเลสาบพันกอง - พันกอง...จริงๆนะ

Nubra Valley หุบเขาแห่งดอกไม้ ...ไม่ยักกะเห็นดอกไม้

Bye...Nubra Valley...แล้วจะกลับมาตามหาดอกไม้

Kargil ระยะทางสั้นๆแต่ช่างยาวนาน

Sonamarg ดินแดนแห่งเทพนิยาย

จากทะเลสาบดาล (Dal Lake)..สู่..กุลมาร์ค (Gulmarg)

Pahalgam กำเนิดนางเอกหนังแขกดวงใหม่

บอกลาศรีนาการ์ ..ชม นครแห่งรัก - จบการเดินทาง



Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 9:09:15 น. 11 comments
Counter : 3480 Pageviews.

 
อ๊ากกกกก ไปด้วยๆๆๆ พี่ตุ๊กทัวร์


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:03:07 น.  

 

สุดยอดเลยค่ะคุณตุ๊ก นำสิ่งดีๆมาแบ่งปัน ขอชมจากใจจริง


โดย: พี่หนิง IP: 125.26.83.36 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:22:15 น.  

 
ภาพสวยค่ะ อินเดีย ธิเบต ปากิสถาน เนปาล นี้ดินแดนในฝันที่อยากไปของดิฉันเลยละค่ะ คิดไว้ว่าสักวันจะไปเที่ยวให้ทั่วพร้อมทั้งในเขาในเนปาลแต่จะได้ความสูงสักกี่ร้อยเมตรยังไม่แน่ค่ะ ชอบสถานที่ที่มีโบราณสถานแบบนี้และค่ะ...โชดดีจังที่จขบ.ได้ไปเที่ยวมา...


โดย: chadapha วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:34:20 น.  

 
แวะมาเที่ยวกับพี่ตุ๊ก และทำความรู้จักกับลาดัคค่ะ

ตอนแรกนึกว่าพี่ตุ๊กไปเที่ยวทิเบตซะอีกแน่ะค่ะ ... เพราะเห็นภาพพระกับ
แม่ชี เหมือนพระมหายานที่ทิเบต ... ภาพสวยมาก ๆ ค่ะ มีเสน่ห์ดีจัง
พี่ตุ๊ก ... อยู่แล้วนะคะ เรื่องภาพสวย

ไปอ่านย้อนหลังตอนที่พี่ตุ๊กลงไปด้วยค่ะ ... เขาอยู่ทางตอนเหนือของอินเดียนะคะ ใกล้เขาหิมาลัย คงหนาวน่าดู ภาพทิวทัศน์สวยมาก ๆ เลยค่ะ .. น่าอัศจรรย์ที่เขาสามารถสร้างตึกสวยบนเขาสูง ๆ แบบนั้นได้ คงต้องอาศัยทั้งกำลังและเวลานะคะ ...

พี่ตุ๊กมีโอกาสดีมาก ๆ เลยได้ไปเที่ยวประเทศสวย ๆ เป็นธรรมชาติแบบนี้


โดย: Tristy วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:10:12 น.  

 
มุกตามมาเที่ยวกับพี่ตุ๊กต่อค่ะ
มุกชอบมากๆเลย เมืองที่สวยธรรมชาติแบบนี้
เป็นเมืองที่มุกยังไม่เคยได้เห็นจากที่ไหนมาก่อนเลยนะคะเนี่ย
พี่ตุ๊กถ่ายรูปสวยมากๆเลยคะ


โดย: mook (haiti ) วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:3:37:25 น.  

 
อาคารที่สร้างในบริเวณภูเขาคือวัดธิคเซย์เหรอคะพี่ตุ๊ก
น่าทึ่งจังเลยค่ะ ภายในคงตกแต่งสวยงาม
แล้วช่วงที่พี่ตุ๊กไปเค้าจัดเป็นเทศกาลประจำปี (ทำนองนี้..)
หรือว่าจัดการแสดงทุกวันคะ ปุ้มเห็นช่างภาพ กับผู้คนเยอะจริง ๆ
ได้อ่านเรื่องที่พี่ตุ๊กเขียนแล้วคงต้องอดทนเบียดกับคนเยอะ ๆ พอดู
แถมมีพวกเนียนยึดเก้าอี้อีก 5 5+
แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ ยิ่งข้อมูลพี่ตุ๊กเปี๊ยะแบบนี้จะติดตามจนจบทริปเลยค่ะ


โดย: pumorg วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:27:34 น.  

 
บรรยายได้เห็นภาพเลยทีเดียว...มาตีตั๋วปูเสื่อรอตอน 3


โดย: ตุ้มเม้ง IP: 58.137.173.50 วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:09:15 น.  

 
แวะเข้ามาดูรูปสวยๆพร้อมข้อมูลดืๆ
มาปูเสี่อรอดูภาค3ครับ


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:57:22 น.  

 
สวยจัดจ้านไม่เกรงใจใครเลยค่ะคุณตุ๊ก



รูปสวยยยยยยยยยยยยยยยย มาก




เจ๊หลีอิจฉารูปที่หัวบล็อก จัง คริ คริ น้ำตาลเยิ้มเชียววู๊ยยยยย


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:06:09 น.  

 
น้องหมีฯ ตามมาติดๆเลยนะ มีของดีให้ชมเยอะ

คุณหนิง ขอบคุณค่ะ

คุณchadapha ขอบคุณที่เข้ามาคุยกันค่ะ ยังไม่มีโอกาสไปเที่ยวผ่านรูปไปก่อนเนอะ ถ้ามีโอกาสแล้วไปให้ได้นะคะต้องเห็นด้วยตาตัวเองค่ะ

คุณฉวี อินเดียทางเหนือติดทิเบตค่ะ วัฒนธรรมและผู้คนเลยออกไปแนวทิเบต ไปเห็นวัดที่ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาแล้วทึ่งมากว่าคนสมัยก่อนเขาทำได้อย่างไร สรุปได้ว่า ศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงเกิดวัดสวยๆตามยอดเขามากมายที่นั่นค่ะ

ปุ้มคะ เป็นเทศกาลประจำปีค่ะ มีเพียงปีละครั้ง ถือเป็นจดขายของที่นี่เลยล่ะ

ตุ้มเม้ง ยังมีอีกหลายตอน อย่าลืมเข้ามาดู

คุณอนันต์ หวัดดีค่ะ ดูรูปแล้วอยากไปเที่ยวบ้างหรือเปล่าคะ

เจ๊หลีขา ขอเถอะนะ นานๆทีอย่าอิจฉาเลย ก็มีกันอยู่สองคนนี่นา



โดย: Cookie Nim วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:20:30 น.  

 
ภาพสุดยอดมักมัก.....
ไม่เคยเข้ามาบ้านนี้เลย...
โอ้โห....มีแต่เรื่องของการเดินทาง....
ชอบ...ชอบ.....


โดย: KhunKARN วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:58:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Cookie Nim
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 71 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์ภาพถ่ายทุกภาพในบล็อคนี้

มีหลายๆคนสงสัยว่าทำไมต้อง Cookie Nim (คุกกี้นิ่ม)
ที่มาของชื่อนี้มาจากชอบกิน soft cookie มาก หัดทำขนมใหม่ๆก็เริ่มจากเจ้านี่แหละ พอมาเล่นเนทนึกชื่อไม่ออก ก็เลยใช้ คุกกี้นิ่ม ตั้งแต่นั้น

หลุดพ้นจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำให้มีเวลาว่างทำอะไรๆที่ชอบมากขึ้น ทำขนม ทำสบู่ และทำงานฝีมือ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชอบนั้นจะไม่ก่อให้เกิดรายได้เท่ากับเงินเดือนที่เคยได้ แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำ
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณคนเดียวของเรา ซึ่งก็คือ"คุณพ่อบ้าน" นั่นเอง

สำหรับเพื่อนๆที่อยากได้ภาพ หรือบทความในบล็อกนี้ไปใช้ในทางบริสุทธิ์ใจ เช่น อยากนำไปตกแต่งบล็อคของคุณ หรือสูตรขนมไปทำแล้วเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้หาผลประโยชน์ส่วนตน จขบ.ยินดีค่ะ รบกวนแค่อ้างอิงแหล่งที่มาสักหน่อยเท่านั้น
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Cookie Nim's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.