ไอซ์ได้ไปเที่ยวประเทศเปรูเดือน ก.ค. ของปีที่แล้วเป็นเวลาประมาณสามสัปดาห์ เป็นทัวร์ของประเทศอังกฤษ เน้นการเที่ยวแบบ traveller คือ...อนุรักษ์ธรรมชาติ ใส่ใจผู้คนท้องถิ่น ^^เคลฟเวอร์...ทัวร์ลีดเดอร์ของกลุ่ม ก็พยายามสอดแทรกเกร็ดพวกนี้อยู่ตลอดเวลาซึ่งช่วงแรกๆ ไอซ์ก็ไม่ได้อะไรมากอะค่ะ รับฟังไป ชินและชอบการเที่ยวแบบ green มากๆ ของทัวร์บริษัทนี้อยู่แล้ว ... เรื่องขยะ เรื่องการเข้าใจคนท้องถิ่น ฯลฯพอหลังๆ ทั้งทัวร์สนิทกันสุดๆ ทำให้ได้คุยกันมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเคลฟเวอร์เป็นชาวเขาจากเทือกเขาแอนดีส แต่ไม่ใช่แบบธรรมดาๆ ถึงจะอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น แต่เป็นถึงประธานหมู่บ้าน เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา รักษาสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ฯลฯ มากมาย ในทัวร์นี้ จะมีการ trek ด้วย ลูกทัวร์ส่วนใหญ่ที่จองเร็ว จะเลือก Inca Trail ซึ่งเป็นการเทรกแบบ 4 วัน 3 คืน ตามรอยชาวอินคาโบราณ ... ไอซ์จองไม่ทันค่ะ เต็มเสียก่อน เลยเลือกไป Lares Pass ซึ่งใช้เวลา 3 วัน 2 คืนแทนInca Trail จะเดินผ่านโบราณสถานของอินคาโบราณ แต่ Lares Pass จะเดินผ่านหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าต่างๆ บนเทือกเขาแอนดีสค่ะก่อนเข้า Trail ... ไกด์ท้องถิ่น ((ไม่ใช่เคลฟเวอร์)) ก็จะบอกให้ซื้อของไปแจกเด็กๆ อย่างเช่น พวกดินสอ สมุดจด ฯลฯ อะไรทำนองนี้ติดตัวไปด้วยเทือกเขาแอนดีสนี่...อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ ประมาณสามพันปลายๆ สีพันต้นๆ เมตร เหนือระดับน้ำทะเลสภาพภูมิอากาศสุดยอดมากค่ะ ตอนกลางวันอากาศร้อนจัดชนิดเผาผิวจนไหม้ กลางคืนอากาศหนาวจัดแบบต่ำกว่าศูนย์องศา ... เป็นการ trek ที่ทรมานใช้ได้เลยล่ะ เหอๆๆๆ ตอนกลางวันเดินเหนื่อยจนขาลาก กลางคืนนอนสั่นแหง็กจนนึกว่าจะตายอยู่ในเต้นท์ ... ถามตัวเองหลายครั้ังว่า "ตูมาทำอะไรที่นี่ง่ะ"มาดูรูปกันค่ะ ^^ช่วงวันแรกทางยังไม่ชันมาก รูปข้างบนนี่เพิ่งเริ่มออกเดิน ระหว่างทางยังไม่พบหมู่บ้านหรือคนมากเท่าไหร่ มีแต่ภูเขา หญ้า หิน 555ที่พักกลางคืนเป็นแบบนี้ ... พอพระอาทิตย์ตกแล้ว หนาวสุดๆ ค่ะ เต้นท์ใหญ่คือเต้นท์ของลูกหาบ และเป็นที่รับประทานอาหารค่ำด้วย พอตอนเช้า ตื่นขึ้นมาก็ได้พบกับเด็กๆ ชาวเขาที่มาโพสต์ท่าให้ถ่ายรูป แลกกับของแจกตรงแคมป์เลย คือ...ถ้าไม่ให้ของ น้องๆ ไม่ไปอะวันที่สองนี่ เป็นวันที่เดินหนักสุดๆ ช่วงเช้าจะเดินขึ้นอย่างเดียวเลย ทางชันมากๆ แต่วิวก็สวยมากเช่นกันค่ะเดินผ่านหมู่บ้านเป็นครั้งคราว ... แต่...ก็ไม่เห็นหมู่บ้านหรอกนะคะ เห็นเป็นเด็กๆ ที่มาเลี้ยงสัตว์ ((ตัวอัลพาก้ากับลามะ))มาดูตัวอัลพาก้าใกล้ๆ กันค่ะ หน้าตาน่ารัก ขนก็นุ่ม ... แถม...อร่อยอีกต่างหาก ฮาเด็กๆ พวกนี้ส่วนใหญ่จะใส่ชุดประจำเผ่า พอเห็นพวกเราเดินผ่าน ก็จะรีบวิ่งมา โพสต์ท่าให้ถ่ายรูป แล้วก็แบมือ รับของแจก ยอมรับว่า ตอนแรกๆ ก็สนุกดีค่ะ ถ่ายรูปเด็กๆ แจกของเด็กๆ แต่...พอนานๆ ไป ยิ่งรู้สึกเศร้า ...ดูรูปข้างล่างนี้นะคะเห็นอะไรตรงทางลาดสุดชันนั่นไหมคะ ... เด็กค่ะ เด็กตัวเล็กนิดเดียวเอง พอเห็นพวกเราเดินผ่าน ก็ตะเกียกตะกายขึ้นมา เพื่อจะมาขอของ ... หัวใจยวบเลย T^Tหลังจากนั้นก็เลยแจกของด้วยความรู้สึกหดหู่ใจค่ะ มาดูรูปของน้องๆ กันนะคะวันนั้นก็ถ่ายรูปมาเยอะมากๆ เลย ... น้องๆ น่ารัก และน่าสงสารมากๆเด็กๆ ที่ยิ่งอยู่สูงเท่าไหร่ ก็จะมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงเท่านั้นค่ะ มอมแมม มีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่ได้เรียนหนังสือ ฯลฯที่พักของคืนที่สองอยู่ริมลำธารอีกแล้ว ไม่งั้นไม่มีน้ำทำอาหาร ((เอ่อ ไม่ต้องถามเรื่องอาบน้ำนะคะ ฮา ไม่มีง่ะ))กลางคืนหนาวสุดๆ อีกแล้ว ... หนาวแค่ไหน ตื่นเช้ามาเจอกับความขาวสะอาดค่ะ frost เต็มไปหมด เหอๆแล้วมาดูบ้านของชาวเขาบนเทือกเขาแอนดีสกันนะคะส่วนใหญ่เป็นแบบข้างบนค่ะ ก่อด้วยหิน มุงด้วยหญ้า ... ไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะป้องกันความหนาวเย็นได้มากน้อยแค่ไหน เหอๆกลับจาก trekking ด้วยหัวใจที่หนักอึ้งมากๆ ...ก็เลยคุยกับเคลฟเวอร์ว่า ... ไอซ์อยากช่วยนะ บอกไปว่าเป็นนักเขียน ((ซึ่งก็ได้รับสีหน้าแสดงความไม่เชื่อถือเป็นการตอบแทน 555 พอให้ดูบล็อกยิ่งมึนหนักกับหน้าปกผลงานเก่าๆ อันแสนหวานแหวว กร๊ากกกก)) ไอซ์สัญญากับเขาว่า จะเขียนเล่าเรื่องเกี่ยวกับประเทศเปรู และรายได้ส่วนหนึ่ง จะนำมาช่วยพัฒนาชีวิตของชาวเขาบนเทือกเขาแอนดีสเคลฟเวอร์ดีใจมากค่ะ ... ไม่ใช่ดีใจแค่ที่ไอซ์จะเอาเงินไปช่วย แต่ดีใจมากที่ไอซ์จะเขียนเกี่ยวกับประเทศเปรู เขียนถึงชาวเขาบนเทือกเขาแอนดีส เขาบอกกับไอซ์ว่า"อยากให้คนทั่วๆ ไป มองเห็นเปรูมากกว่าแค่ มาชูพิกชู มากกว่าแค่ นาสก้า ไลน์ส์ ... เปรูมีผู้คน และคนที่กำลังลำบากมากมายก็คือ เหล่าคนที่สืบเชื้อสายมาจากชาวอินคาโบราณ"....พอกลับถึงไทย ไอซ์ก็ยังไม่ได้เขียนเกี่ยวกับประเทศเปรูทันที เพราะยังมีโปรเจ็คของชุด จรดรัก ณ ผืนทราย อยู่ช่วงงานหนังสือเดือน ต.ค. ก็คุยกับบก.ของแจ่มใสว่า ไอซ์มีโครงการจะเขียนนิยายเกี่ยวกับประเทศเปรูนะ จะเอารายได้ส่วนหนึ่งไปทำบุญ อยากออกช่วงงานหนังสือ มี.ค.สาเหตุหนึ่งที่อยากจะให้ออกช่วงนั้นก็คือ ... สนพ.แจ่มใสก็เหมือนกับสนพ.อื่นๆ ที่จะได้ค่าลิขสิทธิ์หลังหนังสือวางแผงหลายเดือน ... ไอซ์ตั้งใจจะเอาเงินมาทำบุญช่วงเดือนเกิดน่ะค่ะ ไอซ์เกิดวันที่ 21 เดือน มิ.ย. ... จริงๆ จะให้ได้เงินทัน ก็น่าจะออกหนังสือช่วง ก.พ. แต่ช่วงนั้นมีคิวของโปรเจ็ควาเลนไทน์อยู่แล้ว เร็วสุดต่อมาก็ต้องเดือน มี.ค.บก.บอกว่า ...จะต้องส่งต้นฉบับก่อนสิ้นเดือน ธ.ค. ซึ่งไอซ์ก็โอเคค่ะ ... กะๆ แล้ว น่าจะเขียนทันก็มัวลัลล้าชะล่าใจ จนกระทั่งเดือน พ.ย. ล่ะมั้ง บก.มาบอกว่า เนื่องจากสิ้นปี คลังอมรินทร์จะปิดเร็ว ต้นฉบับที่จะออกเดือน มี.ค. จะต้องส่งก่อน 15 ธ.ค.เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สลดสิคะ ตอนนั้นยังไม่ได้เริ่มเขียนซักตัว T^Tสารภาพตามตรงว่า ... ถ้าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้สัญญาว่าจะทำบุญแต่แรก โครงการนี้ล้มค่ะ ล้มแน่แต่นี่สัญญาไว้แล้ว ... หยุดงานประจำเขียนหนังสือค่ะ 555 ((ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะคะ T^T))แถม...เนื่องจากเวลาที่น้อยลง ไอซ์เลยตัดพล็อตออกไปเยอะมาก แต่ยังใส่ข้อมูลเยอะอย่างเคย 555พระเอกในเรื่อง ตะวันส่องใจ ไอซ์ก็เอาต้นแบบมาจากเคลฟเวอร์ตัวจริงนี่ล่ะค่ะ ชื่อก็ใช้ชื่อของเขาไปเลย เพราะคิดว่า ชื่อเก๋ดีอยู่แล้ว ((ความจริงคือ เวลากระชั้นมาก คิดชื่อที่เลิศกว่านี้ไม่ออกแล้ว ฮา)) ... เขียนไปก็จั๊กกะจี้นิดหน่อย 555 ช่วงที่ปั่นต้นฉบับนี่ นึกว่าจะตายอะ คลื่นไส้ วิงเวียนไปหมด ข้อมือก็อักเสบอยู่ เหอๆๆๆก็...ส่งก่อนกำหนดค่ะ 555 พอดีว่าจะไปเที่ยวหลีเป๊ะช่วงเส้นตายพอดี จะให้ทันก็ต้องส่งก่อนพอกลับมา ... ผลจากบก. คือ ... "ต้องแก้" นะคะ 555 T^T หัวเราะทั้งน้ำตาจริงๆ ก็กะอยู่แล้วล่ะคะว่า คงโดนตัดเรื่องข้อมูลเยอะ ((แต่ก็เขียนไปก่อน เผื่อฟลุ้ค เอิ๊ก)) เติมฉากโน่นนี่ ... หนังสือแนวท่องเที่ยวจะถูกเข้มงวดมากด้วย เพราะบก.บอกว่า หลังๆ การตอบรับไม่ดีเท่าไหร่ ฮือๆๆๆค่ะ...หยุดงานแก้ค่ะ 555 วันลาทั้งหมดมาลงตรงนี้ส่งเลยเส้นตายไปหนึ่งวัน ... บก.บอกว่า อาจจะออกไม่ทันงานหนังสือ ... โห...ร้องไห้เลยอะค่ะ กดดันมากๆ ... ถ้าทำเพื่อตัวเองคงเลิกไปอีกรอบตั้งแต่โดนแก้แล้ว แต่นี่...สัญญาไว้แล้ว ตั้งใจไว้แล้ว ... พยายามเต็มที่แล้ว ... พูดไม่ถูกค่ะ ตอนนั้นทั้งโกรธทั้งเสียใจ แงๆๆๆๆๆๆแต่...ในที่สุด ด้วยฝีมือของทีมงานแจ่มใส หนังสือก็ออกทันงานหนังสือ มี.ค. จนได้ค่ะ ฮืออออออ ลุ้นแทบตาย ขอบคุณนะคะ แงๆๆๆๆๆๆปกก็สวยงามอย่างที่เห็นนะคะ เป็นรูปมาชูพิกชู ส่งให้เคลฟเวอร์ดูเมื่อวันเสาร์ เขาปลาบปลื้มใจมาก ฮาดังนั้น...รายได้ส่วนหนึ่งที่ไอซ์ได้จากการเขียน ตะวันส่องใจ จะนำไปทำบุญค่ะตอนแรกจะส่งให้ทางเปรูหมด แต่...คิดไปคิดมา เราก็ต้องช่วยคนในประเทศด้วย โฮ่ๆๆๆ จึงจะแบ่งอย่างนี้ค่ะ- ส่วนหนึ่งทำบุญกับบ้านโฮมฮัก ((น่าจะประมาณ 40,000 บาท))- ส่วนหนึ่งส่งไปที่เปรู ((น่าจะประมาณ 40,000 บาท))- จะมีส่วนที่เหลืออีก ขอดูตอนหักภาษีก่อนค่ะว่าเหลืออีกเท่าไหร่ ฮา จะทำกับที่อื่นๆ ในประเทศไทยนะคะ สำหรับในประเทศไทย ((บ้านโฮมฮักและที่อื่นๆ)) ไอซ์จะทำบุญช่วงเดือนเกิด คือ เดือน มิถุนายน ค่ะ ตอนนั้นก็คงใกล้จะได้รับเงินจากแจ่มใสแล้ว ((พอจะหมุนเงินทัน 555))สำหรับที่ประเทศเปรู กำลังคุยกับเคลฟเวอร์อยู่นะคะว่า จะส่งยังไงดี ตอนแรกไอซ์กะว่าจะกลับไปเที่ยว แล้วเอาเงินไปให้เอง แต่เศรษฐกิจแบบนี้ งานยุ่งขนาดนี้ แผนคงล่มยังไงจะเข้ามาแจ้งในบล็อกเป็นระยะๆ ค่ะ เช็คกันได้นะคะ ^^....นี่คงเป็นบล็อกที่เขียนยาวที่สุดบล็อกหนึ่ง ... สุดท้ายก็ขอฝากผลงานเล่มนี้ไว้ด้วยนะคะ ตะวันส่องใจ อาจไม่ใช่ผลงานที่ดีที่สุดของไอซ์ ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แต่ก็เป็นผลงานที่ตั้งใจจริงมากๆ ค่ะ ^^ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ที่ไอซ์ชอบมากถ้าใครชอบหนังสือแนวนี้ ก็ฝากด้วยนะคะ ผลพลอยได้คือ ทำบุญร่วมกันค่ะ ^^
ตอนนี้ถือได้ว่า เม ร่วมบริจาคไปแล้วนะคะ อิ๊กๆๆ
พรุ่งนี้คงได้ยลโฉมเล่มจริงของ ตะวันส่องใจ กับ สุดผืนทรายฯ จากหนุ่มเดลิเวอรี่บอยของแจ่มใสแล้วค่า โฮะๆๆ
**เมจิ**