bloggang.com mainmenu search

เมื่อถึงช่วง เปลี่ยนฤดู อากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้หลายคนปรับตัวไม่ทัน เจ็บป่วยเป็นโรคหวัดได้ โรคหวัดธรรมดาทั่วไปเป็นโรคไม่ร้ายแรง แต่อาการต่างๆ ก็ช่างน่ารำคาญ ทั้งไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และปวดศีรษะ บางคนเป็นอยู่นานไม่ยอมหายสักที ทุกวันนี้เราพอจะเข้าใจกันมากขึ้นค่ะว่า โรคหวัดไม่ใช่โรคที่มียาฆ่าเชื้อโรครักษาให้หายได้ ยาที่เรากินตั้งแต่เด็กซึ่งได้แก่ ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้แพ้ และบางครั้งก็เป็นยาปฏิชีวนะ ยาเคมีเหล่านี้เป็นยาบรรเทา อาการ หากกินมากหรือนานเกินไปก็อันตราย การดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการมีหลายวิธีที่น่าสนใจและใช้ได้ผลจริงๆ ดูแล้วหลักการใหญ่ๆ คือ การทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันหรืออิมมูนซิสเต็มขึ้นมาสู้โรคและอาการต่างๆ ของหวัด 10 สูตรของเรามีอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ

สู้หวัด

1. อุ่นตัวให้ตัวอุ่น เวลามีเชื้อโรคคุกคาม อุณหภูมิภายในร่างกายเราจะร้อนขึ้นมาก ซึ่งแสดงว่าภูมิคุ้มกันในร่างกายกำลังทำงานหนักเพื่อจัดการกับเชื้อโรคอย่างขันแข็ง

2. น้ำอุ่นเช้าถึงค่ำ น้ำอุ่นเป็นตัวช่วยที่ดีในการบรรเทาอาการหวัด เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ลองแปรงฟันบ้วนปากด้วยน้ำอุ่น ซึ่งจะช่วยขับเสมหะและลดอาการไอได้ดีมากทีเดียว

3. กินยาฟ้าทลายโจร ไม่ใช่แต่คนไทยเท่านั้นนะคะ ชาวจีน อินเดีย และชวาก็ใช้ฟ้าทลายโจรกันด้วย สรรพคุณสำคัญในต้นและใบของพืชชนิดนี้ สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อและการอักเสบ

4. อมเกลือบ้วนปาก การกลั้วคอก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดอาการเจ็บคอได้ มีสูตรง่ายๆ ค่ะ สูตรแรก คือ ใช้เกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว อมบ้วนปากวันละ 3 – 4 ครั้ง สูตรสอง คือ ใช้เบกกิ้งโซดาก็ดีทีเดียวค่ะ ซื้อหาได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตราคาแค่ซองละสิบกว่าบาท เท่านั้นเอง โดยผสมเบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชากับน้ำเปล่า 1 แก้ว กลั้วคอวันละ 3 – 4 ครั้ง

5. สูตรลดอาการไอ อาการไอเกิดจากการระคายเคืองและเสมหะ ฉะนั้นจึงสามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการดื่มน้ำอุ่น บ่อยๆ หรืออาจบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆ นอนพักผ่อนให้พอ งดอาหารทอด แต่ถ้าอาการไอยังรุนแรงและเรื้อรังอยู่ ควรจะไปพบคุณหมอ

6. อบสมุนไพร การอบไอน้ำสมุนไพรด้วยสมุนไพรกลิ่นหอมๆ อย่างไพล ขมิ้น ผิวมะกรูดซึ่งมีน้ำมันหอมระเหย และเติมสมุนไพรที่ผ่านความร้อนแล้วจะมีกลิ่นหอม เช่น การบูรกับพิมเสนเล็กน้อย ช่วยบำบัดอาการหวัดคัดจมูกได้

7. กินสมุนไพรต้านหวัด ไม่ต้องไปมองหาสมุนไพรจากที่อื่นไกลเลยค่ะ อาหารทั่วไปที่เรากินกันอยู่เป็นประจำนี่แหละที่มีสมุนไพรต้านหวัดอยู่มากพอ เช่น พืชผักกลิ่นรสเผ็ดร้อนอย่างพริกไทย หัวหอมแดง กระเทียม ขิง กะเพรา ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

8. กินอาหารเปรี้ยวหวาน วิธีสู้หวัดที่อร่อยที่สุดคือ การกินผลไม้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ฝรั่ง ส้ม มะเฟือง มะละกอ มะขามป้อม พุทรา มะปราง ฯลฯ การกินผลไม้สดๆ จะได้คุณค่าของวิตามินซีและสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์มากที่สุดที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีพลังสู้กับโรคค่ะ

9. ไช้เท้าต้านหวัดตำรับจีน แพทย์แผนจีนกล่าวว่า หัวไช้เท้าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ มีสรรพคุณในการกระจายสิ่งหมักหมมในร่างกาย ละลายเสมหะ แก้พิษ ลดความดันโลหิตขยายหลอดลมและหลอดเลือด ฯลฯ จึงนำมาใช้รักษาอาการหวัดและอาการไอได้ผลดี โดยนำหัวไช้เท้าสดมาคั้นน้ำ เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยดื่มแก้ไอ

10. นอนเพิ่มพลัง ไม่น่าเชื่อว่าการนอนจะเป็นการเพิ่มพลังในการเยียวยารักษาตัวเองที่ง่ายที่สุดทางหนึ่ง เพราะ เวลานอนเป็นเวลาที่ร่างกายของเราได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเอง ผู้ใหญ่มักแนะนำให้นอนพักมากๆ เวลานอนที่ดีที่สุดตามแนวทางแพทย์แผนจีนคือ การนอนหัวค่ำแล้วตื่นแต่เช้า เพื่อให้ภูมิคุ้มกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และหากนอนอย่างพอเพียงก็จะช่วยฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเร็วขึ้น

ขอบคุณที่มาจาก : นิตยสารชีวจิต ปักษ์หลัง กุมภาพันธ์ 2556

Create Date :14 ธันวาคม 2557 Last Update :14 ธันวาคม 2557 20:36:16 น. Counter : 947 Pageviews. Comments :1