.+*+. ไดอารี่สีน้ำเงิน .+*+. เมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันได้รับพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาจากเพื่อนคนนึงเพื่อนซึ่งฉันทำเค้าหล่นหายไปกับกาลเวลานานพอดูเกือบปีที่ไม่ได้เจอะเจอกันเลยครั้งสุดท้ายฉันรู้จากเพื่อนอีกคนเพียงว่า เค้าป่วยแล้วลาออกจากงานแล้วพาตัวเองหนีความวุ่นวายของสังคมเมืองกลับไปช่วยกิจการของของที่บ้านที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัด ตราด...ฉันแกะกล่องพัสดุฯ แล้วฉันก็ได้พบ “ Diary สีน้ำเงิน” เล่มหนาที่ดูเหมือนผ่านการใช้งานมาอย่างหนักพร้อมกับข้อความที่เขียนด้ายปากกาเส้นเล็ก ๆ ว่า“สำหรับความรู้สึกที่ดี ของความเป็นเพื่อน” พร้อมกับลายเซ็นของตัวเอง ....นี่มัน Diary ของฉันที่เคยเขียนไปได้เพียงครึ่งหน้าและได้ให้กับเพื่อนคนนี้ในวันหนึ่งที่ฉันได้รับรู้เรื่องราวไม่สบายใจของเขาและพบว่าที่เขาเล่าให้ฉันฟังมันไม่ใช่ความทุกข์ที่เค้าอยากจะระบายออกมาทั้งหมด...ฉันเลยแนะนำให้เขาเขียนในสิ่งที่เขาอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้และให้บรรยายมันลงใน Diary ของฉันเล่มนี้ แล้วบอกเขาด้วยว่าถ้าวันนึงที่เขาไว้ใจเพื่อนอย่างฉันเขาคงเล่าความทุกข์ของเขาทั้งหมดให้ฉันได้รับรู้ฉันพลิกดู Diary สีน้ำเงินเล่มนี้อย่างคร่าว ๆ จากหน้าแรกจนหน้าสุดท้าย... ไม่หน้าเชื่อเพื่อนของฉันคนนี้เขียนมามันจนหมดทุกหน้า ...ไม่บ่อยครั้งนักที่ฉันจะได้เห็นผู้ชายมานั่งเขียนอะไรมากมายอย่างนี้..และในหน้าสุดท้าย ฉันก็พบรูปของตัวเองที่ถูกแปรเปลี่ยนมาเป็นที่คั่นหนังสือ กับข้อความหลังภาพที่ว่า“ หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อน ฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน”ฉันพลิกกลับมาที่หน้าแรก ตั้งต้นอ่านมันอย่างตั้งใจจากหนึ่ง เป็นสอง สาม และสี่ ..ตามลำดับเรื่อยมา ...ฉันได้พบชื่อของตัวเองบ่อยครั้งใน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้เหมือนกับเป็นการเล่าสู่กันฟังของเพื่อนกับเพื่อนเรื่องราวที่ฉันได้รับรู้จาก Diary หลายต่อหลายครั้งทำเอาฉันนั่งน้ำตาซึม ...ไม่น่าเชื่อนะ ผู้ชายแข็ง ๆ กระด้าง ๆที่มักจะทำอะไรให้คนอื่นได้ยิ้มได้หัวเราะอยู่ตลอดเวลาจะเก็บเอาอะไรมาคิดได้มากมายอย่างนี้....ฉันอ่านมันหน้าแล้วหน้าเล่า...แล้วฉันก็พบว่าเพื่อนที่ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จักเขามากพอดูมาวันนี้ฉันกลับรู้สึกว่าฉันไม่ได้รู้จักในตัวตนของเขาสักเท่าไหร่เลยฉันสัมผัสเค้าได้แค่เพียงเปลือกนอกที่เค้าแสดงออกมาให้คนอื่นได้รับรู้เพียงแค่นั้น...มีบางแง่มุมที่ไม่เคยได้รู้ ฉันก็ได้รู้บางเรื่องที่ฉันลืมไปอย่างไม่ได้ใส่ใจก็กลับมาอยู่ในความทรงจำอีกครั้ง ..ฉันได้อ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้ได้มากพอดู ถึงได้รู้ว่าสาเหตุที่เธอกลับมาอยู่ที่เกาะ มาช่วยกิจการที่บ้านเพราะอาการป่วยของเธอนั่นเองเธออยากกลับมาอยู่ใกล้ ๆ กลับมาดูแลแม่ของเธอในวาระสุดท้ายของตัวเอง ...หมอบอกเธอว่า โรคมะเร็งที่เธอเป็นอยู่มันจะทำให้เธอมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนักเธอไม่กล้าแม้แต่จะบอกเรื่องนี้กับแม่ซึ่งทำงานหนักมาทั้งชีวิตโดยที่ทั้งแม่และเธอไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแลจากผู้เป็นพ่อเลย..เธอกลัวแม่ของเธอรับไม่ได้ ..เธอไม่เคยบอกใครถึงสิ่งที่เธอเป็นอยู่ทางบ้านรับรู้เพียงว่าเธอสุขภาพไม่ดี ....ฉันนั่งนึกถึงแม่เธอที่เคยเจอะเจอเมื่อปีก่อน ผู้หญิงที่ดูเข้มแข็ง แกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แม่เธอบอกเสมอว่าที่ท่านอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเธอเธอเป็นกำลังใจในการต่อสู้และการดำเนินไปของชีวิต..... แม่เธอจะรับได้ไหมถ้าวันนึงรู้ว่า กำลังใจของแม่กำลังจะจากไป...ฉันรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เธอได้รับจากอาการข้างเคียงของโรคผ่านตัวหนังสือในDiary สีน้ำเงิน เธอเขียนไว้ว่า หลายต่อหลายครั้งที่เธอร้องไห้และคิดถึงเพื่อนอย่างฉัน ยิ่งช่วงท้าย ๆ ของ Diaryฉันได้เห็นชื่อของตัวเองบ่อยครั้งขึ้นบ่อยมากจนรู้สึกว่าเวลานั้นเธอคงอยากให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เธอจริง ๆแต่เธอไม่เคยโกรธที่ฉันห่างหายมาอย่างนี้ เธอบอกว่าเธอรู้ข่าวคราวและความเป็นไปของฉันตลอดจากเพื่อนอีกคนเธอรู้ว่าฉันเองก็มีเรื่องทุกข์ใจที่ต้องเผชิญอยู่เช่นกันเธอถึงไม่เคยเรียกร้องที่จะให้ฉันไปอยู่ข้างเธอยามนี้ ....ฉันอ่าน Diary สีน้ำเงินเล่มนี้จนจบ ข้อความท้าย ๆ ของ Diaryคล้ายจะเป็นการสั่งเสีย ..เหมือนเธอรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับเธอและเธอกำลังต้องการเพื่อนสักคนในเวลานี้ และคน ๆ นั้นก็คือฉัน“ หากเธอมองฉันผ่านมิตรภาพของความเป็นเพื่อนฉันก็คงเป็นได้แค่เพียงเพื่อน”แล้วฉันก็พบข้อความนี้อีกครั้ง มันเป็นข้อความสุดท้ายใน Diaryสีน้ำเงินเล่มนี้ ..ฉันอ่านมันจนจบ พร้อมกับปิดมันลงด้วยความรู้สึกผิดนานแค่ไหนแล้วที่ฉันทำเพื่อนคนหนึ่งหายไปกับกาลเวลานี่ฉันเป็นเพื่อนชนิดไหนกันนี่ยามที่เธอต้องการฉัน ฉันกลับห่างหายมาอย่างนี้ฉันขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ฉันสัญญาพรุ่งนี้ฉันจะกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีของเธอเหมือนก่อน กลับไปอยู่ข้างๆเธอยามที่เธอต้องการเพื่อนสักคน ....แล้วพรุ่งนี้ฉันจะรีบไปหาเธอแต่เช้ากลับไปทำหน้าที่ของเพื่อนที่พึงทำให้เพื่อน...ฉันสัญญา เธอคงกำลังรอฉันอยู่ ....วันนี้ฉันมาหาเธอที่บ้าน แต่สิ่งที่ฉันพบ ....คือร่างของเธอที่นอนสงบนิ่งอยู่ตรงหน้า...พบแม่ของเธอที่กำลังร้องไห้แทบขาดใจแม่โผเข้ากอดฉันเหมือนกำลังจะบอกว่า เธอไปแล้ว เธอจากไปแล้ว......ฉันมาช้าไป มาช้าไปจริง ๆฉันมาไม่ทันลมหายใจสุดท้ายของเธอด้วยซ้ำ ...แม่เธอเล่าให้ฉันฟังหลังจากงานศพของเธอผ่านไป ...แม่บอกว่าเธอมักจะพูดคุยถึงเรื่องราวของฉันให้แม่เธอได้รับรู้เสมอ...เมื่อไหร่ที่เธอรับรู้ว่าฉันกำลังทุกข์ก็ดูเหมือนเธอกำลังทุกข์ไปกับฉันด้วย..แม่เคยบอกให้เธอมาหาฉันแต่เธอปฏิเสธเพราะเธอไม่อยากให้ฉันเห็นเธอในสภาพก่อนที่เธอจะจากไปเธอกลัวว่าฉันจะเป็นห่วงเป็นกังวลไปกับเรื่องราวของเธอ..แม่เธอบอกกับฉันว่าเธอห่วงฉันมาก แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอเธอยังบอกกับแม่ว่าถ้าฉันมาที่บ้าน แสดงว่าฉันคงไม่ค่อยสบายใจ รู้สึกแย่กับชีวิต..ฉันถึงพาตัวเองมาหาทะเลมาหาเพื่อนอย่างเธอ...เธอฝากให้แม่ดูแลฉันแทนเธอด้วย ...น้ำตาฉันยังคงอาบแก้ม ขอบคุณ ขอบคุณสำหรับทุก ๆความห่วงใยที่เธอมีให้กันเสมอจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเธอทะเลหน้าบ้านเธอที่ฉันเคยบอกว่าเป็นทะเลที่สวยที่สุด วันนี้มันดูเศร้าไปถนัดตา ...หลับให้สบายเถอะเพื่อนฉันจะไม่มีวันลืมเพื่อนอย่างเธอไปได้เลย ..ฉันสัญญา...วันนี้ฉันนั่งสำรวจตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับถามตัวเองว่าฉันทำใครหล่นหายไปกับกาลเวลาอีกไหม ... แล้วถ้าฉันพบว่ามีฉันจะรีบกลับไปทวงถามให้เค้ากลับมาด้วยความรู้สึกดีๆและจะพยายามอย่างที่สุดที่จะรักษาเค้าไว้กับฉันตลอดไปปล . เครดิต คุณ Neyriney Create Date :10 พฤษภาคม 2551 Last Update :11 พฤษภาคม 2551 15:33:55 น. Counter : Pageviews. Comments :0 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก