bloggang.com mainmenu search
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดีเดย์ใช้ 3 มาตรการสกัดหุ้นร้อนวันทำการแรกของเดือนมกราคม 2558 ส่อแววเพิ่มมาตรการควบคุมหากราคาเคลื่อนไหวผิดปกติโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ สามารถสั่งยุติการซื้อขายทันที ด้านนักวิเคราะห์คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ก่อนหยุดยาวส่งท้ายปีเก่า มีแนวโน้ม SideWay Up

       นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เปิดผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์สมาชิก และบริษัทหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่สมาชิกทุกบริษัท เรื่อง การปรับรุงมาตรการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาด และเรื่องเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว ตามที่ได้เสนอคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. 3 แนวทาง จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2558 เป็นต้นไป

       โดย 3 มาตรการดังกล่าวประกอบด้วย 1.หุ้นที่ติด Trading alert list ต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ (Cash Balance) เป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ 2.หากหุ้นติด Trading alert list ครั้งที่ 2 ต้องมีการวางหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ 3. หากหุ้นที่ติด Trading alert list ครั้งที่ 3 จะกำหนดห้ามใช้ NET SETTLEMENT

       “เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลการซื้อขายให้เหมาะสมกับสภาวะโดยรวม และเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันอาจจะเกิดต่อผู้ลงทุน และระบบซื้อขายโดยรวมโดยเมื่อสภาพการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดปกติหรือมีการซื้อขายกระจุกตัวจนอาจส่งผลเสียหายต่อสภาพการซื้อขาย ตลท.อาจมีคำสั่งห้ามซื้อ-ขายในทันที” นายสุภกิจ กล่าว

       นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) กับ Bank of China เพื่อสานความร่วมมือในการขยายการรับรู้เกี่ยวกับภาคตลาดทุนไทยไปยังกลุ่มผู้ลงทุนจีน การนำบริษัทจีนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุนไทย รวมทั้งยังมีความร่วมมือกันในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการลงทุน ที่มีความเป็นสากล อาทิ การส่งเสริมพัฒนาการของธุรกรรมเงินหยวนนอกประเทศจีน (Offshore RMB) ในตลาดทุนไทย ซึ่งประกอบด้วยการศึกษาและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเงินหยวน และความเป็นไปได้ในการออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสกุลเงินหยวน (RMB denominated futures) และความร่วมมือด้านอื่นๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูล การศึกษาดูงาน เป็นต้น

       รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดตลาดวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ไปที่ 1,531.17 จุด ลดลง 5.66 จุด เปลี่ยนแปลง -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 37,001.09 ล้านบาท โดยดัชนีขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,539.23 จุด และต่ำสุดของวันที่ 1,525.35 จุด นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,252.42 ล้านบาท บริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 1,584.88 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 613.03 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 2,224.26 ล้านบาท

       นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งทั้งแดนบวก-ลบสลับกัน โดยหุ้นในกลุ่มน้ำมันมีการเหวี่ยงตัว โดยช่วงเช้าปรับตัวลงไป แต่ในช่วงบ่ายก็มีการรีบาวน์ขึ้นมาได้บ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ตลาดฯได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเข้ามาในกลุ่ม ICT, การบริโภค และแบงก์ รวมถึงได้แรงหนุนจากกองทุน LTF, RMF และทริกเกอร์ ฟันด์ สำหรับ แนวโน้มการลงทุนวันนี้ (24 ธ.ค.) คาดว่าตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ พร้อมให้แนวรับ 1,525-1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,548-1,551 จุด

       สอดคล้องนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธการลงทุน บล.ธนชาต เปิดเผยว่า คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ต่อเนื่องจน 2 สัปดาห์ก่อนหยุดยาวส่งท้ายปีเก่า จนถึงช่วงต้นปีใหม่มีแนวโน้มแกว่งตัวขึ้น หรือ SideWay Up เพราะในสัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวลดลงลึก ทำให้คาดว่าในช่วงการซื้อขายจังหวะนี้ เป็นช่วงที่ SET กำลังอยู่ระหว่างการสร้างฐานขึ้นมาใหม่

       ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุน สะสมหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มสื่อสาร และธนาคารพาณิชย์ โดยประเมินว่าหุ้นขนาดใหญ่ น่าจะได้รับผลประโยชน์จากเม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เข้ามาสนับสนุนในช่วงท้ายปีพร้อมประเมินแนวรับอยู่ที่ 1520 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1550 จุด
Create Date :24 ธันวาคม 2557 Last Update :24 ธันวาคม 2557 8:33:47 น. Counter : 683 Pageviews. Comments :0