ผู้จัดการ ตลท.เผยเหตุหุ้นไทยดิ่งลงกว่า 67 จุด จากความตึงเครียดด้านปัญหาชุมนุมการเมือง และการหั่นเป้า GDP จากเดิม 3% เหลือเพียง 2% นักลงทุนจึงขาดความเชื่อมั่น ประกอบกอบกับเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging markets) เริ่มฟื้นตัว จึงย้ายฐานเงินเลี่ยงความเสี่ยงไปลงทุน ฟุ้งไม่หวั่น กปปส.ประกาศนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 13 เชื่อไม่มีเหตุการณ์รุนแรง พร้อมรับมือสถานการณ์

       นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองที่ทวีความรุนแรงเพิ่ม มากขึ้น จึงส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดวันนี้(2 ม.ค.)ที่ปิดตลาดดัชนี SET INDEX ปรับตัวลดลงไปกว่า 67.94 จุด หรือ -5.23% ซึ่งนอกเหนือจากสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองแล้ว ยังมีในส่วนของประเด็นความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนต่างชาติ ที่ปรับลด ประมาณการทางเศรษฐกิจลดลง จากเดิมที่อยู่ที่ประมาณ 3% ลดลงมาอยู่ที่ 2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ และในช่วงนี้จะครบกำหนดอายุของฤดูการขายกองทุน LTF

       อย่างไรก็ดีในปีที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศได้ขายหุ้นไทยไปแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging markets) มี ความดึงดูดในการเข้าไปลงทุนมากกว่า ซึ่งสวนทางกับประเทศไทยที่อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองทำให้มีความเสี่ยงในการลงทุนสูง ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว นักลงทุนต่างประเทศที่ไม่รีบร้อนในการลงทุน จึงยังชะลอการลงทุนออกไปก่อน ในขณะที่นักลงทุนส่วนบุคคล และกองทุนต่างทยอยขายออก เพื่อทำกำไร อย่างไรก็ตามโดยปัจจัยพื้นฐานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือ P/E ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 11 เท่าจากเดิมที่ 13  เท่า ซึ่งหาก มองในระยะยาวถือเป็นโอกาสดีที่น่าลงทุนเข้าซื้อในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีปันผลสูง จากดัชนี SET INDEX ที่ปรับตัวลดลงที่เกิดจากแพนิกเซลส์ในวันนี้ ส่วน ปัญหาความขัด แย้งทางการเมืองที่คาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากมีผู้สมัครไม่ครบ 95%

"ขณะเดียวกันจากปัจจัยค่าเงินบาทที่ผันผวนอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการเลือกลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ โดยนักลงทุนจะพิจารณาเลือกเข้ามาลงทุนยังประเทศ ที่มีเงินแข็งค่า ซึ่งถ้าหากเงินบาทของไทยยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องไปเรื่อยๆคาดว่าจะกระทบต่อการค้าการลงทุนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ความ ผันผวนของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ ขอให้นักลงทุนปรึกษากับโบรกเกอร์เพื่อการรับมือความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และไม่ควรวิตกกังวลกับข่าวลือที่เกิดขึ้นมากจนเกินไปนัก"

       ในส่วนของการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 มกราคมนี้ ตลท.ได้เตรียมความพร้อมเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ โดยจะอำนวยความสะดวกกับนักลงทุนในการซื้อขายหุ้นตามปกติ ซึ่งหากไม่มีอะไรที่ร้ายแรงเกินกว่าที่จะควบคุมได้ โดยแจ้งต่อ ก.ล.ต. ธนาคารแห่งประเทศไทย และ รอง นายกรัฐมนตรีให้รับทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


//manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9570000000646