ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 4 ปีครึ่งในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และจากรายงานธุรกิจในภาคเอกชน ซึ่งรวมถึง รายงานจากเจเนอราลี ซึ่งเป็นบริษัทประกันของอิตาลี

ทั้งนี้ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดพุ่งขึ้น 87.46 จุด หรือ 1.1% สู่  8,058.37, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดทะยานขึ้น 35.54 จุด หรือ 0.93% สู่  3,871.58 และดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดพุ่งขึ้น 13.72 จุด  หรือ 1.15% สู่ 1,207.83 โดยจุดสูงสุดของวันพฤหัสบดีถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2008

ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกดิ่งลง 10,000 ราย สู่ 332,000 รายใน ช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 มี.ค.

หุ้นเจเนอราลี ซึ่งเป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่อันดับ 3 ของยุโรปพุ่งขึ้น  9.4% ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่สูงถึง 3 เท่าของค่าเฉลี่ย 90 วัน หลังจาก เจเนอราลีประกาศแผนสะสางงบดุลเพื่อฟื้นฟูประสิทธิภาพในการทำกำไร, หุ้นบริษัท K+S ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองเกลือของเยอรมนีพุ่งขึ้น 1.86%  หลังจากทางบริษัทปรับขึ้นแนวโน้มตลอดทั้งปี, หุ้นอีริคสันซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของสวีเดนพุ่งขึ้น 2.39% และหุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมของฝรั่งเศสทะยาน ขึ้น 2.58% โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มที่จะมีการลงทุนขนาดใหญ่ในเทคโนโลยี สื่อสารไร้สายในจีน

//www.kaohoon.com/