หุ้นปิดร่วงอีก 16.80 จุด โดยมีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงจากทั้งประเด็นการเมืองภายใน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศกดดัน แม้จะมีแรงซื้อเก็งกำไรเฟดคงมาตรการคิวอีเข้ามาช่วยหนุน แต่สถานการณ์ทางการเมืองก็ยิ่งเพิ่มความกดดัน ทั้งกรณีเกิดความรุนแรงต่อเนื่อง และการตั้ง กก.สอบนายกฯ ทุจริตจำนำข้าว

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,271.79 จุด ลดลง 16.80 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.30% มูลค่าการซื้อขาย 29,585.29 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 300.92 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 661.42 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,236.71 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศซื้อสุทธิ 4,199.05 ล้านบาท

       นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ตลาดในภาคบ่ายมีแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงจากทั้งประเด็นการเมืองภายใน และความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศกดดัน แต่ในระหว่างวันเรายังเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วง 2 วันนี้ (28-29 ม.ค.) อาจจะยังไม่มีการปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และบางส่วนกล้าที่จะเข้ามาซื้อเก็งกำไร

       ขณะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้รวมกรณีคำร้องคดีอาญา และคำร้องขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในเรื่องโครงการจำนำข้าวให้ไต่สวนในคราวเดียวกัน และให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน และจะดำเนินให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป

       โดยก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กรณีถูกกล่าวหาละเลยไม่ดำเนินการ ระงับยับยั้งการดำเนินโครงการจำนำข้าว ซึ่งเป็นเรื่องคดีอาญาไปแล้ว

       ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำนวน 146 คน ได้ร้องขอให้ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกจากตำแหน่ง ในการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าว โดยระบุว่า ทำให้เกิดผลขาดทุน กระทบต่อการส่งออกข้าว โดยกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

       เมื่อกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะเป็นประธาน กขช. ซึ่งเป็นผู้ดูแลนโยบายสูงสุดในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลไปดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป