หุ้นไทยปิดบวก 6.24 จุด อยู่ที่ระดับ 1,455.86 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียงเบาบางเพียง 23,963.87 ล้านบาท โบรกฯ คาดปัญหาการเตรียมยื่น พ.ร.บ. นิรโทษกรรมแบบสุดซอยเข้าที่ประชุมสภา ส่งผลต่อบรรยากาศความเชื่อมั่นนักลงทุน

       ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (29 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1,455.86 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.24 จุด หรือ+0.43% มูลค่าการซื้อขาย 23,963.87 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,456.77 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,446.59  จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงจากแนวโน้มความกังวลต่อ พ.ร.บ. นิรโทษกรรมที่เตรียมเข้าที่ประชุมสภาในวาระที่ 2 ซึ่งเลื่อนมาประชุมในวันที่ 31 ตุลาคมนี้

       หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น จำนวน 354 หลักทรัพย์ ลดลง 269  หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 221 หลักทรัพย์

       การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า   นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 416.44  ล้านบาท  ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ -113.45  ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ -268.54 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ -34.45 ล้านบาท  

       หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
       TRUE  ปิดที่ 9.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.25 บาท หรือ +2.78% มูลค่าการซื้อขาย 2,056,797 ล้านบาท
       JAS  ปิดที่ 9.70  บาท เพิ่มขึ้น +0.45 บาท หรือ +4.86%  มูลค่าการซื้อขาย 1,293,417 ล้านบาท
       PTT  ปิดที่ 316.00 บาท ลดลง -1.00 บาท หรือ -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 1,168,592 ล้านบาท
       ADVANC  ปิดที่ 257.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท หรือ +0.39% มูลค่าการซื้อขาย 783,134 ล้านบาท
       AOT  ปิดที่ 214.00  บาท เพิ่มขึ้น +2.00 บาท หรือ +0.94% มูลค่าการซื้อขาย 684,755 ล้านบาท

       นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในภาวะตึงเครียดจากปัญหาด้านการเมือง ในประเด็นการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสภา โดยเลื่อนวาระการพิจารณาเข้ามาในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะลงทุนในขณะนี้ และต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนอาจทำให้เกิดแรงสะท้อนตอบสนองต่อตลาดหุ้นมากขึ้น และอาจออกมาในทางลบได้

“อย่างไรก็ดี ตามวาระการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ คาดว่ามาตรการ QE จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับอัตราดอกเบี้ย และการรักษาเม็ดเงินเพื่อจัดซื้อพันธบัตรต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งนักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุน และควรปรับพอร์ตการลงทุนในการซื้อขายหุ้นที่มีกระแสเข้ามา เช่น หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับดิจิตอลทีวี  และหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการดีในครึ่งปีหลัง ซึ่งถือว่าเป็นการกระจุกตัวของหุ้นในระยะสั้น”

       ทั้งนี้ มองว่าแนวโน้มดัชนี SET INDEX ในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) คาดว่าแนวรับจะอยู่ที่ 1,430 จุด และแนวต้านที่ 1,460 จุด




//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000135094