bloggang.com mainmenu search
หุ้นไทยฟื้นตัวสั้นทางเทคนิค ดัชนีปรับรีบาวนด์ 5 จุด เนื่องจากตลาดร่วงต่อเนื่องถึง 5 วัน เข้าใกล้จุดขายมากเกินไป ชี้การเมืองยังกดดัน เพราะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นักวิเคราะห์ยอมรับตลาดไม่กลัวปิดล้อมสถานที่สำคัญ แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ การใช้ความรุนแรง เผยต่างชาติเทขายหนักสุดวันเดียว 9.2 พันล้าน คาดแนวโน้มพรุ่งนี้ผันผวน

       ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 พ.ย.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,358.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.83 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.43% มูลค่าการซื้อขาย 50,172.06 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นหลักของกลุ่มเทคโนโลยี และพลังงาน หนุนให้ดัชนีปิดตัวในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน แม้จะมีแรงขายหนักจากนักลงทุนต่างชาติ

       ด้านสัดสว่นผู้ลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 9.2 พันล้าน นักลงทุนรายย่อย ซื้อสุทธิ 4.2 พันล้าน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 3.5 พันล้าน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1.4 พันล้าน

       น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นการขึ้นตามสัญญาณเทคนิค หลังจากดัชนีร่วง 5 วันทำการใกล้จุดขายมากเกินไป ซึ่งระหว่างวันที่ขึ้นมา 14 จุด แต่ไมสามารถยืนได้ เนื่องจากตลาดยังไร้ทิศทางไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การประเมินสถานการณ์ค่อนข้างยาก

       “ตลาดหุ้นไม่กลัวการปิดล้อมยึดสถานที่สำคัญๆ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว ซึ่งหากเป็นการชุมนุมโดยสงบก็ไม่น่าจะมีปัญหาที่น่ากังวล แต่สิ่งที่น่ากลัว คือ กลัวความรุนแรงที่เกิดขึ้น และการประเมินสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากในขณะนี้”

       ด้านนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต มองว่า การที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ เป็นการทำเทคนิคเคิลรีบาวนด์ในช่วงสั้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์การเมืองจะจบอย่างไร จึงคงกดดันตลาดฯ อยู่ต่อไป ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดอินโดนีเซีย ปรับลงมากถึง 2% ซึ่งเวลานี้ปัจจัยนอกประเทศไม่มีประเด็นสำคัญ

       สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดฯ คงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,330-1,340 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,375-1,380 จุด ซึ่งหากตลาดฯ ยืนแถว 1,380 จุดได้จะทำให้ทิศทางดูดีขึ้น

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

       BTS มูลค่าการซื้อขาย 4,390.53 ล้านบาท ปิดที่ 8.80 บาท ลดลง 0.35 บาท

       TMB มูลค่าการซื้อขาย 3,100.56 ล้านบาท ปิดที่ 2.58 บาท ลดลง 0.10 บาท

       BAY มูลค่าการซื้อขาย 2,822.83 ล้านบาท ปิดที่ 38.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

       KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,625.84 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท ลดลง 1.50 บาท

       JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,932.58 ล้านบาท ปิดที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000146882
Create Date :26 พฤศจิกายน 2556 Last Update :26 พฤศจิกายน 2556 21:51:22 น. Counter : 587 Pageviews. Comments :0