bloggang.com mainmenu search
หุ้นไทยปิดลบ 6 จุด ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเมือง โดยมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์เข้ามา หลังทราบข่าวม็อบยึดกระทรวงการคลังสำเร็จ ส่งผลให้ดัชนีฯ ไม่ปรับลงลึก

       ภาะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 พ.ย.) ดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,352.86 จุด ลดลง 6.21 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 32,181.18 ล้านบาท โดยมีแรงขายนำออกมาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และพลังงาน ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศที่กดดันต่อภาพรวมการลงทุน อย่างไรก็ตามแรงซื้อที่มีเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารช่วยประคองไม่ให้ดัชนีปรับลงมากนัก

       ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1.4 พันล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 1.7 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 110 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 362 ล้านบาท

       นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ดัชนีหุ้นในช่วงท้ายตลาดปรับตีตื้นขึ้นมาได้ เนื่องจากมองว่าตลาดหุ้นปรับลดลงแรงตอบสนองประเด็นการเมืองเกินไป เมื่อมีการบุกยึดกระทรวงการคลัง และไม่มีเหตุรุนแรง ทำให้มีแรงซื้อกลับในกลุ่มแบงก์ และพลังงานตัวใหญ่ ขณะที่นักลงทุนรายย่อยหันไปเล่นหุ้นไอพีโอกันอย่าคึกคัก ช่วยเป็นแรงพยุงดัชนี อย่างไรก็ตาม การเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนของตลาดหุ้นไทยในขณะนี้

       ทั้งนี้ ประเมินว่าดัชนีหุ้นในวันพรุ่งนี้ (26 พ.ย.) มีโอกาสฟื้นตัว หากในคืนนี้การชุมนุมไม่ได้มีพัฒนาการไปสู่ความรุนแรง แต่การฟื้นตัวเป็นไปในกรอบจำกัด และยังคงมีความผันผวนอยู่ เพราะการเมืองยังไม่มีข้อยุติ โดยมองกรอบแนวรับที่1,345 จุด และแนวต้านที่ 1,365 จุด

       นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง สวนทางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดฟิลิปปินส์ที่ยังอ่อนแอ โดยตลาดบ้านเรายังคงถูกครอบงำในทางลบจากปัจจัยทางการเมืองสร้างความกดดัน

       อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสฟื้นดีขึ้นได้บ้างในระหว่างเทรด หลังช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดฯอ่อนตัวลงมาก ซึ่งเป็นการตอบรับสถานการณ์ทางการเมืองไปล่วงหน้าแล้ว และสถานการณ์การเมืองตอนนี้ไม่ได้ถึงขั้นที่คิดไว้

       แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ เชื่อว่าตลาดยังมีโมเมนตัมที่จะฟื้นตัวได้ แต่คงจะไม่มาก และอาจจะมีการเหวี่ยงระหว่างเทรดได้อีก ซึ่งอยู่ภายใต้ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรง แต่ทั้งนี้ยังไม่ไว้วางใจม็อบ คงจะต้องติดตามดูเหตุการณ์ต่อไป พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,345-1,365 จุด

       นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาลได้เคลื่อนการชุมนุมไปยังจุดสำคัญต่างๆ ทั้งหน่วยงานด้านสื่อมวลชนและสถานที่ราชการ ที่กำหนดไว้ 13 จุด ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ขณะที่ตัวเลขการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติยังคงมีการขายสุทธิออกจากตลาดหุ้นไทย

       สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ถือว่ายังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทย ซึ่งในสัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่ควรต้องติดตาม คือ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 26 -27พ.ย.นี้ และมีการลงมติในวันถัดไป ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นการอภิปราย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

       ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนให้ชะลอการลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากประเมินว่ายังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนการลงทุน โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,340 จุด และแนวต้านที่ 1,360 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

       1.NYT ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +12.61% มูลค่าการซื้อขาย 4,388 ล้านบาท

       2.TRUE ปิดที่ 8.65 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ -0.57% มูลค่าการซื้อขาย 1,491 ล้านบาท

       3.SCB ปิดที่ 160 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือ +2.56% มูลค่าการซื้อขาย 1,435 ล้านบาท

       4.KBANK ปิดที่ 172.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.88% มูลค่าการซื้อขาย 1,335 ล้านบาท

       5.PTT ปิดที่ 293 บาท ลดลง 4 บาท หรือ3.SCB ปิดที่ 160 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือ +2.56% มูลค่าการซื้อขาย 1,435 ล้านบาท


//www.manager.co.th/iBizchannel/viewNews.aspx?NewsID=9560000146425
Create Date :25 พฤศจิกายน 2556 Last Update :25 พฤศจิกายน 2556 21:20:05 น. Counter : 604 Pageviews. Comments :0