คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น



โนเกีย (Nokia) ดับเครื่องชนโทรศัพท์มือถือราคาประหยัดระบบปฏิวัติการแอนดรอยด์ (Android) เปิดตัว Asha 501 โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสที่ลบเส้นแบ่งระหว่างฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟนให้บางลงอีก เพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่เหนือกว่า Asha รุ่นก่อนบนระบบปฏิบัติการ Series 40 ของโนเกียที่นำมาปรับปรุงใหม่จนเป็น"แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์สำหรับ Asha" โดยเฉพาะ วางจำหน่ายราคาบาดใจ 99 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 3,000 บาท

       การเปิดตัว Asha 501 ถือเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้สินค้าของโนเกียนอกเหนือจากกลุ่ม Lumia ที่ทำตลาดไฮเอนด์อยู่ ขณะเดียวกันก็สะท้อนว่าโนเกียต้องการรั้งผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่หรือ emerging market ไม่ให้หันไปอัปเกรดโทรศัพท์ทั่วไปของตัวเองมาเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ สิ่งที่โนเกียทำคือการสร้าง Asha 501 ให้สามารถทำงานได้เหมือนกับฟังก์ชันพื้นฐานของสมาร์ทโฟน ทั้งการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการใช้งานแอปพลิเคชันอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook)

โนเกียระบุว่า Asha 501 จะเริ่มทำตลาดในเดือนมิถุนายนนี้ โดยจะวางจำหน่ายผ่านโอเปอเรเตอร์และตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 60 ราย ครอบคลุมตลาด 90 ประเทศทั่วโลก

       Asha 501 มาพร้อมหน้าจอ QVGA ขนาด 3 นิ้ว (ความละเอียด 320 x 240) ไม่มีข้อมูลหน่วยความจำแต่ผู้ซื้อจะได้รับการ์ด microSD ขนาด 4GB ทุกคน โดยตัวเครื่องสามารถรองรับการ์ดได้สูงสุด 32GB ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งรุ่นซิมเดียวและ 2 ซิม (ใช้ micro-SIM) ซึ่งโนเกียยืนยันว่าเครื่องมีคุณสมบัติ hot-swappable ให้สามารถดึงซิมออกและทำงานต่อได้โดยไม่ต้องปิดโทรศัพท์

อย่างไรก็ตาม Asha 501 ไม่รองรับ 3G โดยจะรองรับเฉพาะ 2G และ WiFi เครื่องมาพร้อมกล้องดิจิตอล 3.2 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟลชและไม่มีกล้องหน้า

       จุดที่น่าสนใจของ Asha 501 คือปุ่มกดเดียวที่ติดไว้ใต้หน้าจอ ผู้ใช้สามารถกดปุ่มนี้เพื่อย้อนดูการทำงานผ่านแอปพลิเคชันที่เคยเปิดใช้งาน ทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องตั้งต้นใหม่ที่ปุ่มโฮมหรือเมนูหน้าหลักทุกครั้ง ผลจากคุณสมบัติส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่บนแพลตฟอร์มล่าสุดของโนเกีย

       Asha 501 ยังรักษาธรรมเนียมของโทรศัพท์มือถือตระกูล Asha ทุกรุ่นที่ใช้ Series 40 เป็นระบบปฏิบัติการต่อไป แต่ความพิเศษคือระบบปฏิบัติการบน Asha 501 นั้นใช้แพลตฟอร์ม Asha เวอร์ชันใหม่ซึ่งเป็นผลจากการซื้อบริษัท Smarterphone เมื่อปี 2012 สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Series 40 ใน Asha 501 ที่โนเกียตั้งชื่อเรียกโดยเฉพาะว่าแพลตฟอร์ม Asha นั้นมีการปรับเพิ่มคุณสมบัติหลายจุด เช่นการสร้างฟีเจอร์แสดงผลแบบประหยัดพลังงาน ซึ่งยังสามารถแสดงเวลาและการแจ้งเตือนได้เช่นเดิม แต่มีการจัดการพลังงานจนทำให้โทรศัพท์มือถือทัชสกรีนสามารถสแตนด์บายได้นาน 48 วันต่อการชาร์จครั้งเดียว (หรือ 26 วันสำหรับเครื่อง 2 ซิม) หากผู้ใช้แตะหน้าจอ 2 ครั้งหรือกดปุ่มเปิดปิดเครื่อง จึงสามารถปลุกการทำงานของโทรศัพท์สู่โหมดพร้อมใช้งาน

       นอกจากนี้ ผู้ใช้ Asha 501 ยังสามารถเลื่อนอ่านการแจ้งเตือนจากหลายแอปพลิเคชันได้โดยที่ไม่ต้องเปิดเข้าแอปพลิเคชันนั้นโดยตรง เช่น การข้ามไปอ่านข้อความ SMS ร่วมกับการควบคุมโปรแกรมเล่นเพลง ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการเปิดแอปพลิเคชันใดๆ จุดนี้รายงานระบุว่าโนเกียกำลังนำคุณสมบัติลักษณะนี้มาติดในสมาร์ทโฟนตระกูลวินโดวส์ผ่านชุดอัปเดท GDR2 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้

Asha 501 จะติดตั้งบางแอปพลิเคชันมาให้จากโรงงาน เช่น Facebook, Twitter และแอปพลิเคชันอื่นๆในช่วง 2-3 เดือนนับจากนี้ โดยโนเกียเชื่อว่าแอปพลิเคชันยอดนิยมที่รองรับระบบปฏิบัติการ Series 40 มากกว่า 90% จะถูกแปลงหรือพอร์ตมาสู่แพลตฟอร์ม Asha ซึ่งได้แก่ WhatsApp, LINE และบริการนำทาง Here ของโนเกียเอง

       งานนี้โนเกียจับมือพันธมิตรรายใหญ่อย่าง EA เพื่อให้ผู้ซื้อ Asha 501 สามารถดาวน์โหลดเกมได้ฟรี 40 เกมในช่วง 60 วันแรกที่เป็นเจ้าของเครื่อง ถือเป็นเกมการตลาดที่น่าสนใจไม่น้อย

ทั้งหมดนี้โนเกียระบุในแถลงการณ์ว่า โนเกียจะเอาจริงกับการจำหน่าย Asha และหวังว่าจะจำหน่าย Asha รุ่นใหม่มากกว่า 100 ล้านเครื่องในช่วงไม่กี่ปีนับจากนี้ โดยจะเริ่มที่ Asha 501 ประเดิมตลาดก่อนเป็นรุ่นแรก

       ผู้สนใจสามารถชมวิดีโอแนะนำ Asha 501 รุ่นซิมเดียวได้จากด้านล่าง :