bloggang.com mainmenu search


ท่ามกลางสงครามสมาร์ทโฟนในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอ-โมบาย กลายเป็นค่ายเดียวในงาน 'ไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2013 ไฮเอนด์' ที่ไม่เกิดเหตุการณ์ดีลเลอร์ตัดราคาขายสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง พร้อมทำยอดขายทะยานขึ้นสู่อันดับ 4 ไปได้อย่างสวยงาม ด้วยแรงผลักดันจาก IQX และ IQ9 ที่ถูกจริตคนไทยเต็มเปา

       โดยทางผู้จัดงานระบุว่า ในงานเทรดแฟร์ทั่วไปมักจะเกิดปรากฏการณ์ที่ผู้ขายแต่ละรายยอมหั่นกำไรของตัวเอง เพื่อปรับลดให้ราคาสินค้าถูกกว่ารายอื่นๆเป็นเรื่องปกติ เพราะจากประสบการณ์ในการจัดงานหลายครั้งที่ผ่านมาก็พบเจอเหตุการณ์เหล่านี้อยู่เรื่อยๆ เพียงแต่มีจุดที่น่าสนใจในครั้งนี้คือสมาร์ทโฟนแบรนด์ไทยอย่างไอ-โมบาย กลับไม่โดนคู่ค้าตัดราคาจำหน่ายแต่อย่างใด

       ในขณะที่อินเตอร์แบรนด์ทั้งหลาย ไล่ตั้งแต่พี่ใหญ่อย่างซัมซุง ภายในงานดังกล่าวได้มีการปรับราคาจำหน่ายของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปอย่าง Galaxy S4 ลงต่ำสุดเหลือ 18,900 บาท จากราคาเปิดตัวที่ 21,900 บาท ในขณะที่ Note 8 จาก 15,200 บาท เหลือ 14,200 บาท ส่งผลให้เครื่องทั้ง 2 รุ่นนี้มียอดจำหน่ายสูงสุดภายในงานครั้งนี้

       ไม่เว้นแม้แต่โนเกีย ที่ตัดราคาจำหน่าย Lumia 820 เหลือระดับราคา 12,000 บาท จากเครื่องที่วางจำหน่ายทั่วไปอยู่ที่ราวๆ 16,000 บาท เอชทีซี เองก็มีการปรับลดราคาสมาร์ทโฟนหลายรุ่นทั้งในส่วนของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8 อย่าง HTC 8X และ HTC 8S ไม่นับรวมกับ One SV และรุ่นอื่นๆที่อยู่ในช่วงกลางของตลาดก็มีการปรับราคาลงอย่างชัดเจน

แต่สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ ไอ-โมบาย IQX โดดเด่นที่เป็นเครื่องที่มีดีไซน์สวย บางเบา ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ส่วน IQ 9 ขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่นใช้ซีพียูควอดคอร์ 1.2 GHz RAM 1 GB กล้องหลัง 18 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ความละเอียดหน้าจอ 720p วางจำหน่ายในราคา 9,490 บาท และ 9,990 บาท

       จุดนี้กลายเป็นกำไรให้แก่ผู้บริโภคที่ใช้ความพยายามในการเสาะแสวงหาดีลเลอร์รายที่ให้ราคาและของแถมดีที่สุด ทำให้ได้สินค้าในระดับราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ซึ่งในอีกมุมหนึ่งก็แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ และอุปทานของสินค้าในช่วงที่แบรนด์พยายามผลักดันสินค้าเข้ามามากเกินความต้องการของตลาด

สุภสิทธิ์ รักกสิกร หัวหน้าคณะผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนที่กำลังร้อนแรงในปัจจุบันว่า ไอ-โมบาย มองเห็นช่องว่างของสินค้าในช่วงระดับราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาท ที่ยังไม่มีอินเตอร์แบรนด์รายใดสามารถนำเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่ากันมาวางจำหน่ายได้ ทำให้กลายเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคคนไทยกำลังต้องการจากเหล่าผู้ผลิตในแง่ของความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายออกไป ดังนั้นเมื่อมีสินค้าของไอ-โมบายที่ตรงกับความต้องการของตลาดก็ไม่จำเป็นที่ผู้ขายจะต้องทำการดัมป์ราคาลงไปเพื่อให้เร่งการขายเครื่องแต่อย่างใด

"ถ้าสินค้ายังไม่พอขายคงไม่มีผู้ขายรายใด ยอมลดราคาสินค้าลงเพื่อหั่นกำไรของตนเองอยู่แล้ว และเชื่อว่าการแข่งขันทางด้านราคาจะกลับมาดุเดือดจริงๆอีกครั้งในช่วงปลายปีที่มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในตลาด"

       หรือถ้ามองในอีกด้านหนึ่งการที่ทางไอ-โมบาย ไม่มีการปรับลดราคาในเร็วๆนี้ อาจจะเกิดจากการกำหนดราคาขายในระดับที่ไม่สามารถปรับลดได้อีก เพื่อให้สามารถครองใจผู้บริโภคได้ แต่ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีมีต้นทุนต่ำลง ก็จะสามารถสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทในระยะยาวได้เช่นเดียวกัน

กลับกันในมุมของซัมซุง เนื่องจากมีกำลังผลิตสินค้าที่เพียงพอกับความต้องการในตลาด ส่งผลให้สามารถกระจายสินค้าไปได้ครอบคลุมทั่วประเทศล่วงหน้าก่อนงานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ ภาระจึงมาตกกับดีลเลอร์ที่รับเครื่องจากซัมซุงเพื่อหวังนำมาขายดิบขายดีภายในงาน แต่กลับไม่ลื่นไหลอย่างที่คาดจึงต้องมีการปรับลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดภายในงานกัน

       เหตุการณ์เหล่านี้คงไม่แปลกประหลาดเท่าไหร่ถ้าเกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายทิ้งระยะมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่กับ Galaxy S4 ที่ถือเป็นแฟลกชิปของซัมซุงในการลุยตลาดช่วงกลางปี ซึ่งเพิ่งเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเท่านั้น กลับมีการหั่นราคาลง 3,000 บาท จากคู่ค้าแม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เกิดผลกระทบตามมาถึงใจของผู้ที่กำลังวางแผนจะซื้อแน่นอนว่า ในเมื่อมีคนได้ราคาที่ต่ำกว่าราคาขายปกติ แล้วทำไมถึงต้องไปเสียเงินซื้อเต็มราคา

       ซึ่งถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงหลังๆ ซัมซุงไม่เคยพลาดในการกำหนดราคาสินค้าระดับแฟลกชิป เนื่องมาจากเคยมีบทเรียนสำคัญที่มีการปรับราคา Galaxy Tab ลดในช่วงเวลาสั้นๆ จนต้องมีการชดเชยให้แก่ผู้บริโภคกลุ่มหนึ่งที่มาร้องเรียน ขณะที่ Galaxy S3 ก็สามารถยืนราคาจำหน่ายที่ 21,900 บาท ได้เกือบปี ต่อจากนี้คงต้องจับตาดูกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคาขายในระยะยาวของ Galaxy S4 หรือไม่


//www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000064422
Create Date :01 มิถุนายน 2556 Last Update :1 มิถุนายน 2556 21:11:02 น. Counter : 5949 Pageviews. Comments :0