|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
~*~ บานไม่รู้โรย ~*~
| ~*~ บานไม่รู้โรย ~*~
๐ เดือนครึ่งดวงลอยเลื่อนขึ้นเยือนฟ้า เอื้อแสงนวลอาบหล้าอันพร่าหม่น เงาตะคุ่มพุ่มไม้ยอดใบบน สะบัดวนสั่นไหวอยู่ในคราว-
๐ ลมเหนือโชยโบยโบกโลมโลกแล้ว ผ่อนสายแผ่วรวยรื่นในคืนหนาว เถอะยามดึกหยาดน้ำจะฉ่ำพราว เกาะพรรณราวแพเพชรเป็นเม็ดพราย
๐ รอแสงแรกแทรกลำในย่ำรุ่ง จะทอรุ้งวาบวับก่อนลับหาย ถูกแสงแดดแผดพลอดจนวอดวาย มอบความงามสุดท้ายในสายนั้น
๐ สงสารช่อมาลีแต่นี้เฉา ต้องลมเคล้าห้อมเห่อยู่เหหัน ปลิดกลีบดอกร่อนคว้างแต่กลางวัน โดยมิทันผลัดทิวาสู่ราตรี
๐ ก่อนผ่านคาบภาพงามของยามหนึ่ง เก็บตราตรึงกลางทรวงทั้งปวงสี- อีกกลิ่นหอมย้อมจินต์ด้วยยินดี แม้พรุ่งนี้จะทรามไปตามกาล
๐ จะถนอมออมแอบไว้แนบจิต โดยไม่คิดลบเลือนตามเดือนผ่าน เป็นดอกไม้งามล้ำในตำนาน ที่เบ่งบานคงอยู่ไม่รู้โรย
๐ อีกทั้งหยดน้ำค้างแห่งสางรุ่ง หลังเปล่งรุ้งกลางแสงก็แห้งโหย กระแสลมพรมโลกยังโบกโบย แปรทิศโดยฤดูไม่อยู่รอ
๐ เสียดายหรือน้ำค้างที่ร้างหยาด แลหมู่มวลบุปผชาติบำราศช่อ เมื่อความจำล้ำลึกผนึกกอ ย่อมเบ่งบานหยอกล้อพะนอทรวง
๐ จึงแม้ว่าวัยวันจะผันเปลี่ยน เกินจะเวียนกาลเหลื่อมชนเชื่อมช่วง ผ่านเรื่องราวรายทางอันว่างกลวง มิอาจห่วงโหยหาคุณค่าใด
๐ เลือกเก็บเพียงดอกรักจำหลักจิต ซึ่งงามพิศงามพร้อมพยอมไหน ก็มิอาจควรคู่ครองอยู่ใน ห้วงหทัยหนึ่งโดยไม่โรยรา
ปล. แต่งตั้งแต่ต้นหนาวเพิ่งมาจบเอาตอนหมดหนาวแล้ว
วลีลักษณา ๓๐ มกราคม ๒๕๖๕
|
|
|
| | |
| |
โหวตงานเขียนค่ะ