ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์ Tokyo University of Foreign Studies สะดุดคำ คือ มุมพิเศษซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคอลัมน์ญี่ปุ่นมุมลึกที่ลงทุกวันจันทร์ มุมนี้จะเป็นการบอกเล่า ความเคลื่อนไหว หรือ สิ่งที่อยู่ในความสนใจ ของคนญี่ปุ่นตามโอกาสพิเศษผ่าน คำสำคัญ หรือ คำเด่น ในช่วงเวลาหรือฤดูกาลนั้น มีกำหนดนำเสนอเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถติดตามสิ่งที่เป็นปัจจุบันหรือร่วมสมัยได้ ในเวลาใกล้เคียงกับคนญี่ปุ่น อีกทั้งยังต้องการให้ผู้ที่เรียนหรือสนใจภาษาญี่ปุ่น ได้นำคำหลักและคำที่เกี่ยวข้องไปใช้พูดคุยกับคนญี่ปุ่น หากมีโอกาสเพื่อให้บทสนทนาน่าสนใจ และมีชีวิตชีวา โดยได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อคนหรือคำญี่ปุ่นไว้ในระดับหนึ่ง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการค้นคว้าเพิ่มเติม อนึ่ง การถ่ายเสียงจากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยในทุกบทความอิงหลักการ เขียนคำทับศัพท์ภาษาญี่ปุ่นของราชบัณฑิตยสถานเป็นหลักแม้ไม่ทั้งหมดก็ตาม โดยเฉพาะเรื่องการใช้เสียงสั้นและเสียงยาวตามหลักภาษาญี่ปุ่น ว่าด้วยอาจารย์ ใกล้เดือนตุลาคม มหาวิทยาลัยใกล้จะเปิดเรียนภาคฤดูใบไม้ร่วง ถึงเวลาสอนอีกแล้ว (ปาดเหงื่อ) บทบาทในฐานะผู้สอนจะหวนกลับมาหลังจากว่างเว้นการสอนไปทำหน้าที่นักวิจัยในช่วงปิดภาค ผมจึงนึกถึงคำนี้...เซ็นเซ อีกทั้งในระยะนี้ก็มีบทสนทนาและเรื่องราวที่เข้ามาเกี่ยวเนื่องกับอาชีพนี้โดยบังเอิญอีก ผมจึงนึกถึงคำนี้...เซ็นเซ ห้าทุ่มแล้ว...ระหว่างที่หยิบโน่นค้นนี่เพื่อเตรียมการสอน ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติสำคัญข้อหนึ่งของการเป็น เซ็นเซอาจารย์ ก็รู้สึกอยู่ตลอดว่าการทำตัวเป็นผู้สอนที่ดีอาจจะยากกว่าการเป็นผู้เรียนที่ดี (หรือเปล่า?) เพราะกว่าจะสอนได้ หมายความว่าต้องศึกษานาน เตรียมการมากมาย อ่านหนังสือหลายเล่ม แต่ก็คงเพราะแบบนี้นั่นเอง คำว่าเซ็นเซถึงได้สื่อความน่าเลื่อมใสและความมีเกียรติ สังคมญี่ปุ่นให้คุณค่าแก่ความรู้ ผู้ที่มีความรู้จนสอนผู้อื่นได้ ภาษาญี่ปุ่นให้เกียรติเรียกว่า เซ็นเซ คำนี้เขียนว่า 先生 ประกอบด้วยตัวอักษร 先 (อ่านว่า เซ็น; sen) แปลว่า ก่อน กับตัวอักษร生 (อ่านว่า เซ; sei) แปลว่า เกิด เมื่อรวมกันเป็น 先生 (เซ็นเซ; sensei) แปลตามตัวอักษรได้ว่า (ผู้) เกิดก่อน สื่อนัยว่าเป็นผู้มีประสบการณ์มาก่อน จึงถ่ายทอดความรู้ได้ ภาษาญี่ปุ่นที่แปลเทียบเป็นภาษาไทยได้ว่า อาจารย์ มีหลายคำ นอกจาก เซ็นเซ แล้ว ก็ยังมี เคียวชิ (教師; kyōshi)ผู้สอน เช่น ทักษะวิชา ศิลปะ, เคียวอิง (教員;kyōin)คำทางการที่มักใช้ในภาษาเขียน เช่น ใบประกอบวิชาชีพอาจารย์ ห้องพักอาจารย์, เคียวกัง (教官;kyōkan)อาจารย์ โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยรัฐ, เคียวยุ (教諭;kyōyu)อาจารย์ โดยเฉพาะตั้งแต่ระดับมัธยมปลายลงมา, โคชิ (講師;kōshi) อาจารย์ (ทั้งในฐานะตำแหน่งทางวิชาการและในฐานะผู้สอน), เคียวจุ (教授;kyōju)ศาสตราจารย์ รวมถึงคำว่า อะจะริ (阿闍梨; ajari) ซึ่งมาจากภาษาสันสกฤต ācārya (อ่านว่า อาจาริยะ) ภาษาญี่ปุ่นใช้คำนี้ในความหมายทางพุทธศาสนา หมายถึง พระผู้สอนหรือผู้เป็นแบบอย่างให้แก่ศิษย์ ไม่ต้องพยายามมากก็คงสังเกตได้ว่านี่คือคำว่า อาจารย์ ในภาษาไทยนั่นเอง แต่ในบรรดาคำเหล่านี้ คำที่แพร่หลายที่สุดและใช้ง่ายที่สุดในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นคือ เซ็นเซ หากจะเรียกชื่อด้วย จะใส่นามสกุลของเจ้าตัวไว้ข้างหน้า เช่น อาจารย์คะวะมุระ เรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า คะวะมุระเซ็นเซ ในกรณีของผมซึ่งเป็นคนไทย นามสกุลยาว เรียกยาก จึงบอกให้คนอื่นเรียกชื่อต้น นักศึกษาและอาจารย์ด้วยกันเรียกผมว่า โฆษิตเซ็นเซ
|