อาชีพครูในโรงเรียนประถมของญี่ปุ่นเป็นอาชีพที่งานยุ่ง เพราะจะต้องติดตามความประพฤติของเด็กอย่างใกล้ชิด และเขียนรายงานให้ผู้ปกครองทราบอย่างละเอียด เมื่อถึงเวลาก็จะนัดผู้ปกครองมาที่โรงเรียนเป็นรายคน เพื่อรายงานให้ทราบความประพฤติของเด็กว่า ตอนอยู่ที่โรงเรียนเป็นอย่างไร การเชิญผู้ปกครองมาพบไม่ใช่เรื่องผิดปกติในวงการศึกษาของญี่ปุ่นแต่อย่างใด ไม่เหมือนของไทย ถ้าผู้ปกครองถูกเชิญเมื่อไรส่วนใหญ่หมายความว่า เด็กมีปัญหา แต่ของญี่ปุ่นการเชิญมาพบคือการสื่อสารให้เข้าใจตรงกันระหว่างทางบ้านกับทางโรงเรียน เพราะเด็กหลายคนมีความประพฤติต่างกันระหว่างตอนอยู่บ้านซึ่งเป็นสังคมเล็ก กับตอนอยู่ที่โรงเรียนซึ่งเป็นหมู่คณะที่ใหญ่กว่า ส่วนใหญ่แล้ว ครูจะรายงานพฤติกรรมของเด็กเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นและสอบถามผู้ปกครองว่าตอนอยู่บ้านเด็กเป็นอย่างไร กรณีที่ผมเคยมีส่วนรับรู้ด้วย เช่น เด็กคนหนึ่ง รักสะอาดผิดปกติ คือเห็นอะไรนิดอะไรหน่อยก็จ้องจะทำความสะอาดอยู่ตลอด เพื่อนๆ นั่งอยู่ตรงไหนก็จ้องแต่จะเข้าไปเช็ดตรงนั้น หรืออีกกรณีหนึ่งคือ เด็กคนหนึ่งไม่มีความอดทนต่ออะไรทั้งสิ้น ครูบอกให้รอเล่นเกมตามลำดับ ก็จะชิงแทรกเข้ามาก่อน บอกให้เข้าแถว ก็จะรีบชิงตัดหน้า สิ่งเหล่านี้ครูจะบันทึกไว้หมดและจะเชิญผู้ปกครองมารับฟังรายงานเพื่อให้ช่วยกันปรับความประพฤติของเด็ก เช่นกรณีที่ยกมานี้ก็จะช่วยกันสอนให้เด็กรู้จักตัดสินว่า สิ่งไหนควรทำเมื่อไร และควรฝึกความอดทนไว้เพราะคนอื่นๆ ยังรอได้ เราก็ต้องรอได้เช่นกัน ถ้าทำอะไรตามใจตัว ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น และให้ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นต้น วัฒนธรรมกลุ่มของญี่ปุ่นได้รับการถ่ายทอดมาตั้งแต่เด็ก และในการอยู่ร่วมกันย่อมต้องมีความกลมกลืนกันเพื่อไม่ให้กลุ่มแตก แนวคิดหนึ่งที่ผมเห็นว่าโรงเรียนญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นต่างก็สอนให้ตระหนักไว้คือ การไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นเมื่ออยู่ร่วมกัน คำว่า ความเดือดร้อน ภาษาญี่ปุ่นพูดว่า เมวะกุ (迷惑;mēwaku) พอคนมาอยู่รวมกันมากๆ เข้าและแต่ละคนก็มีเงื่อนไขประจำตัวแตกต่างกันไป สิ่งที่ทำได้ที่บ้าน เมื่อทำขณะอยู่กับผู้อื่นก็อาจจะกลายเป็นเมวะกุได้ ความเดือดร้อน ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายกว้าง กินความทั้งเรื่องทางกายและทางใจ และหมายรวมถึงเรื่องที่ตัวเองก่อและเรื่องที่ตัวเองไม่ได้ก่อแต่คนในครอบครัวก่อด้วย ในสังคมญี่ปุ่นมีสำนวนที่ได้ยินบ่อยๆ ว่า โกะ-เมวะกุ โอะ โอะ-คะเกะชิเตะ โมชิวะเกะ โกะซะอิมะเซ็ง (ご迷惑をおかけして申し訳ございません; Go-mēwaku o o-kakeshite mōshiwake gozaimasen) ซึ่งเป็นสำนวนขอโทษที่สุภาพมากสำหรับเรื่องหนักหนา ที่ทำพลาดไปและก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น แปลว่า ขออภัย (ไม่มีคำแก้ตัวใดๆ) ที่ได้ก่อความเดือดร้อน (แก่คุณ) เรื่อง เมวะกุ คือจุดที่คนญี่ปุ่นใส่ใจระวังทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ การแซงคิวก็ถือว่าเป็นเมวะกุ, การนัดเพื่อนแล้วไปผิดเวลาก็ถือว่าเป็นเมวะกุ, การยกเลิกนัดกะทันหันก็ถือว่าเป็นเมวะกุ หรือยกตัวอย่างกรณีจริง เช่น ครั้งหนึ่งคนญี่ปุ่น 3 คนไปเล่นสกีแล้วหายตัวไป กลายเป็นข่าวทั่วประเทศ สร้างความกังวลแก่ผู้คนเป็นวงกว้าง ต่อมาปรากฏว่าหายตัวไปเพราะหลุดออกนอกเส้นทางการเล่น แต่โชคดีที่กลับมาได้โดยปลอดภัย เหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นการก่อเมวะกุแก่คนทั้งประเทศ คนญี่ปุ่นกลุ่มนี้ก็ออกมาขอโทษ หรือกรณีนักการเมืองญี่ปุ่นที่มีข่าวอื้อฉาว ก็มักจะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบและขออภัยที่ก่อเมวะกุแก่คนทั้งประเทศ ส่วนของไทย ถ้าเราสอนดีๆ ให้ได้ดุลระหว่าง การสอนคน กับ การสอนหนังสือ โดยทำจริงจังขณะที่ผู้รับยังเป็นเด็กแบบที่ญี่ปุ่นทำ กรณีปัดความรับผิดชอบก็คงจะน้อยลงหรืออาจจะไม่มี และกรณีหนีทุนก็อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะนั่นเป็นเมวะกุแก่คนทั้งประเทศอย่างเห็นได้ชัด
|