"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
11 เมษายน 2559
 
All Blogs
 
นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2




นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2
ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์
       Tokyo University of Foreign Studies



ชื่อไทยเรียกลำบาก

คำต่อท้ายชื่อแบบญี่ปุ่นซึ่งมีหลายคำ อาจทำให้คนไทยรู้สึกยุ่งยากที่ต้องจดจำการใช้ แต่ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับชื่อแล้ว ไม่ใช่คนไทยฝ่ายเดียวที่รู้สึกลำบาก คนญี่ปุ่นเองก็เจอความยุ่งยากเมื่อต้องเรียกชื่อของคนไทยเช่นกัน

       เมื่อจะแนะนำตัวให้คนญี่ปุ่นฟัง ผมเจอปัญหาเกี่ยวกับชื่อและนามสกุลของตัวเองอยู่บ่อยๆ คนไทยที่ทำงานหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนญี่ปุ่นคงเคยมีประสบการณ์คล้ายกัน ปัญหาที่ว่านี้คือนามสกุลคนไทยยาว คนญี่ปุ่นเรียกไม่ค่อยถูก

       คนไทยด้วยกันเอง คงไม่รู้สึกว่ายาว เพราะเราชินกับภาษาไทย แต่คนญี่ปุ่นและคนในประเทศอื่น (ที่ไม่ใช่คนลาว นามสกุลคนลาวก็ยาวเช่นกัน) อีกเป็นจำนวนมากรู้สึกว่ายาวและเรียกยาก ยิ่งในกรณีของคนญี่ปุ่น ยิ่งรู้สึกว่ายาวเป็นพิเศษเพราะธรรมชาติการออกเสียงคำญี่ปุ่นกับคำไทยต่างกัน

คนไทยชินกับการนับความยาวด้วยพยางค์ไทย ถ้าสัก 3 พยางค์คงไม่เท่าไร ขึ้นสี่หรือห้าเมื่อไรถึงจะเริ่มรู้สึกว่ายาว แต่พอเป็นภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากมีเสียงน้อยกว่าภาษาไทย และนับความยาวด้วยหน่วยเสียง ซึ่งศัพท์ทางภาษาศาสตร์เรียกว่า “โมระ” (mōra) จากภาษาไทยที่เราคิดว่าไม่น่าจะเรียกลำบากสักเท่าไร จะกลายเป็นความหินขึ้นมาทันที

       ตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น เวลาเขียนชื่อ-นามสกุลของบุคคล จะเขียนนามสกุลขึ้นก่อน เวลาเรียกขานกันในแบบสุภาพและเป็นทางการ ก็จะเรียกโดยใช้นามสกุลเป็นหลัก เมื่อคนญี่ปุ่นเรียกชื่อคนต่างชาติก็จะพยายามเรียกตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น จึงน่าเห็นใจมากเมื่อคนญี่ปุ่นพยายามจะเรียกชื่อคนไทย

นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2

เมื่อคนญี่ปุ่นจะเรียกผม ผมมักแอบเห็นเขาจ้องรายชื่อนั้นอยู่นานสองนาน บางทีทำปากขมุบขมิบด้วย คาดว่าคงซ้อมเพื่อเรียกให้ถูกต้อง นามสกุล “ทิพย์เทียมพงษ์” มีแค่ 3 พยางค์ ท่าทางไม่น่าจะเรียกยาก แต่ถ้าหากถอดเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมา

จะได้ว่า “ทิ-ป-ปุ-ทิ-เอะ-น-โพะ-ง” (Ti-p-pu-ti-e-n-po-n) มีตั้ง 8 หน่วยเสียงที่จะต้องเรียงตัวสวนสนามออกมาจากปากคนญี่ปุ่น จึงวุ่นวายกันน่าดู บางทีไม่เพียงแต่เรียกผมเข้ารกเข้าพง ในใบลงทะเบียนทั้งหลายยังเขียนได้ไม่หมดเพราะยาวเกินกว่าเนื้อที่จะอำนวยอีกด้วย

        แรกๆ ผมทำตัวเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยยอมให้คนญี่ปุ่นโดยเฉพาะอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย เรียกว่า คุณทิพย์เทียมพงษ์—“ทิปปุทิเอ็นพง-ซัง” แต่หลังๆ ชักจะไม่ไหว เพราะท่านจะเรียกผมทีไรก็จะโหยหาโพยรายชื่อกันใหญ่

ปล่อยเอาไว้อย่างนี้คงจะรู้จักแต่หน้าดำๆ แต่จำชื่อผมไม่ได้สักที ด้วยเหตุนี้ จึงต้องปรับกระบวนท่า คือ เวลาเขียนชื่อจะเขียนแบบไทย เอาชื่อขึ้นก่อน แล้วตามด้วยนามสกุล และบอกสำทับอีกว่า กรุณาเรียกผมว่า “โฆษิต”

       แต่ก็อีกนั่นแหละ คนญี่ปุ่นพูด “โฆษิต” ไม่ได้อีก เสียง “ซิ” หรือ “สิ” (si) ไม่มีในภาษาญี่ปุ่นปกติ จึงใช้เสียงใกล้เคียงคือ “ชิ” (shi) ชื่อผมจึงแปลงร่างเป็น “โฆ-ชิต-โตะ” (Kō-shit-to)

        ได้ยินทีแรก รู้สึกว่า ‘เอ...เสียงแบบนี้มันแหม่งๆ อยู่นา’ เพราะนอกจาก “โฆ” จะมีเสียงเหมือน “โค” ตามที่เพื่อนปากเปราะบางคนเคยล้อผมตอนเด็กๆ แล้ว “ชิต” ยังเหมือนเสียง “shit” ของภาษาอังกฤษที่เป็นคำหยาบของ “อุจจาระ”...ซึ่งฟังดูไม่น่าจะเป็นมงคลแก่ตัว

จึงขออนุญาตฝืนธรรมชาติปากคนญี่ปุ่นนิดหน่อยด้วยการให้เขาเรียกเราว่า “โฆ-ซุ-อิต-โตะ” และตั้งแต่นั้นมา คนญี่ปุ่นที่ผมรู้จัก (ส่วนใหญ่) จึงให้เกียรติเรียกผมว่า “โฆซุอิตโตะ-ซัง” ซึ่งจำง่ายกว่านามสกุล และแม้ไม่คุ้นหูเหมือนเสียงไทยแท้ แต่ก็พอทำใจรับได้

       คำแนะนำสำหรับผู้ที่ทำงานร่วมกับคนญี่ปุ่นคือ หากไม่รังเกียจ ก็ให้เขาเรียกชื่อเล่นของเราก็ได้ สั้นดี เรียกง่าย สบายปาก และเราไม่ต้องลุ้นด้วยว่ากว่าจะเรียกชื่อจริงของเราออกมาได้ เขาจะขาดใจตายไปเสียก่อนหรือเปล่า

ชื่อญี่ปุ่นก็เรียกยากสำหรับเรา

       อันที่จริง ก็ไม่ใช่แต่เขา เราคนไทยเองก็เรียกชื่อคนญี่ปุ่นได้ไม่ถนัดเท่าไร จึงเรียกแบบสบายปากกันอยู่ไม่น้อย เท่าที่สังเกตดู รู้สึกได้ว่าหูคนไทยไม่นิยมคำที่มีเสียงสั้น และด้วยธรรมชาติของภาษาไทย คนไทยพูดเสียงสั้นติดๆ กันไม่เก่ง จะลองออกเสียงประโยคนี้ดูก็ได้

       “หลังพิพิธภัณฑ์ รถกระบะโตะโยะตะบรรทุกกระทะ พุ่งปะทะเก๋งฮนดะซะกระทะกระเด็น”

นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2

เสียงแบบนี้ฟังกระชั้นหู หรือขาดเป็นห้วงๆ ดังนั้น ชื่อไหนที่เป็นเสียงสั้นๆ คนไทยจะหาทางเปลี่ยนให้เป็นเสียงยาวให้จงได้ เอาง่ายๆ แค่ To-yo-ta หรือ Hon-da สองชื่อนี้นอกจากเป็นยี่ห้อรถที่คนไทยคุ้นหูกันดีแล้ว ยังเป็นนามสกุลคนญี่ปุ่นด้วย และผมเองก็เคยพูดคุยกับคนสกุลเหล่านี้ รวมทั้งอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นของผมเอง

       โทะ-โยะ-ตะ หรือ ฮน-ดะ ก็ตาม [1] ออกเสียงสั้นทั้งหมด แต่เราก็อดไม่ได้ ขอขยายให้เขาเสียหน่อย เราถึงได้มียี่ห้อโตโยต้า ฮอนด้า หรือยี่ห้ออื่นอีก เช่น คาวาซากิ (คะวะซะกิ) ซูซูกิ (ซุซุกิ)

แม้แต่ชื่อเมืองหรือสถานที่หลายแห่ง เช่น ฮิ-โระ-ชิ-มะ (Hi-ro-shi-ma), นะ-งะ-ซะ-กิ (Na-ga-sa-ki), นะ-โงะ-ยะ (Na-go-ya), กิน-ซะ (Gin-za), ฮะ-ระ-จุ-กุ (Ha-ra-ju-ku), นะ-ระ (Na-ra), โยะ-โกะ-ฮะ-มะ (Yo-ko-ha-ma)

เหล่านี้ก็ออกเสียงสั้น อย่ากระนั้นเลย เนื่องจากพูดไม่สบายปากเรา ขอเอาเสียงยาวเข้าแทรกให้พูดง่ายหน่อย เราจึงรู้จัก ฮิโรชิม่า นางาซากิ นาโงย่า กินซ่า ฮาราจูกุ นารา โยโกฮาม่า และอีกหลายๆ เมืองที่เรายืดเสียงให้เขา

       ด้วยลักษณะการยืดเสียงตามอำเภอใจแบบไทยๆ ปัญหาที่ผมมักจะประสบคือ แต่ละคนยืด (หรือบางครั้งก็หด) ตามมาตรฐานของตัวเอง ซึ่งมักกลายเป็นปัญหาใหญ่เมื่อต้องแปลเอกสารทางการ

เพราะแต่ละคนก็ถ่ายเสียงไปตามแบบของใครของมัน ยืดมั่งหดมั่ง จนไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี ชื่อเดียวกันแต่เขียนไม่เหมือนกันจึงปรากฏมากมาย เช่น ฮาราจูกุ-ฮาราจุกุ, นะระ-นารา, ฮาโกเนะ-ฮาโกเน่ (ที่ถูกต้องคือ “ฮะโกะเนะ”) 


นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2

โชคดีก็ยังพอมีอยู่บ้าง คือ ราชบัณฑิตยสถานของไทยได้กำหนดการถ่ายเสียงภาษาญี่ปุ่นและบัญญัติชื่อเมืองไว้อย่างเป็นกิจจะลักษณะมานานแล้ว แต่โชคร้ายก็ยังไม่หายไปหมด คือ

คนไทยจำนวนมากไม่รู้ว่ามีเกณฑ์นี้ขึ้นมาแล้ว และยังพูด-เขียนตามที่ ‘เชื่อ’ ว่าถูก ลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นของผม ซึ่งอยู่ในยุคอินเทอร์เน็ตและเรียนรู้ภาษาไทยจากสื่อออนไลน์ด้วย จึงมักเขียนชื่อญี่ปุ่นเป็นภาษาไทย

โดยมีหลากหลายตัวสะกดส่งมาอยู่เป็นประจำ เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ปรากฏออนไลน์นั้นถูกต้อง หนักๆ เข้า ผมจึงต้องเอาหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตย์ฯ มาบรรจุไว้ในหลักสูตรการสอนภาษาไทยให้แก่นักศึกษาญี่ปุ่นด้วย

ที่หยิบยกเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาก็ไม่ใช่ว่าขัดข้องเรื่องการยืดหดแต่ประการใดเพราะมันเป็นไปตามธรรมชาติของภาษาไทย แต่ชี้ไว้เพื่อจะบอกว่า ถ้าจะพูด ก็ยืดหดแล้วแต่จะสะดวก

แต่ถ้าจะเขียน น่าจะอิงหลักเกณฑ์ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ คนต่างชาติจะได้ไม่งง หรือคนไทยเองก็จะได้มีมาตรฐานเดียวกัน

       อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกไว้สำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่น คือ ถ้าพูดกับคนไทยด้วยกันโดยถือว่าคำญี่ปุ่นเหล่านี้เป็นเสียงไทยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพูดกับคนญี่ปุ่นต้องระลึกไว้เสมอว่า เราพูดคำญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่น ซึ่งไม่คุ้นสำเนียงไทย ถ้าไม่ใส่ใจเสียเลยอาจจะทำให้...

       1) คนญี่ปุ่นบางคนอาจรู้สึกว่าผู้พูดเสียมารยาท เพราะการยืดเสียงมากๆ อาจฟังดูไม่สุภาพ และที่สำคัญคือ คนฟังต้องไม่ชอบใจแน่หากได้ยินชื่อตัวเองถูกเรียกอย่างยานคาง หรือ

       2) สื่อกันไม่เข้าใจ ถ้าไม่เชื่อลองดู ลองบอกคนญี่ปุ่นสิว่า “ที่บ้านมีรถยี่ห้อ ฮอ—น ด้—า” แวบแรก ถ้าเขาไม่ทำหน้างงกลับมา แสดงว่าเขาคงเคยมาเมืองไทย หรือลองบอกเขาก็ได้ว่า “ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปกิ—น ซ่ —า มาด้วย” ถ้าเขาไม่ทำหน้างงกลับมา เป็นไปได้ว่าอาจเคยมีแฟนเป็นคนไทย 


นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2
สถานี "นะ-งะ-ซะ-กิ"


นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2
ย่าน "กิน-ซะ"


นามนั้นสำคัญนัก ตอนที่ 2
ย่าน "กิน-ซะ"

หมายเหตุ :
[1] (สำหรับผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่น ควรตระหนักว่าภาษาญี่ปุ่นไม่มีเสียงสระออ ดังนั้น การออกเสียงว่า “ฮอนด้า”[Honda] หรือ “ฮอกไกโด” [Hokkaido] หรือ “นิปปอน” [Nippon] จึงเป็นการออกเสียงที่ผิดไปจากภาษาญี่ปุ่น ต้องออกเสียงว่า “ฮนดะ”, “ฮกไกโด”, “นิปปง”)


ขอบคุณ MGR Online

ดร.โฆษิต ทิพย์เทียมพงษ์

จันทรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ    

 





Create Date : 11 เมษายน 2559
Last Update : 11 เมษายน 2559 21:10:04 น. 0 comments
Counter : 534 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.