"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

แนะนำ เรื่องสั้นชั้นครู ...เจียวต้าย เรื่อง ผู้มี (แต่) น้ำใจ




เรื่องเล่าของคนวัยทอง

ผู้มี (แต่) น้ำใจ

“ เพทาย “




ผมเป็นคนค่อนข้างจะโชคดี ที่ได้รับความเอื้อเฟื้อ จากผู้มีน้ำใจอันดีงาม อยู่บ่อย ครั้งในชีวิต อย่างเช่นการโดยสารรถประจำทางนั้น จะมีผู้ลุกให้นั่งอยู่เสมอ ตั้งแต่ยังเพิ่งจะเริ่มแก่ จนถึงแก่มากอย่างเดี๋ยวนี้ ผู้มีน้ำใจเหล่านั้น มีทั้งผู้ชายผู้หญิง เด็กชายและเด็กหญิง ถ้ายืนโหนราวอยู่ด้วยกัน และมีที่นั่งว่าง เธอเหล่านั้นจะพยักหน้า ให้ผมนั่งก่อนเป็นประจำ แรก ๆ ผมก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นไรบ้าง เดี๋ยวจะลงบ้าง

แต่ระยะหลังก็ยินดีที่จะรับความเอื้อเฟื้อนั้น เพราะสังขารร่วงโรยลงเป็นอันดับสี่ ของผู้ที่ควรได้รับความเอื้อเฟื้อ ถัดจากเด็ก สตรี คนพิการ นั่นเอง

สำหรับผมเองนั้น ก็ได้พยายามแสดงน้ำใจและเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น เท่าที่สามารถทำได้เสมอ เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจที่ผมเคยได้รับ นอกจากการให้ทานแก่ผู้ที่ขอ ทุกประเภท โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ แม้จะเป็นจำนวนเล็กน้อยก็ตาม และให้ทุกครั้งที่พบเห็น นอกจากเศษเหรียญจะหมดกระเป๋าเสียก่อนแล้ว

วันหนึ่งผมไปเดินอยู่ที่ใต้สถานีรถไฟฟ้าสาทร ติดกับสะพานตากสิน ผ่านวนิพกสองราย คนหนึ่งเป่าแคนอีกคนหนึ่งถือไมโครโฟนแต่ยังไม่ได้ร้อง จึงไม่รู้ว่าจะเป็นเพลงอะไร แต่ทั้งสองตาบอดทั้งคู่ ผมก็ใส่กระบอกให้ไปคนละสองบาท

เมื่อเดินต่อมาอีกหน่อยก็พบหญิงชรา นั่งอยู่ข้างทางเท้าเหมือนกับนั่งพักเหนื่อย แต่พอผมเดินจะผ่านหน้า แกก็ยกมือขึ้นพนมพึมพำว่าอะไรไม่ทันได้ยิน ผมก็ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง หยิบเหรียญออกมาทั้งหมด เป็นเหรียญบาทสามอัน ใส่ลงในฝ่ามือทั้งคู่นั้น แล้วก็เดินเลยไปโดยไม่รอฟังคำอวยชัยให้พรที่ตามมาข้างหลัง

ผมแวะที่ร้านก๋วยเตี๋ยวว่าจะรองท้องสักชาม เพราะเป็นเวลาบ่ายมากแล้ว เมื่อถามหาน้ำดื่มที่มีดีกรี เถ้าแก่บอกว่าไม่มีจึงเดินไปที่ทางเท้าฝั่งตรงข้าม ซึ่งมีรถเข็นเครื่องดื่มนานาชนิด จอดขายหลายคัน ผมส่งแบ๊งค์ร้อยขอซื้อเบียร์กระป๋องหนึ่งในราคายี่สิบสามบาท ให้เด็กสาวคนขาย ซึ่งในสายตาของผมเห็นว่าสวย ตามประสาคนชอบของขม

เมื่อรับถุงเบียร์และเงินทอนแล้วผมก็เดินกลับมายืนอยู่ริมทางเท้ารอถนนว่าง เอาเศษเหรียญใส่กระเป๋ากางเกง แล้วก็คลี่ธนบัตรในมือซึ่งเป็นใบละยี่สิบบาทสามใบ คิดทบทวนว่าเด็กคนขายทอนให้ครบหรือเปล่า ก็พอดีเธอผู้นั้นตามมาถามว่าเมื่อกี้ทอนขาดไปสิบบาทใช่ไหม ผมก็ยังไม่หายงงและตอบไม่ได้ เธอจึงส่งเหรียญสิบบาทใส่มือผม แล้วก็เดินกลับไปโดยไม่รอคำขอบคุณของผม

เมื่อผมกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว ล้วงหาเงินค่าน้ำแข็งเปล่า ผมจึงรู้ว่ามีเหรียญสิบบาทอยู่สองเหรียญ ผมรีบย้อนกลับมาหาเธอผู้ขาย แล้วคืนเหรียญสิบบาทนั้นให้เธอ และบอกว่าเธอทอนเกิน คราวนี้เธอกลับขอบคุณด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ผมต้องซื้อเบียร์อีกหนึ่งกระป๋อง ตุนไว้ในย่าม เพื่อตอบแทนน้ำใจของเธอ

อีกวันหนึ่งที่วงเวียนใหญ่ฝั่งธนบุรี ผมพบชายร่างสูงคนหนึ่ง อายุคงจะไม่เกิน ๔๐ ปี แต่หน้าแก่เพราะหนวดเครายาวรกระเกะระกะ และผมฟูเป็นกระเซิงเหมือนไม่ได้เคยหวีมาตลอดชีวิต เขานุ่งกางเกงขาสั้นกระดำกระด่าง ดูมอมแมม เหมือนกับไปนอนอยู่ตามทางเท้ามา เพราะเสื้อก็มีความสกปรกพอกัน จนแทบจะไม่รู้ว่าเดิมเคยเป็นสีอะไร เขาถือถุงน้ำแข็งใส่น้ำชา เดินเข้ามาในร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้สะพานลอย เมื่อนั่งลงที่โต๊ะแรกใกล้ประตูร้าน และหาที่แขวนถุงน้ำแข็งได้แล้ว ก็หันไปหาเด็กผู้บริการของร้าน ที่เข้ามายืนเมียงมองอยู่ใกล้ ๆ แล้วสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำด้วยเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน เมื่อเห็นเด็กคนนั้นยังไม่ถอยออกไปจัดการตามสั่ง ก็ควักกระเป๋ากางเกงหยิบเงินซึ่งเป็นเหรียญทั้งหมดออกมาให้ เด็กจึงเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยว เมื่อได้ของตามที่ต้องการแล้ว เขาก็ลงมือกินอย่างละเมียดละไม ไม่ได้รีบร้อน

ผมมองเห็นเหตุการณ์นั้นตั้งแต่ต้น เมื่อเสร็จธุระในการกินก๋วยเตี๋ยวของผม และชำระเงินแล้ว ขณะที่จะเดินผ่านชายผู้นั้นก่อนออกจากร้าน ผมก็ก้มหน้าลงไปกระซิบว่า ผมขอออกเงินค่าก๋วยเตี๋ยวชามนี้จะได้ไหมครับ ชายขะมุกขะมอมผู้นั้นสั่นศรีษะ ผมจึงถามย้ำอีกว่าไม่ต้องหรือครับ คราวนี้เขาพยักหน้า ผมจึงเดินออกจากร้านไปด้วยความผิดหวัง เขาคงจะเลิกงานแล้ว

เรื่องของความอยากจะแสดงน้ำใจ แต่ไม่สำเร็จนี้ผมเคยเจอหลายครั้ง อย่างคราวหนึ่งผมจะนั่งเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าพระจันทร์ไปยังท่าวังหลัง แต่ผมลงไปที่ท่าไม่ทันเรือที่รออยู่ได้ออกไปอย่างหวุดหวิด ผมไม่กล้ากระโดดตามเพราะเจียมสังขาร คงยืนรออยู่บนโป๊ะซึ่งไหวโยกเยกนั้นอยู่ครู่หนึ่ง เรือลำใหม่ก็เข้ามาจอดอีก คราวนี้ผมคอยให้ผู้คนขึ้นจนหมดแล้วก็ลงไปนั่งรอในเรืออย่างสบาย สักพักหนึ่งพอเรือขยับจะเคลื่อนออกจากท่า ก็มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ สองคนวิ่งลงมาตามสะพานที่ทอดอยู่กับโป๊ะ คนโตอายุประมาสักหกเจ็ดขวบ โดดลงเรือซึ่งกำลังห่างออกจากท่าอย่างว่องไว ส่วนคนเล็กที่ตามหลังอายุคงประมาณสักห้าหกขวบ ต้องหยุดชะงักไม่กล้าโดดตาม คงยืนมองเรือที่แล่นห่างออกไปด้วยสายตาละห้อย เกือบจะร้องไห้ ผมก็พลอยโล่งอกไปด้วย เพราะไม่แน่ว่าถ้าผลีผลามโดดตามเรือ เธอจะปลอดภัยหรือหล่นลงไปในน้ำกันแน่

เมื่อเรือแล่นมาจอดที่ท่าวังหลัง ผมก็ก้าวจากเรือขึ้นบนท่า พร้อมกับผู้โดยสารทั้งหมด แล้วก็เดินไปตามสะพานที่ทอดขึ้นจากโป๊ะ บังเอิญเด็กหญิงคนโตเดินมาใกล้ผม ด้วยความเป็นห่วงเด็กหญิงคนเล็ก จึงถามเธอว่าหนูไม่ลงเรือกลับไปรับน้องที่ฝั่งโน้นหรือ เธอตอบโดยไม่หันมามองหน้าผมว่า เดี๋ยวมันก็มาได้เองหรอกลุ้ง ผมเลยเลิกห่วง

อีกคราวหนึ่งผมนั่งรถเมล์สายสามสิบแปด จากซอยอโศกจะมาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ระหว่างทางผ่านสถาบันชั้นอุดมศึกษา มีนักศึกษาหญิงขึ้นมาหลายคน ทุกคนได้นั่งหมดแล้ว เหลืออยู่คนหนึ่ง เข้ามายืนอยู่ตรงหน้าผม ซึ่งนั่งด้านข้างของกระโปรงเครื่องยนต์ มือของเธอผู้นั้นเอื้อมจับราวอย่างหมิ่นเหม่ เพราะเสื้อที่เธอสวมใส่อยู่นั้นคงจะผิดเบอร์ จึงคับและสั้นเต็มที ผมขยับตัวให้มีที่ว่าง แต่ก็ยังแคบเกินไปกว่าที่เธอจะนั่งลง จึงต้องยืนอย่างไม่มั่นคงต่อมาอีกสองป้าย ผู้ที่นั่งติดสองข้างของผม เป็นชายหนุ่มกว่าผมมาก ก็เมินมองไปเสียทางอื่น

ผมทนดูภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ จึงตัดสินใจลงที่ป้ายถัดไป เพื่อให้เธอได้นั่ง แล้วผมก็รอขึ้นรถเบอร์เดียวกันอีก ซึ่งรออยู่ไม่นานนักก็มา คันนี้มีที่ว่างผมก็ได้นั่งอีก แต่พอผ่าน สี่แยกมักกะสัน มีเด็กนักเรียนมัธยมขึ้นมาเต็มคันรถ ทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่ต้องยืน เลยไม่รู้จะทำยังไง ต้องทนมองเด็กยืนกันเต็มทั้งคันรถอยู่อีกนาน กว่าจะถึงที่หมาย

ผมลงจากรถเมล์ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วก็เดินขึ้นสะพานลอยที่ทอดยาวเหยียด มาลงบันไดที่หน้าโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นที่จอดรถประจำทางทุกสายที่จะผ่านไปทางบ้านผม ในไม่ช้าผมก็ได้ขึ้นรถสีค่อนข้างขาวสายหนึ่ง ซึ่งแล่นมาจากต้นทางแถวแยกรัชโยธินในถนนพหลโยธิน รถคันนี้มีผู้โดยสารเต็มที่นั่งและยืน แต่มีผู้ลุกขึ้นให้ผมได้นั่ง บนม้ายาวที่อยู่ด้านซ้ายของคนขับ ใกล้กับหญิงสาววัยเลยรุ่นคนหนึ่ง ที่อุ้มลูกน้อยอยู่ในวงแขน ทารกนั้นยังเล็กมากอายุคงไม่กี่เดือน ท่าทางที่อุ้มนั้นดูเก้งก้างไม่ทะมัดทะแมง คงจะเป็นคุณแม่หัดใหม่ ข้างกายของเธอมีถุงย่ามใบเล็กที่ใส่ของกระจุกกระจิก เกี่ยวกับเด็กอ่อน และมีขวดนมซุกอยู่ด้วย รถคันนี้แล่นไปค่อนข้างเร็ว ด้วยฝีมือและฝีเท้าอันเชี่ยวชาญของคนขับ จึงทำให้ผู้โดยสารหัวสั่นหัวคลอนมาตลอดระยะทาง

จนทารกน้อยตกใจตื่น และทำท่าจะร้องโยเยขึ้น ผู้เป็นแม่หันรีหันขวางแล้วก็ขยับตัวจะหยิบขวดนมในถุง ก็บังเอิญให้ถุงหล่นจากที่นั่งลงไปบนพื้น สิ่งของหลายชิ้นกลิ้งออกมากองบนพื้นรถ เธอเลยหมดปัญญาที่จะก้มลงไปจัดการได้ด้วยตนเอง เพราะลูกน้อยยังอยู่ในอ้อมแขน ผมจึงต้องก้มลงหยิบของเหล่านั้นใส่ถุง และส่งขวดนมให้เธอซึ่งพอดีกับหนูน้อยได้ส่งเสียงร้องขึ้น เธอรับไปใส่ปากให้ลูก และยิ้มขอบคุณ ผมจึงเอาถุงนั้นวางลงบนตักของผมเอง เพื่อป้องกันไม่ให้มันหล่นลงไปอีก

ผมมองดูสองแม่ลูกด้วยความรู้สึกสงสาร ในความลำบากนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจถามว่าเธอจะไปไหน ก็ได้คำตอบว่าจะไปโรงพยาบาลวขิระ ถามต่อว่าลูกป่วยเป็นอะไร เธอบอกว่าพาไปฉีดยาป้องกันโรคของเด็ก ตามหมอสั่ง ผมไม่กล้าถามว่าทำไมพ่อของเด็กไม่มาด้วย เหมือนอย่างที่ผมเคยเห็นพ่อแม่หัดใหม่ ซึ่งกำลังเห่อลูกคนแรก เขาทำกันเป็นปกติ แต่ถามว่าทำไมไม่ขึ้นรถแท็กซี่ พาลูกกระเตงมาคนเดียวแบบนี้ลำบากแย่ ทั้งแม่ทั้งลูก เธอตอบเบา ๆ ว่าไม่มีเงิน

ผมสะดุดใจกึกเพราะไม่ได้คิดถึงข้อนี้ พอดีรถจอดป้ายหน้าธนาคารที่เลยสี่แยก ซังฮี้ไปหน่อย เธอก็ลุกขึ้นจะลง ผมจึงถือถุงตามลงไปด้วย เธอจะต้องเดินย้อนกลับไปโรงพยาบาลซึ่งยังอยู่อีกไกลพอสมควร ผมอยากจะตามไปช่วยเหลือเธอ แต่ก็สองจิตสองใจ จึงส่งถุงคืนให้เธอรับไปด้วยปลายนิ้ว และกล่าวคำขอบคุณ ก่อนที่จะเดินไปตามทางของเธอ

ผมรีบหันเข้าหาตู้เอทีเอ็มที่ตั้งอยู่หน้าธนาคารนั้น กดเอาเงินออกมาสองร้อยบาท แล้วก็รีบเดินจ้ำตามแม่ลูกอ่อนนั้นไป คราวนี้เธอจะมีค่ารถแท็กซี่กลับบ้านละ ผมนึกในใจ แต่เธอข้ามถนนไปไกลแล้ว ผมยังต้องติดไฟแดงอยู่อีกนาน ตามธรรมเนียมของสี่แยกนี้ เพราะมีรถเลี้ยวขึ้นสะพานกรุงธนมากมายตลอดเวลา จนเธอเดินหายไปจากสายตา

เมื่อผมไปถึงโรงพยาบาลนั้น ก็เห็นแต่ผู้คนที่มาใช้บริการ คลาคล่ำไปหมด มีแต่คนเดินผ่านไปมาจนตาลาย ผมเดินไปมาตามหน้าห้องต่าง ๆ หลายตลบ ก็ไม่พบเธอผู้นั้นเลย เพราะผมไม่ได้ถามว่าเธอจะไปหาหมอที่ห้องไหน และข้อสำคัญคือผมก็ไม่แน่ใจว่าจะจำเธอได้ เพราะเมื่อนั่งอยู่บนรถเมล์ เธอไม่ได้หันหน้ามาทางผมเลย

ผมเดินกลับเข้าบ้านด้วยความเสียดาย ที่ไม่ได้ช่วยเหลือเธอตามความตั้งใจ แต่ก็ต้องปลงว่า คงไม่ใช่ความผิดของผมที่ไม่ช่วยเธอเสียตั้งแต่ทีแรก เพราะผมมีแต่เศษเหรียญในกระเป๋าเพียงไม่กี่อัน

ผมจึงได้แต่ส่งใจไปช่วยเธอ เท่านั้น.

#########

วารสารข่าวทหารอากาศ
สิงหาคม ๒๕๔๗


โดย: เจียวต้าย 31 สิงหาคม 2554 5:20:49 น.




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2554
11 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2554 7:20:00 น.
Counter : 662 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

คนมีน้ำใจ ก็มีมากมาย ราวห้วงน้ำใหญ่
สงสัยว่า ทำไมชายร่างสูง แต่งตัวมอซอ
ไม่ยอมรับน้ำใจ
และการทานอาหารของเขา ก็ไม่มูมมาม
ผู้ดีตกยากหรือไรหนอ

แต่ทำไมเสื้อผ้าสกปรกอย่างนั้น
ชีวิต มีอะไรให้สงสัยมากมายนะคะ

เวทนาแม่ลูกอ่อนคนนั้น
ชีวิตที่ยังไม่พร้อม...
แล้วจะทรมานทนทุกข์ไปอีกนานสักเพียงไหน
กรรมเวรแท้ๆ

 

โดย: nart (sirivinit ) 31 สิงหาคม 2554 9:33:00 น.  

 

เป็นคนที่จะแสดงน้ำใจ แต่ก็ไม่มีผู้รับ หรือมีอุปสรรคขัดข้อง เช่นเดียวกับเรื่อง ความจำเป็น น่ะครับ.

พรุ่งนี้เรื่อง คนวัยทอง ครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 31 สิงหาคม 2554 16:56:31 น.  

 

เพิ่งอ่านเจอข่าวหนึ่ง สลดใจค่ะ
ชายอายุ ๖๐ ปี ยิงชายชู้ วัย ๕๖ ปี
นายจ้างของภรรยา (เป็นคนงานก่อสร้าง)
ขณะที่เขาลงจากรถปิคอั๊พ

แล้วมัดเท้าทั้งสองข้างโยงไปท้ายรถ
ใช้รถนั้นลากศพไปประจานในหมู่บ้าน
ลงมายิงซ้ำเป็นระยะ ด้วยความแค้น

กรรมหนอ...

 

โดย: nart (sirivinit ) 31 สิงหาคม 2554 18:53:53 น.  

 

คนวัยเกษียณแล้ว ไม่น่าจะแค้นถึงขนาดนี้
เรื่องที่จะตามมาหลังจากนี้มีมากมาย
ตัวจะต้องติดคุก ลูกหลานมีหรือเปล่า จะต้องลำบาก

ไม่น่าคิดสั้นเลยครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 31 สิงหาคม 2554 21:20:37 น.  

 


เมื่อวานหนูไม่ได้แวะเข้ามาค่ะ วันนี้เลยมาตามอ่าน เข้าใจว่าคุณลุงคงเขียนทุกวัน...

หนูใช้บริการรถเมล์บ่อยค่ะ ทุกครั้งที่มีโอกาสจะลุกขึ้นให้คนสูงอายุเสมอ เพราะแม่หนูก็ขึ้นรถเมล์ประจำ แม่ไปไหนมาไหนเองค่ะ ไม่ค่อยอยากรบกวนลูกหลาน...เลยคิดเอาเองว่า ถ้าทุกครั้งที่เราเผื่อแผ่แก่คนสูงอายุ แม่เราคงจะได้รับกุศลแบบนี้บ้าง เป็นการมีน้ำใจแบบหวังผลอยู่นะคะเนี่ย...

เรียกว่า "หนู" ก็ได้ค่ะ ชื่อหนูเองค่ะ





 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 1 กันยายน 2554 15:57:06 น.  

 

ดีจังค่ะ ในที่นี้เรามีไมตรีใหม่ๆ เกิดขึ้น
ท่านหนึ่ง คือ ท่านผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
แฮ่ๆ ๆ แต่มีแหย่กันบ้าง อย่าถือสานะคะพี่ห่อ

คนที่ ๒ ก็น้องรัก มาดามอากิโกะ
ตอนนี้ไต้ฝุ่นเข้า คงลำบากนิดนึง
เธอมาอยู่อพาร์ทเมนท์ชั้นที่ ๑๔ ในเมือง
ที่ด้านหน้าเป็นห้างสรรพสินค้า

ปล่อยบ้านเดิม ให้ลูกชายอยู่
เธอมีภาระต้องไปซ่อมแซมบ้านให้เช่า เจ็ดหลังที่โอซาก้า
เลยมาได้บ้างไม่ได้บ้างนะคะ

คนที่ ๓ น้องหนู น้องรักอีกคน
เป็นคนอารมณ์ดี ถ่ายรูปสวยมาก
เป็นเจ้าของบล็อกพาท่องเที่ยวและถ่ายภาพแสนงาม
กับมีบล็อกดอกไม้ สวยสวย นำมาเผื่อให้เพื่อนๆ ชม
มีลูกสาวน่ารัก และลูกชายสุดหล่อ กับสามีใจดี
เป็นคนโชคดีอีกคนหนึ่ง

คนที่ ๔ คุณป้าร่มไม้เย็น มีภาระดูคุณแม่ที่วัยท่านห่อนี่แหละค่ะ
มาได้บ้างๆไม่ได้บ้าง
เพราะตอบแฟนบล็อกท่านเอง ก็แทบจะหมดเวลาแล้ว
คุณสิน เป็นน้องชายคุณป้าค่ะพี่ห่อ

ขอให้น้ำใจไมตรี ที่พวกเรามีต่อกันนี้
จงอยู่คู่บล็อกพวกเราไปจนหมดแรงอั๊พบล็อกนะคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 3 กันยายน 2554 14:44:04 น.  

 

กับมีบล็อกดอกไม้ สวยสวย .....นำมาเผื่อให้เพื่อนๆ ชม


หมายถึง สวนสวย นะคะ

 

โดย: nart (sirivinit ) 3 กันยายน 2554 14:45:47 น.  

 

เพราะคุณนาถมีเมตตาให้ผมนำเรื่องสั้นมาวางในกระทู้ที่โด่งดังของคุณ เรื่องของผมจึงมีผู้อ่านเพิ่มขึ้น ต้องขอขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ

ผมพยายามที่จะเข้าไปอ่านบล็อกของแต่ละท่านแต่หาเวลาที่ว่างจากการนอนไม่ค่อยได้ครับ

ต้องขออภัยด้วยครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 3 กันยายน 2554 18:47:15 น.  

 

นาถอยากให้พี่ห่อมีเพื่อนคุย
ให้มันแตกต่างไปจากนาถไงคะ
แต่เห็นใจ ว่าตาไม่ดี พิมพ์ลำบากค่ะ

อย่าไปคิดว่าบล็อกนาถโด่งดังอะไรเลยค่ะ
แค่นาถสนุก และมีความสุขที่ได้ทำ
ไม่งั้นก็ดีแต่นอนอ่านหนังสือ
กับนอนดูหนังเกาหลีทั้งวันทั้งคืนค่ะ

ถ้าพออ่านไหว อ่านกรุ๊พบล็อกสุดท้ายของนาถซีคะ
มีข่าวล่าสุดตลอดค่ะ เลือกอ่านเฉพาะที่สนใจเอา

นานมาแล้ว พี่ห่อไปอ่านบล็อกสวนสาธารณะ
๗๖.สุมนัสสราญรมย์ชมพันธุ์พฤกษ์
แล้วแนะนำสวนหนึ่งให้นาถทราบ ก็หาข้อมูลไม่ได้ค่ะ

เมื่อวาน นาถไปขอภาพและข้อมูลน้องหนูมาเพิ่ม
เพราะเธอมีฝีมือในการถ่ายภาพได้งามมากค่ะ
ที่หัวข้อ สวนธนบุรีรมย์ หากพอไหว .. เมื่อไรก็ได้ค่ะ
ขอเชิญไปอ่านและชมภาพ ที่ได้มาเพิ่มเติมนะคะ


 

โดย: nart (sirivinit ) 3 กันยายน 2554 19:08:02 น.  

 

ผมนับถือความเป็นผู้มีน้ำใสใจจริงของคุณนาถอย่างยิ่งครับ
ผมได้เวทีวางเรื่องสั้นเพิ่มขึ้น ได้เพื่อนคุยเพิ่มขึ้น เป็นคนแก่ที่มีความสุขมากขึ้น เพราะความกรุณาของคุณนาถครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 6 กันยายน 2554 6:20:59 น.  

 

ก็เราเป็นเพื่อนบล็อกกันค่ะพี่ห่อ

 

โดย: nart (sirivinit ) 6 กันยายน 2554 8:23:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.