"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
17 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
แนะนำเรื่องสั้น ของ เจียวต้าย ชุด เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. ผู้บำเพ็ญประโยชน์




เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา

ผู้บำเพ็ญประโยชน์

" เพทาย "



หมู่บ้านที่ผมอาศัยอยู่นี้ ไม่ใช่มีทางเข้าออกเพียงทางเดียวหรือสองทาง เหมือนอย่างหมู่บ้านสมัยใหม่ทั่ว ๆ ไป แต่มีซอยกว้างขวางให้รถวิ่งสวนกันได้ ผ่ากลางหมู่บ้าน จากถนนใหญ่สายหนึ่งไปยังถนนใหญ่อีกสามสายถึงสิบซอย ดังนั้นจึงมีรถที่แล่นผ่านเข้าซอยนี้ไปออกซอยโน้น ตลอดทั้งวันเป็นปริมาณมากมายนับไม่ถ้วน จนถึงกับทางผู้มีหน้าที่จัดการจราจร ต้องออกกฎเกณฑ์ ห้ามเลี้ยวขวาบ้าง ห้ามออกในเวลาที่กำหนดบ้างเกือบจะทุกปากซอย

ทีนี้ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งส่วนตัวและสาธารณะ ที่ไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ แลเห็นถนนซอยกว้างขวางดี ก็คิดจะหาทางลัด เมื่อเจอเอาป้ายห้ามต่าง ๆ เข้า ก็ต้องวนไปตั้งต้นใหม่ ส่วนผู้ที่ตามหลังมาด้วยความไม่รู้เช่นกัน ก็ต้องถอยเข้าถอยออกติดเป็นแพ ตำรวจจราจรก็ไม่มีมาช่วยจัดการ จึงเกิดมีอาสาสมัคร ช่วยเป่านกหวีดโบกไม้โบกมือ ชี้ทางให้บ่อย ๆ ชี้ถูกบ้างผิดบ้างไปตามเรื่อง

ชายผู้นั้นมีอายุเข้าวัยชราแล้ว ผมเผ้าที่ตัดเกรียนติดหนังศรีษะ มีเส้นสีขาวแซมอยู่ทั่วไป แต่ร่างกายยังแข็งแรง นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวตุ่น ยืนเป่านกหวีดอยู่ได้ครึ่งวันค่อนวันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ชาวบ้านเรียกชื่อเล่นว่า ก๋อย ตาก๋อยหรือลุงก๋อยคนนี้ มีลักษณะคล้ายคนปัญญาอ่อน แต่ไม่มากนัก ข้อสำคัญคือเสียงพูดจะอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็พอจะเดากันได้ แกไม่ได้ทำงานการอะไร บางครั้งจะเห็นแกขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือผลการออกสลากกินแบ่ง ซึ่งบางทีก็เป็นคนละงวดกับที่เขาออกกันในวันนั้น และบางวันก็ขายหนังสือพิมพ์ ที่ป้ายรถเมล์นั้นเอง

บางคราวก็จะถือเครื่องวิทยุ หรือเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก ที่ต่อกับไมโครโฟนได้ เที่ยวเดินร้องเพลงไปตามถนนในซอย โดยไม่มีใครฟังออกว่า เพลงที่แกร้องนั้นเป็นเพลงอะไร ในบางโอกาสก็จะเป่าแคนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งมีแค่สองเสียงคือดูดกับเป่าเท่านั้น และถ้ามีวงดนตรีของคนตาบอด มายึดทางเท้าบรรเลงเพลง เรียกร้องให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาบริจาคเงิน แกก็จะถือโอกาสเข้าไปเป็นคอนดัคเตอร์ หรือผู้อำนวยเพลงโดยไม่ได้รับเชื้อเชิญ และนักดนตรีก็ไม่มีโอกาส จะรู้ด้วย ประชาชนที่เดินผ่านไปมา ก็จะสนใจมองดูพฤติกรรมของแก แต่ถ้าเป็นชาวบ้านที่คุ้นเคยกันอยู่ ก็ไม่มีใครให้ความสนใจ เพราะเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่แกชอบทำ คือเมื่อหมู่บ้านนี้มีงานเพื่อส่วนรวม เช่นทำบุญเลี้ยงพระประจำปี แกก็จะเป็นผู้ช่วยมัคทายก ยกอาหารหรือเครื่องไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ที่มาร่วมพิธี ถ้าเป็นการทำความสะอาดถนนสายต่าง ๆ ในหมู่บ้าน เนื่องจากวาระอะไรก็ตามแต่ แกก็จะหิ้วโทรโข่งส่วนตัว เดินประกาศเรียกชาวบ้านที่ผ่านไป ให้ออกมาร่วมมือด้วยภาษาที่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องของแก แทบทุกครั้ง และแม้เมื่อมีการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นระดับหมู่บ้าน ระดับมหานคร หรือระดับชาติ แกก็จะทำหน้าที่นั้น ด้วยความเต็มใจโดยไม่ต้องออกปากไหว้วาน ซึ่งทำความขบขันให้แก่คนนอกหมู่บ้านให้ยิ้มหัวว่า หมู่บ้านนี้ช่างไปหาคนประเภทไหน มาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์

ยังมีอีกคนหนึ่งซึ่งหนุ่มกว่ามาก ชาวบ้านเรียกว่า นายด้อง หรืออาจมีคำนำหน้าเป็นอย่างอื่นก็ได้ รายนี้ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้สังคมเลย ดีแต่เที่ยวเดินชี้หน้าว่าคนโน้นคนนี้ ด้วยภาษาและประโยคที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร ด้วยหน้าตาที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเครา และผมที่ยาวยุ่งเหยิงรุงรัง กับท่าทางที่ถมึงทึงและน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยต้องสะดุ้งอยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าตั้งใจฟังเข้าจริง ก็ไม่รู้ว่าเขาตวาดเอาด้วยเรื่องอะไร และถ้าเป็นผู้หญิงสาว ๆ ผ่านมา เขาก็จะแสดงท่าทางขึงขังให้น่ากลัวยิ่งขึ้น ทำให้แตกหนีไปคนละทาง แต่ก็เช่นเดียวกัน ชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่สมควรจะต้องเสียเวลาให้ความสนใจเท่าไรนัก

เขาจะนุ่งกางเกงขายาวกระดำกระด่าง เป็นประจำ แต่ใส่เสื้อทหารหรือตำรวจเพียงครึ่งท่อน ซึ่งไม่ทราบว่าไปเอามาแต่ไหน บางทีก็มีแฟ้มหรือแผ่นกระดาษอยู่ในมือ ชี้โบ๊ชี้เบ๊หรือจดอะไรไปตามเรื่องตามราว

บางคราวเขาจะหายหน้าไปเดือน ผู้รู้บอกว่าญาติส่งไปเข้าโรงพยาบาล เพื่อบำบัดอาการดังกล่าว แต่เมื่อกลับมาก็ไม่เห็นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแต่อย่างใด ต่อมาเขาไม่พูดจากระโชกโฮกฮากเพียงอย่างเดียว แต่มีการออกท่าทางเหมือนอย่างมวยไทย ทั้งชกทั้งเตะต่อย ตีศอกและขึ้นเข่าไปตามลมตามแล้ง ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาต้องเลี่ยงให้ห่างออกไปอีก เพราะถ้าเคราะห์ร้ายถูกลูกหลง ก็ไม่รู้จะเจรจาเอาความกันได้อย่างไร

ทำอย่างนั้นอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งก็มีผู้พบว่านายด้อง มีอาการป่วยหน้าตาเขียวช้ำ โดยเฉพาะโหนกแก้มขวาบวม และดวงตาข้างนั้นก็แดงก่ำ ราวกับถูกใครลงมือลงไม้มา ชาวบ้านที่พบเห็นก็พากันสงสารเวทนา แต่ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าไปโดนอะไรเข้า ก็ได้แต่เดาว่าคงจะเป็นผู้ที่เขาไม่รู้ว่าเป็นคนเสียสติ และนึกว่าจะถูกทำร้ายเอานั่นเอง

เมื่อนายด้องโคจรมาพบตาก๋อยเข้า บางครั้งก็คุยกัน แต่บางทีก็มีการถกเถียงกัน ด้วยภาษาพูดคนละภาษา ที่ไม่มีใครทราบว่าเขารู้เรื่องกันหรือไม่ ซึ่งเป็นที่ขบขันเฮฮาสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ที่ตั้งขายของอยู่บนทางเท้าในซอยนั้น

ในวันที่ตาก๋อยกำลังทำหน้าที่ จัดการจราจร ด้วยการเป่านกหวีดไล่รถให้เลี้ยวหลบซอยที่ห้ามออก ไปทางซอยอื่นอยู่อย่างขะมักเขม้นนั้น นายด้องโผล่จากไหนไม่ทราบ เดินบ่นมาตามข้างถนนในซอยที่แดดร้อนเปรี้ยง

พอแลเห็นตาก๋อยที่หัวมุมซอย ก็ถลาเข้าไปหาโดยตัดหน้ารถแท็กซี่อย่างกระชั้นชิด จนโชเฟอร์ต้องเบรคเสียงสนั่น พร้อมกับบีบแตรดังลั่น ทำให้นายด้องสดุ้งโหยง รีบหยุดกึกแล้วหันขวับมาชี้หน้าพลขับ พร้อมกับตะโกนเสียงโหวกเหวก อย่างเคย

โชเฟอร์แท็กซี่ได้ยินไม่ถนัด นึกว่าคนเดินตัดหน้าแล้วยังจะเอาเรื่องอีก ก็เปิดประตูผางออกมา และปรี่เข้าหานายด้อง ซึ่งก็ไม่มีทีท่าว่าจะถอยเหมือนกัน

ตาก๋อยรีบปล่อยนกหวีดหลุดจากปาก วิ่งเข้ามาฉุดนายด้องให้ถอยห่างออกไป พร้อมกับว่า

" ไอ้อ้า เอินไอ้อูอ๊ดอูอา เอี๋ยวโอนอั๊บอายอ่า "

โชเฟอร์จึงชะงักอยู่กับที่ เมื่อตาก๋อยเข้ามายกมือไหว้ แล้วพูดว่า

" อ่าอื๋ออันเอยอั๊บ ไอ้อ้องอันเอ็นอนอ้า "

ในขณะนั้นเองที่พ่อค้าแม่ค้าซึ่งอยู่ใกล้ กับชาวบ้านที่ผ่านมาเห็น ก็ช่วยกันร้องบอกโชเฟอร์ทำนองว่า อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนใบ้เลย เขาจึงหัวเราะออกมาได้และเดินกลับมาขึ้นรถ ขับเคลื่อนออกไปจากที่นั้น รถที่ตามหลังมาต่างก็ต้องเหลียวดูชายไม่สมประกอบทั้งสอง ด้วยความขบขันและสังเวชในใจ เมื่อนายด้องได้รอดจากมือเท้า ของโชเฟอร์แท็กซี่เลือดร้อนผู้นั้นแล้ว ก็เดินตะโกนอะไรเรื่อยเปื่อยต่อไป โดยไม่ได้สนใจตาก๋อย ซึ่งช่วยให้ตนพ้นภัยมาได้เลย

ส่วนตาก๋อยนั้น ผมเองเห็นว่า ถึงแม้จะป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ไม่ค่อยได้สติสตัง แต่ก็ยังมีค่าต่อสังคม รู้จักบำเพ็ญประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์ และช่วยเหลือคนที่มีสติน้อยกว่า แม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่ชอบขี้หน้าเท่าไรนักก็ตาม ทั้งยังรู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่ ด้วยการคว้านกหวีดที่คล้องคออยู่ เอามาเป่าเป็นสัญญาณประกอบกับมือ ที่โบกให้รถแล่นไปตามทิศทางที่ถูกต้องต่อไป โดยปล่อยให้นายด้อง เดินบ่นบ้าอยู่ต่อไปแต่ผู้เดียว อย่างไม่สนใจใยดีเหมือนกัน

ขณะนั้นผมกำลังหิ้วถุงโอวเลี้ยงสองถุงเพื่อไปฝากแม่บ้าน ผ่านมาถึงพอดี แกเลยขอเอาไปถุงหนึ่ง ยกขึ้นดูดด้วยความกระหายน้ำ รวดเดียวเกือบแห้ง แล้วก็ส่งคืนพร้อมกับยิ้มเห็นฟัน ที่เหลืออยู่สองสามซี่ พร้อมกับโบกมือไล่

" ออบไอโอ๊ย ไอไอ้อ๊น อ่าอาอืนอ๋างอาง อ๊ดอิดอายอ่า "

ผมรีบแอบเข้าข้างทาง ตามคำสั่งของแก โดยไม่รู้จะเถียงแกให้เสียเวลาไปทำไม ก็เห็นกันมาตั้งแต่เด็กนี่ครับ.

##########


นิตยสารโล่เงิน
พฤษภาคม ๒๕๔๗


โดย: เจียวต้าย วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:8:29:18 น.



Create Date : 17 กันยายน 2554
Last Update : 17 กันยายน 2554 9:46:40 น. 10 comments
Counter : 844 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ


ไม่ทราบข้อความใด "ต้องห้าม"
นาถไปกู้เอนทรี่นี้มาจากที่ถูกแบนค่ะพี่ห่อ...ฮ่าๆๆๆ

" ออบไอโอ๊ย ไอไอ้อ๊น อ่าอาอืนอ๋างอาง อ๊ดอิดอายอ่า "


ไอไอ้อ๊น ...? ไปให้พ้น ?

อ่าอาอืน...? อย่ามายืน

อ๋างอาง...?


โอยไอ้เอ้าไอ...ฮ่าๆๆๆ

แถวบ้านแต่ก่อนมีคนหนึ่ง เดินไปเดินมา พอคนมอง ก็สรรเสริญพระเยซูคริสต์เจ้า
พอจบแล้วก็เดินไป คงไปสำแดงต่อที่อื่น นานๆ ก็จะเห็นทีค่ะ

คนน่าสงสารพวกนี้ เวทนานะคะ เราก็ต้องมีมุทิตาจิตต่อเขา

นาถชอบน้ำดำ รวมทั้งโอเลี้ยงด้วย มีเจ้าหนึ่ง ชงได้เข้มข้น แก่ หวานกำลังดี ขวดลิตรครึ่ง ๔๕ บาท แต่ก่อน ๓๐ บาท ขึ้นราคาตามน้ำตาลขึ้นค่ะ

วันนี้มีเราคุยกันสองคนค่ะพี่ห่อ
มาดามอากิโกะ เข้ากรุง ไปดูงานเทศกาล สองสามวัน

น้องหนู อาจจะไปเที่ยวกับครอบครัว
แล้วถ่ายภาพงามๆ มาฝากเพื่อนบล็อกค่ะ

เมื่อคืนนาถนอนดึกมาก ดูเอเอฟแปด ตอนจบเวลาการอยู่ในบ้าน น้ำตาท่วมจอ พลอยตื่นตันไปกับเขาด้วยค่ะ

ตาแข็ง อ่านหนังสือต่อ ตีห้านี่รู้สึกว่ายังไม่หลับเลยค่ะ อั๊พบล็อกสักหน่อย หากง่วงอีก ก็จะไปนอนต่อค่ะ

วันนี้นาถอยู่อันดับ ๑ ค่ะ



โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:10:03:55 น.  

 
ไปให้พ้น อย่ามายืนขวางทาง รถติดครับผม...ฮ่าๆๆๆ มาเดาออกตอนหลังนี่เองค่ะ



โดย: นาถ (sirivinit ) วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:10:05:43 น.  

 
เข้าใจคำสุดท้ายค่ะ กลัวโดนแบน
"ตายห่าน"

ขอลาไปอั๊พบล็อกค่ะ

บล็อกเมื่อวาน
นาถเดาเก่งค่ะ



โดย: นาถ (sirivinit ) วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:10:08:46 น.  

 
คุณนาถเดาเก่งอยู่แล้วนี่ครับ ยังไม่ทันตอบก็คิดออกเอง

ก็คำนั้นเขียนอย่างคนพูดไม่ชัดแล้วยังตามมาเซ็นเซ่อร์อีกหรือครับ

ความจริงเรื่องในบล็อกเขาไม่ยุ่งไม่ใช่หรือครับ ผมเคยอ่านมีคำหยาบมากมายเขาก็อยู่ได้ครับ

อย่างในบล็อกของผม เขียนคำที่เอาออกไปวางในกระทู้แล้วต้องตั้งสามสิบแห่งยังมีเลยครับ แต่อยู่ในบล็อกได้สบายครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:10:50:35 น.  

 
ผมเข้ามาอ่านเรื่องในบล็อกของคุณนาถ ตามที่เขาในนำในกระทู้อยู่เสมอนะครับ แต่ส่วนมากไม่เปิดโอกาสให้ออกความเห็นครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:10:52:37 น.  

 
เพราะนาถมีเวลาน้อยน่ะซีคะ
บางคอมเมนท์ บอกว่า สวยดี
เราก็ต้องไปตอบขอบคุณโดยมารยาท
ทีนี้บางบล็อก เจ้าประคุณเอ๋ย กว่าจะเปิดได้
มันเปลืองเวลามากเลยค่ะ

ที่เปิดบล็อกนี้ เพราะโดนว่าที่หลังไมค์ค่ะ
เอ้า เปิดก็เปิด...ถึงไม่ได้ไปเยี่ยมบล็อกไหนเลยค่ะ
ได้แต่ตอบ .. แต่ตอบด้วยความยินดีนะคะ

วันหนึ่งมี ๒๕ ชม.สำหรับนาถ
อยากเล่นบล็อก อยากอ่านหนังสือ อยากถักโครเชท์
สามสิ่งนี้ เปลืองเวลามากค่ะ

พี่ห่อรักษาสุขภาพนะคะ
อากาศร้อน ไม่จำเป็นอย่าไปตากแดดเลยค่ะ
วัยปลายอย่างเรา ต้องถนอมตัวหน่อย


ที่พี่ห่อไปวางให้ใหม่ กับที่นาถอั๊พบล็อก
ดูเวลาซีคะ ห่างกันชั่วเสี้ยววินาที
นาถมัวยกข้อความที่ตกบรรทัดให้ต่อเนื่องอยู่ค่ะ

อยากแก้คำผิด เช่น ศีรษะ แต่ก็ปล่อย
พี่ห่อมีผิดคำนี้อยู่คำเดียวค่ะ




โดย: nart (sirivinit ) วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:11:25:41 น.  

 
ผมว่าผมชี้แจงแล้ว ว่ามันเคยมือแล้วเวลาตรวจทานตอนที่เอามาวางใหม่ ก็ไม่ละเอียดพอครับ

แต่มาเปิดดูแล้วก็ไม่พบ หรือจำผิดก็ไม่ทราบครับ

และขอเรียนว่า ต่อไปอาจจะหายไปบ้าง เพราะเครื่องมีเหตุขลุกขลักบ่อย เช่นเมื่อเช้าก็เข้าอินเตอร์เนต ผ่านทรูไม่ได้กว่าจะหาสาเหตุ ก็หลายชั่วโมง แต่ก็คงไม่เกินวันเว้นวันเพราะถ้ามาก็เป็นเวลาเดิมครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:19:10:11 น.  

 
คราวหน้าเรื่อง เรื่องของสุขา ครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 17 กันยายน 2554 เวลา:19:12:13 น.  

 
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา

เรื่องของสุขา

“ เพทาย “


วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ถนนสีลมปิดห้ามรถแล่นปล่อยให้ถนนว่าง เพื่อใช้เป็นที่จัดงานแสดงศิลปวัฒนธรรม เป็นประจำทุกสัปดาห์ ผมลงจากรถโดยสารที่ใกล้กับพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า หน้าสวนลุมพินี ซึ่งเป็นวันก่อนที่จะมีพิธีวางพวงมาลาประจำปี เจ้าหน้าที่กำลังกางเต๊นท์ จัดเก้าอี้ และเดินสายไฟฟ้า กันทั่วไป

ผมเดินผ่านเข้าประตูมุ่งหน้าไปยัง ห้องสมุดประชาชน ของกรุงเทพมหานคร เมื่อผ่านสุขาสาธารณะก็แวะเข้าไปทำธุระ เป็นการไม่ประมาทต่ออนาคต ปรากฎว่ามีป้ายชี้แจงไว้ว่า ฟรีชั่วคราวจนกว่าจะเปิดประมูลใหม่ แต่บนโต๊ะเตี้ย ๆ ข้างหน้า มีผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ปูอยู่และมีเหรียญบาท วางอยู่หลายเหรียญ จึงถามหญิงสาวมากที่นั่งกำกับอยู่ ได้ความว่าต้องบริจาคสองบาท ผมก็ไม่ได้โต้แย้ง ว่ามันขัดกับข้อความบนป้าย ยอมควักให้แต่โดยดี

แต่ขณะที่ทำธุระอยู่ก็อดที่จะคิดถึงเรื่องพรรค์นี้ไม่ได้ เพราะเมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน สมัยที่ยังเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร ท่านได้ใช้งบประมาณสร้างส้วมสาธารณะหลายแห่ง และใช้อ้างในการหาเสียงด้วย ว่าจะต้องสร้างส้วมสาธารณะ ในที่ซึ่งมีคนสัญจรไปมามาก เช่นตามป้ายรถเมล์ แล้วจัดให้มีคนเฝ้า โดยให้เก็บเงินค่าบริการตามสมควร และอนุญาตให้ขายของเบ็ดเตล็ด เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกด้วย เขาจะได้รับผิดชอบในความสะอาด โดย กทม.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

แต่ผู้ว่าราชการคนก่อนนี้ ไม่เห็นด้วย สั่งให้เลิกเก็บเงินแม้จะมีคนเฝ้าเหมือนเดิม ซึ่งคงจะได้ค่าจ้างจาก กทม. แต่ขายของเบ็ดเตล็ดก็ไม่ได้ จึงอาจจะไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ ต้องแอบต้องซ่อนขาย กระดาษชำระบ้าง ลูกอมยาดมยาหม่องบ้าง และรอรับบริจาคค่าใช้บริการจาก ผู้ที่เข้ามาปลดทุกข์ ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดปฏิเสธ เพราะทุกข์นี้เป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ยิ่งกว่าราคาหุ้นตกมากนัก

เพื่อสนองนโยบายใช้ สุขาสาธารณะฟรี ทาง กทม.ยุคนั้นจึงสร้างสุขาเพิ่มขึ้นอีกหลายแห่งทั่วกรุงเทพ แต่ไม่ต้องการให้ประเจิดประเจ้อ จึงเลือกที่ซึ่งไม่ค่อยเปิดเผยนัก และสร้างแบบไฮเทค ใช้ได้ทั้งคนดีและคนพิการ เป็นห้องที่ทำด้วยแสตนด์เลสทั้งหลังแต่มีขนาดเล็ก ห้องของชายหญิงก็อยู่ติดกันแค่มือเอื้อม และไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูแล จึงไม่ค่อยมีผู้คนเข้าไปใช้บริการเท่าใดนัก เพราะใช้ไม่ค่อยเป็น และอยู่ในที่ค่อนข้างเปลี่ยว โดยเฉพาะผู้หญิง คงกลัวว่าเข้าไปแล้วจะเปิดออกมาไม่ได้ หรือมีคนมาคอยดักจี้ชิงทรัพย์อยู่หน้าประตูก็ได้ ทั้ง ๆ ที่มีไฟแดงติดอยู่บนหลังคาทุกแห่ง ก็ตาม มาถึงสมัยนี้จึงมีตัวหนังสือสีแดงบอกว่า ค่าบริการสองบาท แต่ผมเคยลองเปิดดู ก็เปิดไม่ออก คงจะเก็บเงินและเปิดใช้ได้ เมื่อมีคนมาเฝ้ากระมัง

พอผู้ว่าราชการ กทม.ท่านนี้ได้เข้ามาดำรงตำแหน่ง ด้วยคะแนนท่วมท้น จากข้อความบนแผ่นป้ายหาเสียงที่ว่า ถ้าจะใช้ผม โปรดเลือกผม ท่านก็ยกเลิกการใช้สุขาฟรีแต่ไม่ฟรีจริง หมดทุกแห่ง แล้วติดป้ายที่ว่านั้น ดูเหมือนจะหลายเดือนมาแล้ว ยังไม่ได้ผู้ประมูลใหม่สักที จึงต้องเสียบ้างไม่เสียบ้าง ตามแต่ความสมัครใจของผู้ใช้บริการต่อไป

เมื่อผมมอบหนังสือสี่เล่ม ที่นำมาบริจาคให้ห้องสมุด และหยิบหนังสือบนชั้นมาพลิกดูเล่นสองสามเล่มแล้ว ก็คิดจะกลับเพราะมีผู้ใช้บริการค่อนข้างแน่น ถ้าลุกจากเก้าอี้แล้ว ก็ไม่มีทางได้กลับมานั่ง เพราะมีผู้รอให้ว่างอยู่แล้ว ส่วนอีกจำนวนหนึ่งนั้น ไม่แยแสว่าจะมีเก้าอี้ว่างหรือไม่ คงปักหลักนั่งกับพื้น หรือยืนอ่านกัน ตรงชั้นที่หยิบหนังสือออกมานั้นเอง และทุกคนสนใจกับหนังสือในมือของตนอย่างใจจดใจจ่อ ไม่มีใครมานั่งฟุบหลับให้เปลืองที่ เหมือนที่หอสมุดแห่งชาติ อันกว้างขวาง และเย็นฉ่ำเลย

เมื่อออกมาจากสวนลุมพินีแล้ว ผมก็เดินทอดน่องเข้าไปในถนนสีลม เพื่อดูว่าเขามีอะไรกันบ้าง ขณะนั้นเพิ่งจะบ่ายสามโมง จึงยังไม่ค่อยมีผู้คนมาเดินมากมายนัก ร้านค้าแบบแผงลอย วางทั้งสองฝั่งของเกาะกลาง ซึ่งเป็นแนวเสาที่วางรางรถไฟฟ้ามหานคร ของบริษัท BTS มีสินค้ามากมายหลายประเภท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ของตำบลต่าง ๆ ที่มาจากหลายจังหวัดในทุกภาค

แต่ที่ผมสนใจก็คือการระบายสีบนแผ่นผ้าขนาดเล็ก ที่ใช้เป็นผ้าโพกผมหรือผ้าเช็ดหน้าบาง ๆ โดยเขียนแบบให้เด็กเล็กๆ เป็นผู้ระบาย และผู้ปกครองหลายคนก็นั่งช่วยลุ้น ลูกหลานของตนด้วย บางร้านก็เป็นการให้เด็กระบายสีตัวตุ๊กตาที่ทำด้วยปูนปลาสเตอร์สีขาว และอีกบางร้านก็เลื่อยไม้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้เด็กเอากาวติดต่อเป็นบ้านเรือน หรือรูปต่าง ๆ ตามใจชอบ

ผมเดินไปเรื่อย ๆ จนทะลุออกไปทางถนนอะไรก็ไม่ทราบ เพราะไม่เคยมาทางย่านนี้เลย และขึ้นไปบนสถานีช่องนนทรี เพื่อโดยสารรถไฟฟ้ากลับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยลงต่ออีกสายหนึ่งซึ่งมาจากซอยอ่อนนุช ที่สถานีสยาม ตลอดเส้นทางใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบห้านาที การเดินทางด้วยรถไฟฟ้านี้นับว่าคุ้มค่า เพราะราคาไม่แพงจนเกินไป และไม่ต้องติดการจราจรบนถนน หรือไฟแดงตามสี่แยก ให้หงุดหงิด ทั้งบรรยากาศบนรถก็ค่อนข้างเงียบ และเย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศ เทียบกับรถโดยสารปรับอากาศ หรือรถแท็กซี่แล้วดูจะดีกว่า เสียแต่มีเส้นทางจำกัด ไปไม่ได้ไกล

เห็นผู้ว่า กทม. คนปัจจุบันบอกว่าจะต่อออกไปถึงบางแค หรือไกลกว่านั้น แต่ถ้าสายเหนือต่อจากสวนจตุจักรไปถึงรังสิตก็ยิ่งดี ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะไปแย่งเส้นทางของโทลเวย์เขา

แต่ที่แย่ที่สุดก็คือสถานีรถไฟฟ้าทุกแห่ง ไม่มีห้องสุขา เขาใจว่าไม่ใช่บริษัทไม่เห็นความจำเป็น แต่คงจะเป็นเพราะไม่อยากหมดเปลืองค่าใช้จ่าย ในการสร้าง การรักษาความสะอาด และการรักษาความปลอดภัย กระมัง

จากชานชลาสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีผู้โดยสารลงกันมากมาย ผมเดินตามกลุ่มคนลงบันไดมาร่วมสี่สิบขั้น และเดินต่อไปบนสะพานลอย ซึ่งทอดยาวออกมาทางด้านโรงพยาบาลราชวิถี แล้วจึงลงบันไดอีกกว่าสี่สิบขั้น กว่าจะถึงทางเท้าข้างถนน ผมเดินลงมาจนเกือบถึงขั้นสุดท้าย ก็เห็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ตรงเชิงบันได

นั่นคือสถานสุขาของกรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ และนั่นก็คือสวรรค์บนดินของผมดีดีนี่เอง ผมจะได้ปลดทุกข์อันหนักหน่วงที่อั้นมา ตั้งแต่สถานีช่องนนทรีออกเสียที....สาธุ.

############

เรื่องของวันอาทิตย์
นิตยสารโล่เงิน
มิถุนายน ๒๕๔๗


โดย: เจียวต้าย วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:6:49:44 น.  

 

จริงๆ ถ้าเห็นคนคล้ายๆ ตาก๋อย ไม่ค่อยน่ากลัวนะคะ แต่ถ้าอย่างนายด้อง มีกลัวๆ นิดหน่อยค่ะ คงเพราะหน้าตาท่าทางมังคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:14:11:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.