แนะนำเรื่องสั้น รำพึงรำพัน โดย เจียวต้าย .. หกสิบปีในเส้นทางนักเขียน (เล็กเล็ก)
รำพึงรำพัน
หกสิบปีในเส้นทางนักเขียน (เล็กเล็ก)
"เจียวต้าย"
ได้เคยเล่าไว้แล้วว่าเรื่องสั้นเรื่องแรกของผมในนามปากกาเพทาย ได้ลงพิมพ์ในนิตยสารโบว์แดงเมื่อ ๑๑ ต.ค.๙๑ แล้วก็มีเรื่องสั้นได้ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ชื่อต่าง ๆ ประมาณเจ็ดสิบเรื่อง ในเวลา สิบกว่าปี จนเข้ารับราชการในกรมการทหารสื่อสาร จึงได้หยุดส่งเรื่องไปตามหนังสือพิมพ์ เพราะตั้งหน้าตั้งตาเขียนลง นิตยสารทหารสื่อสาร แฟนสัมพันธ์ และ วปถ.ปริทรรศน์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ จนได้เข้าประจำกองบรรณาธิการ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๘
ตลอดเวลาสิบแปดปีนั้น ได้เขียนเรื่องหลายประเภท ทั้งบทความ สารคดี ขำขัน ใช้นามปากกามากมายหลายชื่อ เพื่อให้ดูแตกต่าง ตั้งแต่หนังสือออกรายสองเดือน รายเดือน จนถึงรายสะดวก สุดท้ายเป็นรายปี คือออกเป็นหนังสือที่ระลึกวันทหารสื่อสารเล่มเดียว ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๙ ถึง ๒๕๓๐ จึงได้เป็น ผู้ช่วยบรรณาธิการ ทำงานแทนบรรณาธิการ ทุกอย่างทุกประการ จนถึง พ.ศ.๒๕๓๕ เกษียณอายุราชการ จึงมีข้อเขียนฝากไว้ในนิตยสาร ทหารสื่อสาร เกือบสองร้อยชิ้น
เมื่อพ้นหน้าที่ทางราชการแล้ว จึงยึดเอางานเขียนเป็นอาชีพหลัก โดยเริ่ม สามก๊กฉบับลิ่วล้อ เป็นขบวนแรก ส่งไปลงพิมมพ์ในวารสารของทหารเหล่าต่าง ๆ ในกองทัพบกเช่น เสนาสาร, ฟ้าหม่นของศูนย์การทหารม้า, กองพลทหารราบที่ ๔, กองพลทหารราบที่ ๓, ทหารสรรพาวุธ, ยุทธโกษ, หลักเมือง ของกระทรวงกลาโหม, ทหารปืนใหญ่, สรสิงหนาท ของกองพลทหารราบที่ ๙, รักษาดินแดน, กองพลทหารม้าที่ ๑ นอกไปจากนิตยสารทหารสื่อสาร และหนังสือที่ระลึก สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง ๕ เจ้าประจำด้วยงานเขียนหลายประเภท
จากนั้นก็ออกนอกวงการทหารบก เช่น สยามอารยะ ของสยามสมาคม, นิตยสารโล่เงิน ในวงการตำรวจ, และ นิตยสารต่วยตูน, และ ข่าวทหารอากาศ เป็นรายสุดท้าย รวมเวลาหลังเกษียณอายุ สิบห้าปี มีผลงานฝากไว้ในหนังสือที่อ้างชื่อมาแล้ว ประมาณ เจ็ดร้อยชิ้น พอจะแยกประเภทได้ ดังนี้
เรื่องสั้น ชุดฉากชีวิต นามปากกา เพทาย นิยายอิงพงศาวดารจีน นามปากกา เล่าเซียงชุน เรื่อง สามก๊ก เรื่อง ซ้องกั๋ง เรื่อง เปาบุ้นจิ้น นอกนั้นเป็นพงศาวดารจีนเรื่องอื่น ๆ ,สารคดี บันทึกของคนเดินเท้า นามปากกา เทพารักษ์ ,สารคดี ย้อนอดีต และพลิกพงศาวดาร นามปากกา พ.สมานคุรุกรรม , คุ้ยวรรณคดีไทย นามปากกา ฑ.มณฑา , ความหลังริมคลองเปรม และ โคนต้นไทร นามปากกา วชิรพักตร์
กับได้รวมเล่มพ็อกเก็ตบุคส์ นามปากกา เล่าเซี่ยงชุน ๘ เล่ม และ นามปากกา เจียวต้าย อีก ๑ เล่มไว้เป็นอนุสรณ์ในโลกของวรรณกรรม
เมื่อมีเกิดแล้วก็ต้องมีเสื่อม และสิ้นสุด ตามกฎอนิจจังที่ท่านว่าไว้ รายชื่อหนังสือพิมพ์และนิตยสาร หรือวารสาร ที่กล่าวอ้างเหล่านั้น ก็ล้มหายตายจากไปบ้าง เปลี่ยนนโยบายบ้าง จนถึง พ.ศ.๒๕๕๐ จึงเหลืออยู่พียงสามฉบับคือ ข่าวทหารอากาศรายเดือน, ฟ้าหม่น รายสองเดือน, กองพลทหารม้าที่ ๑ รายสามเดือน และ นิตยสารทหารสื่อสาร รายปี
บัดนี้กาลเวลาได้ล่วงมาจากวันที่เริ่มต้น ถึงหกสิบปีแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะรวบรวมขึ้นมาเป็นข้อเขียนประเภทต่าง ๆ นั้น ก็หายากขึ้น เพราะเรื่องราวในโลกนี้ ก็ล้วนแต่ซ้ำซากวนเวียนอยู่ไม่ห่างไกลจากที่เคยประสบมาแล้วในอดีต ครั้นจะแปลจากเรื่องของฝรั่งที่มีความแปลกใหม่ ก็มีความรู้ไม่เพียงพอ และในปัจจุบันนี้จะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เข้มงวดด้วย จึงสมควรแก่เวลาที่จะวางมือได้แล้ว เพราะอายุก็มากพอที่จะพักผ่อนอย่างไม่ต้องมีอะไรมาบีบรัดให้กังวลอีก คอยระวังรักษาตัวให้มีลมหายใจอยู่ ก็เหน็ดเหนื่อยพอล้ว
ที่เล่ามานี้ยังไม่ได้คิดจะอำลาเพื่อน ในเวปพันทิปดอทคอมแต่ประการใด เพราะการได้นำเรื่องเก่ามาวางให้เพื่อนอ่าน และได้รับการพูดคุยทักทายยั่วเย้ากันเล่นนี้ เป็นโอสถที่มีสรรพคุณอย่างยิ่ง ที่จะประคองชีวิตคนชราที่อยู่นอกสถานสงเคราะห์ ให้ยืนยาวต่อไปได้อีกนาน
ขอขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่มี เมตตา กรุณา และมุทิตา ต่อข้อเขียนของผมตลอดเวลาสามสี่ปี ที่ได้โผล่เข้ามาในโลกใหม่นี้ ด้วยคารวะจากใจจริง ครับ.
##############
๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๑
โดย: เจียวต้าย วันที่: 7 กันยายน 2554 เวลา:6:12:43 น.
Create Date : 07 กันยายน 2554 |
Last Update : 7 กันยายน 2554 9:46:11 น. |
|
17 comments
|
Counter : 776 Pageviews. |
|
|
|
ออกจะเป็นนักเขียนใหญ่
ในบรรณพิภพขององคาพยพส่วนทหาร
ที่พี่ห่อเลยเล่าให้ฟังที่บล็อกว่า
มีเรื่องเขียน ๙๐๐ กว่าชิ้น ก็ว่ามากแล้ว
มาเจอบล็อกนี้จึงทึ่งมาก ที่มีมากกว่า
ก็มันต่างกัน อันนี้ มันลอกเขามาทั้งน้าน ฮ่าๆๆๆ
ฟ้าหม่น ของ ศม.สระบุรี ที่บ้านก็มีค่ะ
ตั้งแต่สมัย พล.ต.แวว เถกิงพล เป็น ผบ.ศูนย์
จนถึงสมัย พล.ต.เปรม ติณสูลานนท์ เป็น ผบ.ศม.
ตอนนั้น พ.อ.เลื่อน โกเศยะโยธิน เป็น บก.
ยุทธโกษ มีสามสี่เล่ม เพื่อนๆ นายทหารส่งมาให้
วารสารกองทัพเรือ ชื่อกระดูกงู เสนาสาร พอมีค่ะ
พี่ห่อนี่เก่งแล้วไม่ขี้คุยเล้ย..มีดีต้องโชว์
แบบม็อตโต้ทหารม้าซีคะ "อาแปะเจียวต้าย" ฮ่าๆๆๆ
ก็ใช้นามปากกา "เจียวต้าย" มันจีนชัดๆ เลยนึกว่ามาจากสกุล ห่อ
ที่ไหนได้ ออกเป็นผู้ดีมีสกุล มีราชทินนามของคุณพ่อ
อิอิอิ นาถก็มีของคุณตาทวดค่ะ
ตอนนาถเป็นเด็กน้อยตัวกระจ้อยร่อยกระจิ๊ดริด
ก็เขียนเรื่องลงชัยพฤกษ์ ได้ครั้งละ ๕๐ บาท
เขียนไปคุย ไปถามปัญหา กับ อาจารย์เปลื้องบ่อยๆ
เขียนไปลงสตรีสาร เป็นกลอน บท สองบท ก็ได้ ๕๐ บาท
สมัยนั้นคนเก่ง คือญาดา ที่เดี๋ยวนี้เป็น ดร.ญาดา ลูกสะใภ้ สงี่ อารัมภา
เรื่องสั้นๆ ได้ ๑๒๐ บาท แล้วก็เขียนไปลง ไอ เอส ซอง ฮิต ของเล็ก วงศ์สว่าง
เขียนลง รายเอก คือมีฉบับเดียว ของรายการวิทยุ สันธนา ธรรมรักษา
มี "พลาย ภูวดล" หรือ ประภัสสร เสวิกุล คนเก่งวันนี้ เขียนด้วย
ในสกุลไทย ในขวัญเรือน ในแพรว เฉพาะแพรว ได้รางวัล
เป็นผลิตภัณฑ์ ของ เรน ฟลาวเวอร์ มีตุ๊กตาสารพัดสัตว์เต็มตู้โชว์
แต่เสียดาย ที่สิ่งดีๆ เหล่านี้ มันไม่รอดปากปลวก
เพราะที่บ้าน มีหนังสือมากเกินไป ดูแลไม่ดีค่ะ
ใช้หลายนามปากกา วนๆ เวียนๆ อยู่แถวๆ นี้แหละค่ะ
ตอนเป็นนักเรียน เป็น จนท.ห้องสมุด และเรียนเสนอ อาจารย์ซื้อหนังสือ
สมัยก่อน บอกรับหนังสือ ให้ รร.ชนบท ที่ห่างไกล
เมื่อได้ไปแวะเยี่ยมเพราะเป็นทางผ่านเวลาเที่ยว ก็นำหนังสือไปให้อีก
ไม่เห็นหนังสือที่เคยส่งให้ ถามอาจารย์ใหญ่ก็ไม่รู้เรื่อง ครูบรรณารักษ์ก็อึกๆ อักๆ
เลยเลิกส่งให้ แต่จะมีหนังสือดีๆ ที่เด็กควรอ่านในรถ
ผ่านไปพบ รร.โกโรโกโส ก็ยกไปให้ และไม่เคยคิดไปเยี่ยมซ้ำ
ไม่อยากคาดหวังอะไร ที่เล่านี้ เป็นสมัยกระฉับกระเฉงกระชุ่มกระชวยนะคะ
บล็อก ๒๙ จะตั้งหน้าให้พี่ห่อใหม่ จะได้ไม่ต้องเปิดหลายหนค่ะ
เรื่อง ชื่อ สกุล ทายเล่นๆ ไม่ต้องเครียดนะคะ
ไม่ไปรบกวน "น้าขา ขอสามหมื่น" เด็ดขวด เด็ดขวดจริงๆ ค่ะ
สถิติวันนี้ ยังอยู่ที่ ๑ เจ้าของเดิมยังแย่งคืนมิได้ อิ่มอกอิ่มใจ .. ชดโช้
ขอลาไปทำหน้าที่ บก.ข่าว กรองข่าวให้ญาติสนิทมิตรสหายอ่านก่อนค่ะ
วันนี้กินเมืองได้สี่เมืองค่ะ...