"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 
28 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา .. คนตาขาว โดย "เพทาย"




คนตาขาว

"เพทาย"




เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๗ เมืองไทยได้ประสบกับภัยพิบัติแบบใหม่ ที่ไม่เคยประสบมาก่อนเลยในช่วงสองร้อยกว่าปี ของกรุงรัตนโกสินทร์ ภาษาอังกฤษเขียนว่า TSUNAMI มาจากภาษาญี่ปุ่น อ่านออกเสียงว่า สึนามิ ทางราชบัณทิตบัญญัติว่า ธรณีพิบัติภัย เป็นภัยธรรมชาติที่เกิดจากแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทร มีกำลังแรงมากจนทำให้น้ำทะเลปั่นป่วนเป็นคลื่นยักษ์ วิ่งถาโถมเข้าหาฝั่งที่อยู่ไกลนับพันกิโลเมตรได้ เมื่อถึงฝั่งแล้วก็ขึ้นไปกวาดล้างทำลายสิ่งกีดขวางทุกอย่างเป็นระยะทางอีกหลายร้อยเมตร แล้วก็ลากเอาสิ่งเหล่านั้นลงทะเลไปในชั่วเวลาเพียงพริบตาเดียว เหลือแต่ความโล่งเลี่ยนเตียนราบไว้เบื้องหลัง

นับเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงยิ่ง เช่นเดียวกับภัยธรรมชาติที่เคยมีมาตั้งแต่โลกได้กำเนิดมาเหมือนกัน เช่น ภูเขาไฟระเบิด พายุใต้ฝุ่น หรือวาตภัย น้ำท่วม หรืออุทกภัย และความแห้งแล้งข้าวยากหมากแพง หรือทุพภิกขภัย ซึ่งเมืองไทยนั้นจะประสบภัยธรรมชาติเหล่านี้เป็นส่วนน้อย เมื่อเทียบกับต่างประเทศทั้ง เอเซีย ยุโรป และอเมริกา

แต่เรื่องของผมไม่ใช่เรื่องของภัยธรรมชาติ เป็นภัยที่เกิดจากความประมาทของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ คืออัคคีภัย ในหมู่บ้านของผมที่อยู่อาศัยมาเป็นเวลานานมากนั้น มีการเกิดไฟไหม้บ่อยครั้ง เท่าที่ผมลองทบทวนดูได้มากกว่าสิบครั้ง ที่ดับได้ทันก็มีแต่เป็นส่วนน้อย

ส่วนที่ไม่ได้เกิดในหมู่บ้านของผมก็ได้เจออยู่สองสามครั้ง หนแรกเมื่อเป็นผู้ช่วยภารโรงอยู่ที่สำนักงานในกรมแห่งหนึ่งแถวบางซื่อ คือก่อนที่จะได้บรรจุเป็นเสมียนนั้น จะต้องฝึกงานก่อน งานที่ต้องฝึกนั้นก็คือการปิดเปิดประตูหน้าต่าง และ ทำความสะอาดสำนักงาน วิ่งรับส่งหนังสือ รับใช้เจ้านายด้วยการซื้ออาหารกลางวัน เป็นต้น ผมจึงต้องไปถึงที่ทำงานเช้ากว่ากำหนด และกลับเป็นคนสุดท้ายหลังจากปิดสำนักงานแล้ว

วันนั้นผมไปถึงสำนักงานเวลาก่อนเจ็ดนาฬิกา และเห็นมีควันโขมงขึ้นจากหลังคาที่ทำงานของผม จึงรีบวิ่งขึ้นไปไขกุญแจประตู ห้องทำงานซึ่งอบอวลไปด้วยควันไฟ ความจริงต้นเพลิงนั้นไม่ได้เกิดในห้อง แต่อยู่ใต้ห้องซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ใต้ถุนสูงแบบโบราณ ผนังเป็นปูนซีเมนต์แต่พื้นเป็นไม้แผ่นกว้างและหนามาก ความที่มีอายุใช้งานมานาน จึงมีร่องห่าง ๆ ควันไฟก็ลอยผ่านร่องกระดานขึ้นมา และพุ่งออกไปทางฝ้าหลังคาเบื้องบน จึงดูเหมือนว่าไฟกำลังไหม้ที่ทำงานของผม อยู่

เวลานั้นหน้าต่างทุกบานยังปิดอยู่ ในห้องมีแต่ความมืดเห็นเปลวไฟสีส้มแลบเลียขึ้นมาตามร่องกระดาน ดูเหมือนมันกำลังไหม้จนจะยุบตัวลงไปในขณะนั้น ผมตกตลึงและเกิดความกลัวขึ้นมาทันที สมองที่สั่งให้เข้ามาขนของที่มีค่า เช่นพิมพ์ดีดหรือนาฬิกาข้างฝาผนัง หรืออะไรอีกก็ลืมหมด ผมเข้ามาตัวคนเดียวยังไม่มีใครมาทำงานเลย จะขนเอาอะไรไปได้มากกว่าหนึ่งชิ้น แล้วถ้าพื้นมันยุบโครมลงไป ใครจะหาเลี้ยงแม่ผมต่อไปเล่า

คิดได้เท่านั้นก็กระโดดกลับออกมาอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นใครต่อใครก็วิ่งเข้ามาช่วยดับไฟด้วยด้วยเครื่องฉีดน้ำยาดับเพลิง จนหมดไปหลายหม้อไฟนั้นจึงได้ดับลง โดยไม่ได้ทำความเสียหายให้แก่อาคารเก่าแก่นั้นมากนัก เพราะใต้ถุนด้านล่างนั้นเป็นที่เก็บเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่ง อยู่ในความดุแลของโรงรถ เจ้าหน้าที่เข้ามาลองติดเครื่องปั่นไฟแต่เช้า แล้วพลาดท่าอย่างไรไม่ทราบเกิดไฟช็อตติดน้ำมันเชื้อเพลิงลุกโพลงขึ้น เมื่อสำรวจความเสียหายแล้วก็มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กไหม้ไปเพียงเครื่องเดียว ไม้กระดานพื้นที่ผมเหยียบยังไม่ทันไหม้เลย

ผมเองจึงรู้สึกละอายใจ ที่ตื่นกลัวเสียจนดูเหมือนว่าไฟกำลังโหมอยู่รอบตัวเหมือนในหนังประเภทเจมสบอนด์ ๐๐๗ จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่เหลียวหลัง แต่ก็ว่าไม่ได้ห้องทำงานนั้นเต็มไปด้วยเอกสารที่เป็นกระดาษ และตู้โต๊ะเก้าอี้ที่เป็นไม้ทั้งนั้น ถ้าไฟไม่ดับอย่างรวดเร็วเช่นนั้น มันอาจจะลุกไหม้ขึ้นเองก็ได้ ผมปลอบใจตัวเอง แล้วก็คอยรับหน้ารายงานนายกับเพื่อนร่วมสำนักงานที่จะทยอยเข้ามาให้ดูขึงขัง สมกับที่เป็นผู้ประสบเหตุคนแรกให้ได้

ตั้งแต่นั้นผมจึงเข้าใจว่า ทำไมชาวบ้านที่ถูกไฟไหม้จึงขนแต่ของที่ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ออกมาจากบ้าน เช่นโต๊ะตัวโต ๆ หรือที่นอนอันเกะกะเก้งก้าง จนแม้แต่ตุ่มน้ำซึ่งหนักมากก็ยังแบกไหว ทั้งนี้ก็เพราะตกใจกลัวจนแทบหมดสตินั่นเอง ผมจึงไม่กล้าหัวเราะเยาะคนเหล่านั้นอีกเลย

ในหน่วยงานแห่งเดียวกันนั้นเอง เมื่อผมได้เป็นเสมียนเต็มตัวแล้ว ก็ยังเกิดไฟไหม้ขึ้นอีกสองครั้ง หนหนึ่งผมอยู่เวรกลางคืน เกิดไฟไหม้คลังพัสดุ ที่เก็บเครื่องเขียนเครื่องใช้ของสำนักงาน โดยสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรตามธรรมเนียม ทั้ง ๆ ที่มีหน่วยดับเพลิงอยู่ใกล้ที่สุดเพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่ปรากฏว่ารถดับเพลิงสตาร์ทไม่ติด กว่ารถดับเพลิงที่ไกลกว่าจะมาถึง ข้าวของที่อยู่ในคลังก็เป็นเหยื่อไฟจนหมดเกลี้ยง ส่วนผมได้แต่ยืนขนลุกเกรียวมองดูอยู่ที่หน้าต่างห้องทำงานของผมเท่านั้น ดูเหมือนผู้รับผิดชอบต้องรับกรรมไปตาม ๆ กัน

อีกคราวหนึ่งผมไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง เพราะอาคารนั้นข้างบนเป็นสถานีวิทยุกระจายเสียง ใต้ถุนสูงเป็นร้านขายข้าวแกง ผมไปนั่งกินอาหารกลางวันในวันนี้ พอรุ่งขึ้นเช้าไปทำงาน เห็นแต่เสาดำโด่เด่ไปครึ่งหลัง ไม่ทราบว่าเสียหายมากหรือน้อย สงสัยไฟฟ้าจะลัดวงจรตามเคย

อีกครั้งหนึ่งผมกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง นั่งกินเหล้าอยู่ที่ร้านเล็ก ๆ หน้าตลาดบางขุนศรี ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ แถวซอยสามสิบห้า ในเวลาหัวค่ำ ที่ฝั่งตรงข้ามใกล้สะพานลอยคนเดิน เกิดมีเปลวเพลิงลุกพรึ่บขึ้นบนชั้นดาดฟ้าของตึกแถวสามชั้น สูงระดับเหนือสะพานลอยนั้น ซึ่งเป็นที่ตากไม้แปรรูปสำหรับใช้ทำเครื่องเรือนจำพวกตู้โต๊ะเก้าอี้ แลเห็นหัวคนวิ่งวุ่นไปมา สักครู่หนึ่งก็มีรถดับเพลิงแล่นมาจอดและฉีดน้ำ ไม่กี่นาทีก็ดับ ดูเหมือนจะไหม้ไปแต่กองไม้บนดาดฟ้าเท่านั้น ยังไม่ติดตัวอาคาร

ผมกับเพื่อนก็ยังคงนั่งกินเหล้าโดยไม่ลุกไปไหน แต่รู้สึกขนลุกเกรียว และดื่มถี่ ๆ ด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับลุ้นเอาใจช่วยเขาไปด้วยเท่านั้น เพราะไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคในการดื่มกินของเราเลย

นี่แหละที่ท่านว่า เหตุร้ายนั้นถ้าไม่เกี่ยวข้อง กับญาติพี่น้องหรือครอบครัว หรือตนเองแล้ว ความทุกข์มันก็ดูจะน้อยลงไป กว่าที่เกิดกับตนโดยตรง หรือถ้าไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่เป็นทุกข์

ครั้งหลังเป็นเวลาประมาณสองยามเศษ ผมกับเพื่อนซี้อีกคนหนึ่งกลับจากกินเลี้ยงแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิถิ่นเก่า กำลังตุ่ยได้ที่ดีทั้งสองคน นั่งรถแท็กซี่ผ่านมาทางถนนราชวิถี ถึงสี่แยกที่ตัดกับถนนพระรามห้า มุมสวนจิตรลดา ก็เห็นคนวิ่งกันเกรียวกราว โชเฟอร์รีบหยุดรถโดยไม่ได้สั่ง ร้องว่าไฟไหม้แล้ววิ่งไปดูเหตุการณ์ ผมกับเพื่อนไม่รู้จะทำยังไงก็เลยวิ่งตามเขาไปด้วย ปรากฏว่าห้องแถวสองชั้นตรงหัวมุมนั้น ห้องหนึ่งมีไฟแลบออกมาทางด้านหลัง เพื่อนวิ่งนำหน้าจะเข้าไปช่วยเขาขนของ พอเจอเปลวไฟก็หันกลับ ผมซึ่งตามไปติด ๆ ก็ต้องเผ่นด้วย

เจ้าของบ้านเป็นผู้ชายยกเครื่องรับโทรทัศน์ ออกมาทางหน้าต่างชั้นบน ลงมาที่กันสาดเพื่อนตัวสูงกว่าก็วิ่งเข้าไปรับและส่งให้ ผม ก็แบกข้ามถนนไปวางกองไว้ที่ทางเท้าริมคลองเปรม ประชากร แล้วก็เลยรับส่งกันอย่างนั้นได้หลายอย่าง กว่าอีตาเจ้าของบ้านจะกระโดดลงมาจากกันสาด และรถดับเพลิงที่เพิ่งจะมาถึงก็ฉีดน้ำดับเพลิง เพราะห้องแถวนั้นอยู่ริมถนนใหญ่ตรงข้ามกับคลองที่มีน้ำเต็ม อีกไม่นานเพลิงก็สงบลง โดยไหม้ไปเพียงสองสามห้อง

ส่วนผมกับเพื่อนก็นั่งหอบ อยู่ข้างกองข้าวของที่เขาขนมาให้ โดยไม่ได้ไปไหนเพราะกลัวของเขาหายเราจะพลอยบาปไปด้วย จนน้ำไฟสงบเงียบเรียบร้อยดี เมื่อเวลาเกือบตีสอง เจ้าของเขามาขอบอกขอบใจ จึงได้ร่ำลากันเดินทางกลับบ้าน แต่ก็ดูเหมือนจะแวะเข้าไปเติมพลังแถวบ้านผมอีกคนละกั๊ก เพราะไอ้ที่กินมาเมื่อหัวค่ำระเหยหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ แล้วเพื่อนผมที่อยู่ถึงบางขุนพรหม ก็แยกไป

เช้าวันรุ่งขึ้นพอไปถึงที่ทำงาน เพื่อนฝูงก็ทักกันใหญ่ว่าบ้านเป็นอย่างไรบ้าง ไฟไหม้เมื่อคืนยังมาทำงานได้อีกหรือ ผมก็ว่ามันไหม้ห่างบ้านผมเป็นกิโล จะเป็นอะไรไป เพื่อนก็เอาหนังสือพิมพ์ฉบับเช้ามาให้ดู ก็ปรากฏว่ามีภาพผมนั่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อยู่ข้างกองสัมภาระ ที่มีทีวีเครื่องนั้นเห็นเด่นชัด จึงถึงบางอ้อ

ผมดูหน้าตนเองในภาพแล้วยังขำไม่หาย เหมือนคนที่ถูกไฟไหม้หมดตัวยังไงยังงั้น.....เฮ้อ......เวรของกรรม

ความกลัวอัคคีภัยขึ้นสมอง.

#########


โดย: เจียวต้าย วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:8:45:10 น.



Create Date : 28 กันยายน 2554
Last Update : 28 กันยายน 2554 8:51:00 น. 5 comments
Counter : 541 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ไม่เคยประสบเหตุการณ์ไฟไหม้
แต่เคยเห็นภาพแล้วสะเทือนใจ
คือภาพหญิงชราถือหม้อข้าวไม่มีฝาปิด
เดินเหม่อลอย จะไปทางไหนก็ไม่ทราบ
หดหู่ใจมากค่ะ


ก็น่าให้เพื่อนๆ ตกใจที่มีภาพลง นสพ.นะคะ


สวัสดีหนูต่ายและน้องหนู
หากได้เข้ามาอ่าน

คิดถึงมากนะคะ
แต่ต้องเจียมตัว พูดมากไม่ได้ค่ะ


โดย: sirivinit วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:10:46:12 น.  

 
จากบล็อกตกแต่งบ้าน

ภาพที่ ๖ และ ๗ น่าจะเป็นปล่องควันของเตาผิงนะคะ

สังเกตจากหลังคาภาพที่ ๑ น่าจะเป็นปลายปล่อง

แต่เขาบอกไว้ว่า
เป็นบ้านขนาดเล็กที่เหมาะเอาไว้สำหรับพักผ่อน
หรือเหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนค่ะ



โดย: sirivinit วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:11:56:04 น.  

 
มาสร้างเมืองเราคงสบายมากนะครับ

ตอนนี้ตอบกระทู้ได้แล้วหรือครับ ดีใจด้วยครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:17:08:23 น.  

 
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา

ความผิดพลาด

" เพทาย "

ผมบิดตัวด้วยความเมื่อยขบ เนื่องจากต้องนั่งงอเข่ามาเป็นเวลาเกือบสี่ชั่วโมง ตั้งแต่รถโดยสารปรับอากาศที่ผมโดยสาร ออกจากนครสวรรค์ มาจนถึงสถานีขนส่งสายเหนือ เมื่อรถจอดสนิทแล้วจึงลุกขึ้นยืน แต่ก็ยังออกจากที่นั่งไม่ได้ เพราะผู้โดยสารอื่น ๆ ที่มีสัมภาระข้าวของพะรุงพะรัง พยายามที่จะเบียดแทรกไปลงบันไดด้านหน้ารถกันอย่างเร่งรีบ ผมไม่มีอะไรนอกจากกระเป๋าใส่เสื้อผ้าชุดเดียว และก็ไม่มีธุระร้อนที่จะต้องรีบไปไหน จึงยืนรออยู่จนเกือบ ๆ จะเป็นคนสุดท้าย

เมื่อผ่านเบาะนั่งที่อยู่ข้างหน้าของผมสองแถว ก็มองเห็นกระเป๋าสตางค์ของผู้ชาย หล่นอยู่บนเบาะริมในใกล้หน้าต่างขวา จึงรีบหยิบขึ้นมา และร้องตะโกนบอกผู้โดยสารที่อยู่ข้างหน้าว่ากระเป๋าของใครหล่น หลายคนคลำดูของตัวเอง เมื่อเห็นว่าไม่ใช่ของตนก็ช่วยบอกกันต่อ ๆ ไป แต่ก็ไม่มีใคร แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ

ผมจึงก้าวลงมายืนงงอยู่ข้างประตูรถ เพราะผู้โดยสารรถคันนั้นทุกคนต่างก็แยกย้ายกันเดินออกจากสถานีขนส่งไปจนหมดแล้ว ผมจะฝากคนขับไว้ก็ไม่ได้ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะต้องออกรถ กลับไปนครสวรรค์อีกแล้ว เขาบอกให้ผมเอาไปฝากไว้ที่ห้องขายตั๋ว เผื่อเจ้าของรู้ตัวแล้ว กลับมาถามหา ผมจึงเดินข้ามมาทางห้องขายตั๋วของบริษัทนั้น แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าเขารู้ช้าแล้วกลับมาถามเอาวันหลัง เขาจะถามกับใครที่ไหน ผู้คนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะมีใครไว้ใจใครได้ พลเมืองดีก็ยิ่งหายากอยู่ด้วย บางทีอาจถูกหาว่าโง่ไปเสียอีก

ขณะที่ผมยืนลังเลอยู่ใกล้กับห้องขายตั๋ว ผมก็เปิดกระเป๋านั้นออกดู เห็นมีธนบัตรสีม่วงอยู่หนึ่งใบ สีแดงอีกหลายใบ เป็นเงินเกือบพันบาท แบะออกดูซอกอื่น ๆ ก็มีบัตรประจำตัวทหารบก รูปถ่ายยศสิบเอก กับมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ บอกบ้านที่อยู่เอาไว้ชัดเจน รวมอยู่กับนามบัตรและภาพถ่ายหญิงสาวซึ่งคงจะเป็นภรรยาของเขา

ผมมองเห็นหนทางที่จะส่งกระเป๋าใบนี้ไปให้จนถึงมือเจ้าของแล้ว เขาคงจะยินดีมาก เพราะฐานะของเขาก็คงจะไม่ต่างไปกว่านายสิบทั่วไปเท่าใดนัก แม้จะมีรายได้พิเศษจากการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ตาม ผมเดาเรื่อยเจื้อยไปตามเรื่อง ถ้าไม่ได้ของคืนเขาคงจะเสียดาย และเสียใจไม่ใช่น้อยโดยเฉพาะใบขับขี่ เครื่องมือหาลำไพ่พิเศษ นอกเวลาราชการของเขา

ผมจึงเห็นใจเขา ชายหนุ่มเจ้าของกระเป๋าเงิน ที่นั่งในรถโดยสารปรับอากาศ ถัดไปสองเก้าอี้นั้น เขามากับแฟนสาวและเอนกายลงคุยกัน ตลอดเวลาที่เดินทาง โดยไม่สนใจใครเลย เขาทั้งสองเลื่อนตัวลงจนศรีษะไม่โผล่พ้นขอบพนักพิงของเก้าอี้นั่ง จึงอาจเป็นเหตุให้กระเป๋าเงิน ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เลื่อนหลุดออกมาโดยไม่รู้สึกตัว

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมจึงเอากระเป๋าใบนั้น ใส่กล่องส่งเป็นพัสดุไปยังบ้านเลขที่ตามใบ ขับขี่นั้น พร้อมด้วยจดหมายสั้น ๆ และบอกชื่อที่อยู่ กับหมายเลขโทรศัพท์ในที่ทำงานของผมไปด้วย และขอร้องให้ตอบเมื่อได้รับของแล้ว เพื่อความสบายใจในการทำหน้าที่พลเมืองดีของผม

อีกหลายวันต่อมา จึงได้รับโทรศัพท์จากเขา ที่โต๊ะทำงาน เขาถามว่าผมใช่ไหมที่รับโทรศัพท์ เมื่อผมตอบรับว่าใช่เขาก็แนะนำตัวและขอบคุณที่ผมได้ส่งกระเป๋าไปให้เขา พร้อมด้วยสิ่งของภายในครบถ้วน แม้แต่เงินก็ไม่ขาดสักบาทเดียว

" แต่กระเป๋าใบนั้นทำผมเสียแทบแย่ "

เขาอุทธรณ์

" อ้าว...ทำไมล่ะ "

ผมชักสงสัย

" คือพัสดุมาถึงบ้านก่อนผมกลับ แม่เสือที่บ้านก็รื้อดูหมดทุกซอกทุกมุม จนเจอรูป อีหนู ที่ผมเพิ่งขั้วที่นครสวรรค์เข้าซีครับ แถมเบอร์โทรศัพท์อีกต่างหาก ก็เท่านั้นแหละ"

ดูเหมือนเขาพยายามจะหัวเราะ แต่ฟังแห้งแล้งเต็มที

" ก็โดนเล่นงานซะอ่วมไปเลยละครับ “

อนิจจา..เวรแท้ ๆ ทีเดียว ผมรำพึงอยู่ในใจเมื่อวางหูโทรศัพท์เข้าที่ กลับกลายเป็นทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป ไปเสียแล้ว….ขออโหสินะน้อง.

##########

จาก วารสารสุรสิงหนาท
กรกฎาคม ๒๕๔๑



โดย: เจียวต้าย วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:5:57:56 น.  

 

หน้าคุณลุงตอนนั้นคงฟ้องด้วยภาพหน่ะค่ะ


คิดถึงค่ะ พี่นาถ





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 29 กันยายน 2554 เวลา:17:25:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.