สามก๊กฉบับคำกลอน อวสานสามก๊ก โดย เจียวต้าย นักเขียนรางวัลนราธิป อายุ ๘๔ ปีค่ะ
อวสานสามก๊ก โดย เจียวต้าย
สุมาเจียวน้องชายสุมาสู รับตำแหน่งทั้งคู่แทนผู้พ่อ สุมาสูบุญน้อยไม่คอยรอ เป็นโรคตาแต่ไม่ท้อเรื่องราชการ
ยกทัพไปปราบขบถจนหมดสิ้น กลับถึงถิ่นมาเจ็บป่วยม้วยสังขาร สุมาเจียวเดี่ยวเด่นเป็นประธาน จอมบงการเปลี่ยนโจฮองเป็นโจมอ
สุมาเจียวทำตัวให้ยิ่งใหญ่ ไม่เกรงใจฮ่องเต้หุ่นยิ่งวุ่นต่อ ฮ่องเต้พาทหารสู้ก็ไม่พอ สุมาเจียวเลยล่อฆ่าเจ้านาย
ใจนั้นอยากจะเป็นฮ่องเต้แทน แต่ไม่มีคนแค่นไม่สมหมาย จำต้องยกโจฮวนไว้ได้ผ่อนคลาย ส่วนตัวรอโอกาสท้ายคงได้เอง
แล้วยกทัพหลายทางไปจ๊กก๊ก เล่าเสี้ยนสั่นแสนวิตกถูกข่มเหง เหลือเกียงอุยแม่ทัพใหญ่ไม่พอเพียง ไม่กล้าเสี่ยงสู้ไปยอมพ่ายแพ้
แต่เตงงายกับจงโฮยเป็นแม่ทัพ เสียรู้กับเกียงอุยต้องตายแหง ส่วนเกียงอุยก็ขับเคี่ยวอยู่เดียวแด ไม่ยอมแพ้เชือดคอตายลงไปพลัน
เสร็จศึกแล้วสุมาเจียวให้จุกอก บ่าวงันงกเรียกหาหมอช่วยนายฉัน แต่จะทำอย่างไรก็ไม่ทัน หัวใจวายดับขันธ์ใช้หนี้กรรม
สุมาเอี๋ยนลูกชายเลื่อนแทนพ่อ ไม่รีรอไล่โจฮวนต้องครวญคร่ำ ให้ไปอยู่พ้นชายแดนแสนระกำ ประวัติศาสตร์จึงซ้ำเริ่มวงศ์จิ้น
กาลผ่านไปกังตั๋งยังไม่เปลี่ยน พวกแซ่ซุนวนเวียนครอบครองถิ่น เมื่อซุนกวนตายลับดับชีวิน ลูกหลานสืบต่อสิ้นอีกสามองค์
ถึงซุนโฮสุดท้ายโหดร้ายยิ่ง ใครท้วงติงสังหารให้เป็นผง ราชการไม่สนใจใฝ่พะวง มัวลุ่มหลงสุราและนารี
สุมาเอี๋ยนให้แม่ทัพยกมาบ้าง ง่อก๊กขวางทางน้ำผ่านต้านเต็มที่ แต่ดวงเมืองเสื่อมไปไร้คนดี ต้องเสียทีถูกตีแตกแหลกลงไป
ทั้งสามก๊กรวมแล้วแยกแตกแขนง ต่างพลิกแพลงแย่งยื้อกันเป็นใหญ่ ลงท้ายสุดตายหมดไม่เหลือใคร เกิดเป็นแผ่นดินใหม่ ไซจิ้น เอย.
โดย : เจียวต้าย วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา: 4:34:47 น. สามก๊กฉบับคำกลอน อวสานสามก๊ก โดย เจียวต้าย นักเขียนรางวัลนราธิป เขียนเมื่อ อายุ เจียน ๘๔ ปีค่ะ ... sirivinit
Create Date : 30 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 30 ธันวาคม 2557 7:10:16 น. |
|
2 comments
|
Counter : 933 Pageviews. |
|
|
บ้านเรามีพี่น้องด้วยกัน ๗ คน
พี่ใหญ่ ชายเดียว น้องสาวทั้งหก เป็นสาวทั้งน้าน...
ท่าน เจียวต้าย เขียนกลอนสามก๊ก ด้วยความที่รักนิยายอิงพงศาวดารจีนนี้มากที่สุด
เพราะจำเนื้อเรื่อง และตัวละครได้หมดทุกตัว จำได้จนสามารถรจนามาเป็นร้อยกรองได้ ด้วยวัย ๘๓ ปี ๗ เดือนเศษๆ
เมื่อนำมาวางให้น้องๆ ในบ้านเลขที่ ๒๙ อ่าน ดิฉัน ก็เรียนท่านว่า กรุณาลงวันที่ๆ เขียนด้วย เราจึงทราบกันค่ะ
ท่านบ่นให้พวกเราฟังว่า "สมองเสื่อม นึกอะไรไม่ออก" น้องๆ ก็จะให้กำลังใจ ท่านก็ "นักกลอนเก่า อยู่เปล่าเปล่ายิ่งเศร้าไปใหญ่" เลยลองเขียนกลอน เมื่อบทแรกได้ บทต่อๆ มาก็เรียบไหลลื่นไร้อุปสรรคและสะดุด
แล้วก็พิมพ์แจกน้องๆ เป็น ส.ค.ส.ตอนปีใหม่ ๒๕๕๘
ดิฉัน อ่านแล้วสนุก ก็ขออนุญาตท่านนำมาลงให้เพื่อนๆ ในบล็อกนี้ได้อ่านกัน
ที่มีในหนังสือ ก็ทำได้สบายมาก
ที่ไม่มีสิ มันยากยิ่งนัก เพราะดิฉันตาก็เกินวัยไปมาก ท่านก็เมตตานำมาวางให้ เพื่อความสะดวก
เขียนเพราะรัก มิได้มีเจตนาจะไปแข่งขันกับท่านผู้ใด
เขียนหนังสือมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อย และเขียนกลอนมาคู่กัน
มนุษย์ผู้ประเสริฐท่านนี้ เป็นผู้มีจิตใจแน่วแน่ มั่นคง
รักที่จะเขียน เขียนมากว่า ๖๐ ปี จนรางวับนราธิปเห็นตวามสามารถนี้ และให้รางวัลได้ช่วยชื่นชูใจในยามปัจฉิมวัย บ้านเรา มีน้องสองคนได้ไปแสดงความยินดีด้วยที่ หอสมุดแห่งชาติ คือดิฉันและน้องน้อยคนเล็กสุด
พี่สาวใหญ่มีภาระดูแลคุณแม่ผู้แก่เฒ่า สาวหนึ่งอยู่ ตจว. สองสาวอยู่ ตปท. คนหนึ่งอยู่ญี่ปุ่น คนหนึ่งอยู่นิวซีแลนด์ แต่เราพี่น้องหกสาว ต่างยินดีกับพี่ชายใหญ่ของพวกเราค่ะ
ดิฉันนำมาลงในนี้ ด้วยต้องการร่วมยินดีกับพี่ผู้ ส.ว. แต่มากความสามารถ ผู้ที่หลงคิดว่าตนสมองเสื่อม ดิฉันและน้องๆ ขอยืนยันว่า ท่านยังสมองดี มีความจำในเรื่องสามก๊กเป็นเลิศและสามารถจรสรจนาร้อยกรองออกมาได้อย่างวิเศษ
ท่านผู้อ่านคงจะสังเกตตอนจบของแต่ละวรรคได้ มันต่อยากค่ะลงท้ายแบบนี้ ดิฉันทึ่งและชื่นชมมาก
ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน แม้ท่านจะมิได้คอมเมนท์เลย ว่ากันว่า "เพราะกลัวปากดิฉัน"
แต่ดิฉันก็ขอบคุณที่ท่านเข้ามา เพราะมันคือกำลังใจให้พี่ใหญ่ของเรามีความสุขใจค่ะ