"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
27 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 

แนะนำ เรื่องสั้นชั้นครู ...เจียวต้าย เรื่อง ความจำเป็น




เรื่องเล่าของคนวัยทอง

ความจำเป็น

“ เพทาย “




แต่เดิมนั้นถนนที่ผมเดินอยู่นี้ มาสิ้นสุดลงที่ริมคลองสามเสน เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ก็มีการสร้างสะพานข้ามคลองไปตัดกับถนนนครไชยศรี แล้วก็ขยายซอยเล็ก ๆ ออกไปเป็นถนน จนไปจรดกับถนนอำนวยสงคราม ย่านบางกระบือ แต่ต่อไปอีกไม่ได้เพราะเป็นซอยเล็กที่ไปสุดลง ที่คลองบางกระบือ ข้ามไปก็เป็นกองพันทหารม้าที่เคยมีชื่อเสียงในอดีต

เมื่อผมมีกิจธุระที่จะต้องไปยังที่ทำการไปรษณีย์ดุสิต ผมก็ต้องเดินข้ามสะพานนี้เป็นประจำ วันนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่พอข้ามสะพานไปได้ไม่เท่าไร ก็มีเด็กชายคนหนึ่งหน้าตาเรียบร้อย ตัดผมทรงนักเรียนโรงเรียนรัฐบาล เดินสวนมาแล้วบอกว่า

“ ลุงขอตังห้าบาท “

ผมเอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง ด้วยความเคยชินกับการทำทานแบบนี้ แต่อดถามไม่ได้ว่า

“ จะเอาไปทำอะไร “

เขาตอบว่า

“ เอาไปซื้อข้าวกิน “

ผมชักมือออกจากกระเป๋าปรากฎว่ามีเหรียญห้าบาทหนึ่งอัน กับเหรียญบาท เหรียญสองสลึง และเหรียญสลึง ที่กระเป๋ารถเมล์ทอนมาให้หลายอัน แต่คงจะไม่ถึงห้าบาท ผมจึงหยิบเหรียญห้าบาทขึ้น แล้วเทเหรียญที่เหลือทั้งหมด ลงในฝ่ามือของเด็กชายผู้นั้น ที่แบรออยู่ เขาก้มหน้าลงมองเศษเหรียญในมือ แล้วเงยหน้ามองตาผม ทักท้วงว่า

“ ลุง ผมขอห้าบาทนะ “

ผมชักจะสับสนว่าเขาจะเอาอย่างไรกับผม แต่ใจยังคิดจะบริจาคอยู่ จึงบอกว่า

“ งั้นเอาห้าบาทไป เศษนั้นคืนมา ลุงจะเอาไปขึ้นรถเมล์ “

แล้วผมก็ส่งเหรียญห้าบาทให้เขา ซึ่งเขาก็เทเศษสตางค์คืนใส่มือผม แล้วก็เดินสวนทางไป โดยไม่ได้ไหว้แบบคนขอทาน และไม่มีคำขอบคุณ

ผมเดินต่อไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่หายงง เขาอาจคิดว่าเป็นหน้าที่ของผม ที่มีมากกว่าจึงควรจะเจือจานหรือแบ่งปันให้เขาบ้าง ตามหลัก…เอ…หลักอะไรก็ไม่รู้ ผมหย่อนเศษเหรียญลงกระเป๋าตามเดิม แต่อดหันไปมองดูเขาไม่ได้ ปรากฎว่าเขาเดินลงไปในซอกข้างสะพานที่ผมผ่านมานั้นเอง เขาคงจะอาศัยอยู่ใต้สะพาน กับครอบครัวของเขา ผมภาวนาให้เขามีโอกาสเรียนให้สำเร็จ…เอ้อ..สำเร็จในระดับหนึ่ง และเป็นคนดี…… อย่างน้อยก็ดีกว่านี้

พระท่านสอนว่า ทานเป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ คือสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการบำเพ็ญบุญ ซึ่งมีอยู่สามประการ คือ ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ศีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา

ผมพยายามที่จะบำเพ็ญบุญ แต่ก็ยังไม่สามารถเจริญภาวนา หรือทำสมาธิได้ เพราะศีลห้าก็ยังไม่บริสุทธิ์ผุดผ่อง จึงทำได้แค่การบริจาคทานเท่านั้น

ทุกเย็นเมื่อผมกลับบ้าน ผมจะเอาเศษเหรียญ ที่เหลือจากการขึ้นรถโดยสารประจำทาง ใส่ขันเล็ก ๆ ไว้ วันรุ่งขึ้นเมื่อออกจากบ้าน ผมก็จะเทเหรียญเหล่านั้นใส่กระเป๋ากางเกง แต่ไม่พยายามใช้ เอาไว้ให้ขอทานที่พบเห็นทุกคน จนหมดเหรียญนั้น แล้วก็สะสมจากเงินทอน ค่ารถเมล์เอาใหม่

บางครั้งเมื่อขึ้นสะพานลอยข้ามถนนหลายครั้ง อาจมีคนขอทานมากกว่าจำนวนเหรียญที่ผมมีอยู่ในกระเป๋า ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ให้มากมายอะไร เพียงรายละสองสามบาทเท่านั้น แต่ผมจะให้ทุกคนไม่ว่าจะมาในลักษณะไหน จะเป็นวนิพก บรรเลงเครื่องดนตรีประเภทดีดสีตีเป่าและกด หรือเป็นคนพิการชนิดไหน หรือเป็นผู้หญิงที่มีลูกเล็ก ๆ อุ้มบ้างปล่อยให้คลานเล่นบ้าง และแม้แต่ผู้ที่มีลักษณะเหมือนบุคคลธรรมดา แถมแต่งตัวดีอีกต่างหาก

ประเภทหลังนี้มักจะเจอโดยไม่รู้ตัว บางวันผมเดินอยู่ในซอย มีชายผู้หนึ่งเดินเข้ามายิ้มกับผม ถามว่าสบายดีหรือ ผมพยายามนึกอย่างรวดเร็วว่า เขาเป็นเพื่อนกลุ่มไหนของผม เพราะผมมีเพื่อนหลายกลุ่ม หรือจะเป็นอดีตผู้น้อยที่เคยอยู่ในหน่วยเดียวกันด้วยกันมา ก่อนที่ผมจะเกษียณอายุ แต่ยังไม่ทันจะนึกออกเขาก็มาถึงตัว บอกว่าลุงขอตังค์กินข้าวสักสิบบาท ผมก็เลยผสมว่าเอาไปเลย แล้วก็ควักเศษเหรียญในกระเป๋ากางเกงให้ไปแต่โดยดี รายนี้ต่อมาก็สนิทกันมากขึ้น พอเห็นหน้าแต่ไกลผมก็จะจำได้ และรีบล้วงกระเป๋าเตรียมไว้ให้เขา ก่อนที่จะขอ

วันหนึ่งผมนั่งรอเรียกตรวจโรคที่โรงพยาบาล ผมชอบพกหนังสือประเภทการ์ตูนเล่มเล็ก ๆ ไปอ่านฆ่าเวลา จึงนั่งแถวหลังสุด ก็มีชายคนหนึ่งมากระซิบเบา ๆ ขอเงินสิบบาท ผมเงยหน้าขึ้นดูเห็นว่ามีลักษณะเช่นเดียวกับคนไข้ทั่วไป ผมก็ไม่ถามส่งเงินให้ทันที ถ้าเขาไม่มีความจำเป็นเขาคงไม่มาขอผมหรอก

ส่วนอีกรายหนึ่ง ผมนั่งเล่นอยู่ที่ริมเขื่อน ใกล้ท่าเรือด่วนเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ในยามเย็นแดดร่มลมโชย พร้อมด้วยเบียร์กระป๋อง หมูปิ้ง กำลังชมภาพที่เคลื่อนไหวอยู่ในลำน้ำเจ้าพระยา อย่างเพลิดเพลินอารมณ์ ก็ปรากฎว่ามีชายรูปร่างหน้าตาตลอดจนเครื่องนุ่งห่ม ที่ดู ขมุกขมอมเต็มที เข้ามาหาพร้อมกับบอกด้วยเสียงห้วน ๆ ว่า ลุงขอตังสิบบาท

ผมมองหน้าเขาแล้วก็คิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียว รีบควักส่งให้เขาไปด้วยความเต็มใจ เพราะถ้าเขาจำเป็นมากกว่านี้ เขาคงคว้ากระเป๋าหิ้วใบเล็กที่วางข้างตัวผมไปแล้ว และผมคงไม่มีปัญญาที่จะวิ่งตามไปเอาคืนเป็นแน่

อีกรายหนึ่งมาด้วยกันสองคน ท่าทางและเครื่องแต่งตัวแสดงความเป็นคนชนบท สะพายถุงย่ามคนละห่อ พอเดินสวนกันก็เข้ามาถามทางที่จะไปรังสิต ผมก็รู้ทันทีว่าลงท้ายเขาจะพูดว่าอะไร แต่ผมก็ชี้ทางให้เขาไปขึ้นรถสายที่จะไปรังสิต เขาก็บอกอย่างที่ผมคิด คือขอเงินคนละสิบบาท เพื่อซื้อข้าวกินก่อน เขาบอกว่าตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินข้าวเลย ผมก็ให้เขาไปโดยดี เชื่อว่ายังไม่ได้กินข้าวจริง ๆ เพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์หึ่งทั้งสองคน

ผมเองหาโอกาสที่จะทำบุญอยู่เสมอ แต่ก็มีบางครั้งบางคราวที่พลาดไป ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพราะไม่มีเงิน หรือมีก็หมดไปเสียแล้ว แต่ด้วยสาเหตุอื่นก็มีอยู่บ้างเหมือนกัน อย่างเด็กหญิงคนหนึ่งในซอยบ้านผมเอง คะเนอายุคงไม่เกินประถมต้น ๆ แต่งตัวสวยงาม บ้านคงจะอยู่แถวนั้น เธอเดินแทะขนมปังกรอบที่มีช็อคโกแลตหุ้มอยู่ อย่างเอร็ดอร่อย เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้เธอก็หยุดยืนรอ แล้วพูดด้วยเสียงน่ารักว่า

“ ตาขา…ขอตังหนูห้าบาท “

ผมล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงด้วยความเคยชิน แต่ด้วยความที่อยากจะคุยกับเธอ จึงถามว่า

“ หนูจะเอาไปทำอะไรหรือ “

ผมไม่ได้คิดว่าเธอจะเอาไปซื้อขนม เพราะมีอยู่ในมือแล้ว จึงอยากจะให้มากกว่าที่ขอนั้น แต่เธอกลับมองหน้าผมที่ช่างซักถามจู้จี้ เธอแกว่งตัวจนกระโปรงส่ายไปมา แล้วสะบัดหน้าเดินต่อไป แต่ไม่ก่อนที่จะพูดว่า

“ ฮึ…หนูไม่เอาก็ได้ “

อีกคราวหนึ่งผมไปเยี่ยมญาติ ที่ป่วยเป็นคนไข้ในของโรงพยาบาล ตอนขากลับก็แวะที่เครื่องโทรศัพท์สาธารณะ เพื่อโทรศัพท์บอกแม่บ้านว่าจะไปธุระต่อ พอพูดเสร็จก็เห็นหญิงค่อนข้างสาวระดับกลาง ยืนอยู่ตรงหน้าในมือของเธอหอบหิ้วถุงพะรุงพะรัง

“ น้าขอเงินสักห้าสิบบาทซี่ “

ผมนิ่งอึ้งอยู่ชั่วอึดใจว่าจะให้ หรือปฏิเสธ เพราะคิดว่ามากเกินไป แต่เธอรีบชี้แจงเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามในดวงตาของผม

“ หนูมาตรวจโรค หมอสั่งให้เจาะเลือด เขาคิดเงินสองร้อย หนูมีไม่พอเพราะซื้อยาไปแล้ว จะกลับบ้านก็ไกล กว่าจะมาอีกเขาก็ปิดแล้ว “

เธอพูดพร้อมกับชูแผ่นกระดาษใบสั่ง และบัตรประจำตัวคนไข้ในมือขวา พร้อมกับแบมือซ้ายที่ถือถุงยาให้เห็นธนบัตรใบย่อยให้ดู ผมจึงพร้อมที่จะให้ จึงหยิบกระเป๋าเงินออกมาเปิดดึงธนบัตรร้อยบาทออกมาส่งให้

“ หนูช่วยทอนให้ลุงห้าสิบบาทนะ “

เธอนิ่งคิดเหมือนกัน แล้วก็บอกว่า

“ น้าให้หนูทั้งหมดก็แล้วกัน จะได้เหลือเป็นค่ารถกลับบ้านด้วย “

เอ…การทำทานทีละร้อยบาทนี่ มันมิยิ่งมากเกินฐานะของผมไปใหญ่หรือ ผมคิดแว่บเดียวแล้วก็ตัดสินใจบอกว่า

“ ไม่ได้หรอกมากเกินไป ลุงไม่ได้มีเงินมากมายอะไร “

เธอจึงลดมือลงแล้วบอกว่า

“ งั้นหนูไม่เอาก็ได้ ขอบคุณค่ะ น้าเก็บไว้ใช้เถอะ “

แล้วเธอก็เดินจากไปแต่ยังดีที่อุตส่าห์ขอบคุณ ทำให้ผมใจหายที่ไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความทุกข์ของเธอในครั้งนี้ เธออาจจะต้องไปขอคนอื่น ซึ่งเขาอาจจะไม่เข้าใจเธออย่างผม ก็ได้

แต่ผมจำเป็นที่จะต้องฝืนใจทำเช่นนั้น จะให้ผมทำอย่างไรได้ ถ้าผมให้เธอไปหมดนั่น ผมก็คงจะเหลือแต่กระเป๋าที่ว่างเปล่าเท่านั้น

เพราะผมไม่มีเศษสตางค์เหลืออยู่เลย แม้แต่สลึงเดียว.

##########

จาก นิตยสารต่วยตูน
มิถุนายน ๒๕๔๔ ปักษ์แรก


โดย: เจียวต้าย 27 สิงหาคม 2554 5:18:32 น.




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2554
8 comments
Last Update : 27 สิงหาคม 2554 8:03:01 น.
Counter : 552 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ

สงสัยมีกลิ่นของ "ความเป็นคนใจดี" นอกจากหน้าตาใจดีกระมังคะ

เหมือนคนที่ชอบเล่นกับน้องหมา เพิ่งอุ้มน้องหมามา น้องหมาตัวอื่นๆ จึงชอบมาเล่น มาพัวพัน มานัวเนียด้วย

"น้าขา...ขอสามหมื่นจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปเยี่ยมหลานค่ะ" ฮ่าๆๆๆ


ไปรษณีย์ดุสิต เคยไปซื้อแสตมป์ หลังจากทานลูกชิ้นศรีย่าน หรือบางคราไม่มีที่จอดรถ ก็จอดที่ ปณ.นี้แหละ เขียนชื่อ เขต.ที่สามเสนใน ไว้หน้ารถ เขาจะได้ไม่ไล่ แถมมีคนมาปัดฝุ่นให้ด้วย...อิอิอิ

เดินขึ้นไปทางตลาดศรีย่าน จะผ่านหน้าบ้านคุณวัจน์ อภิบาลภูวนารถ มีกล้วยแขกแสนอร่อยอยู่เจ้าหนึ่ง ซื้อทานบ่อยๆ ค่ะ

เดินขึ้นไปอีก จนถึงบ้านไม้โทรมๆ มีส้มตำเจ้าหนึ่งอร่อยมาก ส้มตำอร่อยวิเศษนี้ใส่เครื่องทั้งหมด ๑๓ อย่าง

แล้วจะมาเล่าต่อค่ะ ไปอั๊พบล็อกก่อนนะคะ สถิติ เมื่อวาน อันดับ ๑ หลังจากตกไป ๓ วัน...

 

โดย: nart (sirivinit ) 27 สิงหาคม 2554 8:18:41 น.  

 

ก็ช่วยทุกคนที่ขอให้ช่วย เท่าที่จะสามารถช่วยได้ครับ
ถ้าขอสามหมื่นอาจจะซื้อลอตเตอรี่แบ่งให้ครึ่งใบครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 27 สิงหาคม 2554 10:07:06 น.  

 

ใกล้ ปณ.ดุสิต ตรงแยกร่วมจิตต์ มีเย็นตาโฟชื่อดัง เคยลองไปชิมหรือยังครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 27 สิงหาคม 2554 10:09:22 น.  

 

เคยทานค่ะ เย็นตาโฟชื่อดัง
เป็นนักกิน แสวงหาที่กินอยู่แล้วค่ะ
ตอนที่ยังเดินเหินสะดวก และไม่ขี้เกียจออกนอกบ้าน
อ่านชวนชิมในมติชนสุดฯ ก็จะตามไปชิม มีความสุขมากค่ะ

ในตลาดศรีย่าน มีร้านขายขนมมากมาย สมัยนู้นนนนนน
มีกล้วยบวชชีอร่อยสุดใจ อยู่เจ้าหนึ่ง
เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นที่ทำแบบนี้ ที่ร้านนี้
เขาแยกกะทิที่ทำสำเร็จแล้ว ไว้บนเตาที่หนึ่ง
อีกเตา ต้มกล้วยห่ามๆ พอสุก ก็ช้อนไปใส่กะทะที่มีกะทิ

ซื้อทีละมาก นำไปใส่ช่องฟรีซ เป็นไอศครีม อร่อย เย็น ชื่นใจค่ะ

แฮ่ๆ .. ล็อตเตอรี่ไม่รับ รับแต่เงินสดค่ะ ... ก้าก ก้าก
แหม...สาวสวยขอตั้งร้อย สงสัยว่า ตอนนั้นหากมีหลายใบก็
ให้ไปแล้ว...หึหึหึ

 

โดย: nart (sirivinit ) 27 สิงหาคม 2554 10:19:20 น.  

 

ส้มตำแสนอร่อยใส่เครื่องในครก ๑๓ อย่าง ถึงอร่อยอิ่มเอมโอษฐ์ ยิ่งกว่าสุธาโภชน์ใดใดในโลกหล้า


โขลกพริกสดและพริกแห้งพร้อมเกลือเล็กน้อยในครก ๓ แล้วนะคะ ใส่ปลาป่นย่าง ใส่ถั่วฝักยาวหั่นสักนิ้วเศษๆ โขลกจนแหลก ๕ แล้วนะคะ

ใส่มะละกอ น้ำปลา น้ำตาลที่เคี่ยวเหลวๆ ใสๆ น้ำมะขามเปียกค่อนข้างใส น้ำปลาร้าสุกค่อนข้างใส ปูดอง มะนาว ครึ่งซีก มะเขือเทศ ๑ ลูก โขลกให้เข้ากัน

ไม่ใส่ชูรส...แต่อร่อยสุดใจ
ของนาถพิเศษ โรยกุ้งแห้ง และถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ ด้วย เป็น ๑๕ อย่างค่ะ
น้ำส้มตำเยอะมาก รสจัดจ้านสุดๆ

ขายดีมากๆ คนสับมะละกอ ก็สับและซอยอย่างเดียว ไม่ได้ขูด คนนึ่งข้าวเหนียว ก็คอยนำที่สุกมาใส่กระติบยักษ์ขนาดมหึมา

คนปิ้งไก่ ย่างเครื่องในก็ทำไป เห็นว่าขายได้มากชนิดใช้ถุงปุ๋ยใส่เงินกลับบ้าน พวกเราต้องไปรอคิวนานนนนนมากกว่าจะถึงคิว ตำคนเดียว เป็นคนวัยป้าค่ะ

เจ้าของบ้านที่ให้เช่าขายส้มตำ กระชับพื้นที่..ขอพื้นที่คืน...แล้วขายเอง ป้าคนนั้นก็ย้าย ย้อนขึ้นไปสักหกห้อง คนที่ทราบก็ตามไปกินไปอุดหนุนต่อ

เจ้าของร้าน ที่ตีขลุมเป็นร้านเก่า หามีสีมือไม่ คนหลงไปก็มาก แต่ไม่นาน ก็ลูกค้าหาย มีแต่ขาจร...อิจฉาเขาละสิ ว่าได้เงินเป็นถุงๆ ขนาดนั้น ตัวเองทำไม่ได้อย่างเขา ...ดี โสน้าหน้า...

 

โดย: nart (sirivinit ) 27 สิงหาคม 2554 10:38:43 น.  

 

สวัสดีค่ะ

เข้ามาอ่านเรื่องของคนใจดีที่ชอบให้ทานค่ะ

เราชาวพุทธค่ะ ทำไปเถอะค่ะ ถ้าทำแล้วตัวเรามีความสุข และอิ่มใจ

และที่สำคัญ กระเป๋าของเราก็ไม่เดือดร้อนละก็ จริงใหมคะ?


 

โดย: Katai_Akiko 27 สิงหาคม 2554 17:19:20 น.  

 

ไม่เห็นตรงไหนบอกว่าสวยเลยครับ

ถึงสาวเหลือน้อยแล้ว ผมก็ให้ครับ

พรุ่งนี้เสนอเรื่อง "วันที่ต้องจดจำ" ครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 27 สิงหาคม 2554 17:20:42 น.  

 

ขอบคุณคุณ Katai_Akiko ที่เข้ามาอ่านครับ

ผมแอบเข้าไปชมสวนญี่ปุ่นมาแล้วครับ สวยมากครับ.

 

โดย: เจียวต้าย 28 สิงหาคม 2554 4:39:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.