กรกฏาคม 2563

 
 
 
2
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
25
26
27
28
30
 
 
All Blog
สงครามเชื้อมรณะ บทที่ 3 หน้า 3
การได้เชื้อมาแบบไม่รู้ว่าเป็นเชื้ออะไร ทางห้องปฏิบัติการจำเป็นต้องเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อทุกชนิด

เพื่อที่จะดูอัตราการเจริญเติบโต เปรียบเทียบ แล้วจึงสามารถชี้ได้ว่าเป็นเชื้ออะไร

หลังจากนั้นก็จะทดสอบเพิ่มเติม ย้อมสีแกรม ส่องด้วยกล้องจุลทัศน์กำลังการขยายสูง เพื่อดูเซลล์และรูปร่าง ก่อนจะจำแนกสายพันธุ์ออกไป


“แล้วคิดว่ารูปร่างแบบนี้จะเป็นตระกูลไหนคะ?”


“ตระกูลโคโรน่า ที่มีมงกุฏเหมือนดอกไม้ล้อมรอบครับ และอีกอย่างเชื้อตระกูลนี้ ติดต่อตามทางเดินหายใจ”


คำตอบของต้นน้ำเหมือนกับสิ่งที่อิงคิดไว้ในใจ


“เหมือนๆ ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดนกนะครับ”


“ค่ะ คุณต้นน้ำ ใส่ชุดป้องกันตอนตรวจเชื้อใช่ไหมคะ"

“ครับ”


“คุณต้นค่ะ แชร์ผลการตรวจกับชมชิดนะคะ แล้วถ้าเกิดมีเชื้อลักษณะนี้เขาห้องแล็บมาอีก รายงานอิงด้วยนะคะ”


“ครับ”


ต้นน้ำออกมาจากห้องของอิงดาว เขาเดินไปนั่งโต๊ะตัวเอง รอบมองชมชิดที่กำลังทำรายงานเหมือนกัน


“ขอดูรายงานหน่อยสิ” เขาเอ่ย


ชมชิดหันมามองรุ่นพี่หนุ่ม


“ชมยังสรุปไม่เสร็จเลยค่ะ พี่ต้น”


“เห็นคุณอิงบอกว่า ชมตรวจเจอเชื้อเหมือนกับของพี่”

ชมชิดทำหน้าฉงน

“จริงเหรอคะ”

“ยังไงพี่ขอดูผลร่วมด้วยนะครับ”


“ได้ค่ะ นี่ค่ะ สไลด์ที่ชมดูวันนี้”

ชมยื่นให้ต้น


ออมลุกขึ้นมองข้ามพาทิชั้นเพื่อดูสองหนุ่มสาวที่นั่งตรงข้ามเธอคุยกัน


“ต้นไปทานข้าวกันไหม วันนี้มีมัสมันมาจากบ้านด้วยนะ ไปๆ เที่ยงแล้ว”


“พี่ออมไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมตามไป”


ออมทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินออกจากโต๊ะไป


ต้นน้ำดูจริงจังกับการดูผลสไลด์ของชมชิด


“ชมจะตรวจอีกทีวันไหน”


“ชมว่าจะตรวจอีกทีพรุ่งนี้ค่ะ เพื่อนับโคโลนี ว่าจะเจริญเพิ่มขนาดไหน


“งั้นดีเลยครับ พี่ขอดูสไลด์สดด้วยเลยครับ”


“ค่ะ ดีจังเลย ชมดูไม่ออกเลยนะคะว่าเป็นตัวอะไร พี่ต้นคิดว่ามันคือตัวอะไรคะ”

หญิงสาวยังด้อยประสบการณ์ แม้จะมีการตรวจเชื้อมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่ที่ตรวจเจอจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย


“พี่คิดว่าจะเป็นไวรัสตระกูลโคโรน่า”


“ฮืม ส่วนมากที่เคยเจอก็ไวรัสหวัดทั่วไป ตัวนี้ต่างจากตัวนั้นไหมคะ”

เธอถามเขาเพื่อต้องการความคิดเห็น

ทั้งสองพูดคุยกัน ก่อนจะชวนกันเขาไปทานข้าวและหาผลงานวิจัยในห้องสมุดต่อ


 
ช่วงบ่ายขณะที่อิงดาวกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมจากต่างประเทศกับเชื้อที่เห็นจากทีมงานทั้ง 2 เคส

เธอติดต่อถามเพื่อนที่อยู่แล็บประเทศที่กำลังมีข่าว ส่งสไลด์มาให้ดู ก็มีความเหมือนกันมาก อิงมั่นใจทันทีว่าต้องเป็นเชื้อเดียวกันอย่างแน่นอน


 
ก้องเคาะประตูและเข้ามาหาเธอ ทำให้อิงแปลกใจอย่างมาก โดยปกติก้องแทบจะไม่เคยเข้ามาหาเธอเลย เขาวางรายงานบนโต๊ะ


“เห็นเด็กสองคนนั่นตรวจเจอเชื้อเหมือนกันจริงหรือเปล่าครับ?”


เขาถามอย่างสงสัย แต่ก็มีเชิง นั่งลงเก้าอี้ตรงข้ามอิงดาว
อิงยิ้มก่อนจะเอารายงานไปเปิดดู


ปกติก้องตรวจเชิงวัตถุมากกว่า นานๆ ทีจะตรวจด้านจุลลินทรีย์ แต่เขาก็เป็นผู้ชำนาญการณ์คนหนึ่ง


เขารออิงดาวตรวจรายงานพร้อมกับหน้าใสที่เปลี่ยนเป็นเครียดของหัวหน้าสาว


“ตัวอย่างมาจากโรงพยาบาลเหรอคะ”


“ใช่ นี่ไม่ใช่เคสแรกนะ ที่จริงผมเจอตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว คุณอิงจำได้ไหมรายงานที่ส่งโรงพยาบาลกลาง”


เขาทำหน้าเครียดตอบเธอ


อิงทำท่าคิด


“คุณคิดว่ามันจะเป็นเชื้อตัวไหนคะ?”


ก้องมองหน้าอิงดาวก็รู้ว่าเธอรู้อยู่แก่ใจ เธอมองแว็บแรกเธอก็รู้ว่ามันคืออะไร แต่ทำไมต้องพูดเหมือนว่าเธอไม่รู้จัก


“คุณจะถามผมทำไม?”

เขาคันปากอยากจะต่อความกับเธอซะอย่างนั้น


“เพราะคุณเก่งกว่าอิงนิคะ”


“ชิ ผลแล็บคราวที่แล้ว คุณเป็นคนสรุปเองด้วยซ้ำ คุณไปส่องดูสไลด์เองก่อนจะคอนเฟิร์ม ผมยังต้องเทียบรูปย้อมแกรมก่อนเลย ยังจะบอกว่าผมเก่งอีก หลอกว่าผมหรือเปล่าเนี่ย”

น้ำเสียงเหมือนจะต่อว่า แต่ก็แฝงไปด้วยเหมือนชื่นชม


“อิงเคยหลอกว่าใครด้วยเหรอคะ”

สาวน้อยหน้าใสย้อน ทำเอาเก่งทำหน้างอนใส่


“แล้วพอส่งผลแล็บไป เขาก็ยืนยันกับแล็บโรงพยาบาล เขาก็สรุปผลงานกับเรียบร้อย”


“ค่ะ ไม่ใช่ปัญหาเรา เราต้องเตรียมความพร้อม คุณก้อง ต้องใช้อุปกรณ์ PPE ทุกครั้งนะคะ”

เธอเน้นย้ำ


ก้องทำหน้าเบื่อใส่เธอ


อิงดาวรู้ว่าเขาชอบแหกกฏเสมอ ถ้าเป็นคำสั่งจากเธอ


“เชื้อนี้ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของประเทศนั้น ก็ยังไม่มีรายงานการทราบแหล่งที่มาอย่างแน่ชัด ยังไม่ทราบการติดต่ออย่างแน่ชัด ตอนนี้การระบาดเริ่มเป็นวงกว้าง ยารักษายังไม่มี บางคนเริ่มจะโควม่า วงการแพทย์ยังไม่รู้แนวทางรักษา ตอนนี้แค่รักษาเหมือนไข้หวัดใหญ่”


“งั้นสิ่งส่งตรวจจากโรงพยาบาลแยกห้องตรวจดีไหมครับ”
ก้องเสนอ


“ค่ะ อิงจะให้เตรียมหัองเก็บเอกสารห้องเล็กไว้ทำแล็บจากโรงพยาบาล ส่วนเอกสาร อิงจะสั่งตู้เพิ่ม เก็บในห้องเอกสารรวม”

อิงดาวคิดเรื่องนี้เอาไว้แล้ว



“ก็ดี”


“คุณก้องอย่าลืมป้องกันตัวอย่างดีนะคะ” เธอเน้นย้ำ


“รู้แล้วน่า จะเป็นแม่ผมอีกคนหรือไง พูดเรื่องเดียววันละ 10 รอบ”


หนุ่มวัย 36 บ่นให้สาวน้อย ก่อนจะลุกออกจากห้องเธอไป

 



Create Date : 31 กรกฎาคม 2563
Last Update : 21 กันยายน 2563 7:48:04 น.
Counter : 732 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]