มกราคม 2554

 
 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
3 มกราคม 2554
Spoil >> Devil with flower # 58


และแล้วตอนสุดท้ายก็มาถึง
หลายคนอาจจะไม่ชอบก็ได้นะเพราะไม่อยากเห็นตอนจบแบบนี้ แต่ว่าเราว่ามันก็ดีนะ แสดงให้เห็นว่าฮาน่าเป็นมนุษย์จริงๆ และความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อกันของคนทั้งสองแม้เผ่าพันธุ์ก็มิอาจจะกั้นได้

จากตอนที่แล้วที่ฮาน่าขอนอนห้องเดียวกันกับวีวี่ และได้รับของขวัญชิ้มใหม่ที่วีวี่ได้มอบให้กับเธอนั่งก็คือ แหวนรูปดอกไม้

ผ่านไป 1 ปี ณ คฤหาสน์กลางป่าอันห่างไกลผู้คน วีวี่ยืนอยู่หน้าของของอาน่าเขาเคาะห้องเธอเบาๆ และขอเข้าไป แต่เจ้าของห้องกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดเจ้าสาวยังไม่เสร็จดี แต่ก็ไม่อาจจะห้าม เจ้าบ่าวผู้ใจร้อนได้

เขาบ่นนิดหน่อยกับความล่าช้า ฮาน่าต่อว่านิดหน่อยเพราะต้องการให้เขาเห็นตอนที่เธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เจ้าบ่าวเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากแล้วบอกว่ายังไม่เสร็จงั้นเหรอเท่าที่ดูก็ดูดีแล้ว ตอนนี้แขกมากันเยอะแล้วเขาต้องการให้เธอออกไปกับเขา ชายหนุ่มผายมือออก ฮาน่าตอบรับพร้อมกับวางลงมือชายหนุ่ม

ฮาน่าเดินควงแขนออกมาจากห้องกับชายหนุ่ม พบเพื่อนๆ ตั้งแถวขบวนเตรียมพร้อมแสดงความยินดีกับทั้งสอง ฮาน่าเอ่ยขอบคุณทุกคน แล้วเจ้าสาวขี้แยก็มีน้ำตาซึม จนเพื่อนต้องเอ่ยปลอบไม่ให้ร้องไห้

โมโม่เอ่ยอวยพรเธอให้เธอโชคดี และฝากวีวี่ช่วยทำให้ฮาน่ามีความสุขด้วย ทำเอาเจ้าบ่าวยั๊วะนิดหน่อยตามอารมณ์ เจ้าสาวยิ้มสดใสเอ่ยขอบคุณเพื่อน ชายหนุ่มเองก็ยิ้มตอบรับ เพื่อนข้างๆเลยวางมือลงบนหัวเขาเพื่อเป็นการปลอบ ทำเอาโมโม่ไม่เข้าใจ เพราะเขาเองต้องการแสดงความยินดีกับฮาน่าอย่างจริงใจ

หลังจากเสร็จพีรับแขก วีวี่หลบเพื่อนๆไปนอนที่สนามหญ้า เจ้าสาวจึงออกมาตามและต่อว่าชายหนุ่มเล็กน้อยที่หลบมาอยู่มี่นี่คนเดียว เขาเลยอ้างว่าก็มายากลของโทนี่ทำให้เขาเบื่อ ที่จริงก็เห็นแกเบื่ออะไรต่ออะไรทั้งเรื่องล่ะเจ้าวี่

ฮาน่าเลยนั่งลงข้างๆ และถามเขาว่า ทำอะไรอยู่ที่นี่ล่ะ เขาบอกว่ากำลังดูพระจันทร์ มันเหมือนกับพระจันทร์เต็มดวงในวันนั้น ที่เราได้สัญญาต่อกันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

ฮาน่าจ้องมองชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน แล้วเธอก็บอกเขาว่า เธอเองก็เฝ้ามองมันอยุ่และต้องการที่จะแต่งงานในวันที่พระจันทร์เต็มดวงเมื่อดอกเชอรรี่บานสะพรั่ง

ทำเอาวีวี่ทำหน้าเบื่อว่าทำไมต้องดอกเชอรี่บานสะพรั่งด้วย
ฮาน่าเลยตอบว่าก็เพราะว่าทำให้ระลึกถึงวันที่เขาได้บอกกับเธอว่า “ข้าต้องการที่จะอยู่กับเจ้าตลอดไป ฮาน่า” บนยอดของต้นเชอรี่

วีวี่เลยเข้าใจ และบอกกับเจ้าสาวของเขาว่า ที่จริงแล้วเธอจำไม่ได้หรอก เขาพูดมาตลอดเลย “อยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะนะ ฮาน่า”

ทั้งสองโน้มเข้ามาหากันและเอาหน้าผากชนกันเอาไว้ เจ้าสาวจึงเอ่ยบอกเจ้าบ่าวก่อนว่า

“ฮาน่ารักวีวี่” “ใช่ข้ารู้”

“เพราะงั้น…..” ฮาน่าโน้มเข้ามากอดและหอมแก้มเขา ชายหนุ่มจึงตอบกลับด้วยจุมพิษที่ปากเรียว อย่างเนิ่นนานและอ่อนหวาน ภายใต้พระจันทร์เต็มดวง

และพวกทำลายบรรยากาศก็โผล่มาฮ้าทำเอาวีวี่โวยว่ามาแอบดูกันตั้งแต่เมื่อไหร่

ฮาน่าหน้าแดงอายและต่อว่าทุกคนที่แอบดูเธอ ทุกคนต่อว่าที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวหนีออกมาจากงานแต่งของตัวเอง ฮาน่ารีบขอโทษเพื่อนๆ แต่วีวี่ไม่สนใจ และบอกว่าเขาเบื่อ…..

เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เจ้าบ่าวกอดเจ้าสาวสุดที่รักเอาไว้ด้วยความรัก

จากนั้นผ่านไปหลายปี ผู้คนยังกล่าวขานถึงคฤหาสน์เก่าในป่าลึก ว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นั่น

เสียงซุบซิบนั่นยังดังในหมู่ของเหล่านักเรียน เด็กสาววัยรุ่นเดินเพียงลำพังฟังเสียงเหล่านักเรียนคุยกัน บ้างโต้แย้งว่าอาจจะเป็นผีหรือไม่

เด็กสาวคนนั้นตอบพวกเขาในความคิดของตัวเองว่า หาใช่ผีไม่ จริงๆแล้วคือปีศาจต่างหาก

ขณะที่เธอเดินเพียงลำพังผ่านเส้นทางที่เงียบและว่างเปล่าไม่มีผู้คนมีเพียงต้นไม้ใหญ่สองข้างทาง

มีรถวิ่งตามหลังเธอมา นั่นคือ เอลิเนอร์กับเวลตันนั่นเอง ทั้งสองจึงชวนเธอขึ้นรถไปด้วย แต่สาวน้อยหันไปเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยของใครคนหนึ่งที่เดินนำหน้าเธอมาก่อนหน้านี้ เธอจึงร้องเรียกเพราะนั่นคือพี่ชายของเธอเอง ซึ่งมองดีๆจะคุ้นตาว่าเหมือนใครบางคน

ยามาบุคิหันมาตามเสียงเรียก คือ อันซึ น้องสาวของเขานั่นเอง ชายหนุ่มจึงขึ้นรถไปด้วยกับทั้งสาม

เวลตันถามหลานทั้งสองเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาในวันนี้ อนซึ ตอบก่อนพี่ชายว่า เธอซ้ำชั้นอีกแล้วเลยต้องจบช้า และในเดือนถัดไปก็ยังคงเป็นนักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนอื่น

ส่วนยามาบุคิ รายงานว่า เขาก็ยังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย และเป็นนักเขียน ไม่อยากเจอคนมากมาย และก็ไม่อยากเป็นตัวแปลกปลอมด้วย

ทำเอาน้องสาวรีบโวยวายต่อว่าพี่ชายไม่เคยบอกเลยว่าเมื่อไหร่ที่ต้องเปลี่ยนไปเรียนมหาลัย พี่ชายตอบหน้าตาไร่อามรณ์ เหมือน….. ว่าไม่ต้องใส่กระโปรงสั้น เพราะเธออายุตั้ง 70 ปี

อันซึ แย้งว่าเขาเองก็ 73 ปีแล้วเหมือนกัน มันก็ดีอยู่หรอกที่มีพี่น้องอยู่ด้วย โฮววว….. นี่มันผ่านมานานขนาดนั้นแล้วเหรอเนี่ย
เอลิเนอร์จึงรีบห้ามทัพพี่น้องเสียก่อน

เมื่อทั้ง 4 กลับมาถึงบ้าน มีโทนี่ยืนรอต้อนรับเช่นเคย

อันซึบอกแก่พ่อบ้านผู้เก่าแก่ ตอนนี้น่าจะมีอายุ 276 ปี ว่าเธอจะเอาดอกไม้ไปมอบให้กับแม่ ดังนั้นเขาจะต้องไปด้วย พูดแล้วก็หันไปหาพี่ชายและดึงมือเขาและบอกว่าเขาก็ด้วยเช่นกัน

โทนี่บอกว่าเขาจะเตรียมดอกไม้ให้

แต่สาวย้อยชิงบอกว่าไม่มีทาง เพราะโทนี่ทำดอกไม้เฉาตลอดเลย แม้โทนี่จะแย้งว่าเขาสวมถุงมือตลอดเวลาและทำมันอย่างรวดเร็วทุกๆวัน

แต่วันนี้อันซึจะทำเอง ทำเอาพ่อบ้านหวั่นใจ สงสัยกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยมั้ง ฮ้าๆๆ

ทั้งสาวผู้สูงวัยมองตามแผ่นหลังสองพี่น้องที่เดินหายไปที่สวนดอกไม้

เวตันเอ่ยว่า พวกเขาเข้มแข็งจริงๆ แม้ว่าจะเป็นครึ่งคนกับปีศาจ แต่ก็น่ารักกว่าเหล่าปีศาจ และสิ่งหนึ่งที่ได้มาจากฮาน่า นั่งก็คือ พวกเขาสามารถสัมผัสดอกไม้ได้

นี่คือสิ่งมหัศจรรย์

เอลิเนอร์นึกขำกับคำพูดเพื่อนเก่าในวันแต่งงาน เธอประกาศว่าจะรีบมีลูกให้กับวีวี่ทันที ทำเอาทุกคนตกใจ ฮ้าๆๆ

เธอต้องการฝากไว้กับวีวี่ คือเหล่าเด็กๆ เมื่อเธอต้องจากไป

อีกฝากหนึ่ง ณ สุสาน ไม่มีผู้คน หน้าป้ายหลุมศพ ที่เขียนชื่อเอาไว้ว่า ฮาน่า ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งยืนถือช่อดอกไม้เอาไว้และมองอย่างอาลัยรัก

เขานั่งลงและวางช่อดอกไม้เอาไว้ตรงหน้าป้ายชื่อ

เขาเอ่ยเบา “นี่ก็สามปีแล้วนะฮาน่า ทุกๆวัน ไม่ได้เงียบเหงา ต้องขอบคุณพวกเขา” ชายหนุ่มพุดคนเดียวกับหลุมศพ และยิ้มออกมาอย่างยินดี

ย้อนไปเมื่อสามปีก่อน ในห้องนอนของเขา ชายหนุ่มนั่งข้างเตียงนอน มือของเขากุมมืออันชราของใครคนหนึ่งเอาไว้ นิ้วนางของมือนั้นมีแหวนดอกไม้ที่เขาสวมให้ภรรยาก่อนแต่งงานกับเธอ เสียงอันแก่ชราของอีกฝ่ายเรียกชื่อเขาเบาๆ

ขอบคุณนะวีวี่ เสียงฮาน่าที่แก่ชราเอ่ยบอกกับเขา

วีวี่อยู่กับฮาน่าตลอดมา ขอบคุณมาก ฮาน่ามีความสุขมาก และจากนี้ ตลอดไป ฮาน่าจะเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก
“อะไรที่เกิดขึ้น?” วีวี่หวนคิดไปเมิ่อ 91 ปี ที่แล้ว เขาได้พบเด็กทารกแรกเกิดในตะกร้าหน้าบ้านในวันหิมะตก

ภาพฮาน่าตอนอายุ 14 ที่บอกกับเขาว่า ฮาน่ารักวีวี่แม้วีวี่จะเป็นปีศาจ และเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

ภาพของเวลตันที่พยายามมาตามตัวเขากลับโลกปีศาจ เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมานั้น เป้นทาง้ดินที่เต็มไปด้วยขวากหนาม

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น? ข้าไม่อาจรู้ได้ ว่าเส้นทางที่เราเลือกมันจะถูกต้อง

แต่ว่า….. เมื่อได้พุดแบบนั้นฮาน่าก็มีความสุขพร้อมด้วยรอยยิ้มที่งดงามราวดอกไม้ เท่านั้น…..

แค่เพียงเท่านั้น ที่ข้า…. เห็นว่ามันถูกต้องแล้ว

“ข้าก็ด้วย ข้าเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก” ขาหนุ่มนั่งอยู่หน้าหลุมศพภรรยาและพูดด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

ขณะนั่งทำซึ้งอยู่คนเดียวนั้น เสียงเวลตันร้องเรียกจากด้านหลัง พร้อมด้วยลูกๆที่ต่อว่าที่เขามาที่นี่ก่อน

เด็กๆจึงนำดอกไม้มาวางหน้าหลุมศพของแม่และยืนไว้อาลัย

วีวี่หยิบกุหลาบขึ้นมาดมก่อนที่มันจะเหี่ยวแห้งไปในมือของเขา แล้ววางลงกับช่อดอกไม้ที่เขาและลูกๆ และทุกคนได้วางไว้

ฮาน่า จะยังอยู่ในใจเราอย่างไม่มีวันตาย



Create Date : 03 มกราคม 2554
Last Update : 3 มกราคม 2554 20:51:33 น.
Counter : 4587 Pageviews.

7 comments
  
มาดูตอนสุดท้ายพอดี
เรื่องนี้เห็นตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้หยิบมาอ่านแบบจริงๆ จังๆ ไม่แน่ใจว่าจะสนุกรึเปล่าน่ะค่ะ (แต่ชอบเรื่องรักต่างเผ่าพันธุ์)
โดย: Solsikke วันที่: 3 มกราคม 2554 เวลา:21:33:57 น.
  
ขอบคุณมากค่ะที่แปลให้อ่าน
ชอบตอนจบแบบนี้มากๆ
ซึ้งอ่ะ มันดูอมตะดี 5555 5
แต่ก็แอบสงสารทั้งวีวี่กับฮาน่า
แล้วชอบที่สุดก็ตรงหน้าสุดท้าย
ที่วีวี่เอาดอกไม้ดอกเดี่ยวที่ถือในมือไปวางเอง
มันเหมือนกับที่ฮาน่าเอาดอกไม้ดอกเดียวมาให้วีวี่ประจำเลยอ่ะ
โดย: Cubby Cha IP: 125.25.99.251 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:20:15 น.
  
สรุปเรื่องนี้ ใครรู้บ้างว่าบงกชจะแปลต่อรึป่าว เรื่องจบตั้งนานแล้ว แต่ภาษาไทยยังไปไม่ถึงไหนเลย อยากได้เก็บไว้ครบชุดอ่ะ ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆ ถึงแม้จะจบเศร้าแถมซึ้งสุดๆๆๆ
โดย: HtA IP: 58.9.8.219 วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:22:31:26 น.
  
ภาษาไทยถึงแค่เล่ม6เองง่า
โดย: angel IP: 58.9.65.214 วันที่: 7 พฤษภาคม 2554 เวลา:21:04:32 น.
  
ขอบคุณนะคะที่แปลให้ ตอนนี้การ์ตูนเพิ่งออกเล่ม 7 เอง รอนานมากๆ อยากให้ออกเร็วๆจัง
โดย: YaYl3ong IP: 180.214.215.153 วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:21:43:35 น.
  
ขอบคุณนะคะที่แปลให้ ตอนนี้การ์ตูนเพิ่งออกเล่ม 7 เอง รอนานมากๆ อยากให้ออกเร็วๆจัง
โดย: YaYl3ong IP: 180.214.215.153 วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:21:55:51 น.
  
ซึ้งมากๆเลยค่ะ ตอนนี้ออกถึงเล่ม8 แล้ว อยากเห็นภาพจัง ซึ้งสุดๆ
โดย: Vitsaruda IP: 110.49.251.10 วันที่: 7 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:49:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]