มิถุนายน 2563

 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
สงครามเชื้อมรณะ บทที่ 1 หน้า 2
เธอได้ยินจากลูกน้องคุยกันถึงกิตติศัพย์ผู้อำนวยการคนเก่าเสมอ

ที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจจับเชื้อจุลินทรีย์จากทั่วโลกการพยากรณ์การเติบโต การหาแหล่งที่มา

ถือได้ว่าหาตัวจับยาก ทั้งยังเอาจริงเอาจังกับงาน ขาลุย และเป็นหลักให้ลูกน้องในสังกัดพึ่งพิงได้

ตอนแรกที่เปลี่ยนผู้อำนวยการใหม่ทุกคนยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองนัก

เมื่อมาพบกับเด็กสาวเพิ่งจบใหม่จากเมืองนอก มีดีกรีปริญญาโท ใช้เส้นใช้สาย อธิการ เข้ามาทำงาน อย่างนี้ห้องปฏิบัติการคงจบกันพอดี

เรียนเมืองนอกมา 10 ปี จะหยิบจับอะไรได้ คงจะไม่เกินหนึ่งเดือนคงขอลาออก

เพราะทนกลิ่นอาหารเลี้ยงเชื้อเน่าไม่ไหว


แต่หลังจากที่อิงดาวเข้าทำงานได้ 1 เดือน

เธอนำความรู้ห้องปฏิบัติการจากเมืองนอกที่ไปเรียนมาปรับปรุงห้องแล็บ เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

เธอขออุปกรณ์ป้องกันที่ดีและทันสมัย เพิ่มชุดควบคุม เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อ

ในตอนแรกมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะต้องเพิ่มการป้องกันซึ่งอาจจะทำให้การทำงานไม่สะดวก

แต่พอให้เหตุผล และอ้างเหตุการณ์ต่างๆ ที่พบเจอมาจากห้องปฏิบัติการที่เธอเคยทำ

ซึ่งคนปฏิบัติงานมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อที่ตรวจ แล้วเชื้อบางตัว อาจจะมีสปอร์ฟุ้งได้เมื่ออยู่ในสภาวะโตเต็มที่ บางคนเริ่มเห็นด้วย

เนื่องจากมีภาวะเจ็บป่วยบ่อยซึ่งบางครั้งยังหาสาเหตุไม่ได้ โดยลืมนึกไปว่า สภาวะห้องปฏิบัติการตัวเองนั้นเป็นแหล่งที่มีเชื้อมากมาย


เธอขอตู้ปลอดเชื้อใหม่ที่มีระบบป้องกันการแพร่ของเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพ


เธอเพิ่มการควบคุมการเข้าห้องปฏิบัติการ ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป เข้าได้เฉพาะในส่วนออฟฟิต


สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่คำนึงถึงผู้ปฏิบัติงาน ป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงทำให้พนักงานเริ่มเปิดใจรับเธอทีละนิดๆ

จนทุกวันนี้ การทำงานของเธอที่ไม่เป็นรองผู้อำนวยการแผนกอื่น และยังแทบจะทัดเทียมกับผู้อำนวยการคนเก่า

เพิ่มเติมคือความละเอียดของผู้หญิงที่ผู้อำนวยการคนเก่าไม่มี ทำให้เหล่าทีมงานต่างเบาใจและสนิทใจที่จะร่วมงานกับเธอ
อิงดาวได้ยินเหล่าทีมงานเล่าถึง

ผู้อำนวยการคนเก่าอย่างชื่นชมอยู่เป็นนิจ ถึงจะไม่เคยพบเจอกัน แต่เธอก็รู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนเก่งมากคนหนึ่ง


เสียงโทรศัพย์ดังขัดจังหวะความคิด


“อิง วันนี้มาทานข้าวกับแม่นะ แม่ทำของโปรดลูกเลย”

น้ำเสียงร่าเริงของมารดาเอ่ย


 “จริงเหรอคะ มีอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”

ลูกสาวก็ช่างเป็นคนรู้ทันแม่อยู่เป็นนิจ


“ก็เนี่ย อาพีช พาคุณอิฐ ลูกรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชน์มาด้วย อยากให้ลูกมาทานข้าวแล้วคุยกัน นี่คุณพ่อก็เพิ่งกลับมาจากนิวซีแลนด์ด้วยนะ”

มารดารีบชี้แจง กลัวว่าลูกสาวจะต่อว่าเรื่องนัดดูตัวให้


“วันนี้มานอนบ้านนะ อาทิตย์นี้อิงไม่กลับบ้านเลยนะลูก”

แม่พยายามเกลี่ยกล่อม


ตั้งแต่ทำงานเธอซื้อคอนโดอยู่ใกล้กับที่ทำงาน เพราะบางครั้งเธอเลิกเย็น และเบื่อรถติด กลับมาหาแม่แค่วันเสาร์ อาทิตย์

“คุณพ่อกลับมาแล้วเหรอคะ งั้นก็ได้ค่ะ”

อิงดาวรับปาก


เมื่อดูเวลาก็ล่วงเลยเวลางานแล้ว อิงดาวเลยต้องเก็บของและออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน


“ชมชิดยังไม่กลับเหรอจ๊ะ”

เธอออกมาจากห้องทำงาน เห็นชมชิดยังอยู่ที่โต๊ะ ส่วนคนอื่นๆ ทยอยกลับไปแล้ว


“กำลังจะกลับค่ะคุณอิง”


“งั้นปิดไฟปิดแอร์ให้หมดด้วยนะคะ”

“ค่ะ”
 
อิงดาวไปที่บ้าน พบพีชน้าชายคนเล็กกับดอกเตอร์ทรงกรดคุยกันอย่างออกรส ส่วนแม่ก็นั่งสัมภาษณ์หนุ่มหน้าตี๋อยู่ไม่ห่าง


“สวัสดีค่ะ คุณพ่อคุณแม่ สวัสดีค่ะ อาพีช”

เธอสวัสดีผู้อาวุโสทั้งสาม


“นี่จำคุณอิฐได้ไหมลูกอิง”

แม่เอ่ยถามอย่างดีใจอย่างออกนอกหน้า


“สวัสดีค่ะ”

เธอยกมือไหว้เขา ชายหนุ่มยิ้มรับไหว้


“สวัสดีครับคุณอิง ผมเคยได้ยินตึกวิทย์พูดถึงผู้อำนวยการห้องแล็บคนเก่ง ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคุณอา ชมจันทร์”

อิฐยิ้มอย่างมีเสน่ห์


“แหม ลูกสาวน้า ก็มีคนเดียวนี่ล่ะค่ะ ดูสิ ไม่มีเวลาแต่งตัวสวยๆ ออกงานเหมือนคนอื่นเขาเลย เอาแต่อยู่ในห้องแล็บ”

คนเป็นแม่ก็เอ่ยอ้างสรรพคุณลูกของตัวเอง


“กลับมาจากนอกปุ๊บก็ไปทำงานปั๊บเลยนะคะ วันๆ ก็ทำงานกลับบ้าน ไม่มีเวลาไปเดทกับหนุ่มที่ไหนเลย แม่เลยต้องสงสัยว่าจะอยู่เป็นโสดไปจนแก่หรือยังไง?”

แม่ก็ไม่รอเขาถามเอาเสียเลย รีบเสนอจนออกนอกหน้า


อิงดาวได้แต่ยิ้ม


“น่ารักขนาดนี้ จะมีใครปล่อยให้เป็นโสดล่ะครับ ก็คงจะเป็นคนตาบอดก็เท่านั้น”

อิฐก็ไม่รอช้ารีบรับช่วงสิ่งขนมจีบต่อมารดาหญิงสาว มองอิงตาหวานเยิ้ม


อิงดาวถึงกับทำตัวไม่ถูก


“ทุกคนก็พูดเกินไปนะคะ อิงก็แค่ ตั้งใจทำงาน เพื่อประชาชนชาวไทยที่เขาเสียเงินภาษีมาเป็นเงินเดือนของเรา ถ้าเกิดว่าเกิดทันไอน์สไตน์ อิงก็จะขอเป็นแฟนเขาค่ะ”

อิงตอบนิ่มๆ


พ่อหันมายิ้มกับความคิดของบุตรสาวคนเดียว


“เราไปทานข้าวกันเถอะ นี่ก็จะทุ่มนึงแล้ว”


ที่โต๊ะอาหาร ดอกเตอร์ทรงกรดได้เล่าเรื่องที่ไปประชุมนานาชาติด้านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี


“บังเอิญเพื่อนจากใต้หวันเขาเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ประเทศเพื่อนบ้านเขา มีโรคแพร่ระบาด เป็นโรคลึกลับที่ไม่เคยเจอมาก่อน แล้วทำคนตายไปแล้ว 100 คน แต่ทางการเขาปกปิด”


อิงดาวตั้งใจฟังพ่อจนไม่ได้สนใจอิฐที่พยายามตักอาหารเอาใจเธอ


“ขอบคุณค่ะ”

เธอหันไปขอบคุณอิฐตามมารยาท


“ตอนนี้ได้ยินว่ามีคนติดเข้าโรงพยาบาลอีกเยอะ มีหมอออกมาเตือน เพราะโรงพยาบาลเริ่มรับผู้ป่วยเพิ่มขึ้น”


ดอกเตอร์เล่าต่อ


“ตอนนี้เขาทราบหรือยังคะ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรคะ”


“ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุ ยอดก็เพิ่มขึ้นทุกวันทุกวัน แต่แหล่งที่พบการแพร่ระบาด มาจากตลาดอาหารสด ที่นั่นขายอาหารป่า ประเทศเพื่อนบ้านเรา เขาชอบทานอาหารดิบ พวกเปิปพิศดาร”


“แล้วตอนนี้เขาควบคุมได้ไหมคะ”


“นั่นสิ แต่เพื่อนพ่อบอกว่านายกรัฐมลตรีของเขาเริ่มปิดด่านแล้ว และมีการเตรียมตัวด้านสาธารณะสุข อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เริ่มไม่ส่งออกขายแล้ว”


“อาการเป็นยังไงคะคุณพ่อ”

อิงดาวซักต่ออย่างอยากรู้


“เห็นเขาเล่าว่า มันเป็นโรคที่ติดต่อทางระบบหายใจ ทำลายปอด ถ้าร่างกายไม่ไหว หรือมีโรคประจำตัว ก็อาจจะเสียชีวิตใน 6-8 สัปดาห์”


“เขาตรวจเจอตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”


“เห็นว่าปลายๆ เดือนที่แล้ว แต่ข้อมูลหลายๆ คนยังไม่ทราบ ทางการเขาปิดเงียบมาก”


“เรื่องแบบนี้ไม่น่ามีนะพี่ สมัยก่อนมีโรคซาร์ โรคไข้หวัดนกระบาด เราก็ยังเอากันอยู่ ยุคนี้ สาธารณะสุขเขาก้าวไปไกลมากแล้ว”

พีชพูดอย่างไม่อยากเชื่อ


“แต่เราก็ประมาทไปไม่ได้หรอกนะ ถึงสาธารณสุขจะก้าวใกล้ เชื้อโรคเองมันก็มีการพัฒนาตัวเองไปจนเราเองก็แทบจะจับไม่ทัน”

ดอกเตอร์เตือนน้องชาย


“ประเทศอื่นเขาไหวตัวกันแล้ว ดูสิประเทศเราจะตามเขาทันไหม?”


“ว่าแล้วก็คิดถึงเกลอเก่าจริงๆ”


พีชพูดอารมณ์ดี


“สมัยตอนที่ซาร์ระบาดนะ เจ้านั่นถึงขั้นจะบินไปดูแหล่งกำเนิดเชื้อเองเลยนะครับ มันเตรียมการณ์เตรียมห้องแล็บพร้อมเลย”

พีชเล่าให้ฟัง


“ใครเหรอคะอาพีช”


“เพื่อนรักอาน่ะ สิ เมื่อก่อนเขาเป็นทั้งคู่ปรับและคู่กัดอาเลยนะ อยู่คนละกระทรวงแต่ก็ชอบหาเรื่องกับอาตลอด”


“จริงเหรอพีช พี่ว่า เขาน่ะออกจะเก่งหาตัวจับยาก”


ดอกเตอร์เอ่ยถึงอย่างชื่นชม


“ใครเหรอคะ”


อิงดาวสนใจ เพราะนานๆ ทีพ่อจะเอ่ยถึงคนอื่นแบบชื่นชมแบบนี้


“แมงมุมลายตัวนั้น ป่านนี้ไปทำไร่ไถนาอยูไหนแล้วก็ไม่รู้” 


พีชเอ่ยขำๆ



Create Date : 20 มิถุนายน 2563
Last Update : 21 กันยายน 2563 7:45:18 น.
Counter : 642 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร

  
unitan Literature Blog ดู Blog
เรื่องนี้น่าจะได้รับอิทธิพลจากสถานการณ์ดลกปัจจุบันค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 20 มิถุนายน 2563 เวลา:23:15:04 น.
  
เขียนไว้เป็นที่ระลึกค่ะ อิอิ
โดย: unitan วันที่: 22 มิถุนายน 2563 เวลา:8:32:22 น.
  
โดย: หอมกร วันที่: 22 มิถุนายน 2563 เวลา:8:44:43 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]