" ค น ที่ รู้ ว่ า ตั ว เ อ ง โ ง่ , , , คื อ ค น ฉ ล า ด "

ป ล ว ก ต า ตี่



หลังจากเกิดปรากฎการณ์


"การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การพัฒนาการเรียนการสอนด้วยวิธีการปฏิบัติจริงจากการปั้นซาลาเปา"ไปแล้ว


ดิฉัน...ในนามของคณะกรรมการดำเนินการสัมมนา ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้เข้าร่วมการสัมมนาเป็นอย่างสูงนะคะ


โอ๊ววววว



จัดว่าผ่านพ้นการเป็น "พิธีกร" อย่างจำเป็นไปได้ด้วยดี ((ก็หวังว่าอย่างนั้น))


ดีว่าเป็นสัมมนากลุ่มย่อย


ดีว่าเป็นกลุ่มสุดท้าย


ดีว่าเพื่อนๆมาน้อย


ดีว่าอาจารย์อารมณ์ดี


ดีว่าเพื่อนๆสนุกกับการปั้นซาลาเปา


ดีว่าเป็นวันที่ฉันไม่เขิน ไม่ตื่นเต้น



เลยทำหน้าที่ "พิธีกร" ผ่านไปได้ ((อย่างงงๆ))


ต้องขอขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โต๊ะ เก้าอี้ กระดานดำ ตลอดจนลูกบิดประตู ที่ทำให้ฉันหายเกร็ง !!!



พูดๆ ปั้นๆ กินขี้มือ เอ๊ย ฝีมือตัวเองกันเสร็จ ก็ได้เวลาปิดการสัมมนา


และถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกับอาจารย์ โอ๊ววววว มันใกล้เสร็จแล้ว


เหลือแต่เก็บของ !!!! (((งานหนักอยู่ตรงนี้เอง)))



กว่าจะเก็บของเสร็จ ((เตรียมอุปกร์อีกห้อง สัมนาอีกห้อง สมน้ำหน้า เก็บของสองห้องเลย 55+))


กว่าจะคืนของ เช็คของ กลับไปแยกของที่บ้านอ้อม


ขนโต๊ะหวาย แก้วน้ำ ผ้าปูโต๊ะไปบ้านเอม


กลับมาเคลียร์เงิน ((ประเด็นนี้ เล่นซะหมดตัวเรยยย กระซิก กระซิก  - -))


และแรงเฮือกสุดท้ายก็หมดไปกับการขนของหนักกับเพื่อนสาว ((ด้วยรถมอเตอร์ไซด์ซะด้วย ถึกได้อีก))


โต๊ะญี่ปุ่น 1 ตัว


ซึ้ง 1 ชุด


ชามตราไก่ 20 ใบ


พานทอง 1 อัน


ถุงเสื้อผ้า ((อันนี้ใส่ไปเมื่อเช้า ตื่นสาย เลยต้องขนไปเปลี่ยนที่มหา'ลัย))


รองเท้า 1 คู่


ฯลฯ



ทุกอย่างที่ว่ามา อยู่ที่ตระกร้าหน้ารถ


ห้อยตรงกระจกรถ ที่มือคนขี่ และคนซ้อน


พระเจ้า...เก่งได้อีกนะเนี่ย



และแรงฮึดเฮือกสุดท้ายที่เอาออกมาใช้คือ


ขี่รถตัวเองขนซื้งและพานกลับบ้าน !!!


พอถึงบ้าน กองทุกอย่าง แล้วก็ทิ้งตัวลงไปนอน อารมณ์นี้ ถ้าเครื่องบินไม่ตกใส่หัว ก็อย่าหวังว่าจะตื่น



ตื่นมาอีกที...สามโมงเย็น 


ไปหาข้าวกิน (เมื่อเช้าแม่เรียกกินแล้ว แต่กินไม่ทัน ได้นมไปสองแก้ว แค่นั้นเอง)



เปิดฝาชี . . . .


แกงหน่อไม้ดองใส่ไก่


น้ำพริกกะปิ กับผักฉาบน้ำมัน


หมูทอดหน้าตาไร้อารมณ์อีกสองชิ้น



เอาวะ หิวมากแล้ว อย่าเลือกนังขวัญ !!!


ตักๆ ราดๆ ไปกินในห้อง พร้อมกับเปิดทีวีดู


ผ่านไปสามนาที...ซากอารยธรรมในจานก็หายไป


พร้อมด้วยอาการหนังตาหนักก็เกิดขึ้นอีกครั้ง



แต่ไม่ได้...ต้องไปตลาด หากับข้าว


กระเป๋าฉันอยู่ไหน...อ้อ เจอแล้วย่ามน้อยหอยสังข์


หยิบๆ จับๆ  "ตัง ตัง อะ อยู่ในกระเป๋าเสื้อ" ก็เดินไปรวบรวมมา


"อันนี้ค่ากับข้าวแม่ อันนี้ค่าขนมที่เหลือ" หยิบมานับ ปากก็พล่ามไปแต่เพียงผู้เดียว


"กระเป๋าม่วง อยู่ไหนฟระ อ้อ อยู่นี่" คว้ากระเป๋าอีกใบมาควานหาใบขับขี่


"เอ๊ะ สงสัยอยู่ในกระเป๋าสะพายใบที่เป็นยีน" เริ่มมือไม้สั่น หลังจากควานไปแล้วพบแต่ความว่างเปล่า


((คนบ้าอะไร พกกระเป๋าวันละสามใบ :: คนบ้าคนนี้แหละ ::))


"กระเป๋ายีน อยู่ไหนฟระ เออ มันอยู่ไหนฟระ ตั้งแต่สัมมนาเสร็จ ตรูยังไม่ได้จับเลย" 


ก็นิ่งรำลึกอดีต ย้อนไปเหมือนภาพถอยหลังในละคร จื๊ดด จื๊ดด จื๊ดด



โป๊ะ เช๊ะ เราพบท่านแล้ว!!!  555+ 


ลืมทิ้งไว้ในห้องที่จัดของข้างห้องสัมมนา 


"เยี่ยม !!!! สติมึงเนี่ย จะมีมั่งมั๊ย" ((ไม่มีใครด่า ก็ด่าตัวเองเพื่อความสะใจ !!))


แต่อารมณ์นั้น เริ่มเครียด เพราะสารพัดบัตรอยู่ในนั้นหมด ส่วนเงิน มีอยู่ไม่เกิน 12 บาท


ใช่ค่ะ..12 บาท อ่านไม่ผิด เพราะว่าตอนแม่ให้เงิน เราไม่ได้เอาใส่กระเป๋านั้น แต่ใส่กระเป๋าเสื้อไว้ เลยรอด



เดินไปปิดบ้าน หากุญแจรถ ปิดบ้าน พร้อมกับโทรศัพท์หาเอมไป


ห้าตรู๊ดผ่านไป ...ฉันก็ปิดบ้านเสร็จพอดี


ออกจากบ้านได้ บิดหน้าตั้ง ใจก็คิดไปต่างๆนานา ถ้าหาย ฉันต้องอายัติบัตร ATM ก่อน ((ถึงเงินไม่เยอะ แต่ก็งก))


แล้วบัตรประชาชนอีก ใบขับขี่อีกสองใบ ..โอ๊ว งานงอกแน่นอน ไม่มีเวลา สอนเต็ม งานเยอะ ฯลฯ


บิดไปด้วยความเร็วเท่าที่ Honda Wave 100 นังอืด ของฉันพอจะทำเนาได้



ไปถึงป้อมยามหน้าตึก...เห็นลุงยามนั่งทำหน้าง่วงอยู่


เลยปาดเข้าไปจอด เปิดหมวกกันน็อคออก


"ลุงคะ ตึกปิดแล้วหรอคะ พอดีหนูลืมกระเป๋าไว้ในห้องเรียนที่มาเรียนเมื่อเช้าอ่ะค่ะ แล้วป้าแม่บ้านละคะ บลา บลา"


"อ้าว ป้าเพิ่งกลับไปตะกี้เอง"


"หรอคะ" เริ่มห่อเหี่ยว "แล้วป้าแกฝากกระเป๋าอะไรไว้มั๊ยคะ เผื่อเค้าเจอ"


"ไม่มีนะ เดี๋ยว วอ ไปถามให้" แล้วลุงแกก็หยิบวิทยุที่วางอยุ่ข้างหน้าออกมา


กดอะไร ตรู๊ด ตรู๊ด "...มาตึกห้าหน่อ" อีประโยคแรกได้ยินไม่ชัด


สักสองนาที..ก็มียามหนุ่มหน้าตาซื่อๆปั่นจักรยานมา


"ว่าไงลุง"


"น้องเค้าลืมกระเป๋าไว้ในตึก ยัย ... ((คาดว่าจะเป็นชื่อแม่บ้าน)) ได้ฝากไรไว้มั่งป่าว"


"ไม่นะ ที่มาทำขนมกันเมื่อเช้าใช่ป่ะ"


"ใช่ค่ะที่ทำซาลาเปากันเมื่อเช้าแหละ แล้วมีใครไปใช้ห้องต่อมั๊ยคะ"


"ไม่น่ามีนะ แล้วมีเงินอยู่เยอะมั๊ยล่ะ"


"ไม่มีหรอกค่ะ เป็นกระเป๋าบัตร"


บลา บลา บลา 


หลังจากนั้นก็เป็นบทสนทนาที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าของฉันแล้ว


"เอออ บ้านอยู่แถวไหน หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็น ฯลฯ"


พี่คะ...หนูร้อนใจ อยากได้กระเป๋า  อย่าเพิ่งชวนหนูคุย หนูใจไม่ดีค่ะ ((คิดในใจ))


"อยู่แถวบึงพระค่ะ"


กว่าจะจบบทสนทนา ..ก็เอาซะคันหัว ((เพราะใส่หมวกกันน็อกอยู่ไม่ได้ถอด โถ ชีวิต))



แต่ท้ายที่สุดแล้ว..ฟ้าก็เห็นใจ


ประทานเบอร์โทรศัพท์ป้าแม่บ้านมาให้


โทรไป..ป้าแกก็ว่าเจอ เก็บไว้ให้แล้ว "ป้าคลำๆดูในกระเป๋า รู้สึกว่ามีขวดอะไรกลมๆด้วย"


"นั่นแหละค่ะ ยังไงรบกวนป้าเก็บไว้ให้หน่อยนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูไปเอา"



แล้วเมื่อเย็น ฉันก็ได้พบหน้ากระเป๋าที่พัดพรากจากกันมาเกือบยี่สิบห้าชั่วโมง


ยกมือไหว้ป้าแม่บ้านอยู่สองสามรอบ ก่อนที่จะยิ้มหน้าบานขี่รถไปซื้อกับข้าว


ต่อไปนี้ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ  อย่าพกกระเป๋าถึงสามใบในวันเดียว!!!!



ด้วยความปราถนาดีจาก...คนเคยพลาด 55+


สวัสดีค่ะ





ปัจฉิมลิขิต :


1. กำลังต่อสู้กับ "ความขี้เกียจ" อย่ารุนแรง ใครมีปืน มีมีด ยืมหน่อย จะฆ่ามันทิ้ง !!


2. เข้าสู่ฤดูกาล "โม่งาน" อย่างจริงจัง >>>> สู้ว๊อยยยย


3. เหมือนจะแดงเดือด แต่ไม่แดงเดือดซักที...อึนท้องมาสามวันแล้ว ทรมานจัง -"-


4. แผนการสอน วิจัย ใบงาน และ "คนนั้น" จงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย


_/_


 








Free TextEditor




 

Create Date : 24 มกราคม 2554
0 comments
Last Update : 24 มกราคม 2554 20:06:40 น.
Counter : 497 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


asilike
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รั ก เ อ ย อ ยู่ ที่ ใ ด ยั ง ฝั น ใ ฝ่
ยั ง ค ง ต า ม ห า


แ ท้ จ ริ ง อ ยู่ ไ ม่ ไ ก ล เ ค ย ฝั น ใ ฝ่
เเ ค่ เ พี ย ง ห ลั บ ต า

魔女音符

“ฉัน” เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่เกิดวันพุธ ราศีพฤษภ และเลือดกรุ๊ป โอ

“ฉัน” เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่มีหลายชื่อตามแต่คนเรียกจะปรารถนา

 “ฉัน” เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีหลายอารมณ์

บางครั้งก็ชอบที่จะอ่านหนังสืออยู่คนเดียวเงียบๆ แต่หลายๆครั้ง ก็เหงาเกินกว่าที่จะอ่านหนังสืออยู่คนเดียว

“ฉัน” เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่แสนจะธรรมดา บนหัวไม่มีวงแหวนวิ้งๆ

ไม่โดดเด่น ไม่มีออร่าหรือเรืองแสงได้

แต่ที่สำคัญ “ฉัน” ก็ยังเป็น ”ฉัน”

ที่ไม่ได้ปรุงแต่งเพื่อใคร

 “ฉัน” รักในสิ่งที่ฉันเป็น และตอนนี้

 “ฉัน” รักในสิ่งที่ฉันเล่าออกมา

แม้ไม่ได้เพื่อใคร แต่เพื่อ “ฉัน” และ “เพื่อน” ที่ฉันรัก

สักวัน “ฉัน”หวังว่า คุณคงอาจจะใช่ “เพื่อน” ที่ฉันพูดถึงอยู่

หวังว่า เราคงรู้จักกันดีขึ้น และยินดีที่ได้รู้จักนะ




Free Clock
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add asilike's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.