รั ก ค รั้ ง ห นึ่ ง . . . คิ ด ถึ ง ต ล อ ด ไ ป
รักมาก ก็ต้องเสียใจมาก ในยามที่สิ่งที่เรา รัก จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เป็นตรรกะที่เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนอย่างที่ไม่ต้องมีงานวิจัยชิ้นไหนมาหาคำตอบให้เสียเวลา
วันนี้.. เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันกลายเป็นคน ขี้แย น้ำตา และ ความเสียใจ กลายเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรัก ความคิดถึง ความเหงา ความทรงจำ ดำเกลิง , ศุภเกิง ,อีเกิ้ง ,อีตะเกิง ฯลฯ สารพัดชื่อที่พวกเราจะเรียกมัน หมาพันทางตัวสีดำ ที่ไม่รู้จักที่มาที่ไป หมาที่กลายมาเป็น ที่รัก ของทุกคนในบ้าน ถูกรถชน แล้วมันก็ตายจากพวกเราไปอย่างเจ็บปวด....
พวกเราที่บ้าน รู้แค่ว่า.... เราเอามันมาจากวัด เพราะสงสารมันที่มันถูกพระทุบตี ((ในตอนที่มันยังอยู่ ลุงชอบพูดเล่นว่า..ที่พระเค้าตีมันเพราะว่ามันไปคาบบาตรพระหนี จนพระไม่มีบาตรไว้ใช้บิณฑบาต)) ตอนที่มันโผล่เข้ามาในบ้านวันแรก สามสี่พี่น้องที่นั่งกันอยู่ตรงนั้น ...มองหน้ากันประมาณว่า...ตั้งชื่อมันว่าไรดีวะ มองหน้ากันไปมา...ก็ยังนึกชื่อที่จะให้ไอ้ลูกหมาสีดำตัวนี้ไม่ออก ชื่อไรดีวะ...ไอ้โน่น ไอ้นั่น ชื่อนี้ดีป่ะ ชื่อนี้เท่ ฯลฯ สารพัดสารเพจะเรียกกันไป เราซึ่งนั่งมองลักษณะทางกายภาพของมันไป นึกไป.. ตัวสีดำ...เรียกไอ้ดำก็ง่ายดีนะ แต่ไม่เด่น...จะเป็นหมาบ้านพี่ต้องเด่นนะน้องนะ... ดำเกลิง จึงกลายมาเป็นชื่อมันในที่สุด
วันที่มันมาแรกๆ มันยังเป็นเพียงลูกหมาสีดำ ตัวเล็กๆ ผอมโกรก ดูทุเรศทุรังในสายตาพวกเรามาก ไม่มีความน่ารัก หูก็ตก หาก็กุด ขนก็กระดำกระด่าง จัดว่าเป็นหมาที่ไม่มีราศีของความน่ารักเลย เป็นหมาที่เข้าข่ายพอที่จะใช้คำว่า เสียสูญ ได้เป็นอย่างยิ่ง แรกๆที่มันมา มันดูเป็นหมาประสาทๆ ขี้กลัว ตื่นคน กลัวคน ไม่กล้าเข้าใกล้ ถ้าจับนั่งเมื่อไร มันจะทิ้งน้ำหนักของมันทั้งหมดมาที่เราทันที ... และถ้าเมื่อไรที่เราแกล้งปล่อยมัน มันก็จะหงายหลังตึงทันที.. ช่วงนั้น พวกเราเรียกมันว่า...ไอ้หมาไร้กระดูกสันหลัง (คาดว่าคงถูกตีที่หัวมาอย่างแรง เพราะเท่าที่จับๆดู ที่หัวมันจะมีลูกๆก้อนๆนูนขึ้นมา พวกเราเลยสันนิษฐานกันว่าคงโดนตีที่หัวอย่างรุนแรง เลยกลายเป็นหมาแบบนี้) และที่สำคัญ... เลี้ยงไปสักพัก เราสังเกตได้ว่า มันเกลียดพระ... ถ้ามันเห็นพระเดินเข้ามาเรี่ยไรในบ้านเมื่อไร มันจะเห่ากระโชกไป หาที่หลบไป ... ขนที่หลังตั้งชัน เหมือนกลัว หรือโกรธอะไรสักอย่างอย่างรุนแรง
พอเลี้ยงไปสักพัก... ไอ้ลูกหมาที่แสนขี้เหร่ตัวนั้นก็หายไป ค่อยๆกลายเป็นหมาวัยขบเผาะที่เริ่มจะน่ารักขึ้นตามลำดับ (ในสายตาคนเลี้ยงอย่างเรา) จากขนที่เคยกระดำกระด่าง...ก็กลับดำ ขึ้นเงา แถมนิ่มยิ่งกว่าเส้นผมของเจ้าของมันเสียอีก ไอ้หางที่เคยว่ากุด..กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวมันไปอีกเสียนั่น ใครมาก็ทักหางมันประจำ และถ้าสังเกตดีๆ ..ดำเกลิงเป็นหมามีคิ้ว (เราเรียกกันเอง) มันจะมีจุดๆอยู่เหนือตามัน ชอบดูผิดเป็นประจำ บางครั้งนึกว่ามันนอนลืมตาอยู่...ที่ไหนได้ มันหลับตา
ดำเกลิง เป็นหมาที่ขี้เล่น สมกับเป็นหมาเด็ก ทุกวัน ... เราจะต้องเล่นกับมันวันละหลายๆรอบ เพราะมันเป็นหมาที่มีพละกำลังเหลือเฟือ ประมาณว่า... เล่นไม่เลิก แกเหนื่อย ชั้นไม่เหนื่อย ... เราพักแล้ว...มันก็ยังชวนเล่นตลอด งับมือ งับเอว งับขา ไม่พอใจ กระโดดโถมและถีบเจ้าของมันเข้าให้ซ้ำ ยิ่งช่วงนี้..ได้ลูกบอลมาใหม่หนึ่งลูก...โยนไป แล้วบอกว่า...ดำ ไปเอามา... กระโจนปู๊ดเดียว วิ่งหน้าเริ่ดเชียว ... แต่เปล่าเอากลับมาให้เจ้าของนะ...มันคาบหนี เหมือนชวนเล่น ไอ้เจ้าของอย่างเราก็บ้าจี้...วิ่งไปแย่งจากปากหมาซะอย่างนั้น เล่นไปเล่นมา..เจ้าของมันเหนื่อยก่อนทุกที บางครั้ง....ถ้าวันไหนอารมณ์ดี ใช้ให้คาบของไปให้อีกคน พี่ดำเกลิงเค้าก็สามารถ แต่ถ้าวันไหนฉันขี้เกียจ ... คาบของไปได้หน่อย ทิ้งของมันซะกลางทางซะอย่างนั้น ถ้าวันไหน..กินข้าวเสร็จ แล้วมีเศษกระดูกเหลือ เราจะเรียก ดำ กิน ดูก ตะโกนหน่อยเดียว .. ถ้ามันอยู่ในรัศมีในบ้าน ไม่ว่าอยู่ตรงไหน จะวิ่งหน้าตั้งมาทันที เสียงกระดิ่งจะกุ๊งกิ๊ง กุ๊งกิ๊ง มาก่อนตัวมันเสมอ..
จริงๆแล้ว ความทรงจำระหว่างเรากับไอ้หมาตัวนี้มันมีอีกเยอะเหลือเกิน เยอะจนกระทั่งเวลานี้..ยังจำได้จนถึงลมหายใจสุดท้ายของดำเกลิง แรงที่จะสูดเอาอากาศเข้าไปยังไม่มี คงเจ็บที่สุดในชีวิตมันแล้ว..แค่หายใจยังลำบาก มันกระตุกที.. เจ้าของมันก็ใจจะขาดที เราเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับมัน ลูบหัว จับหู จับแขน จับขา สัมผัสมันด้วยความรักเหมือนเดิม ให้มันรู้ว่า..ลมหายใจสุดท้ายของมันก็จะยังมีคนที่เคยเล่นกับมัน เคยสอนมันคาบของ เคยตีมัน เคยกอด เคยจูบมันอยู่กับมันเหมือนเดิมตลอดเวลา ทุกวินาทีก่อนที่มันจะค่อยๆสงบลง.... ผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งมันหมดแรงกระตุกในที่สุด และภาพสุดท้ายก่อนที่พี่จะเอาผ้าไปคลุมมันไว้อีกที หลังจากที่เอาผ้ารองไปที่ก้นหลุมแล้ว หมาตัวสีดำ ขนเงา หางกุด ปลอกคอหนังสีน้ำตาล นอนอยู่ตรงนั้น เนื้อตัวยังนิ่ม ยังอุ่น เหมือนที่เราเคยกอดมัน ต่างกันตรงแค่ที่อยู่.... ถ้าทุกวันที่มันเคยอยู่ จะวิ่งอยู่บนพื้น นอนอยู่บนดิน ต่อไป..มันอาจจะแค่เปลี่ยนที่อยู่เล็กน้อย เป็นไปนอนใต้ดิน..... แต่จะฝังอยู่ในใจเราตลอดไป พรุ่งนี้จะเป็นวันแรก...ที่ตื่นเช้ามาแล้วเราจะไม่เจอกับดำเกลิงอีก เสียงกระดิ่งที่คุ้นเคยคงจะไม่ได้ยินอีกแล้ว แล้วตอนเย็น ก็จะไม่มีใครมาไล่งับแมลงเล่น วิ่งไล่ขับแมว วิ่งตะเกิงเป็นไอ้โหล่อย่างที่เคยเป็นอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเราจะต้องร้องไห้คิดถึงมันไปอีกกี่วัน ไม่รู้ว่าเราจะต้องคิดถึงมันไปอีกนานแค่ไหน
หลับให้สบายอยู่ตรงนั้นนะดำเกลิง... เราอยู่ใกล้กันเหมือนเดิม ดำนอนอยู่ตรงนั้นเอง อยู่ตรงหน้าบ้าน แม่เห็นดำทุกวันเหมือนเดิม
Thanks: Ro ฝากรูป
Create Date : 13 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2554 23:28:22 น. |
|
0 comments
|
Counter : 438 Pageviews. |
|
|