....OUR FAMILY'S JOURNEY....

กราบหลวงพ่อพระองค์แสนที่วัดพระธาตุเชิงชุม






วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

ต่อเนื่องจากการตระเวนไหว้พระก่อนทีจะถึงวันเกิด 24 มิย. ที่แล้ว และพรุ่งนี้เป็นวันเข้าพรรษาจึงชวนทุกท่านตามไปไหว้พระด้วยกันครับ

เราเดินทางไปมาหลายวัด คือตั้งแต่ ปรางค์กู่แก้วที่ อ.กู่แก้ว อุดรธานี... วัดโพธิ์ศรีใน บ้านเชียง.... วัดถ้ำพวง ที่ อ.ส่องดาว สกลนคร.... วัดถ้ำขาม.. วัดป่าอุดมสมพร.. วัดคำประมง.. อ.พรรณานิคม สกลนคร

มาถึงตอนนี้จะพาท่านไปต่ออีกสามวัครับ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญของเมืองสกลนครรเลยก็ว่าได้.... เริ่มกันที่นี่ก่อนครับ "วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร"



วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร เดิมมีชื่อเป็นครั้งแรกว่าวัดธาตุเชิงชุม ในสมัยเพี้ยครชุมเป็นหัวหน้าปฏิบัติพระธาตุเชิงชุม และมีพระหลักคำและสามเณรอยู่ที่วัดนี้ ต่อมาวัดร้าง และได้มีพระครูหลักคำ “พน” เป็นเจ้าอาวาส และได้เปลี่ยนชื่อสร้อยวัด จากวัดธาตุเชิงชุมมาเป็นวัดธาตุศาสดาราม ต่อมาในสมัยพระเทพวิมลเมธี เป็นเจ้าอาวาส ได้เปลี่ยนจากวัดธาตุศาสดารามมาเป็นวัดพระธาตุเชิงชุมและพร้อมได้ขอยกเป็นพระอารามหลวงชั้นชนิดวรวิหาร มีชื่อว่าวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร







ถ่ายผ่านโบถส์(สิม)เก่า (เลนส์ไวด์)





พระอุโบสถหลังเดิมหรือสิมเก่า มีลักษณะเป็นสิมแบบโถง โครงสร้างเป็นไม้ก่ออิฐถือปูน หลังคาเป็นกระเบื้องไม้แบบเดิม หันหน้าไปทางทิศใต้ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 ครั้งพระธานีเป็นเจ้าเมือง ภายในมีจิตรกรรมเป็นภาพเถาไม้เลื้อยเป็นแนวรอบอาคาร หน้าบันมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปเทพบุตรและเทพธิดา ดาวประจำยาม มังกรและเถาไม้เลื้อย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ ทั้งที่สร้างด้วยไม้และเป็นปูนปั้น








องค์พระธาตุ






พระธาตุ

พระธาตุเชิงชุม เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตรเศษ ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนบนเป็นทรงบัวเหลี่ยม ไม่มีลวดลายประดับ ที่ฐานเจดีย์ มีซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ซุ้มยอดประตูมีลักษณะเป็นยอดปราสาท ข้างในทึบสร้างด้วยศิลาแลง และหินทรายแดง ส่วนที่เห็นอยู่ปัจจุบันเป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นใหม่ ครอบองค์เดิมไว้ พระธาตุเชิงชุม เกิดขึ้นจากมงกุฎทองคำของพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ สวมบูชารอยพระพุทธบาท แล้วทรงสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงได้ชื่อว่า พระธาตุเชิงชุม







เหมือนลูกพัทธสีมา แต่วางอยู่ด้านนอก









ภาพมุมกว้างบริเวณองค์พระธาตุ (เลนส์ไวด์)






ตำนาน

ตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอานนท์ ได้เสด็จจากพระวิหารเชตวัน มาทางดินแดนทางทิศตะวันออก เพื่อโปรดสัตว์ เมื่อเสด็จตามลำแม่น้ำโขง ก็ได้ประทับรอยพระพุทธบาทมาตามลำดับ มีพระพุทธบาทบัวบก พระพุทธบาทโพนเพล พระพุทธบาทเวินปลา แล้วมาพักฉันภัตตาหารที่ภูกำพร้า อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุพนม จากนั้นได้เสด็จไปโปรดพระเจ้าสุวรรณภิงคาระ และได้ประทับพระพุทธบาทที่ภูเขาน้ำลอดเชิงชุม รวมกับพระพุทธบาทของ อดีตพระพุทธเจ้าองค์ก่อนอีก 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้าพระนามกกุสันธะ พระพุทธเจ้าพระนามโกนาคมะ และพระพุทธเจ้าพระนามกัสสปะ

เมื่อพระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงทราบข่าว จึงได้เสด็จออกต้อนรับ พร้อมทั้งพระนางนารายณ์เจงเวงราชเทวี พระพุทธเจ้ามีพุทธประสงค์ให้พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนายิ่งขึ้น จึงทรงแสดงปาฏิหารย์บันดาลให้มีดวงมณีรัตน์มีรัศมี พวยพุ่งออกจากพระโอษฐ์พร้อมกันสามดวง พระเจ้าสุวรรณภิงคาระทรงเห็นเป็นอัศจรรย์ก็บังเกิดศรัทธา เปล่งวาจาสาธุการด้วยความปิติ พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า ณ ที่นี้เป็นสถานที่อันอุดมประเสริฐ ที่พระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ จะได้มาประชุมรอยพระพุทธบาทไว้ เพื่อเป็นที่สักการะแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระเจ้าสุวรรณภิงคาระ บังเกิดความปิติโสมนัส จึงได้ถอดมงกุฎทองคำของพระองค์ สวมลงบูชารอยพระพุทธบาท แล้วทรงสร้างเจดีย์ครอบไว้ จึงได้ชื่อว่าพระธาตุเชิงชุมแต่นั้นมา เนื่องจากเป็นที่ชุมนุมของพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์







ไหว้หลวงพ่อพระองค์แสน







พระองค์แสน

พระองค์แสนหรือที่เรียกชื่ออีกอย่างหนึ่งว่าหลวงพ่อพระองค์แสน เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสกลนคร เป็นพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร หรือที่เรียกว่าพระวิหารหลวงพ่อองค์แสน เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง มีพุทธลักษณะที่งดงามจัดอยู่ในสกุลศิลปะเชียงแสน เป็นปางมารวิชัย สังฆาฏิมาจดที่พระนาภี ส่วนเกศทำเป็นเปลวรัศมี ซึ่งมีลักษณะทางศิลปะลาว พระพักตร์เริ่มเข้าสกุลศิลปะสุโขทัย ซึ่งนับว่าหลวงพ่อพระองค์แสนพุทธลักษณะที่ผสมผสานหลายสกุลศิลปะ แต่ความโดดเด่นอยู่สกุลศิลปะเชียงแสน น่าจะเป็นช่วงปลายของสกุลศิลปะ และเป็นปางมารวิชัย เป็นปางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ที่ชนะมาร ล้วนเป็นปางที่นิยมใช้ประดิษฐานในโบสถ์

หลวงพ่อพระองค์แสน ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี ซึ่งฐานนี้มีความสูง 1.35 เมตร หน้าตักกว้าง 2.00 เมตร วัดจากหน้าตักถึงยอดเกศ สูง 3.20 เมตร หลังของหลวงพ่อพระองค์แสนมีพระพุทธรูปได้สร้างขึ้นเฉลิมฉลองในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ตามโครงการของรัฐบาลและถัดไปเป็นพระธาตุเชิงชุม ลักษณะการสร้างพระวิหารอยู่หน้าพระธาตุถือได้ว่าเป็นลักษณะการสร้างที่ดี คือเมื่อมาไหว้หลวงพ่อพระองค์แสน ซึ่งเป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนสถูปที่เป็นพระธาตุเชิงชุมก็เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน ถือได้ว่าสองสิ่งนี้เป็นอุเทสิกเจดีย์หนึ่งในสี่เจดีย์ในพระพุทธศาสนาที่พุทธศาสนิกชนควรกราบไหว้เคารพบูชา


...วันที่เราไปมีหลวงพ่อสามองค์มานั่งให้ศีล ให้พร และผูกข้อมือให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่เข้าไปทำบุญด้วย..
.







บ่อน้ำศักดิสิทธิ์









เรื่องเล่า ความเป็นมา









โถส์หรือวิหารหลังนี้ น่าจะสร้างใหม่(อยู่ใกล้ๆหลังเดิมที่ติดองค์พระธาตุ)









ด้านใน






ที่ตั้ง

วัดพระธาตุเชิงชุมตั้งอยู่ริมหนองหารในเขต เทศบาลสกลนคร มีพื้นที่ 18 ไร่ 1 งาน 27 ตารางวา อยู่ปลายสุดของถนนเจริญเมือง มี อาณาเขตดังนี้
ทิศเหนือและทิศตะวันออก ติดกับหนองหารหลวงและบ้านเรือนชาวคุ้มทิศ ตะวันตก ติดกับถนนเรืองสวัสดิ์ ทิศใต้ ติดกับ ถนนเจริญเมือง




________________






วัดป่าสุทธาวาส


ขึ้นหัวเรื่องไว้ว่า กราบหลวงพ่อพระองค์แสนที่วัดพระธาตุเชิงชุม แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วขอแถมอีก 2 ที่ ซึ่งก็อยู่ในเมืองสกลนครนี่เอง คือวัดป่าสุทธาวาส และสุดท้ายจะพาออกเมืองไปไหว้พระพุทธไสยาสน์ที่บ้านเชียงเครือ ถือว่าเป็นลูกติดพันนะครับ



ปี พ.ศ. 2469 พระอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระ และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ได้มาพักจำพรรษา ณ เสนาสนะป่าบ้านบาก ในภายหลังจึงได้มีการสร้างวัดป่าสุทธาวาสขึ้นมา โดยมีนางนุ่ม ชุวานนท์ นางนิล ชุวานนท์ และนางลูกอินทร์ วัฒนสุชาติ เป็นผู้นิมนต์พระอาจารย์ทั้งสอง








โบถส์ (ถ่ายด้วยเลนส์ไวด์)








พิพิทธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ





พิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ

เนื่องจากวัดป่าสุทธาวาสเป็นสถานที่ในการละสังขารของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ภายในอาคารจึงมีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น และการจำลองรูปเหมือนโดยสร้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งในท่าขัดสมาธิขึ้น รวมทั้งมีการใช้สถานที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงเครื่องอัฐบริขาร อาคารนี้ก่อสร้างโดยสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และดูใกล้ชิดกับธรรมชาติ อันเป็นการสะท้อนถึงการใช้ชีวิตของท่านตลอดทั้งชีวิตการอุปสมบท








ภายใน








เจดีย์จันทสารเจติยานุสรณ์





เจดียจันทสารเจติยานุสรณ์
จันทสารเจติยานุสรณ์ หรือ เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย จันทสาโร ก่อสร้างขึ้นตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ทรงร่างแบบพระราชทานเบื้องต้นในการก่อสร้างอาคารหลังนี้และมีพระราชกระแสรับสั่งว่า

"ควรสร้างเจดีย์ที่วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ที่วัดนี้ มีอัฐิธาตุของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ท่านจะได้อยู่ใกล้กัน"

หลังจากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จทำพิธีเปิดเจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หลุย โดยภายในมีการจัดแสดงรูปเหมือนของ หลวงปู่หลุย จนฺทสาโร และเครื่องอัฐบริขารของท่านหลวงปู่หลุยด้วย








หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่












ที่ตั้ง

วัดป่าสุทธาวาส ตั้งอยู่ตำบล เชิงชุม อ. เมือง จ. สกลนคร อยู่ตรงข้ามกับ ศูนย์ราชการจังหวัดสกลนคร เข้าซอยไปหน่อยเดียวก็ถึงครับ.


อ่านเพิ่มเติได้ที่: วัดในจังหวัดสกลนคร





_______________






พระพุทธไสยาสน์


พระนอนนี้เป็นพระเก่าแก่มาก ที่วัดพระพุทธไสยาสน์ บ้านเชียงเครือ (ทางเข้า ม.เกษตรศาสตร์ฯ) อยู่ติดถนนสาย สกล - นครพนม ถ้าท่านไปจากสกลจะอยู่ทางขวามมือ

เสียดายที่วันเข้าไปนั้น หาเอกสารเกี่ยวกับองค์พระหรือวัดแห่งนี้เพื่อจะมาเล่าให้ชาวบล๊อกแก๊งค์ และท่านที่สนใจไม่ได้ครับ












พระพุทธไสยาสน์









โบถส์กำลังสร้างคู่โบถส์เดิม




บทส่งท้าย

การเดินทางไปไหว้พระตามวัดต่างๆในอีสานตอนบนเน้นสกลนครของเราคราวนี้ ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะไปไหว้ได้กี่วัดหรอกครับ แต่พอไปๆมาแล้วมานั่งนับดู ก็ครบเก้าวัดจริงๆ

สิ่งที่เราทำกันเป็นประจำเมื่อถึงวันสำคัญแบบนี้คือ ถ้าไม่ไปไหว้พระตามวัด หรือทำบุญตามวัด (ยกเว้นการปล่อย นก ปล่อยเต่า ปล่อยปลา ซึ่งเราถือว่าถ้าเราทำแบบนั้น คนก็จะไปจับเขามาอีก...) เราก็จะไปเลี้ยงอาหารเด็กๆในโรงเรียนห่างไกล ปีนี้เตรียมตัวกันไม่ทันเพราะเป็นช่วงงานเข้า เมื่อไหร่เรามีโอกาสก็จะได้ทำแบบนี้อีก รวมทั้งไปไหว้พระด้วย

มีหลายคนเคยแซวว่า "วัดในเมืองไทยเรามีมากมาย ล้วนแล้วแต่สวยงามน่าศรัทธา น่าเที่ยว แต่คนไทยเราก็ยังชอบไปวัดในต่างประเทศ เช่นที่ ญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือแม้แต่ที่จีน" .... อันนี้ก้น่าคิดครับว่า ใกล้เกือ จะกินด่าง ไหมน๊า แต่เท่าที่เจ้าของบล๊อกไปมาหลายที่ในบ้านเรา ก็เห็นหนุ่มสาวมากมายให้ความสนใจเหมือนกันนะครับ



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ.



________END________









 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2552
16 comments
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 22:08:01 น.
Counter : 11398 Pageviews.

 

มาไหว้พระด้วยค่ะ
บุญเนาะ ครบพอดีเลย 9 วัดเลยค่ะ



ที่โคราชแปลกนะคะ วัดไม่มีเจดีย์เลย ??????

 

โดย: tuk-tuk@korat 7 กรกฎาคม 2552 13:01:51 น.  

 

ตามมาให้ครบเก้าวัดด้วยคนค่ะ
ภาพสวยค่ะชัดเจนมากเลย
เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธจงดลบรรดาลให้มีความสุขปราศจากโภยภัยอันตรายใดใด คิดสิ่งใดสมปราถนานะคะ




 

โดย: busabap 7 กรกฎาคม 2552 17:40:25 น.  

 

มาทัวร์วัดด้วยคนค่ะ


จากบล็อก พาทัวร์ปราสาทพระวิหารค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rngja&month=01-11-2008&group=11&gblog=3

ปราสาทหินพนมรุ้ง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rngja&month=02-11-2008&group=11&gblog=7

 

โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) 7 กรกฎาคม 2552 20:19:08 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่แวะไปชวนให้ไปไหว้พระด้วย
ชอบคะ วัดไทยและมีความเป็นเอกลักษณ์
ขอบคุณภาพถ่ายสวยและได้ความรู้ไปด้วย

เลี้ยงอาหารเด็กโรงเรียนที่ห่างไกล ก็เป็นความคิดที่ดีนะค่ะ
เคยไปหมู่บ้านแถวป่าดงนาทามไหมค่ะ เช่นบ้านดงนา บ้านโหง่นขาม นี่ก็ไกลนะค่ะ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ติดชายแดนแม่น้ำโขงไทยลาว ในจังหวัดอุบลฯ
บ้านโหง่นขาม ขับรถขึ้นเขาค่ะ สมัยนั้นต้องเดินเกือบแปดกิโล กว่าจะเข้าไปได้ ตอนนี้มีถนนพอให้รถเข้าไปได้ค่ะ

บ้านดงนา ต้องเอารถจอดไว้และเดินลงเขาไปบ้านดงนา หรือไม่ก็นั่งเรือไปค่ะ เป็นหมู่บ้านในโครงการของสมเด็จพระเทพด้วย ท่านเสด็จไปเยี่ยมเกือบทุกปี

ตอนไปทำงานกิจกรรมในหมู่บ้านดงนา ยังชอบเลยค่ะ ตอนนั้นไม่มีไฟฟ้า เด็กๆ เยอะมาก โรงเรียนเล็กๆ เด็กๆน่ารัก ชาวบ้านก็น่ารัก ไม่มีนา ก็ต้องหาปลาแลกข้าว

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ไปทำงานกิจกรรมที่หมู่บ้านนี้ และทางศึกษานิเทศน์ของจังหวัดเดินทางไปแวะเยี่ยมโรงเรียน ท่านบอกว่า ไกลดีจังนะ ต้องจอดรถไว้ข้างบนและเดินลงจากหน้าผา ตอนลงไม่เป็นไร แต่ตอนขึ้นนี่ซิ แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปนานแล้ว ไม่รุ้ว่า มีไฟฟ้าหรือยัง
ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ




 

โดย: kidthung maanoy IP: 86.88.142.66 7 กรกฎาคม 2552 21:40:09 น.  

 

ท้องฟ้าสวยจัง
รูปสวยแจ่มทุกรูปเลยค่ะ..
เพลงบรรเลงก็เพราะมาก
สุขสันต์วันเข้าพรรษานะค่ะ..
..

 

โดย: Prettymaew 7 กรกฎาคม 2552 23:16:47 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีเช้าวันเข้าพรรษา
อิ่มบุญ อิ่มสุข กับการไหว้พระทำบุญนะค่ะ
ตามมาไหว้พระทำบุญ
อนุโมทนาบุญกับการทำดีด้วยอีกครั้งค่ะ

 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 8 กรกฎาคม 2552 6:32:33 น.  

 

หวัดดีตอยเย็นๆครับ
คุณตุ๊ก....ครบพอดีครับ

คุณ busabap....... ขอบคุณสำหรับคำอวยพรครับ

คุณ รัชชี่..... ขอบคุณเรื่องราวดีๆเกี่ยวกัปราสาท ตามไปอ่านแล้วดีมากครับ

คุณ kidthung maanoy....... อยากไปในที่แบบนั้น อยากให้โอกาสกับคนที่เขาขาดโอกาส และที่สุดคืออยากเห็นเขามีความสุขขึ้นนะครับ

คุณ Prettymeaw...... ขอบคุณสำหรับคำชม และคำอวยพร ขอให้คุณได้รับสิ่งดีๆเหล่านั้นเช่นกันครับ

คุณ ดอกฝิ่นในสายลมหนาว....... ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ

 

โดย: wicsir 8 กรกฎาคม 2552 18:58:22 น.  

 

สวัสดียามค่ำ คุณ wicsir

ยุ้ยเพิ่งกลับมาจากหัวหิน
เลยตามมากราบองค์หลวงพ่อพระองค์แสนช้าไปหน่อยนึงค่ะ

ท้องฟ้าในภาพช่วงแรกๆสวยจัง
ท่าทางวันนั้นแดดคงจะแรงน่าดู

ช่วงนี้ฝนตกบ่อยอีกแล้ว
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

โดย: nLatte 8 กรกฎาคม 2552 20:14:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ
วันนี้มัวแต่ทำธุระ ขนาดโหลดรูปไว้ตั้งแต่เมื่อคืนนะคะเนี่ย
ไปชมวิวท่าลี่มาค่ะ เพิ่งทำเสร็จ
จากบล็อก ขำ ขำ .... อ่านแล้วขำก็เอามาแปลค่ะ แต่แปลให้ดูสุภาพเนี่ยยากนะคะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 10 กรกฎาคม 2552 14:54:22 น.  

 

จากท่าลี่ก็ไปเชียงคานค่ะ แต่เลาะแม่น้ำเหืองไป มันมาก ลุ้นตลอดทางเลยค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 10 กรกฎาคม 2552 18:11:30 น.  

 

มาบล็อกนี้ได้ดูรูปสวยๆ แถมได้ความรู้อีกนะคะ

 

โดย: นู๋สุ 10 กรกฎาคม 2552 22:41:00 น.  

 

แวะมาฟังเพลง และชมความงามของวัดอีกรอบค่ะ..
เอาลูกพรุนที่บ้านมาฝากด้วยจ๊ะ..
สุขสันต์วันสุดสัปดาห์นะค่ะ..
....

 

โดย: Prettymaew 11 กรกฎาคม 2552 1:33:04 น.  

 

หวัดดีครับ...
คุณยุ้ย....คงไปรับอากาศดีๆจากทะเลมานะครับ

คุณตุ๊ก.... รอชมภาพตามเส้นทาง ท่าลี่-เชียงคานครับ

นู๋สุ..... ก๋วยเตี๋ยวน่าทานมาก

Prettymaew....... ลูกพรุน เวลาสุกเป็นยังไงน๊า.

ขอบคุณทุกความเห็นที่แวะมาเยี่ยมครับผม

 

โดย: wicsir 11 กรกฎาคม 2552 15:16:57 น.  

 

ดีใจจังเลยค่ะได้ไหว้หลวงพ่อองค์แสนแล้ว เพราะว่าอยากมากราบสักการะนานมาก ขออนุโมทนาบุญด้วยนะเจ้าคะ ขอขอบคุณแฮง

 

โดย: ศุภัคการย์ IP: 118.174.11.211 27 กันยายน 2552 13:40:50 น.  

 

ตำนานหลวงพ่อพระองค์แสนมีว่า เมื่อนครเอกชะตาสีถูกพยาพะยานากถล่มจมเป็นหนองหารและหลายวันผ่านไปมีชาวประมง
ว่านแห ลงน้ำเพื่อจับปลาปรากฎว่าแหติด ชาวประมงจึงว่ายลง
ไปดูปรากฎว่าแหไปติดอยู่กับหูของหลองพ่อพระองค์แสน
ชาวปะมงจึงดำลงไปในน้ำชาวปะมงตกใจเมื่อเห็นกับ
เมืองโบราณชื่อนครเอกชะตาสีชาวปะมงตกใจตายและไม่มี
ใครพบศพชาวปะมงอีกเลย
จะเชื่อหรือไม่เชื่อแล้วแต่ศรัทธาหลวงพ่อพระองค์แสน
อยู่พระธาตุเชิงชุมไม่ใช่่องค์จริงของจริงอยู่ใต้บาดาล

 

โดย: รักแร้101 IP: 125.26.244.67 4 ตุลาคม 2552 8:06:05 น.  

 

สมัยที่ผมเป็นเด็กเมื่อ40กว่าปีที่แล้วคนสกลจะมีน้ำกินอยู่สามที่คือ น้ำสระพังทอง(สวนสมเด็จ)น้ำส้างวัดธาตุ(บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์)และน้ำมอสนนามบิน(บนเนินศูนย์ราชการ)น้ำสามแห่งไม่เคยเหือดแห้งน้ำสนามบินจะอร่อยที่สุดมีสีขาวใสออกสีเงินจางๆแบบน้ำซับ น้ำวัดพระธาตุสะอาดบริสุทธิ์แต่ลึกมากมองไม่เห็นก้นบ่อจึงไม่ค่อยชอบไปตัก (เว้นแต่ตอนเดือนหงายไปดูสาวๆหาบน้ำตอนค่อนแจ้ง)สมัยที่ผมเป็นเด็กมีช่างชื่อ องชุน(ญวนเก่านะครับ)เป็นผู้รับเหมาบูรณะฯวิหารหลวงพ่อองค์แสน องชุนเห็นว่าหลวงพ่อไม่สวยจึงจะทุบกระเทาะปูนออกหุ้มใหม่ขณะที่กำลังทุบหลวงพ่อได้ยิ้มให้องชุนตกใจโดดพระวิ่งตะโกนบอกชาวบ้านว่า..นายเอย..ฟะหยิ้ม..(ออกเสียงตามนี้นะครับ)ต่อมาแกก็รถคว่ำแขนหักข้างเดียวกับที่แกทุบจนแกได้ชื่อสร้อยติดท้ายว่าองชุนพระยิ้มเป็นเรื่องจริงนะครับองชุนคือ นายชุน ศรีดามา นักธุระกิจเก่าแก่ของสกลนครเป็นพ่อของเพื่อนผมที่พี่ชายเป็นนายพลฯทหารบกนะครับผมคิดถึงความหลังเก่าๆสมัยสกลนครยังเป็นเมืองปิดที่นานๆจะมีคนต่างถิ่นผ่านมาเป็นเมืองน่าอยู่มากที่สุดเท่าที่เคยเดินทางไปแล้วทั่วประเทศไทย ผู้หญิงสกลสวยมากผมให้ฉายาพวกเธอว่ากุหลาบไม่มีหนามเพราะสวยอ่อนหวานไม่มีพิษภัย..หวานมากจนไล่หมาไม่หนีนะครับเดี๋ยวนี้ไม่รู้นะเพราะจากมาร่วม40-50 ปีแล้วไม่เคยกลับไปเลยคิดถึงนะครับ

 

โดย: จูล่ง IP: 117.47.248.247 24 กุมภาพันธ์ 2553 9:43:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
7 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.