....OUR FAMILY'S JOURNEY....

+ สนุกจนลืมวัย ในมุยเน่ ... เวียตนาม EP3 +

 

 
 
อัพบล๊อกวันนี้เป็นบล๊อกที่ 3 และเป็นวันที่ 3 ของการเดินทางสู่เวียตนามทางตอนใต้ โดยที่ 2 บล๊อกแรกเราพาเที่ยวที่ดาลัต เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของเวียตนามทางตอนใต้ จนเมืองนี้ได้รับขนานนามว่า "ปารีสแห่งตะวันออก"  (อ่านบล๊อกที่ 2 ) ... วันนี้เราเดินทางลงจากเมืองดาลัตเพื่อไปเที่ยวที่เมืองมุยเน่ หรือ มุยแน้ ที่มีสถานที่เที่ยวแปลกและสวยงามอีกแห่งหนึ่งของเวียตนามครับ.
 
 


แผนที่การเดินทางดาลัต-มุยเน่

 
หลังมื้อเที่ยง เราเดินทางลงเขาจากดาลัตลงไปทางใต้เป้าหมายคือฝั่งทะเลด้านตะวันออกของประเทศเวียตนาม ที่หมู่บ้านมุยเน่ จังหวัดฟานเทียตและจะพัก 1 คืนที่โรงแรม Sea Link Beach Hotel ครับ .... จากดาลัตลงมาที่มุยเน่ เป็นเส้นทางลงเขาแบบ2 เลนส์ สวนทางกันไปมา บางช่วงก็เป็นทางหักข้อศอกลงเขา จากดาลัตมีเส้นทางที่สามารถไปสู่นครโฮจิมินห์ได้ ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่ดีกว่าแม้จะเป็นถนนแบบสองเลนส์สวนกันก็ตาม ...  ระยะทางจากดาลัตไปมุยเน่หรือมุยแน้ แค่ 154 กม. แต่ต้องใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง

ถนนสายนี้ (QL28B) ที่มาบรรจบกับสาย 1 หรือ QL1A (สายหลักของเวียตนามที่เชื่อมเหนือ-ใต้) นั้น ตอนฝรั่งเศสปกครองเวียตนามก็ใช้สายนี้แหละเชื่อมต่อเข้าดาลัต เพื่อปราบปรามพวกที่แข็งข้อ ต่อมาเมื่อฝรั่งเศสแพ้สงครามที่เดียนเบียนฟู อเมริกาก็เข้ามาแทนและได้ซ่อมแซมถนนสายนี้เพื่อใช้เป็นสายยุทธศาสตร์เช่นกัน แต่ปากก็บอกว่าทำเพื่อให้การเดินทางของประชาชนดีขึ้น ซึ่งก็มีส่วนจริงอยู่เช่นกันครับ
 


ถนนสายดาลัต - มุยเน่ 
 
ตามเส้นทางที่ลงไปสู่มุยเน่ ช่วงแรกๆจะเห็นเขาปลูกกาแฟเป็นไร่กว้างใหญ่ โดยไกด์เล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนชนเผ่าที่มารับจ้างปลูกกาแฟในปัจจุบัน มักจะเป็นกลุ่มที่ชอบทำไร่เลื่อนลอย (เหมือนๆชาวเขาบ้านเราสมัยก่อน) รัฐบาลเขาเลยหาทางทำให้เขาไม่บุกรุกป่าเรื่อยเปื่อยออกไปอีก โดยเปิดให้มาสมัครเป็นลูกจ้างรัฐบาลทำไร่กาแฟ และจัดสรรที่พักอาศัยให้ ซึ่งเราก็ผ่านนิคมเหล่านั้น ... พอเข้าเขตจังหวัดฟานเทียตเราเห็นแผ่นดินค่อนข้างจะแห้งแล้ง แต่ก็มีไร่ลูกแก้วมังกรใหญ่ๆมากมาย เกษตรกรชาวเวียตนามใช้ระบบให้น้ำแบบต่อท่อกันทั่วไป ถึงแม้พื้นดินจะค่อนข้างแห้งแล้งแต่ยังมีประชากรอาศัยอยู่มากมายเช่นกัน เพราะเวียตนามมีประชากรเกือบๆร้อยล้านคน พื้นที่ประเทศเพียง 331,689 ตารางกิโลเมตร โดยพื้นที่ส่วนมากเป็นภูเขา ประชากรจึงต้องมาอยู่ในพื้นราบ จึงทำให้มีบ้านเรือนอยู่กันอย่างหนาแน่ เวลารถวิ่งจึงต้องลดความเร็วเมื่อผ่านชุมชนเหล่านั้นครับ
 


White Sandunes, Mui Ne.

 
จุดหมายปลายทางวันนี้เราอยู่ที่มุยเน่ แต่เราต้องผ่านะเลทรายขาว (White Sandunes) ซึ่งคำแปลจริงๆคือ สันทราย เราจึงแวะที่นี่ก่อนเลย ... มันแปลกแต่จริงครับ คือเจ้าไวท์แซนดูนส์นี่มันเหมือนทะเลทรายยังไงยังงั้นครับ แถมอยู่ข้างๆยังมีทะเลสาบเล็กๆทำให้บรรยากาศดีขึ้นด้วย ... การจะชม White Sandunes ให้ได้อรรถรสจำเป็นต้องนั่งรถจี๊บเข้าและขึ้นไป เพื่อจะได้อยู่ในมุมที่ดี และถ่ายภาพบนสันทราย หรือ Sandunes ได้อย่างสวยงาม ราคาต่อหัวก็คนละ 200 บาท (ไม่รู้เหมือนกันทำไมมันลงตัวขนาดนั้น) เจ้ารถจี๊บนั่นก็นั่งรวมกันไปคนละ 6 คน บางคันขับซิ่งด้วยนะ ขับให้เหมือนสิงห์ทะเลทรายเลย


รถจี๊บและรถ ATV ลุยทะเลทราย (ขอบคุณภาพจากเวบ)
 
White Sandunes อยู่ทางเหนือของมุยเน่ประมาณ 27 กม. มีพื้นที่กว้างใหญ่พอสมควรยาวตามชายทะเลถึง 20 กม. ว่ากันว่ามันเกิดจากการที่พายุพัดกระหน่ำชายฝั่งของเวียตนามในแต่ละปี ไวท์แซนดูนส์และเรดแซนดูนส์จะเป็นบัพเฟอร์ที่ดี บริเวณนี้จึงกลายเป็นที่โล่งแบบทะเลทรายเหมือนที่เห็นครับ ทรายที่นั่นละเอียดมากๆ สีทรายขาวเหลืองสวยงาม เหมาะจะไปเดินเล่นยามเช้าและยามเย็นครับ สำหรับท่านที่มาจากโฮจิมินซิตี้ก็สามารถมาได้ทั้งทางรถไฟและทางรถยนต์ โดยรถไฟราคา 8 ดอลล่าร์สหรัฐ ลงที่มุยเน่แล้วจ้างแท๊กซี่ไปส่งได้ หรือเช่ารถจี๊บมาเลยก็ได้ครับ
 






@ Whit Sandunes



สันทรายขาวกับรถจี๊บ




White Sandunes @ wide angle.

..............

 
จาก White Sandunes เราลงใต้ไปต่อที่ Red Sandunes ซึ่งอยู่ห่างจาก white sandunes 10 กม. ซึ่งเจ้าทะเลทรายสีแดงนี้ อยู่ติดทะเลมากกว่าทะเลทรายขาวและอยู่ใกล้มุยเน่มากกว่า คือจากมุยเน่ไปทะเลทรายแดงระยะทางประมาณ 17 กม และจากทะเลทรายแดงขึ้นไปทางเหนืออีก 10 กม. ก็เป็นทะเลทรายขาวครับ ... ลักษณะที่นี่เป็นทะเลทรายสีแดง แต่ทรายไม่ละเอียดเท่ากับทะเลทรายขาวที่ผ่านมา มีเนินสูงที่มองเห็นดวงอาทิตย์ตกน้ำได้ (เนื่องจากฝั่งทะเลจะเฉียงๆไปทางตะวันตกนิดๆ) ... ทะเลทรายแดงมีพื้นที่ประมาณครึ่งตารางกิโลเมตร เหมาะที่จะมาชมในช่วงเช้าและเย็น ที่ทะเลทรายแดงมีเด็กให้เช่าแผ่นพลาสติกสำหรับสไลด์ลงจากเนินทรายที่ฝรั่งเรียกว่า Sand-sledding เวลาเช่าคุยราคากันให้ดีนะครับ และอย่าพึ่งเอาสะตังค์ออกมาโชว์ก่อนนะจนกว่าจะต่อรองกันเรียบร้อย เพราะหลายคนเคยเจอจิ๊กเงินไป (มีคนเล่าให้ฟัง)


ขึ้นสันทรายไปแบบนี้



ผู้คนรอชมพระอาทิตย์ตกที่สันทราย



ทรายกับอ๋าวหญ่าย



อาทิตย์กำลังอัสดงที่ Red Sandunes.



เย็น...พอดีกับมื้อเย็น เราแวะร้านอาหารที่ชายทะเลมุยเน่ ซึ่งอยู่ติดทะเลจริงๆ เลยร้านออกไปไม่ถึง 10 เมตรก็เป็นทะเลเลย มื้อเย็นวันนี้จึงเป็นการทานที่คลายเครียดจากการเดินทางและแวะเที่ยวมา 2 ที่ได้ดีมากๆ เบียร์ไฮน์ดาวแดงที่นี่จึงหมดไปโหลครึ่งแบบมึนๆ

..........
 
 

พนักงานต้อนรับที่ Sea Link Beach Hotel
 
จากร้านอาหารเรามาพักที่โรงแรมซีลิงค์บีช ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่มีชายหาดส่วนตัว, หมู่บ้าน, และสนามกอล์ฟด้วย พื้นที่ตั้งค่อนข้างดีอยู่เป็นส่วนตัว ระเบียงทุกห้องหันไปรับลมทะเลหมด แถมมีสระว่ายน้ำอยู่ทางด้านชายหาดด้วยครับ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว แต่สภาพทั่วไปดีเหมือนกับห้าดาวเลยครับ ระดับการบริการใกล้เคียงบ้านเราเลย ... พอเข้าไป Lobby ได้กุณแจห้อง ทีนี้ก็เริ่มแปลกล่ะ เพราะห้องเราดันไปอยู่ที่ชั้น B3 แต่ปรากฎว่าที่เขาเป็นเนิน ลดระดับลงหาทะเลห้องพักเลยถูกสร้างให้อยู่ต่ำกว่าชั้นล้อบบี้ (เวียตนามมักจะเห็นแบบนี้หลายที่ เช่นที่ซาปา ห้องพักบางโรงแรมก็ต่ำกว่าชั้นล้อบบี้) ... สภาพในห้องทั่วไป ห้องกว้าง มีระเบียงพร้อมเตียงนอนรับลมทะเล ถัดออกจากตัวโรงแรมไปเป็นสวนมะพร้าว (เรียกาสวนเพราะปลูกไว้เยอะมาก คงรับแรงลมได้ดีกระมัง) และสระว่ายน้ำ จากตรงนั้นสามารถเดินออกทะเลได้ครับ 
 
 

Sea Link Beach Hotel Sea side.



Sea Link Beach Hotel Golf Course



For Golfers
ราคาเป็นเงินไทยคร่าวๆก็ กรีนฟี + แค้ดดี้ 2500 บาท รถกอล์ฟนั่งคนเดียว 690.- บาท นั่งคู่ 1096.-บาท ราคาต่อ 18 หลุมนะครับ
เสียดายผู้เขียนไม่มีโอกาสไปเล่น ทั้งๆที่ก๊วนอยากเล่น แต่เรามีโปรแกรมไปต่อน่ะครับ



ที่ระเบียงร้านอาหารโรงแรม





ยามเช้าที่ Sea Link Beach Hotel



สระว่ายน้ำโรงแรม



อาหารเช้าที่โรงแรม



มีบรรเลงเปียโนแบบสดๆ เล่นเพลงสากลยุคเก่าๆเพราะมาก



อาหารเช้าที่โรงแรมซีลิงค์บีช...ถือว่าใช้ได้



ถ่ายภาพร่วมกันที่หน้าโรงแรมก่อนออกเดินทาง

................
 
ออกจากโรงแรม Sea Link Beach Hotel เช้านี้เราเหลือโปรแกรมที่มุยเน่แค่ 2 ที่ (ทางทัวร์เขาแถมมา 1 ที่) คือและถ่ายภาพที่อ่าวจอดเรือประมง แล้วไปต่อที่ลำธารนางฟ้า หรือ Fairly Stream แล้วไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารชายทะเล ก่อนเดินทางสู่ไซ่ง่อน
 


แผเดินทางเช้าวันที่ 15 กพ. 2020
 
ตามแผนที่ด้านบน เราออกจากโรงแรมและวิ่งรถย้อยไปด้านเหนือประมาณ 16 กม. ถนนเชื่อรอบนอกที่จะไป sandunes ทั้ง 2 แห่งพัฒนาเป็นสี่เลนส์ วิ่งง่ายหน่อย ก่อนที่เราจะขับเข้าไปชายทะเลเพื่อแวะถ่ายภาพที่ Mui Ne Habour ตรงจุดที่เรียกว่า Mui Ne Fishing Village แถวนั้นจะมีตลาดปลาสดๆมาขายมากมายครับ เราสามารถไปเดินเลือกซื้อหรือชมชีวิตความเป็นอยู่พวกเขาได้

สมัยก่อนหมู่บ้านมุยเน่เป็นที่ชาวเรือมาอาศัยหลบพายุ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าพายุจะมาจากด้านไหน ซึ่งมุยเน่เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเลจีนใต้ ซึ่งยื่นลงไปทางใต้ดังภาพ เมื่อพายุมาทางตะวันออก เรือก็จะมาหลบตรงอ่าวที่เราไปถ่ายภาพ กลับกันเมื่อพายุมาอีกทางเขาก็จะไปหลบอีกด้าน ... มุยแน้ หรือ มุยเน่ หมายถึง มุมหลบ 
 
 
        
อ่าวมุยเน่ ที่จอดเรือประมงมากมาย
 
ทีนี่มาเล่าเรื่องวิถีผู้คนที่นี่นิดหนึ่ง (จำไกด์เขามา) ว่าเมื่อก่อนคนที่นี่ยากจน พื้นดินรอบๆปลูกอะไรไม่ค่อยได้ผล ที่เห็นมีมากก็นี่แหละเจ้าลูกแก้วมังกร ซึ่งเป็นต้นพันธุ์สำหรับประเทศไทยเราด้วย เพราะพื้นดินที่แห้งแล้งจนเกือบเป็นทะเลทราย เช่น White Sandunes และ Red Sandunes อย่างที่เห็น ชาวบ้านที่มุยเน่จึงทำอาชีพประมงกัน แต่ก็ไม่ใหญ่โตนัก อาชีพประมงก็พออยู่ได้ ... พอเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2538 มีปรากฏการณ์สุริยุปราคา ชาวเวียตนามแห่กันมาชมปรากฏการณ์นี้ที่มุยเน่ เพราะคนมามากรถราก็เยอะต้องจอดอยู่ห่างไกลออกไปแล้วเดินเข้ามา จึงเกิดธุระกิจ รถเช่า บ้านเช่า ฯลฯ เมื่อผู้คนมาที่นี่เยอะก็ย่อมมีนักธุระกิจเข้ามาด้วย พวกนักธุรกิจนี้เลงเห็นว่าที่นี่มีแหล่งที่น่ามาพักผ่อน ท่องเที่ยว อย่างเช่นอ่าวจอดเรือนี้เป็นต้น พวกเขาจึงเข้ามากว้านซื้อที่ดิน ทำเป็นโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร นับตั้งแต่นั้นมา มุยเน่ก็ได้รับการโปรโมตเป็นแหล่งพักผ่อนชายทะเล จนบางคนที่นั้นเรียกว่า "พัทยา2"  แต่สภาพจริงๆมุยเน่ยังบริสุทธิกว่าพัทยาเราเยอะครับ .. มาต่อเรื่องคนมุยเน่กัน หลังจากที่นายทุนมาซื้อที่และให้ราคาดี คนส่วนมากก็ขายไปมีส่วนน้อยที่ยังไม่ขาย พวกที่ขายไปได้เงินมาก็เอาไปเที่ยว ซื้อรถมาขับ เกิดอุบัติเหตุสูญเสียทรัพย์สิน จนในที่สุดคนบางกลุ่มก็กลับมาจนเหมือนเดินแล้วมารับจ้างเจ้าของกิจการที่เขาขายที่ให้นั่นแหละ.

 

หอยสดๆจากทะเล
 
มุยเน่ปัจจุบันเราเห็นฝรั่งมากมาย โดยเฉพาะชาวรัสเซียซึ่งเขาถือว่ามาอาบแดดที่นี่ เพราะประเทศเขาหนาว ในร้านอาหาร ร้านค้า ที่เช่ารถ จึงเห็นมีภาษารัสเซียไปทั่ว จากมุยเน่ฝรั่งเขาก้ชอบเช่ามอไซด์ขับไปที่ดาลัต และบางกลุ่มเช่าทัวร์ไปกลับมุยเน่-ดาลัต*-มุยเน่ โดยใช้มุยเน่เป็นฐานครับ
 
 

หน้าอ่าวมุยเน่ กับเรือประมงมากมาย



เรือกระด้ง + เรือประมงขนาดกลางในอ่าว
 

เรือกระด้ง ... ความเป็นมาของเรือกระด้ง มีเรื่องเล่าว่า แต่เดิมชาวบ้านที่นี่ก็ใช้เรือรูปแบบปกติเหมือนเรือบ้านเรานี่แหละ แต่ยุคสงครามเวียดนาม ทำให้มีชาวเวียดนามอพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ทางที่สะดวกที่สุดก็คือนั่งเรือหนีออกไปทางทะเล แต่เพราะทะเลเวียดนามเป็นทะเลลึก อีกทั้งได้รับอิทธิพลจากพายุใหญ่ค่อนข้างบ่อย เรือปกติจึงมักจะอับปางจากคลื่นลมเพราะความยาวของเรือไปขวางคลื่นและลม คนเวียดนามจึงได้ทำเรือกระด้งกลมๆ เพื่อให้สามารถสู้คลื่นได้รอบทิศทาง ทำให้อัตราการล่มของเรือและสูญเสียชีวิตของผู้อพยพลดไปมาก ซึ่งจะจริงเท็จแค่ไหนก็เป็นเรื่องที่ชาวเวียดนามเล่ามาอีกทีนะครับ

 


เรือกระด้งสำหรับตกหมึกตามชายฝั่ง

...............
 
จากอ่าวมุยเน่ไปอีกประมาณ 3 กม. เราเข้าที่จอดรถเพื่อเข้าชม Fairly Stream หรือ ลำธารนางฟ้ากัน .... ลำธารนางฟ้าเป็นลำธารไม่กว้างนัก มีน้ำไหลเอื่อยๆบนทรายสีแดงละเอียด พอท่วมหลังเท้า ก่อนเข้าไปในลำธาร ถ้าเราไม่เตรียมรองเท้าแบบลุยน้ำไป แนะนำให้ถอดรองเท้าไว้ที่รถ แล้วเดินเข้าไปครับ ตามทางเดินในลำธารจะมีร้านขายของกิน เช่นขนม น้ำมะพร้าว น้ำเปล่า น้ำอัดลม และกระทิงแดง (ที่เวียตนามชอบกระทิงแดงเรามาก ที่นี่บรรจุเป็นกระป๋องขนาดกลางครับ) ... พอเข้าไปลึกหน่อยก็จะเป็นประตูเข้า จากตรงนั้นไปเขาไม่ให้ตั้งร้านขายของแล้วนะครับ เดินไปถ่ายภาพไปลูกเดียว

ลักษณะที่เข้าไปชมคือคล้ายๆแคนยอน (ถ้านึกไม่ออก ก็นี่เลย แพะเมืองผีที่แพร่  หรือ กองแลน ที่ปาย)  ... แคนยอนที่นี่ เกิดจากภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ ถูกกัดเซาะของน้ำมานานวัน จนเป็นร่องกว้างกว่า 20 เมตร มีชั้นหิน ชั้นทรายสีสันสวยงาม และมีลำธารเล็กๆระดับน้ำประมาณตาตุ่มซึ่งพัดพาตะกอนทรายสีแดงไหลออกไปสู่ทะเล 
 
 













ของที่ระลึกที่ลำธารนางฟ้า
 
จากลำธารนางฟ้าเราไปทารมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารทะเลมุยเน่กัน ร้านนี้เหมือนร้านในเมืองไทยมาก มีใบประกาศมากมายติดโชว์ มีสถานที่จัดไว้สำหรับงานแต่งงานด้วย ร้านค่อนข้างใหญ่ติดชายทะเลเพียงรั้วกั้น ส่วนห้องน้ำสะอาดดี ... เรื่องห้องน้ำในเวียตนามที่ไปเห็นคราวนี้พัฒนาขึ้นไปเยอะ สะอาดสะอ้าน โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวเช่นที่ดาลัต มุยเน่ โฮจิมินห์ หรือแม้แต่ที่พักรถระหว่างทาง และร้านอาหาร แต่ตามปั้มยังไม่เหมือนบ้านเรานะ เพราะปั๊มค่อนข้างเล็กพื้นที่น้อยเขาเลยไม่ทำแบบ ปตท. บ้านเรา แต่โดยรวมแล้วทางเวียตนามใต้นี้อยู่ในเกณฑ์ดีครับ 
 
 
ทางเข้าร้านอาหาร

มีเรื่องเล่านิดหนึ่ง เมื่อเราถามไกด์ชาวเวียตนามว่า หลายๆร้านที่เราไปทานอาหารกัน ทำไมไม่มีแหนมเนืองในเมนูเลย ก็ได้คำตอบว่า แหนมเนืองนั้นเป็นอาหารประเภททานเล่นๆของชาวเวียตนาม ไม่ถือว่าเป็นเมนูหลักอะไร พวกเราเลยบอกว่าที่เมืองไทยแถบอีสานตอนบนนั้น แหนมเนืองนั้นเป็นอาหารเวียตนามยอดฮิตเลยล่ะ มีร้านที่ขายแหนมเนืองดังๆเกิดขึ้นด้วย ไกด์แกก็เหมือนว่าจะแปลกใจนิดๆครับ ... อาหารเที่ยงวันนี้ก็ค่อนข้างดี คน 10 คน จัดมา 2 โต๊ะจีน ปริมาณอาหารทานกันแทบไม่หมด มีบางอย่างเราขอห่อด้วย (เสียดายอ่ะครับ)



ชายทะเลหน้าร้าน



ติดอ่าวด้วย.
 
หลังมื้อเที่ยงที่มุยเน่ เราเดินทางยาวตามถนนหมายเลข QL1A สู่นครโฮจิมินห์ระยะทาง 219 กม. ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง โดยไปตามสาย QL1A ประมาณ 175 กม. แล้วแยกเข้าทางด่วน CT01 ตรงเข้านครโฮจิมินห์ โดยมีการแวะพักที่จุดพักรถที่ทำเป็นศูนย์อาหาร มีห้องน้ำมากมายเพียงพอต่อรถจำนวนมาก ซึ่งอยู่ประมาณกลางเส้นทาง .... บล๊อกหน้าเราจะไปเที่ยวไซ่ง่อนหรือโฮจิมินห์ซิตี้กันครับ


102 ขอบคุณที่ติดตามอ่านและหวังว่าคงพอมีประโยชน์สำหรับนักเดินทางบ้างนะครับ 102
 



ลากันด้วยภาพนี้ครับ จาก White Sandunes, Mui Ne, Viet Nam.

 




 

Create Date : 22 มีนาคม 2563
14 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2563 9:52:26 น.
Counter : 1617 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณTui Laksi, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณหอมกร, คุณSai Eeuu, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96, คุณSweet_pills, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ, คุณโน้ตตัวดำ

 

ว้าว ๆ ภาพสวยมากเช่นเคย
เพิ่มเติมคือภาพคู่ น่ารักสุดๆ
ตั้งแต่เวียตนามเปิดประเทศ
เราอยากเดินทางไปเยือนชมเมืองที่นี่
มีโอกาสจะตามรอยคร้า
กลุ่มก๊วนน่ารักมากๆด้วยคร้า

 

โดย: Tui Laksi 22 มีนาคม 2563 10:01:39 น.  

 

คุณอ๊อดถ่ายภาพได้สวยมาก ๆ เลยครับ แหะ ๆ ผมนำมาเปรียบกับที่ผมถ่ายไว้นะครับ

ที่ทะเลทรายแดง ผมเดินไปซื้อโค๊กลืมถามราคาเปิดป๊อกดื่ม เจอไปป๋องละ 60 บาทไทย
ถูกฟันซะ

ผมชอบที่ลำธารนางฟ้า สวยเดินท่องน้ำใสกับพื้นทรายครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 23 มีนาคม 2563 6:06:58 น.  

 

wicsir Travel Blog ดู Blog
แหมบล็อกพี่วิกหรือพี่อ๊อดเนี่ย
พาเที่ยวเจาะลึกน่าสนุกจังเลย

 

โดย: หอมกร 23 มีนาคม 2563 8:48:55 น.  

 

อ่าวมุนเน่ สวยมากๆ เลยค่ะ ชอบเรือกระด้งนั่นจัง เขามีเหตุผลไม๊คะ ที่ออกแบบเรือกลมแบบนั้น

 

โดย: Sai Eeuu 23 มีนาคม 2563 20:59:02 น.  

 

ภาพสวยงามมากค่ะ

 

โดย: Willkommen 23 มีนาคม 2563 22:14:23 น.  

 


มาเที่ยวด้วยค่ะ
รูปสวยๆทั้งนั้นเลย

 

โดย: newyorknurse 24 มีนาคม 2563 3:34:33 น.  

 

ขอบคุที่แวะไปตอบเรื่องเรือกลมค่ะ

ซีซ่าร์คงชอบกินสลัดนี้แน่ๆ เคยพูดขำๆ กับคนที่บ้านแบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่สมัยซีซ่าร์ เขาไม่ค่อยมีผักเนอะ ใส่แค่อย่างเดียว

 

โดย: Sai Eeuu 25 มีนาคม 2563 0:02:16 น.  

 

ขอบคุณที่แบ่งปัน

 

โดย: Kavanich96 25 มีนาคม 2563 4:17:19 น.  

 

สวยงามน่าเที่ยวมากค่ะคุณวิค
แล้วจะย้อนชมตอนก่อนหน้านี้นะคะ
ภาพสวยมากๆค่ะ

 

โดย: Sweet_pills 25 มีนาคม 2563 23:47:36 น.  

 

ตอบพี่อ๊อด พี่ไวน์เฉลยไว้เม้นท์ข้างบนจ้า



 

โดย: หอมกร 26 มีนาคม 2563 8:21:26 น.  

 

แวะมาเยี่ยมครับ

 

โดย: **mp5** 27 มีนาคม 2563 18:01:46 น.  

 

ตามมาเที่ยวเวียตนามด้วยค่ะ
เก็บภาพสวยงามมาฝากมากมายประดุจไปเที่ยวเอง

 

โดย: เริงฤดีนะ 28 มีนาคม 2563 5:41:19 น.  

 

ชอบรูปคู่ @ Whit Sandunes ค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 29 มีนาคม 2563 20:36:09 น.  

 

ว้าววว!! อะไรที่สวยกว่ารูปภาพรู้ไหมคะ

รอยยิ้มของทุกคนค่ะ ดูมีความสุขสนุกสนาน ลืมวัยกันเป็นหมด เหมือนกลับมาเป็น 14 ครั้งกันทุกคนค่ะ

Stay safe
Stay Healthy ค่ะ

 

โดย: โน้ตตัวดำ 15 เมษายน 2563 12:15:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


wicsir
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]











...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......


อยากจะบอกว่า

@ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว

@ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ.

@ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก...


ด้วยจริงใจ
นาย wicsir.




Rec. 11.06.08
New Comments
Group Blog
 
 
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add wicsir's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.