1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
ระบบรถเมล์ที่ปักกิ่ง
วันนี้อากาศที่ปักกิ่งหนาวขึ้น และก็เริ่มมีลมพัดแรง ไม่รู้ว่าเย็นนี้จะลงไปวิ่งออกกำลังกายไหวหรือเปล่า แต่ตอนนี้ต้องกลับมาที่หอพักเพื่ออ่านหนังสือก่อนเพราะว่าสัปดาห์ปลายเดือนจะมีสอบภาษาจีนแล้ว แต่ก็ไม่วายขออัพบล็อกก่อน .... เมื่อวานไม่ได้อ่านหนังสือเพราะออกไปข้างนอกกับเพื่อนหลังเลิกเรียน คือ ไปสองที่คือ ไปทำบัตรรถเมล์ที่เป็นบัตรอีเล็คโทรนิกส์ และก็ไปร้านหนังสือที่ไกลออกไป บัตรรถเมล์สำหรับนักศึกษาตั้งใจจะทำมาหลายครั้งแล้ว แต่ไปที่อู่รถเมล์แถวมหาวิทยาลัยก็หมดทุกที เมื่อวานก็เลยนั่งรถไปทำที่อู่ถัดไป เหอะๆ ไม่มีเหมือนกัน เอาเป็นว่า เราซื้อบัตรรถเมล์ที่เป็นของประชาชนทั่วไปดีกว่า ราคาจะแพงกว่านิดหน่อยแต่ก็ยอมรับได้ ค่ารถเมล์ที่นี่ไม่แพง ราคาทั่วไปก็ไม่ถึง 1 หยวนเลย แต่ถ้าไม่มีบัตร จ่ายเงินสดเค้าจะเก็บ 1 หยวน พอมีบัตรเราก็จ่ายแค่ 0.40 หยวน ( 4 เหมา) และถ้าเป็นบัตรนักเรียนก็จ่าย 0.20 หยวน ( 2 เหมา) ราคาอาจจะมากกว่านี้นิดหน่อยถ้านั่งหลายป้าย ( 1 หยวน ประมาณ 4.5 บาท ) ( 1 หยวน = 10 เหมา ) ระบบรถเมล์เค้าเจริญกว่าบ้านเราอีก พอขึ้นก็แตะบัตร จะลงก็แตะบัตร ตัดเงินไปเลย คนส่วนใหญ่ก็ใช้บัตรกันทั้งนั้น เพราะมันถูกกว่า แต่ถ้าไม่มีบัตรจริงๆอย่างเรา ก็จ่ายกระเป๋ารถเมล์ซึ่งยืนอยู่ตรงประตู (เค้าไม่ต้องเดินเก็บ) สะดวกสบายดีด้วย ส่วนที่ป้ายรถเมล์ของที่นี่ทุกป้ายก็จะมีบอกว่ามีสายอะไรบ้าง เท่านั้นไม่พอยังบอกว่าสายดังกล่าวนั้นไปลงป้ายนั้น (ทุกๆป้ายที่จอด จะมีชื่อป้ายหมด) ทำให้ถ้าเรารู้ว่าสถานีที่เราจะไปชื่ออะไร เราก็มาหาชื่อที่ป้ายได้อย่างง่ายได้ ขนาดเราไม่รู้ภาษาจีนตอนที่มาใหม่ๆ เรายังเอาชื่อมหาวิทยาลัยเราไปเทียบดู ก็พอรู้ว่าต้องขึ้นสายอะไร.... ดีจัง แต่ไม่รู้ทำไมเมืองไทยไม่มีก็ไม่รู้นะ ไม่น่าจะยากในการทำเลย สู้ๆไทยแลนด์สู้เค้า
เอารูปป้ายรถเมล์มาฝากค่ะ
Create Date : 19 ตุลาคม 2550
3 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2550 14:28:43 น.
Counter : 803 Pageviews.
โดย: หน่อยอิง 19 ตุลาคม 2550 20:06:05 น.
โดย: idLer IP: 124.120.154.136 21 ตุลาคม 2550 21:05:43 น.
Location :
Bangkok Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
Hi, I am very pleased to have my own blog. This blog was inspired from a friend from Pantip -Klaiban.... Actually I do write diary in my book..not everyday but quite often.. and in Thai. I started to know Klaiban (Pantip) when I intended to have a Toefl test and found out adviser there. Many friends gave recommend on my essays and encouraged me in writing. I wish I can do it better. ========== มาเขียนเพิ่ม ( 9 พย 2552 ) กลับมาเป็นนักศึกษาได้สองปีกว่าแล้ว ตอนนี้เรียนอยู่ที่ปักกิ่ง หาความรู้ รวมทั้งค้นหาตัวเองอยู่ รักในธรรมชาติ และธรรมชาติ เขียนบล็อกเพื่อช่วยให้ตัวเองได้บันทึกเรื่องราว อีกทั้งเพื่อจะได้แชร์ความรู้สึกตัวเองออกมา บล็อกช่วยแก้เหงาในบางครั้ง ตอนนี้ใครอยากถามอะไรเกี่ยวกับจีนๆ รวมทั้งภาษาจีน อยากให้ถามมาเลย ตอบได้ตอบไม่ได้ไม่รู้ แต่จะพยายามหาข้อมูลมาให้ค่ะ ขอให้มีความสุขในทุกๆวันนะคะ