ภาพยนตร์ : Love summer รักตะลอนออนเดอะบีช
ชื่อภาษาอังกฤษ : Love Summer
ประเภท : Romantic/Comedy
ผู้กำกับ : ไตรลักษณ์ มรรคมีองค์แปด
แสดงนำ : ธันธันวา สุริยจักร, ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์, บอม-ธนา เอี่ยมนิยม, ยูอิ ทะสุมิ, จอห์น-โจนาธาน แซมซัน, ค่อม ชวนชื่น, ออย-ธนา สุทธิกมล
เรทภาพยนตร์ : ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
เข้าฉาย : 6 ตุลาคม 2554
เงาเล่าเรื่อง
แจ๊ค วัยรุ่นผู้ที่ลุ่มหลงไปกับชีวิตฟุ้งเฟ้อไปวัน ๆ จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ จอร์ช หนุ่มลูกครึ่ง ไทย-อเมริกัน ซึ่งกำลังขาดเพื่อนร่วมเดินทางไปบ้านเกิดของแม่ที่ล่วงลับไปแล้ว ทั้งสองตัดสินใจเดินทางร่วมกัน ซึ่งระหว่างทางบังเอิญได้พบกับ ไข่มุก สาวใสวัยน่ารักที่ขอติดรถไปด้วยเพราะต้องการไปตามล่าหาความฝันบางอย่าง เพียงเพื่อหวังให้พ่อภูมิใจกับสิ่งที่เธอได้ตัดสินใจทำลงไป แต่สิ่งที่เธอพยายามจะเป็นนั้นกลับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเธอ ในแบบที่เธอต้องการจริง ๆ
ยูอิ ดาราสาวหนัง AV ผู้ที่โด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น แต่ยูอิกลับหลีกหนีความวุ่น วายจากบ้านเกิดเบนเข็มชีวิตมุ่งหน้าสู่เมืองไทยเพื่อต้องการหาที่สักที่ ที่มีคนที่รักเธออย่างจริงใจ และเมื่อแวบแรกที่เธอได้พูดคุยกับจอร์ช ผู้ที่มองเธอด้วยสายตาแบบไม่แยแส หรือใส่ใจในรูปร่างที่เซ็กซี่ของยูอิเลยแม้แต่น้อย ด้วยจุดนี้เองจึงทำให้ยูอิอยากเอาชนะใจจอร์ช ยูอิจึงยกมือขอเป็นอีกหนึ่งคนที่รวมทริปไปในครั้งนี้พร้อมกับเพื่อนตัวป่วนอย่าง บ๊อบ จนได้มาพบ เอก เจ้าของรีสอร์ทหนุ่มสุดหล่อ ! ? ส่วนเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องไปติดตามเรื่องราวความรัก ความผูกพัน ครั้งนี้
เล่าเรื่องจากเงา
เย้ ! เย้ ! และแล้วการสอบอันแสนหฤโหดก็ลุล่วงไปเป็นที่เรียบร้อย นั่นก็หมายความว่านับแต่วันพรุ่งนี้ไปคือวันปิดเทอม... ฉะนั้น มาฉลองด้วย Love summer รักตะลอนออนเดอะบีช กันนะคะ หวานเย็นขอเชิญชวน
เรื่องราวของสองคู่หู แจ็ค กับ จอร์ช และ บ็อบ เพื่อนต่างชาติจอมหาเรื่อง ที่จะมาพา ไข่มุก สาวน้อยน่ารัก ลูกสาวเจ้าของค่ายมวยไทย และ ยูอิ สาวญี่ปุ่นสุดเซ็กซี่ไปตะลอนออนเดอะบีชกันที่ภูเก็ต
จากทริปสนุกและเฮฮามาด้วยกันไปด้วยกัน กลายเป็นไม่อาจร่วมทาง ต่างคนต่างไปเพราะความเข้าใจผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ขยับขยายเป็นเรื่องใหญ่ แต่... ด้วยปรัชญาของนักปราชญ์ไม่ทราบที่ว่า... ' เพื่อนน่ะไม่ต้องมีให้มาก แค่รักษาเพื่อนที่ดีที่สุดไว้ได้ก็พอ ' จอร์ชจึงออกตามหาเพื่อน ๆ ที่กระจัดกระจายกันไปเพื่อกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
เหตุผลที่ทำให้หวานเย็นตัดสินใจไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้มาจากความชื่นชอบ น้องใบเฟิร์น เป็นการส่วนตัวค่ะ พอคำนวณเวลาดูแล้วว่าหากแวบไปนั่งชมในโรงภาพยนตร์สักนิดก็ไม่เสียเวลาอ่านหนังสือสอบสักเท่าไหร่ (พยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างเต็มที่ )
ถามว่า... สนุกไหม ? ถ้าไม่คาดหวัง ไม่คิดเล็กคิดน้อย ปล่อยปละกับบางประเด็นของความเป็นจริงที่ถูกหลงลืมไปบ้าง ก็... โอเคค่ะ ใช้ได้ สนุกพอขำได้ หัวเราะได้ ยิ้มได้ในหลาย ๆ ฉาก (ยืนยันได้จากเสียงหัวเราะของหลายต่อหลายคนที่ตีตั๋วนั่งชมรอบเดียวกันกับหวานเย็นล่ะค่ะ )
ก็อย่างที่บอกล่ะค่ะว่า... ถ้าไม่คิดเล็กคิดน้อยภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเรื่องหนึ่ง แต่...ถ้ามุ่งชมกันอย่างเอาจริงเอาจัง จับผิดกันทุกรายละเอียดมันก็ยังมีข้อบกพร่องให้พบเห็น ให้ได้คิดตามอยู่บ้างในบางจุด บางประเด็น อย่างเช่น การที่ไข่มุกกระโดดขึ้นรถมากับแจ็คและจอร์ชโดยไม่ได้บอกกล่าวผู้เป็นพ่อ ภาพยนตร์มีฉากที่กล่าวว่าพ่อเป็นห่วง ระดมคนตามหาลูกสาวไปทั่ว แต่... กลับไม่เห็นฉากที่พ่อโทร. หาลูกสาวว่าอยู่ที่ไหน อย่างไร กับใคร ทั้ง ๆ ที่ไข่มุกก็พกโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วยแท้ ๆ ก็... ในฉากท้าย ๆ เธอยังใช้โทรศัพท์โทร. หายูอิเพื่อถามไถ่ว่าหายไปไหนได้เลยนี่นา แล้วทำไมพ่อของไข่มุกถึงไม่โทร. หาลูกสาวล่ะ
ก็...นั่นละหนา มองข้ามไปซะบ้างก็ได้ ภาพยนตร์นะ ไม่ใช่ชีวิต ดูไปเพลิน ๆ คิดตามไปบ้างเพื่อให้สมองได้ทำงานเล่น ๆ เป็นพอ แต่อย่าไปจริงจังถึงขั้นรับไม่ได้กับใครเขาเลย มันจะเครียดเสียเปล่า มองในมุมของคนทำสื่อมันก็ต้องมีบ้างที่เผลอไผลกับรายละเอียดของผลงานที่นำเสนอล่ะนะคะ
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมาก ๆ กับภาพยนตร์เรื่องนี้คือประโยคโดนใจหลาย ๆ ประโยคที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องอย่างลงตัว มันสะท้อนมุมมองและแง่คิดหลาย ๆ อย่างของชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
และแล้ว... หวานเย็นก็เดินออกจากโรงภาพยนตร์มาพร้อมกับประโยคซึ้งกินใจหลาย ๆ ประโยคที่ได้ยิน เรียกว่าอิ่มใจกับคำคมเก๋กันเลยทีเดียวเชียวค่ะ
ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Majorcineplex.Com นะคะ