ภาพยนตร์ : อุโมงค์ผาเมือง
   ชื่อภาษาอังกฤษ : U Mong Pa Meung
   ประเภท : Drama
   ผู้กำกับ : ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล
   แสดงนำ : พลอย เฌอมาลย์, อนันดา เอเวอริงแฮม, มาริโอ้ เมาเร่อ, ดอม เหตระกูล, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, ดอม เหตระกูล, ศักราช ฤกษ์ธำรงค์, รัดเกล้า อามระดิษ
   เรทภาพยนตร์ : ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
   เข้าฉาย : 8 กันยายน 2554

เงาเล่าเรื่อง

   ปีพุทธศักราช 2110 ณ นครผาเมืองแห่งอาณาจักรเชียงแสนอันรุ่งเรือง วันหนึ่งหลังจากเกิดวิบัติการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ทั้งอัคคีภัยครั้งใหญ่หลวง แผ่นดินไหวอันรุนแรง และโรคร้ายระบาดคร่าชีวิตประชาชนไปกว่าครึ่งนคร ก็เกิดคดีฆาตกรรมปริศนาที่น่าสะพรึงกลัวและซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดที่จะค้นหาความจริงได้ “ โจรป่าสิงห์คำ ” (ดอม เหตระกูล) ผู้โหดร้ายที่สุดในแผ่นดินถูกจับได้ในคดีฆาตกรรม “ ขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า ” (อนันดา เอเวอริงแฮม) และข่มขืน “ แม่หญิงคำแก้ว ” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ภรรยาของขุนศึกในป่านอกเมือง ขณะที่สองสามีภรรยาเดินทางออกจากเมืองเพื่อไปเยี่ยมญาติที่นครเชียงคำ

   จากคำให้การของโจรป่าและแม่หญิง สร้างความปั่นป่วนและพิศวงงงงวยให้แก่ “ เจ้าผู้ครองนคร ” (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์) และประชาชนผู้มาฟังคำให้การเป็นอย่างยิ่ง เพราะทั้งคู่ต่างยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าตนเองเป็นผู้ฆ่าขุนศึก เจ้าหลวงจึงเรียก “ ผีมด-ร่างทรง ” (รัดเกล้า อามระดิษ) มาเข้าทรงดวงวิญญาณของขุนศึกเพื่อค้นหาความจริง แต่แล้ววิญญาณของขุนศึกกลับให้การผ่านร่างทรงว่า ตนต่างหากที่ฆ่าตัวตายเอง ! ! !

   เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายทอดผ่านการพบเห็นและสนทนาของ “ อานนทภิกขุ ” (มาริโอ้ เมาเร่อ), “ ชายตัดฟืน ” (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) และ “ สัปเหร่อ ” (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ภายในอุโมงค์ผีที่ผาเมือง ซึ่งไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า เหตุใดทั้ง 3 คนจึงให้การปิดบังความจริงที่เกิดขึ้น และ “ ความจริง ” ทั้งหมดคืออะไรกันแน่ ? ? ?





เล่าเรื่องจากเงา



   ' พยานสามปากที่ให้การมาจะมีอะไรอยู่ในใจก็ไม่รู้ '
   ประโยคนี้ละค่ะที่เป็นแรงผลักดันให้หวานเย็นไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะรอซื้อซีดีมาดูที่บ้านแทน ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีกแล้วเพราะยังหวั่น ๆ จะเจอกรณีเดียวกันกับ ชั่วฟ้าดินสลาย ยังจำฝังใจกับคอมเมนต์บางคอมเมนต์ที่ตอกกลับมาเสียหวานเย็นหน้าชาเลยล่ะค่ะ ก็เลยคิดว่าเลี่ยงได้เป็นการดี ไม่อยากมีปัญหาขุ่นข้องหมองใจกับใครให้ต้องเก็บมาเป็นอารมณ์อีก เพราะสารภาพตรง ๆ ค่ะว่า... ช่วงนั้นเกือบจะบอกศาลากับการเขียนบล็อกกันเลยทีเดียวค่ะ



   มาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะก่อนจะเลยไปไกลมากกว่านี้... อุโมงค์ผาเมือง เปิดเรื่องได้เลือดสาดกระจายด้วยฉากประหารโจรป่าผู้เหี้ยมโหดก่อคดีฆาตกรรมอันน่าสะพรึงกลัว สะเทือนขวัญชาวนครผาเมือง ก่อนจะเล่าแถลงความเป็นมาเริ่มต้นให้ได้รับรู้ความเป็นมาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



   อานนทภิกขุ ภิกษุผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยากจะหาภิกษุรูปใดเปรียบปาน ออกเดินทางธุดงค์เพื่อค้นหาคำตอบให้กับจิตใจอันสับสนวุ่นวาย เนื่องด้วย อนันต์ พี่ชายของท่านมาร้องขอให้ลาสิกขา เพื่อกลับไปช่วยเหลือกิจการร้านทำกระจกของทางบ้าน ภิกษุหนุ่มนั้นต้องการศึกษาและเผยแพร่ธรรมวินัยเพื่อโปรดหมู่ประชากร หากความกตัญญูรู้คุณบิดรก็ทำให้ไม่อาจรั้งอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ได้ ภิกษุผู้มากพรรษากว่าจึงแนะนำให้ออกธุดงค์เพื่อค้นหาความจริงของชีวิตเสียก่อนจะตัดสินใจสิ่งใดต่อไป การจาริกไปในครั้งนี้เป็นเหตุให้ท่านได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สุด และพยานทั้งสามปากผู้อยู่ในเหตุการณ์กลับให้การไม่ตรงกันสักราย



   โจรป่าสิงห์คำ โจรป่าผู้เหี้ยมหาญให้การยอมรับว่าตนฆ่าขุนศึกผู้ตายจริง ด้วยปรารถนาให้แม่หญิงผู้เป็นภริยาได้เห็นสามีถูกมัดเยี่ยงสุนัขตัวหนึ่งหมดหนทางที่จะต่อสู้เพื่อรักษาเกียรติแห่งตนและภริยา ซึ่งถูกกระทำการข่มเหงน้ำใจต่อหน้าต่อตาตน ด้วยความโหดร้ายของโจรป่าสิงห์คำที่เลื่องลือไปทั่วทุกหัวระแหง ทำให้ศาลเองก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าขุนโจรนี้แหละที่เป็นผู้ก่อคดีขึ้นอย่างไม่กลัวเกรงกฎหมายบ้านเมือง



   ทว่า แม่หญิงคำแก้ว ภริยาของผู้ตายกลับให้การว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าสามีด้วยน้ำมือของตนเอง เพียงเพราะไม่อาจทนต่อสายตาที่มองมาอย่างเหยียดหยาม ไม่หลงเหลือร่องรอยของความรักที่เคยมีต่อกัน ทั้ง ๆ ที่เธอทุ่มเทความรักและภักดีทั้งหมดที่ตนมีให้แก่สามีอันเป็นที่รัก



   เรื่องราวยิ่งโอละพ่อไปกันใหญ่ เมื่อ คนทรง ได้ทำพิธีเชิญวิญญาณของ ขุนศึกเจ้าหล้าฟ้า มาเข้าทรงเพื่อค้นหาความจริง หากคำตอบที่ได้รับกับกลายเป็นว่า ท่านขุนศึกได้ปลิดชีพตนเองเยี่ยงนักรบผู้ทรนง ด้วยไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกจากการกระทำของโจรป่าที่หยามเกียรติของตนผู้เป็นสามีให้สิ้นไป ในการที่ไม่อาจปกป้องภริยาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



   แม้ศาลได้ทำการตัดสินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากความสงสัยในปริศนาหลายต่อหลายข้อนยังคงค้างคาใจอานนทภิกขุยิ่งนัก กระทั่งได้มาพักหลบฝนยังอุโมงค์ผาเมือง ความสงสัยก็ยังคงเกาะกินใจอยู่ไม่รู้วาย ณ อุโมงค์แห่งนี้จึงก่อการสนทนาระหว่างภิกษุหนุ่ม, ชายตัดฟืน, และ สัปเหร่อ



   ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่มีผู้กล่าวขวัญถึงกันมาก และหนึ่งในประเด็นนั้นก็คือ... พระภิกษุซึ่งรับบทโดย มาริโอ้ เมาเร่อ นั้น หาได้ปลงคิ้วเช่นภิกษุทั่วไปพึงกระทำ กรณีนี้มีผู้สันทัดทางประวัติศาสตร์ออกมาชี้แจงว่าเป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองในยุคสมัยนั้นที่ก่อให้เกิดความแตกต่างนี้ขึ้น แต่เดิมพระภิกษุของไทยนั้นไม่ได้ทำการปลงคิ้วอย่างทุกวันนี้ หากในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สยามมีการศึกติดพันกับพม่ามายาวนาน และพวกสายลับนั้นมักจะปลอมตนเป็นภิกษุเพื่อเข้ามาสืบความลับทางการศึก ด้วยมั่นใจว่าถึงอย่างไร สยามก็ไม่มีทางกระทำการรุนแงกับสมณเพศเป็นแน่ เพื่อเป็นการป้องกันสายลับเล็ดลอดเข้ามาสืบความ จึงบัญญัติให้พระภิกษุสงฆ์แห่งสยามประเทศปลงคิ้วนับแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อจะได้แยกแยะได้ง่ายขึ้น สำหรับปัญาที่หลายเสียงถกเถียงมาเนิ่นนานก็ได้รับคำตอบตามที่หวานเย็นหยิบยกมาอ้างอิงล่ะนะคะ แต่คงใส่ที่มาของคำอธิบายไม่ได้อะค่ะ เพราะหวานเย็นจำไม่ได้ว่าไปอ่านมาจากไหน ต้องขออภัยด้วยนะคะ



   ในฐานะที่เป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้ชมเรื่องนี้แล้ว ก็คงต้องบอกว่าเป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนให้เห็นสัจธรรมของชีวิตและความเป็นจริงของสังคมได้เป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะในคำพูดของสัปเหร่อเรียกได้ว่าทุกประโยคนั้นคม ลึก เสียดสีได้ตรงใจ นำมาใช้ได้กับสถานการณ์ปัจจุบันเลยล่ะค่ะ หากถามว่า... แนะนำให้ไปดูไปชมหรือเปล่านั้น ขอตอบในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่งที่ใช้เวลาว่างให้หมดไปกับการเลือกชมภาพยนตร์ที่ตัวเองสนใจว่า ' ใครใคร่ชม ชม ' หากไม่สนใจ ไม่ชื่นชอบ หรือไม่ใคร่ที่จะชมก็สุดแท้แต่เจตนารมณ์เถอะนะคะ



   สำหรับหวานเย็นต้องบอกได้เลยค่ะว่า... หลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ก็กลับบ้าน อาบน้ำ และสวดมนต์ก่อนเข้านอนได้อย่างเป็นสุข ซึ้งในรสพระธรรมขึ้นมากโขเลยค่ะ


ขอบคุณภาพสวย ๆ จาก Majorcineplex.Com นะคะ

Create Date : 19 กันยายน 2554
Last Update : 19 กันยายน 2554 19:00:13 น.		8 comments
Counter : 1366 Pageviews.
Share Tweet