แบร์แนแด็ท....น่ารัก....น่ารัก ขี้ลืม.....ขี้ลืม ...... หนังปายหนายหว่า buy แล้ววbuyอีก......... faith, hope and charity เฟศบุ๊ค http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
25 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
The Great Director Martin_scorsese :Plans Japanese Martyr release in 2010.





ลุงมาตี้ ผู้กำกับ ที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง กับแปลนหนังเรื่องใหม่ มรณะสักขีของประเทศญี่ปุ่น



มรณะสักขีของพี่น้องประเทศญี่ปุ่น ในศตวรรษที่ 17 สร้างมาจากหนังสือนวนิยาย เรื่อง Chinmoku ("Silence") ซึ่งเขียนโดย นักเขียนคาทอลิกชาวญึ่ปุ่น
Endo Shusaku [1923-1997] ซึ่งอยู่ในยุค เอนโีดะ ของญี่ปุ่น

และควาหมายของคำว่า Chinmoku ("Silence") ที่มีการตีความนั้นคือ การถูกเบียดเบียนของพี่น้องคริสตชน

และ ในFilm นั้นคือ ความเชื่อ ความศรัทธา การตั้งใจรอคอยฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า .....ที่พระองค์ทรงเงียบ เช่นเดียวกันกับการที่พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน

มัทธิว Matthew 27 :46 เทียบ Mark มะระโก 15:34
พระเยซูเจ้าสิ้นพระชมน์

46ครั้นเวลาบ่ายสามโมง พระเยซูเจ้าทรงร้องเสียงดังว่า "เอโลอี เอลอี ลามา ซาบั๊กทานี " ซึ่งแปลว่า "ข้าแต่พระเจ้า ของข้าพเจ้า ข้าแต่พระเจ้า ของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า " บทเพลงสดุดีที่ 22
46 And about the ninth hour, Jesus cried out in a loud voice, 'Eli, eli, lama sabachthani?' that is, 'My God, my God, why have you forsaken me?'

เชิงอรรถ
ถ้อยคำนี้เป็นเสียงร้องแสดงความทุกข์ทรมาน มิใช่ความสิ้นหวัง
คำร้องนี้เที่พระเยซูเจ้านำมาจากพระคัมภีร์ บทเพลงสดุดีที่ 22
เป็นบทภาวนาอ้อนวอนพระเจ้า
และในตอนสุดท้ายของบทเพลงสดุดีนี้ แสดงความไว้ใจและได้รับชัยชนะ




และการปฎิเสธการศรัทธา ของมิชนารี่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่น และพี่น้องมิชชันนารี่ ได้รับการทรมานอย่างหน้ากลัว

ในยุคนั้นพี่น้องคริสตชน เป็นมรณะสักขี หลายพันคน

ในยุคประวัติศาสตร์ของพี่น้องชาวญี่ปุ่น ในปี 1549.ท่านนักบุญ ฟรังซิส เซเวียร์St. Francis Xavier ได้แพร่ธรรม นำพี่น้องชาวญุ่ปุ่น กลับใจ ถึง 300,000 คน







ท่านนักบุญ ฟรังซิส เซเวียร์St. Francis Xavier ศพไม่เน่า เอาปูนขาวโรยอะ

ประวัตินักบุญฟรังซีสเซเวียร์
แม่แบบแห่งคุณธรรมของชาวเซนต์ฟรังฯ

ฟรังซีส ซาเวียร์ ถือกำเนิดในตระกูลชั้นสูงผู้มั่งคั่งชาวบาสก์ ในอาณาจักรนาวาร์ ทางตอนเหนือของประเทศสเปน เมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1506 โดยพื้นธรรมชาติ ของสายเลือดเผ่าพันธุ์บาสก์ท่านมีความหยิ่งทะนงและมีความรู้สึกรุนแรง ในวัยเด็กท่านมีความทะเยอทะยานอยางยิ่งและชื่นชอบการเล่นกีฬา แต่สิ่งสำคัญคือลักษณะพิเศษสุด ที่ท่านมีในเรื่องความเมตตาปรานี และความรู้สึกเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์อีกทั้งความ อดกลั้นอดทน

ในปี ค.ศ. 1524 ขณะมีอายุได้สิบแปดปี ฟรังซิส ซาเวียร์ ได้เข้าศึกษาวิชา ปรัชญาที่มหาวิทยาลัยปารีส จากนั้นได้ศึกษาขั้นมหาบัณฑิตด้านอักษรศาสตร์ เมื่อศึกษาจบ ท่านก็สอนวิชาปรัชญาที่โบเวส์คอลเลจ ในช่วงเวลานั้นเอง ท่านได้พบ อิกเนชีอุสโลโยลา ฟรังซิส ซาเวียร์ พร้อมกับผู้เคร่งศาสนาอีกห้าคนได้ร่วมกันก่อน ตั้วคณะนักบวชเยซูอิต คือแผนการต้องเปลี่ยนไปเพราะพระเจ้าจอห์นแห่งประเทศ โปรตุเกสในขณะนั้น ได้มีรับสั่งขอให้พระสงค์ไปทำการเผยแพร่ศาสนาโรมันคาทอลิก

ในประเทศอินเดีย อิกเนชีอุสตัดสินใจเลือกฟรังซิส ซาเวียร์ให้รับภารกิจนี้
ทั้งๆที่ฟรังซีสไม่ได้มีคุณสมบัติิเหมาะกับงานนี้แต่ประการใด แม้ว่าจะศึกษาได้ปริญญา จากมหาวิทยาลัย แต่ท่านก็ไม่ได้เรียนรู้สิ่งใดลึกซึ้งนัก ตำราศาสนาที่ท่านใช้ติดตัว เป็นประจำเป็นเพียงบทสวดมนต์เล่มเล็กๆ นอกจากนี้ท่านไม่ได้รู้อะไรเลยเกี่ยวกับ ศาสนาที่ผู้คนเขานับถือกัน ท่านมองเห็นว่าผู้ที่ไม่ได้นับถือคริสต์ศาสนาคือศัตรู ของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นทาสของปิศาจร้าย ท่านจำต้องช่วยเหลือผู้คนเหล่านั้น ด้วยพลังอำนาจทั้งปวงที่ท่านจะสามารถทำได้ และที่สำคัญก็คือท่านไม่ได้แยแสกับ กลุ่มนักบวช ไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือพราหมณ์ หรือกลุ่มผู้นับถือศาสนาพุทธ

ในภาพรวมจึงกล่าวได้ว่าในเบื้องต้นของชีวิต ฟรังซิสไม่ได้รู้อะไรมากนัก ท่านมองเห็นว่า โลกใหม่ที่ท่านต้องออกไปเผชิญช่างกว้างใหญ่ไพศาล และท่านมีหน้าที่อีกทั้งความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวที่จะออกไปปราบศัตรูให้พระเจ้า ท่านดำเนินสู่โลกใบนั้นแบบที่เรียกว่า ไม่มีอะไรติดตัวเลยนอกจากความรัก อันแน่วแน่มั่นคงที่มีต่อพระเยซูคริสต์ อีกทั้งความมุ่งมั่นที่จะใช้อำนาจของชาติโปรตุเกส เพื่อประโยชน์แห่งคริสต์ศาสนา


ด้วยกำลังใจที่แน่วแน่ฟรังซิส ซาเวียร์ยอมสละความสุขทางโลกทั้งมวล ท่านเลือกที่จะดำรงชีวิตอย่างแร้นแค้นที่สุด และปฏิเสธความสะดวกสบายทุกสิ่งที่มีผู้เสนอให้ ท่านรับประทานอาหารเพียงน้อยนิดจนเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งที่ท่านสามารถมีชีวิตอยู่ได้ และเมื่อจะต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายในภูมิภาคของโลกที่ร้อนระอุ ท่านขอสิ่งจำเป็นอย่างเดียวคือรองเท้าบู๊ตคู่หนึ่ง

ในขณะเดินทางบนเรือนั้น(ท่านออก เดินทางจากเมืองท่าลิสบอนในโปรตุเกสเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ.1541 ขณะมีอายุได้ 36 ปี
พร้อมด้วยเพื่อนร่วมเดินทางอีก 2 คน) ท่านก็สามารถอดทนต่อความยากลำบากทั้งมวล ที่รวมทั้งอากาศไม่ว่าจะร้อนจัดหรือหนาวจัด


เรื่องราวการเดินทางของฟรังซิส ซาเวียร์เปรียบได้ดั่งมหากาพย์แห่งงาน
วรรณกรรม ท่านเดินทางถึงเมืองกัวในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ.1542 หลังจากใช้เวลา ทั้งหมด 13 เดือนจากลิสบอน ผ่านน่านน้ำท้องทะเลอันเวิ้งว้างหลายแห่ง ท่านใช้เวลา ประมาณ 6 เดือนในการเผยแพร่ศาสนาให้ผู้คนชาวอินเดียในเมืองกัวด้วยการ ไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล เยี่ยมนักโทษในเรือนจำและอบรมผูเยาว์ให้มีใจเมตตาปรานี มีเรื่องเล่าว่าในตอนเช้าหลังจากไปช่วยเหลือผู้ป่วยและนักโทษแล้ว ท่านก็จะเดินไปตาม ท้องถนนในเมืองพร้อมกับสั่นกระดิ่งในมือ เชิญชวนพ่อแม่ผู้ปกครองให้ส่งพวกลูกหลานและ พวกทาสไปรับฟังคำสั่งสอน ผลที่ได้ก็คือ เด็กๆเริ่มมีจิตใจอ่อนโยน รู้จักทำความดีและ พวกผู้ใหญ่ก็จะมีความรู้สึกละอายต่อการทำบาป ผู้คนในเมืองกัวทุกกลุ่มเริ่มมีคุณภาพชีวิต
ที่งดงามขึ้นเพราะการอุทิศตนของฟรังซีส ซาเวียร์ผู้มีจริยาวัตรและถ้อยวจนะอันเปี่ยมล้น ด้วยความปรานี


ในช่วงค.ศ.1545-1547 ฟรังซิส ซาเวียร์ ทำการเทศนาสั่งสอนผู้คนใน อาณานิคมมาละกาของโปรตุเกสและบริเวณแหลมมาลายู เมื่อมีโอกาสคุ้นเคยกับชาวญี่ปุ่น ชื่ออันจิโร (ต่อมาภายหลังได้รับศีลล้างบาปและได้รับชื่อปอล)ท่านจึงประสงค์ จะเดินทางไปเผยแพร่ศาสนาคริสต์ศาสนาในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นพร้อมด้วยสงฆ์เยซูอิตรูปหนึ่งและชาวญี่ปุ่นซึ่งนับถือศาสนาคริสต์อีก 3 คน ท่านก็ได้เดินทางไป ประเทศญี่ปุ่นทำการสอนศาสนาตามจิตที่มุ่งหวัง นับได้ว่าฟรังซิส ซาเวียร์คือสงฆ์ องค์แรกในญี่ปุ่นและสามารถทำให้ผู้คนจำนวนประมาณ 2,000 คน ยอมรับนับถือคริสต์ศาสนา

อีกไม่นานนัก ฟรังซิส ซาเวียร์ก็มุ่งมั่นที่จะเดินทางไปประเทศจีน ซึ่งในขณะนั้น ปิดประเทศไม่ยอมรับคนต่างชาติ ความประสงค์อันเร่าร้อนทำให้ท่านกล้าติดสินบนกัปตันเรือ ผู้หนึ่งให้แอบลักลอบนำท่านเข้าประเทศจีน แต่โชคร้ายย่างใกล้เข้ามา พวกโปรตุเกสที่เกาะ สานเจี้ยนที่ท่านไปพักอยู่ขณะนั้นไม่เห็นด้วยกับแผนการและฟรังซิสเองก็ล้มป่วยลง กระนั้น ท่านก็ยังไม่สูญสิ้นความตั้งใจ ในยามนั้นท่านได้รับทราบข่าวว่าพระเจ้าแผ่นดินแห่งราช

อาณาจักรสยาม(คือ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ผู้ทรงครองกรุงศรีอยุธยาระหว่างค.ศ.1548-1568) กำลังเตรียมส่งคณะทูตไปเจริญสันถวไมตรีกับจักรพรรดิจีน ท่านจึงพยายามอย่างที่สุด

เพื่อให้รัฐบาลโปรตุเกสยินยอมให้ท่านได้ร่วมขบวนกับเอกอัครราชทูตแห่งสยามไป ประเทศจีน แต่แล้วด้วยพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ฟรังซิส ซาเวียร์ กลับล้มเจ็บลงอีก เมื่อวันที่ 20
พฤศจิกายน ค.ศ.1552 และกลับคืนสู่อ้อมพระหัตถ์แห่งพระเจ้าในวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม ปีนั้นเอง ขณะเปล่งวาจาสุดท้ายว่า “In thee,O Lord,I have hoped;I shall not to be confounded forever. ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ลูกมีความเชื่อมั่นในพระองค์ตลอดมา ลูกจะ ไม่มีวันสับสนชั่วนิรันดร์”

ร่างของท่านถูกนำกลับสู่ดินแดนกัว และได้รับการฝังไว้ ณ ที่นั้นท่ามกลางความรัก ของผู้คนที่ตระหนักในดวงจิตว่าท่านคือนักบุญ ต่อมาในปีค.ศ.1619 พระสันตะปาปาปอลที่ 5 (ค.ศ.1552-1621) ทรงเป็นผู้ประกอบพิธีประสาทพรเตรียมเฉลิมฉลองการยกย่องให้เป็นนักบุญ

ในฐานะองค์อุปถัมภ์ภารกิจทั้งมวลของคริสต์ศาสนาลัทธิโรมันคาทอลิก

นักบุญฟรังซิส ซาเวียร์ คือแม่แบบแห่งคุณธรรมทั้งปวงที่พวกเราชาวเซนต์ฟรังฯพร้อมที่ จะดำเนินชีวิตตามทั้งในด้านความประหยัด ความถ่อมตน ความกล้าหาญ ความเสียสละเพื่อส่วนรวม ความเมตตาปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งการน้อมรับพระธรรมวจนะแห่งพระเจ้าเพื่อเป็นมงคลนำชีวิต

Source://www.sf.ac.th/about_sf/francis.html

ความหมายของ มระณสักขี

มรณสักขีของคริสเตียน หรือ ผู้พลีชีพเพื่อคริสต์ศาสนา (ภาษาอังกฤษ: Christian martyr) หมายถึงผู้ที่ถูกทรมานจนตาย หรือถูกฆ่า หรือถูกลงโทษให้ประหารชีวิตเพราะความเชื่อในศาสนาคริสต์ ในคริสเตียนยุคแรกมีผู้ถูกทรมานและฆ่าด้วยความทรมานเช่นถูกขว้างด้วยก้อนหินให้ตาย, ถูกตรึงกางเขน, ถูกเผาทั้งเป็น, และอื่นๆ คำว่า “martyr” มาจากภาษากรีกที่แปลว่า “พยาน” การฆ่าเช่นนี้เป็นผลจากการพยายามกำจัดผู้นับถือคริสต์ศาสนาอย่างเป็นทางการ (การไล่ทำร้ายและสังหารทางศาสนา (Religious persecution)) เช่นในสมัยโรมันก่อนที่คริสต์ศาสนาจะเป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้นับถือคริสต์ศาสนาคนแรกที่เป็นมรณสักขีคือนักบุญสตีเฟนที่บันทึกไว้ใน กิจการ 6:8–8:3 ผู้ที่ถูกขว้างด้วยก้อนหินจนถึงแก่ชีวิตเพราะความมีศรัทธา นักบุญสตีเฟนถูกฆ่าเพราะมีความเชื่อและความศรัทธาในพระเยซูว่าเป็นเมสไซยาห์ และยังคงมีผู้นับถือคริสต์ศาสนาอีกหลายคนที่ถูกฆ่านอกจากนักบุญสตีเฟน ตามที่นักบุญพอลแห่งทาซัสกล่าวว่ามีการขู่จะฆ่าสาวกของพระเยซูในเวลานั้นหลายครั้ง (กิจการ 9:1)

Source: Wiki - มระณสักขี

นักเขียนเอนโด

Shusaku Endo, 1923-1996 ฉายาของแกคือ "The Graham Greene of Japan"


Martin Scorsese Profile - Part 1 of 3



Martin Scorsese Profile - Part 2 of 3


Martin Scorsese Profile - Part 3 of 3









Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2553 20:35:05 น. 10 comments
Counter : 2134 Pageviews.

 
สักขีมรณะ ของประเทศญี่ปุ่น น่าสนใจทีเดียว ดูเหมือนจะออกไปทางน่ากลัวรึเปล่าครับ

ข้อมูลที่นู๋แบร์ นำเสนอ ทำให้ได้รู้ว่า เรื่องราวใน สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ มีการติดต่อด้านการฑูตกับประเทศจีนด้วย
เพราะรู้แต่ว่าในสมัยนั้น รบกับพม่าตลอดเลย


โดย: dj booboo วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:2:22:29 น.  

 
สักขีมรณะ ของประเทศญี่ปุ่น น่าสนใจทีเดียว ดูเหมือนจะออกไปทางน่ากลัวรึเปล่าครับ

ข้อมูลที่นู๋แบร์ นำเสนอ ทำให้ได้รู้ว่า เรื่องราวใน สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ มีการติดต่อด้านการฑูตกับประเทศจีนด้วย
เพราะรู้แต่ว่าในสมัยนั้น รบกับพม่าตลอดเลย


โดย: dj booboo วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:2:22:29 น.

ตอบ แบร์รู้จักแต่จิ๋นซีฮ่องเต้ กำแพงเมืองจีน อิอิ

เอาโบส์ถน่ารักๆๆของญี่ปุ่นมาฝากจ้า
h385 Sakutsu Tenshudou 崎津天主堂 HD


โดย: Bernadette วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:8:59:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ

เคยไปชมโครงกระดูกของ St. ที่โบสถ์ ออตโตบอเรน ที่เยอรมันจ้า


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 11 มีนาคม 2553 เวลา:20:56:41 น.  

 
กรี้ดดดด..น้องแบร์เปิดบ้านแล้ว
เอ่อ...แต่พี่ยังปิดบ้านอยู่เลยง่ะ 55..
งานเยอะโค๊ต แต่แอบมาอ่านหนังบ้านแบร์นะ
รื้อค้นห้องแถวนี้ง่ะ..
แบบจะเช่าหนังประวัติศาสตร์มาดูวันหยุด

แบร์บายดีเปล่า คิดถึงจ้า จุ๊ฟๆ.


โดย: ตัวp_box วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:9:40:16 น.  

 
เปิดบ้านแข่งกับแบร์ก่า..
หลังไมล์บานตะไท กลัวจะโดนเพื่อนเขวี้ยง
พี่อ้อถามถึงง่ะแบร์ สงสัยไม่รู้ว่าแบร์เปิดบล็อกนะ


โดย: ตัวp_box วันที่: 17 มีนาคม 2553 เวลา:12:45:17 น.  

 

ถ้าตัวPไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยะ

หายไป..พี่เชื่อเป็นห่วงรู้ป๊ะ
จะtelไปเดี๋ยวหาว่า..ส.. เอ๊ย!! ยุ่ง

Miss you so much..joop!! joop!!



พาคุณหมอจากญี่ปุ่นไปลงชุมชนมาจ้า..



สบายดีOKแล้วนะ..







โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มีนาคม 2553 เวลา:10:06:38 น.  

 




ถุงใส่ความรักและความคิดถึงค่ะ..สาวแบร์ฯ
อย่าลืมเปิดดูนะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 1 เมษายน 2553 เวลา:12:44:31 น.  

 
อ้าวนู๋แบร์ หายไปไหนล่ะเนี่ย นานจัง


โดย: dj booboo วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:1:16:55 น.  

 
อ้าวนู๋แบร์ หายไปไหนล่ะเนี่ย นานจัง


โดย: dj booboo วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:1:16:55 น.

ตอบ ติดหนังสือแดนบราวน์ กะติดซีรีย์ Tudor งอมแงมเลยค่ะ แง๊บ

ง่าเดี๊ยวเขียนเพลง U2 ดีก่า ชอบ U2 ม๊ากก โหแง๊บบ ออนทัวส์
U2 360° Tour 2009-2010

ตอนนี้ U2 พักผ่อนก่อง

Leg 3: North America 2010
เริ่มอีกที เดือน June-July แถวเมกาเหนือ

Leg 4: Europe 2010
โซนยุโรป อีกทีกะ August เริ่มแสดงที่อิตาลี ละกะทัวส์ไปทั่วยุโรปเลยงะ ไปรัสเซียด้วยยย และไปสิ้นสุดเดือน Oct ที่อิตาลี เช่นเคย

ตั๋วหมกยังกะไม่รู้งะ อยากดูจังเล๊ยย


Stage เป็นรูปฐานยิงไปอวกาศ เท่ห์จังเล๊ยยย

แถมช่วงนี้บ้าดูสารคดีเรื่องอวกาศกาแล็คซี่ แฮะแฮะ



U2 Moment Of Surrender 360 World Tour Live in 3D Dublin New Album HD


โดย: Bernadette วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:18:46:26 น.  

 
แง๊บบ ช่วงนี้ร้อนม๊ากๆๆๆ อากาศร้อน

รักกันม๊ากกกงั๊บบบ

MV เพลงรักเธอประเทศไทย



ร็อกรักชาติ - รักกันไว้เถิด (MV)


พอเพียง





โดย: Bernadette วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:19:17:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bernadette
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit

The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners."

Amen

PaPa for all Father W e pray year of priests.



Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand.

source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html

พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1

ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand >

สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome
Sakonnakorn Christmas Thailand
Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand


Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ...

We are Catholic.

หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Friends' blogs
[Add Bernadette's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.