Corn Movies โอบาม่า หาเสียง หลุมยุบ[Sinkhole]:เป็นธรณีภัยพิบัติภัยประเภทหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีขึ้นมาบ่อยๆในโลกเราแล้ว Deaf : Hearing impairment or Deafness. The Lazarus Effect (2010):The results are nothing short of miraculous. “NextWorld” Future Life on Earth (2008):Discovery Channel presents Playing For Change ( 2009 ): Peace Through Music Songs Around The World. The Human Experience (2008): Forgiveness+++ Faith Hope Love. The Great Director Martin_scorsese :Plans Japanese Martyr release in 2010. Constantine (2005):Be the hand of God. The Polar Express (2004): Merry x'mas 2009 The Phantom of the Opera (2004) :Angel of Music Departures (2009):The gift of last memories. 2012 (2009): We Were Warned as Stay awake, praying at all times. The Nativity Story (2006) :THE GOSPEL ACCORDING TO ST. MATTHEW(1964) The Core (2003):magnetic field Chi bi (2008) :Based on the events during the Three Kingdoms period in Ancient China Red Cliffs. Category 7: The End of the World (2005) :The storm of global proportions is comming. The Matrix Revolutions (2003) : in a promise of a Second Coming. The Matrix Reloaded (2003):the Son of Man. The Matrix (1999):He is the one. The Devil's Advocate (1997): Joining Evil, ., At Satan & Satan U2: Rattle and Hum (1988):Directed by Phil Joanou. Shine a Light (2008):Martin Scorsese Film documentary on the Rolling Stones. Barry Lyndon (1975):Directed by Stanley Kubrick. Star Wars: Episode VI(1983): Return of the Jedi Full Metal Jacket (1987): '' Peace '' & ''Born to Kill Star Wars: Episode V (1980) : The Empire Strikes Back Bangkok Traffic love Story (2009):"รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ" Braveheart (1995) :History is written by those who have hanged Heros. Papillon (1973):The greatest adventure of escape. The Adventures of Tintin (TV series 1991):The Blue Lotus. Star Wars (1977): Episode IV - A New Hope The Children of Huang Shi (2008) :Invasion of the Heart, a story of eastern "Schindler's List" Always: Sunset on Third Street (2005):as Tokyo Tower is being built. The Illusionist (2006) : How Does a Man of Mystery Survive? It’s Magic. Philadelphia (1993):When a man with AIDS is fired by a conservative law firm. A Few Good Men (1992): Code red. 300 (2006) :Brave Enough to Face Freedom. All the President's Men (1976) : Not the greed of money, but power. The Theory of the Leisure Class (2001) :ทฤษฎีของชนชั้นที่มีเวลาว่าง Powder Blue (2009) :Every life has a breaking point. Magnolia (1999):Things fall down. People look up. And when it rains, it pours. Agent of Influence (2002) (TV):Based on novel Ian Adams . The Blair Witch Project (1999) :1994 three student filmmakers disappeared in the woods. "Burn Up" (2008) : environmentally conscious and oil company Poltergeist (1982) :A family's home is haunted by a host of ghosts. Beetlejuice (1988) : a "bio-exorcist" Star Wars: Episode III (2005) - Revenge of the Sith "The Last Templar" (2009) :TV miniseries Star Wars: Episode II - Attack of the Clones (2002) Home (2009):a film by Yann Arthus-Bertrand Star Wars: Episode I - The Phantom Menace (1999) The Holiday (2006) :"Journeys end in lovers meeting." The Postman (Il Postino) (1994) the power of words .... The Unborn (2009) :Sometimes the soul of a dead person has been so tainted with evil. Transsiberian (2008) : Strangers in a strange land. All the Invisible Children (2005) :Seven short films a different child protagonist. Voces inocentes (2004):A young boy, in an effort to have a normal childhood in 1980's El Salvador, Finding Neverland (2004) : Just Belive. Inkheart (2008) :Books are adventure. They love anyone who opens them. Pan's Labyrinth (2006) :Hope For The Weak . Nostalghia (1983) :Andrei Tarkovsky 's film The Tale of Despereaux (2008) : "I beg one's pardon really "the world can be changed. The Ugly American (1963) :that coined the phrase for tragic American blunders abroad. หนังอยากดู :June 5, is the World Environment Day. Knowing (2009) :Warning! This synopsis contains spoilers. Angels & Demons (2009) :Take a tour Vatican & Rome Seven Pounds (2008) :7 pounds = 7 lives lost in the auto accident, Doubt (2008) :intolerance Australia (2008) : The stolen generations. Henry Poole Is Here (2008) :True believers,Hope and Love. The Shoe Fairy (2005):in search of true love and happiness. Ba'al (2008) :the ancient amulets of the storm god Ba'al. My Fair Lady (1964) :The loverliest motion picture of them all! Yes Man (2008):Based on one simple covenant: say yes to everything and anything. The X Files (2008) : I Want to Believe. The Gods Must Be Crazy (1980) : Earth Day 2009, April 22 Nabi Butterfly (2001): Directed by Moon Seung-wook . Steal This Movie (2000) :Yippie founder Abbie Hoffman. Walk the Line (2005): Love is a burning thing. Candy (2006) :More is never enough. The Bad Sleep Well (1960) :by the Japanese director Akira Kurosawa. The Mistress of Spices (2005):Love cannot be wrong. Changeling (2008) : directed by Clint Eastwood National geographic:Geothermal Energy พลังงานทางเลือกที่ถูกลืม 28 March Global EARTH HOUR Marvin's Room (1996) :I've been so lucky to have been able to love someone so much. The Rape of Europa (2006): Imgine the World Without Our Masterpieces. Milk (2008): But without hope live is not worth living. Death Note (2006): The last name (2006) : L: Change the World (2008) Thirteen Days (2000) :You'll Never Believe How Close We Came. Slumdog Millionaire (2008):Welcome who Wants to Be a Millionaire. The Wrestler (2008 ): Love Pain, Glory. The Reader (2008): Unlock the mystery. Blood Diamond (2006) : It will cost you everything. Salvador (1986): El Salvador to chronicle the events of the 1980 Proof (2005) : The biggest risk in life is not taking one. Doctor Zhivago (2002) :Love Is A Mystery The Hours (2002): "deeply moving" and "an amazingly faithful screen adaptation" The Gospel (2005): Welcome to go Home.
The Hours (2002): "deeply moving" and "an amazingly faithful screen adaptation"
ถ้าชอบพล๊อตเรื่องแปลกๆๆเรื่องนี้โดนงะ สามช่วงเวลาเลย อ่า...แต่มีแต่เรื่องสลดหดหู่และฆ่าตัวตายอะ ใครชอบนวนิยาย หรือ Film แนวนี้โดนงะ เล่นได้เฉือดเฉือนแสดงอารมณ์กันน่าดูเลยอะ The Hours คือนวนิยายในปี 1998 novel เขียนโดย Michael Cunningham ได้รับรางวัลพูลิเซอร์ Pulitzer Prize ในปี 1999 และรางวัล the 1999 PEN/Faulkner Award for Fiction เอามาทำเป็นหนังในปี 2002ได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงยอดเยี่ยม นิโคล คิดแมน 2 โกลเด้นโกลฟ ด้วยอะ เอามาทำ Source : //www.fantasticfiction.co.uk/ images/n25/n127165. สิ่งที่ครุ่นคิดเหล่านี้ทั้งหมด ของผู้คนที่ซับซ้อนที่เป็ฯแม่บทของ งานเขียนของ WoolF กับจินตนาการของความสุขและความเจ็บปวดที่ตื่นเต้น กับความงงงวยความหมายที่คลุมเครือและความสว่างของพวกเค้า The hours มันคือช่วงเวลาที่เชื่อมต่อ กับความเป็ฯไปได้ของมนุษย์ กับความฝันถึงความสุข...... และสิ่งล่อใจในบางครั้งคือความตาย The Hours Trailer ''The Hours'' Nicole Kidman เล่นเป็น (Virginia Woolf) นักเขียนนวนิยาย ผู้ขุดหลุม เข้าไปในหัวใจของผู้คนหลายๆคน ที่ถูกรุมล้อมด้วยความเจ็บปวดทางจิตใจ ในระยะสั้นๆที่พวกเค้าได้คิดจากการเจ็บป่วยทรมานทางจิตใจ และการต่อสู้ดิ้นรนกับปีศาจในเรื่องของความหดหู่ ความเศร้าสลด กับความสิ้นหวังที่มันเต็มไปด้วยความรุนแรง และความว่างเปล่า อย่างน่าประหลาดใจ กับสงครามที่เกิดขึ้นภายในตนเอง...ที่ต่อต้าน กับความสมบรูณ์แบบในนวนิยายที่เธอเขียน ที่ถูกถ่ายทอดออกไป กับความบ้าคลั่งเป็นไฟฟ้าสถิตอยู่ในสมองของเธอ ...และมันกับกลายเป็นว่า กับการผสมผสานเล่าเรื่องย้อนไปมาของช่วงเวลา 3 เวลา ที่ ในความลึกลับ แปรปรวน นวนิยายเรื่อง Mrs. Dalloway งานเขียนของ Virginia Woolf ที่มีอิทธิพล เข้ามาในชีวิตของพวกเค้าเหล่านั้น ในปี 1923 ที่อังกฤษ ช่วงเวลาที่วูฟแต่งนวนิยาย และท้ายสุด ที่วูฟเปลี่ยนใจ ไม่ให้นวนิยายของเธอ จบแบบนี้ แต่วูฟเลือกที่จะจบชีวิตของเธอเอง สามีของวูฟ Leonard Woolf ( Stephen Dillane )ที่เห็นวูฟ ไม่สามารถคุมอารมณ์ได้ กับความยุ่งยากในจิตใจภารยาของเค้า มันเหมือนกับว่า วูฟไม่ได้รักคนอื่นๆ แต่ ความทรมานของ เวอร์จิเนีย ที่อดทน ที่ไม่สามารถสัมผัสความรักได้ หรือหาเหตุผล ความกลัวอย่างลึกที่สุด มันหน้ากลัวมากกับการอยู่ลำพังอย่างโดดเดี่ยว ในทางกลับกัน สิ่งที่ปรากฎออกมา ผู้หญิงเหล่านั้น ส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจของพวกเธอ ไม่มีคำนิยามด้วยตัวของพวกเธอเอง ใน เดือน March 28, 1941 ภายในจิตใจของเธอถูกไล่ล่าด้วยเสียงแห่งความเจ็บปวด ตัดสินใจฆ่าตัวตายใน แม่น้ำ Ouse River กับจดหมายลาตายที่เขียนแบบหวัดๆไปมา ถึงสามีของเธอ เลียวนาร์ต ที่รัก การเผชิญหน้ากับชีวิต ...จงเผชิญหน้ากับชีวิตเสมอ เพื่อจะเรียนรู้ ......ว่า...มันคืออะไร อย่างน้อย ...เพื่อรู้จักมัน ...เพื่อรักมัน ...ที่มันคือมัน ..จากนั้น ...เพื่อจะผลักใสมัน เลียวนาร์ต เวลาหลายปีระหว่างเรา ...เวลาแรมปี ....มันคือความรัก ...มันคือโมงยาม และวูฟ (นิโคล คิตแมน)กะ เดินไปที่ริมแม่น้ำ เอาก้อนหินถ่วงใส่กระเป๋าเสื้อ เดินลุยน้ำจนจมน้ำงะ (แถวบ้านเรา เรียกว่า มันคือ ศิลปิน ติ๊สขึ้น อารมณ์ของศิลปินที่ต้องการความพึงพอใจให้กับนิยายที่ตัวเองเขียน และนิยายมันจะได้ไม่ตายงะ) ในปี 1951 The Hours music video (Julianne M, Meryl S & Nicole K) กับการผสมผสานเล่าเรื่องย้อนกลับไปมา จากชีวิตของ Woolf's ผู้ซึ่งเขียนนวนิยาย ''Mrs. Dalloway''และกับชีวิตของ Laura Brown (Julianne Moore) ที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย เธอเป็นแม่ของลูกและภารยาที่ดีของสามี ในปี 1951 Laura เป็นแฟนพันธ์แท้นวนวนิยาย 'Mrs. Dallowayที่อินไปกับบทบาทของตัวละคร กับสามีที่ดีของเธอ ที่เป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ่งที่หน้าสังเกตุและหน้าสนใจมาก ในความเศร้าซึมขี้กลัว ของLaura กับลูกชายของเธอที่ยึดติดกับพี่เลี้ยงที่ดุร้ายหรือ เพื่อนบ้านไปพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็ง และเธอกะตกใจกลัว และเธอกำลังจะฆ่าตัวตาย เตรียมยามาพร้อมสรรพ Laura Brown ที่กำลังท้องแก่ (Julianne Moore)เธอนำลูกชายของเธอไปฝากไว้กับพี่เลี้ยง และเธอไปพักที่โรงแรม หยิบหนังสือเรื่อง ''Mrs. Dalloway'' ขึ้นมาอ่านในตอนที่ว่า... ........จะสำคัญอะไรกับคำถามตัวเอง ขณะมุ่งหน้าไปถนนบอน สำคัญเหรอที่เธอต้องหลีกเลี่ยงโดยสมบรูณ์แบบ ทุกอย่างต้องดำเนินต่อ โดยไม่มีเธอ....เธอคับแค้นใจ ...หรือว่ามันทำให้สบายใจขึ้น ....ถ้าเชื่อว่าความตายนั้นดีที่สุด...มันเป็นไปได้ที่จะตาย Film ตัดไปที่ วูฟ นิโคล คิตแมน กำลังครุ่นคิด ปรับเปลี่ยนนิยายของเธอ ทีแรก วูฟคิดจะฆ่านางเอกของเธอในนิยาย ....แต่วูฟเปลี่ยนใจแล้ว ...สงสัยว่าวูฟอาจต้องฆ่าคนอื่นแทน....มันคือวูฟฆ่าตัวตายเอง Laura Brown ก็ไม่ได้ฆ่าตัวตายเช่นกัน ในปี 2001 The Hours - Mrs Dalloway visits Richard (HQ) เวลาในระหว่างนั้น อีกช่วงเวลาหนึ่ง Clarissa Vaughan(Meryl Streep) (ชื่อเดียวกันกับ ตัวละครที่ Woof แต่งในนิยาย ''Mrs. Dalloway'')เธอเป็น บรรณาธิการในนิวยอร์ก ที่มีชีวิตอยู่ใน หมู่บ้าน Greenwich Village กับการวางแผนเลี้ยงฉลองให้เพื่อนสนิทของเธอRichard Brown (Ed Harris) เค้าเป็นนักกวีหัวก้าวหน้าสมัยใหม่ เค้าต้องการชนะรางวัล .......แต่สิ่งที่หน้าเศร้าคือ Richard Brown เค้าเป็นโรค เอดส์ และ ผลออกมาเค้าไม่ได้รางวัล ...เค้าฆ่าตัวตาย Clarissa และ Richard เค้าทั้งสองคือคนรักกันตอนเด็กๆ แต่ผลสุดท้าย เค้าทั้งคู่เป็นพวกรักร่วมเพศ Richard มีความรักกับ Louis ( Jeff Daniels )เป็น ศาสตราจารย์ในวิทยาลัย San Francisco,ตอนนี้ ผู้ซึ่งแสดงรางวัลขึ้นสำหรับให้งานเลี้ยงฉลอง และ Clarissa มีความรักกับ Sally Lester (Allison Janney) และมีลูกสาวซึ่งเรียนอยู่วิทยาลัย คือJulia (Claire Danes)ที่เกิดจากการขอบริจาคสเปิมของผู้ชายที่ไม่รู้จัก Clarissa (เมอรีล สตริ๊ฟ) ในบทพื้นๆ ที่เธอมีความรักในสัญชาตญาณของเธอ ที่ดูแลริชาร์ด ริชาร์ดซึ่งเต็มไปด้วยความหดหู่ ในความที่ไม่มีอะไรในชีวิตแล้ว กับสิ่งที่ Clarissa ช่วยเหลือเค้า (ริชาร์ดเรียกClarissa ว่า Mrs. Dalloway)ที่ต่อสู้ช่วยให้ ริชาร์ดมีชีวิตอยู่ อย่างถูกต้องและชัดเจน กับการระเบิดอารมณ์ของริชาร์ด กับการแสดงของ เมอรีล สตรีฟ ที่เล่นเ ที่แสดงได้อารมณ์อย่างขุ่นหมองฉวัดเฉวียนผสมไป กับการเป็นนางฟ้าที่เมตตาของเธอ ที่พยาบาล ริชาร์ดที่บาดเจ็บทางจิตใจ ที่เธอทำไปในสัญชาตญาณที่หมายถึงความมีคุณค่าในตัวมนุษย์ และMs. Moore's Laura (ตอนนี้แก่แล้ว)จริงๆๆแล้วเธอคือแม่ของริชาร์ด ก็มาหาClarissa ลอร่าสารภาพว่าเธอไม่ค่อยได้คุยกะริชาร์ด ...มันช่างแย่เหลือเกิน ที่ลอร่าดันอายุยืนกว่าใครๆ ในครอบครัวของเธอ พ่อริชาร์ดตายแล้วเป็นมะเร็งตั้งแต่ยังหนุ่ม น้องสาวริชาร์ดก็ตาย มันทำให้ลอร่ารู้สึกไร้ค่า เธออยู่แต่คนอื่นไม่อยู่ Clarissa ถามลอร่าว่า อ่านงานเขียนของริชาร์ดยังค่ะ ลอร่าบอกว่า มีคนพูดว่า...นิยายอ่านยาก ...เค้าให้ฉันตายในนิยาย ฉันรู้ว่าทำไมริชาร์ดทำแบบนั้น ...มันเจ็บปวดเกินกว่าจะแกล้งทำเป็นไม่เจ็บ ...แต่ฉันรู้ว่าทำไมริชาร์ดทำ Clarissa บอกว่า .....คุณทิ้งริชาร์ดตั้งแต่เค้ายังเด็ก ลอร่า :ฉันทิ้งลูกทั้งสองคน ...ฉันทิ้งพวกเค้า มันเลวร้ายที่สุดเท่าแม่จะพึงทำ ฉันเคยคิดจะฆ่าตัวตาย จะมีความหมายอะไรกับคำว่าเสียใจ ...เมื่อมันไม่มีทางเลือก มันอยู่ที่ความอดทน ...เท่านี้แหละ จะไม่มีใครยกโทษให้ฉัน ทุกอย่างสูญสิ้น ฉันเลือกชีวิต Ms. Moore's Laura แม้ว่าเธอจะเป็นแฟนหนังสือตัวยงของ 'Mrs. Dalloway และ ความขาดของงานเขียนของริชาร์ดลูกชายของเธอ มันคือความอ่อนแอ ความปรารถนาของสรรพสิ่งที่ทำให้ลำบากใจในตัวบทของงานเขียน การหลบหนีกับสิ่งที่มีชีวิตชีวา ความรู้สึกผิด และความนึกคิดที่คลุมเคลือเล็กน้อย Ms. Moore's Laura เธอนำความเปร่งประกายของสีสรร ในความไร้เดียงสา การตีควาหมาย ของโลกที่แตกละเอียด ในความห่างไกลจากสวรรค์ออกมา ถึงแม้ว่าการพยายามฆ่าตัวตายที่หน้าหลงไหลในบทสรุปสุดท้ายของ Film ความชัดเจน ความสมดุล มันคือคำอธิบาย รวมทั้งาน เขียน กับคำถามสุดท้ายของ สามี ของ วูฟ... ทำไมให้ตัวละครในเรื่อง'Mrs. Dalloway จบลงด้วยความตาย เธอตอบอย่างระมัดระวัง, ''ใครบางคนจะต้องตาย ความตายของเราควรจะมีคุณค่าในชีวิตมากกว่า.'' กับเรื่อง Mrs. Dalloway novelที่แต่งโดย Virginia Woolf ตัวจริงอะ Source ://www.fantasticfiction.co.uk images/n11/n56446.jpg เป็นนักเขียนชาวอังกฤษ แต่งเรื่อง Mrs Dalloway ในปี(1925), นำมาสร้างเป็น Film ด้วยย Mrs. Dalloway Trailer นวนิยายของ Woolf's คือรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของ Clarissa Dalloway ผู้หญิงในวงสังคมชั้นสูงของอังกฤษที่จัดงานสังสรรค์ ที่มีประสบการณ์จากการรบกวนเหน็บแนม การพูดเป็นนัยนัย ในชีวิตของเธอ ในวันหนึ่ง Septimus Warren Smith หนึ่งในตัวละครของนวนิยาย ที่เฝ้าดูสังเกตเธอเช่นเดียวกัน กับการผูกมัดที่ต้องการฆ่าตัวตายของเธอ ห้าปีต่อมา ''Mrs. Dalloway'' นวนิยายเรื่องนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนแบบผิวเผิน กับความมีชีวิตชีวาของแนวคิด นวนิยาย ''Mrs. Dalloway''และความไหลลื่นที่ต่อเนื่องกับแนวโน้ม ความรู้สึกแยกแยะมโนธรรม consciousness ในการสื่อของภาษา ที่ผู้คนไม่เคยพบอ่าน เหมือนกับ Clarissa Dalloway และ Septimus Warren Smith ที่เค้าทั้งคู่มีประสบการณ์ภายนอกเช่นเดียวกัน กับแนวคิดในช่วงระยะ 10 ปี ของวรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ และเพื่อนแท้ของผู้อ่าน...และ... ในความเป็นจริงของโลกแห่งการแยกแยะ Virginia Woolf ตัวจริง Source ://wunderbred.files.wordpress. com/2008/05/virginia_woolf.jpg เป็นนักเขียนชาวอังกฤษ แต่งเรื่อง Mrs Dalloway ในปี(1925), ขอนำบทความของ คุณ แค่เพียงรู้สึกสุขใจ มาลงงะ Source ://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aloneagain&month=10-2007&group =1&date=07&gblog=59 ประวัติ Virginia Woolf (๑๘๘๒ ๑๙๔๑) ชาวอังกฤษ นักเขียนนวนิยายแนวทดลอง นักวิจารณ์ นักเขียนเรื่องสั้น นักเขียนความเรียง ชั้นนำในยุคสมัยของเธอ เกิดในย่าน Hyde Park Gate ปี ๑๘๘๒ เจ็บป่วยทางจิตใจครั้งแรกจากความตายของพ่อของเธอ Sir Leslie Stephen ในปี ๑๙๐๔ หลังจากนั้นย้ายมาอยู่ย่าน Bloombery เกิดกลุ่มวรรณกรรมในชื่อเดียวกันจากกลุ่มเพื่อนนักเขียนและศิลปินที่คบหา รวมทั้งร่วมกับสามี Leonard Woolf ตั้งสำนักพิมพ์ Hogarth Press ที่มีชื่อเสียงขึ้นในปี ๑๙๑๗ ด้วย เธอทำงานในช่วงสงบจากการเจ็บป่วยทางจิตใจเป็นระยะๆ มีผลงานอย่างต่อเนื่อง นวนิยายสองเรื่องแรกยังเป็นในรูปแบบตามนิยมกันมาก่อนหน้า จนเมื่อ Jacobs Room ปรากฏขึ้นในปี ๑๙๒๒ จึงได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นงานที่มีนวัตการอย่างสูง จากนั้น Mrs Dolloway (๑๙๒๕) ก็ได้รับการวิจารณ์ว่าพัฒนาขึ้นอย่างมากด้วยวิธีเขียนที่ใช้บทสนทนาภายใน (Interior Monologue) หรือกระแสสำนึก (Stream of Consciousness) และเน้นบุคลิกตัวละครมากกว่าเค้าโครงเรื่อง หลังจากนั้นมาก็มี To the Lighthouse (๑๙๒๗) The Waves (๑๙๓๑) Between the Acts (๑๙๔๑) และอื่นๆ นอกจากนั้นเธอยังมีงานเขียนประเภทความเรียง ข้อเขียนแนวสตรีนิยม งานเชิงชีวประวัติ และเรื่องสั้น ตลอดจนบทความวิจารณ์อื่นอย่างต่อเนื่องมากมายด้วย จากการเจ็บป่วยทางด้านจิตใจอย่างต่อเนื่องยาวนาน ในที่สุดเธอก็ฆ่าตัวเองด้วยการจมน้ำตาย ในปี ๑๙๔๑. อันนี้บทความของพันทิปอะ Without You Here - Meryl Streep music video (The Hours) ฟิลิปป์ กลาส (The Truman Show, Kundun, Hamburger Hill) ผู้ประพันธ์ดนตรี ต้องใช้ความละเอียดอ่อน ในการเรียบเรียง เพื่อให้เข้าถึงแก่นแท้ของภาพยนตร์อย่าง The Hours โดยเขาต้องการที่จะใช้ดนตรี เป็นสะพานที่แสดงถึงเรื่องราว และใช้มันในการแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน กลาสตัดสินใจ ที่จะใช้สไตล์ของนักเขียนนิยายต้นฉบับ ไมเคิล คันนิ่งแฮม และคนเขียนบท เดวิด แฮร์ ผสมผสานในรายละเอียดต่างๆ สร้างเป็น เวลา และจังหวะในเรื่องราวทั้งสาม ดนตรีประกอบนั้นจะไม่แยกเรื่องราวทั้งสามออกจากกัน แต่จะบอกถึงสิ่งที่เชื่อมถึงกัน ในแต่ละเรื่องราว สื่อสารถึงมุมมองแห่งอารมณ์ เรื่องราวทั้งสามที่ต้องการสื่อถึง การทำลายล้างตัวตน การรอดชีวิต การเผชิญหน้าระหว่างคนทั้ง 3 ช่วงเวลา ภาพยนตร์เรื่อง The Hours ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก National Board of Review, ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ 2 สาขาคือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า และนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (นิโคล คิดแมน), ได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงจาก Writers Guild of America และรางวัลระดับโลกอีกมากมาย รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อ เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 9 สาขา Source ://en.wikipedia.org/wiki/The_Hours_(novel) //www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/thehours/ hours.html
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2552 22:58:30 น.
21 comments
Counter : 3192 Pageviews.
โดย: Opey วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:42:36 น.
โดย: Bernadette วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:48:29 น.
โดย: Bernadette วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:19:45 น.
โดย: momster วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:17:03 น.
โดย: Bernadette วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:22:58 น.
โดย: momster วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:40:58 น.
โดย: Bernadette วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:36:22 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:37:06 น.
โดย: Bernadette วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:49:16 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:12:03 น.
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:35:07 น.
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:20:36 น.
โดย: Bernadette วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:27:45 น.
โดย: Bernadette วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:29:06 น.
โดย: mr.cozy วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:46:28 น.
โดย: ostojska วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:47:48 น.
โดย: Bernadette วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:55:51 น.
โดย: Bernadette วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:57:55 น.
โดย: Bernadette วันที่: 25 มีนาคม 2552 เวลา:17:33:19 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [? ]
In the name of the Father, and of the Son, and of the Holy Spirit The Ave Maria asks Mary to "pray for us sinners." AmenPaPa for all Father W e pray year of priests. Card Michael Michai Kitbunchu, Archbishop of Bangkok, is the first member of the College of Cardinals from Thailand. source :http://www.asianews.it/news-en/Michai-Kitbunchu,-first-cardinal-from-Thailand-3038.html พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู คณะเชนต์ปอล part1 ฺBishop ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช พิธีรับPallium Metropolitans Bangkok Thailand > สารคดี เทศกาลแห่ดาว สกลนคร Welcome Sakonnakorn Christmas Thailand Metropolitans Tarae Sakornakorn Thailand Orchestra and four vocal Choir - *Latin* Recorded for the Anniversary of the Pope Benedict XVI April 19 This is the Anthem of the Vatican City. The Songs are called Inno e Marcia Pontificale ... We are Catholic. หน้าเฟส อัพรูป หาที่อัพรูปใหม่อยู่ http://www.facebook.com/bernadette.soubirous.3
สวัสดีจ้ะเป็นงัยบางเอ่ยสงสัยว่าคงจะยุ่งก็รักษาสุขภาพด้วยจ้ะ