บล็อกนี้ไม่มี VIP ค่ะ ทุก ๆ คนเป็น VIP อยู่แล้ว เมื่อคลิกเข้ามา
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
26 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
วิธีวัดความสูงของตึก

วิธีวัดความสูงของตึก




โจทย์ข้อหนึ่ง
ในข้อสอบวิชาฟิสิกส์
ของมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน
มีดังนึ้



"จงอธิบายว่า
ท่านจะใช้บารอมิเตอร์
วัดความสูงของตึกระฟ้าได้อย่างไร"




บารอมิเตอร์ คือ
เครื่องมือวัดความกดอากาศ

(อากาศนั้น
มีน้ำหนักหรือมีแรงกด
และแรงกดของอากาศนั้น
เมื่ออยู่ในระดับความสูงที่เปลี่ยนไป
ความกดอากาศก็เปลี่ยนไปด้วย)


นักศึกษาคนหนึ่ง
เขียนคำตอบลงไปว่า


"เอาเชือกยาวๆ ผูกกับบารอมิเตอร์
แล้วหย่อนลงมาจากยอดตึก
แล้วก็เอาความยาวเชือก
บวกความสูงบารอมิเตอร์
ก็จะได้ความสูงของตึก"





อาจารย์ที่ตรวจข้อสอบ
ตัดสินให้นักศึกษาคนนั้นสอบตก

นักศึกษาผู้นั้นยืนยันต่ออาจารย์ที่ปรึกษาว่า
คำตอบของเขา
ควรจะถูกต้องอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
และคำตอบของเขา
ก็สามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์


ทางมหาวิทยาลัย
จึงตั้งกรรมการชุดหนึ่งมาตัดสินเรื่องนี้
และในที่สุดคณะกรรมการก็มีความเห็นตรงกันว่า
คำตอบนั้นถูกต้องอย่างแน่นอน
แต่เป็นคำตอบ
ที่ไม่แสดงถึงความรู้ความสามารถทางฟิสิกส์

ดังนั้น
เพื่อเป็นการแก้ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น
ทางคณะกรรมการ
จึงให้เรียกนักศึกษาคนนั้นมา
แล้วให้สอบข้อสอบข้อนั้นอีกครั้งหนึ่งต่อหน้า
โดยให้เวลาเพียง 6 นาที
เท่ากับเวลาในการสอบข้อสอบเดิม
เพื่อหาคำตอบ
ที่แสดงให้เห็นถึงความรู้ทางด้านฟิสิกส์


หลังจากผ่านไป 3 นาที
นักศึกษาคนนั้นก็ยังนั่งนิ่งอยู่
กรรมการจึงเตือนว่า
เวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้วจะไม่ตอบหรืออย่างไร

นักศึกษาหัวรั้นจึงตอบว่า
เขามีคำตอบมากมาย
ที่เกี่ยวกับฟิสิกส์
แต่ไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า
จะใช้คำตอบไหนดี

และเมื่อได้รับคำเตือนอีกครั้ง
นักศึกษาจึงเขียนคำตอบลงไปดังนี้




ให้เอาบารอมิเตอร์
ขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกและทิ้งลงมา
จับเวลาจนถึงพื้น
ความสูงของตึก
หาได้จาก
สูตร H=0.5g*t กำลัง 2



หรือถ้าแดดแรงพอ
ให้วัดความสูงบารอมิเตอร์
แล้วก็วางบารอมิเตอร์ให้ตั้งฉากพื้น
แล้ววัดความยาวของ
เงาบารอมอเตอร์
จากนั้นก็วัดความยาวของเงาตึก
แล้วคิดด้วยตรีโกณมิติ
ก็จะได้ความสูงของตึก
โดยไม่ต้องขึ้นไปบนตึกด้วยซ้ำ



หรือถ้าอยากใช้ความสามารถ
ด้านวิทยาศาสตร์มากกว่านี้
ก็เอาเชือกเส้นสั้น ๆ
มาผูกกะบารอมิเตอร์
แล้วแกว่งเหมือนลูกตุ้ม
ตอนแรกก็แกว่งระดับพื้นดิน
แล้วก็ไปแกว่งอีกทีบนดาดฟ้า
ความสูงของตึก
จะหาได้จากความแตกต่าง
ของคาบการแกว่ง
เนื่องจาก
ความแตกต่าง
ของแรงดึดดูดจากจุดศูนย์กลางของมวล
คำนวณจาก
T = 2 พาย กำลัง 2 รากที่ 2 ของ l/g



ถ้าตึกมีบันไดหนีไฟก็ง่าย ๆ
ก็เดินขึ้นไปเอาบารอมิเตอร์ทาบ
แล้วก็ทำเครื่องหมายไปเรื่อย ๆ
จนถึงยอดตึกนับไว้
คูณด้วยความสูงของบารอมิเตอร์
ก็จะได้ความสูงตึก


แต่ถ้าคุณเป็นคนที่น่าเบื่อ
และยึดถือตามแบบแผนจำเจซ้ำซาก
ก็เอาบารอมิเตอร์
วัดความดันอากาศที่พื้นและที่ยอดตึก
คำนวณความแตกต่าง
ของความดันก็จะได้ความสูง


ส่วนวิธีสุดท้าย
ง่ายและตรงไปตรงมาก็คือ
ไปเคาะประตูห้องภารโรง
แล้วถามว่า
อยากได้
บารอมิเตอร์สวย ๆ ใหม่เอี่ยมสักอันไหม
ช่วยบอกความสูงของตึกให้ที
แล้วจะยกให้



นักศึกษาคนนั้นคือ นีล โบร์
ผู้ได้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์
ในปีค.ศ.1922



ที่มา //www.thaireaderclub.com/article.php?c_no=776&f_group=life




อ่านพบจากคำตอบของคุณ aa ห้องหว้ากอ
ขอบคุณมากค่ะ

อ่านจบ หัวเราะไม่หยุดเลยค่ะ
คนมีความรู้เยอะ ๆ
แต่มีอารมณ์ขันแบบนี้
หายากนะคะ


แอบสงสัยหน่อยเดียวค่ะ
ภารโรง
ทราบความสูงของตึกด้วยเหรอ ??





Create Date : 26 สิงหาคม 2550
Last Update : 26 สิงหาคม 2550 9:39:59 น. 36 comments
Counter : 5790 Pageviews.

 
โอโห้ ทำไปได้ ถ้าได้คุยกับคนแบบนี้จะรู้เรื่องไหมเนี่ยะๆ ความคิดแบบว่าสุดยอดมาก


โดย: BaLL182 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:0:19:55 น.  

 
คิดได้หลายทางเนอะ

ทำไมต้องเหมือนกันด้วย
คิดต่างก็ใช่ว่าจะผิด


โดย: Nilz วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:0:34:27 น.  

 
คุ้น คุ้นนะค่ะ goodnight หลับฝันดีค่ะ


โดย: ann_269 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:0:51:19 น.  

 
เข้ามาฮาด้วยคนค่ะ แหม ชอบคำตอบสุดท้ายจัง


โดย: Complicatedgirl วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:0:53:18 น.  

 
นั่นสิ ตอนเรียนก็เคยนึกเถียงอาจารย์บ่อยๆว่าทำไมต้องทำตามแบบแผนน่าเบื่อๆ

555


โดย: ปลายเทียน วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:1:39:50 น.  

 
ความคิดดีมากค่ะ


โดย: sherbet IP: 121.100.32.51 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:2:55:12 น.  

 
เราชอบคำตอบข้อสุดท้ายมากที่สุด

แต่ถ้าเราเป็นนักศึกษาคนนั้น เราจะตอบว่า

"ก็ไปถามสถาปนิกกะวิศวกรที่สร้างตึกนั้นสิ" 5555


โดย: สถาปนิก (nattabe ) วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:3:23:08 น.  

 
สวัสดีครับ

ชอบคำตอบที่ว่า

เอาบารอมิเตอร์ไปแลกคำตอบจากภารโรงอ่ะครับ.... หุ หุ เป็นการใช้บารอมิเตอร์หาคำตอบ จริง ๆ นะนั่น....



โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:7:22:52 น.  

 
5555555555555555
เปิ้นว่าสุดท้ายอาจารย์คงจะยอมให้ผ่านเนอะ
อธิบายซะยาวเลย
ยกตัวอย่างมาแต่ละอัน สุดยอด

อ่านจบ ขำกร๊ากกกกส์
นั่นซิเนอะ จะไปยากอะไร
ก็แค่ไปถามภารโรงก็จบ....ฮา


โดย: fonrin วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:8:37:01 น.  

 
โอ้โห แบบนี้ถ้ายังให้ตกอยู่ก็ไม่รู้ว่ากระไรแล้วล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:8:50:10 น.  

 
เป้นตลกที่ประชดประชัน แต่แถมแนวคิดหลุดกรอบได้เจ๋งมาเลยครับ



โดย: หัวหยิกฯ IP: 125.24.105.208 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:9:21:07 น.  

 
ยังจะมีอาจารย์คนไหนกล้าสอนเขาละเนี่ย


โดย: เซียวฟง IP: 203.107.201.249 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:9:51:34 น.  

 
...อัจฉริยะ...
มุมมองสูง แต่การตัดสินใจ..???..


โดย: t-nat IP: 124.120.111.72 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:11:39:50 น.  

 


โดย: สายลม...แห่งรัก IP: 203.113.71.105 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:12:39:10 น.  

 
โอว์ เรื่องนี้ดีจัง


โดย: มรรคณิชา วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:14:24:53 น.  

 
เรื่องนี้เคยได้ยินมาล่ะ อิอิอิ

แต่เท่าที่จำได้เค้าคิดได้หลายวิธีมากๆ
เป็นนักคิดนอกกรอบ (ที่อาจจะกวนตรีนในสายตาของคนอื่น)

ที่มีนอกเหนือจากที่ยกตัวอย่างมา
ก็เช่น

เอาบารอนมิเตอร์ไปวางตั้งฉากกับตึก
แล้ววัดมุมจากพื้นผ่านบารอนมิเตอร์ถึงยอดตึก
แล้วคำนวณความสูงของตึกได้ง่ายๆ เหมือนกัน
(ไม่ต้องปืนขึ้นตึกด้วย)

ส่วนภารโรงของฝรั่งน่ะ
เค้าน่าจะมีแปลนของตึกอยู่ที่ออฟฟิศของเค้าด้วยซ้ำ
ดังนั้นแค่เรื่องความสูงน่ะ รู้แน่ๆ
ดังนั้นวิธีที่จะแลกบารอนมิเตอร์กับความสูงของตึก
ก็เป็นวิธีการที่ไม่เลวทีเดียว
(เพราะภารโรงสามารถเอาไปขายให้คนอื่นต่อได้ในราคางาม อิอิ)

:)


โดย: TonMai2K IP: 125.27.121.157 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:14:47:48 น.  

 
อ่านแล้วอึ้งค่ะ มาอึ้งเยอะสุดเอาตอนสุดท้ายที่ให้ไปถามภารโรงอ่ะ


โดย: กวางตุ้งหวาน วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:15:13:27 น.  

 
ช่างมีความคิดที่ดีและหลากหลายจริงๆเลยนะคะ

คิดได้ไงเนี่ย...สามารถ ๆ


โดย: ปางหวัน วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:15:29:01 น.  

 
อยากฉลาดและมีอารมณ์ขันแบบนี้มั่งจัง


โดย: 9A วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:16:07:46 น.  

 
สุดยอดเลยคราบ


โดย: mang1 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:18:09:11 น.  

 
ชอบวิธีคิดของเค้าจังเลยครับ
ขอยืมนำไปเผยแพร่หน่อยนะครับ อิอิ


โดย: silvester IP: 124.121.163.157 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:18:42:08 น.  

 

โอว์ คำตอบของฟิสิกซ์มีมากกว่าหนึ่งคำตอบ จริงๆด้วย ขอยกนิ้วให้เลยครับกับคำตอบทั้งหลาย


โดย: yyswim วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:19:10:08 น.  

 
คนเรียนมาทางสายศิลป์ ได้รับความรู้ไปเต็มๆ


โดย: หลังคาดำแดง วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:19:34:25 น.  

 
ไม่ได้เรียนฟิสิกซ์มา ตึ้บเลย


โดย: นก IP: 77.177.1.74 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:21:18:26 น.  

 

อ่าแล้วอมยิ้มเลยครับ :)



โดย: mingdynasty วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:21:48:14 น.  

 
เรื่องนี้ สอนให้ คน จำพวกอย่าง เราๆ ได้รู้ว่า

สิ่งที่เราคิดนั้น ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย และ เป็นคำตอบที่ถูก อย่างเดียวเท่านั้น

************************************


รู้ตัวแล้วล่ะครับ



โดย: nO my name วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:22:31:30 น.  

 
ชอบมากเลยครับเรื่องนี้
อ่านแล้วทั้งขำทั้งคิดตาม

ว่าแต่ภาพประกอบภาพนี้มีนกเพนกวินอยู่กี่ตัวครับ
ผมนั่งนับอยู่ตั้งนานละ...


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:4:43:05 น.  

 
อุอุ สรุปว่าข้อแรกง่ายและถูกต้องที่สุดแระเน๊อะ ^_^

สวัสดีค่ะแวะมาทักทายกันเหมือนเดิมค่ะ สบายดีนะคะ


โดย: Beee (Beee_bu ) วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:18:27:49 น.  

 
มีวิธีคิดและคำนวน ได้หลายทางเลย


โดย: หลังคาดำแดง วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:18:55:29 น.  

 
ของบางอย่าง ไม่ได้รับรู้ด้วยตา แต่รับรู้ด้วยหัวใจค่ะ อิอิ
มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: เชอรี่ IP: 202.28.180.201 วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:20:47:58 น.  

 
เหอๆๆ
คิดไปได้ จ๋าโง่สุดเลย
วิชาพวกวิทยาศาสตร์ทุกแขนง

แวะมาทักทายค่ะ
สบายดีหรือเปล่าค่ะ


โดย: Jaa+ (jajijaa ) วันที่: 27 สิงหาคม 2550 เวลา:21:52:16 น.  

 
วิธีการแก้ปัญหานี่สุดยอดเลยคับ


โดย: เพลงนี้เกี่ยวกับความรัก วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:0:21:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมนะคะ ขอให้คุณจขบ.มีความสุขเช่นกันนะคะ ^^

ไว้ว่างๆจะมาอ่านอีกที
พอดีรีบๆน่ะค่า


โดย: iNt_GaL วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:1:22:46 น.  

 
แวะมาชมจ้า


โดย: เกอเซอร์บรู๊ค IP: 84.104.9.208 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:2:37:28 น.  

 
ปรปมือให้เลย แปะ ๆๆ
ต้องคิดนอกกรอบ ถึงจะเจ๋ง


โดย: ใสซื่อดื้อตาใส วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:0:37:37 น.  

 
กฎมีไว้ให้เเหก


โดย: dconan IP: 125.25.201.42 วันที่: 24 มกราคม 2551 เวลา:18:34:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

โสดในซอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]






e-mail ติดต่อโสดในซอย
singleinsoi@hotmail.com






Facebook โสดในซอย
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363





“เติมรักให้เต็มรุ้ง”
งานเขียนล่าสุดของ “โสดในซอย”

สั่งซื้อในบล็อก
พร้อมลายเซ็น
ราคารวมค่าส่ง 305 บาท
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หมายเลขบัญชี 020-056941-6
ชื่อบัญชี มนชญา
โปรดโอนให้มีเศษสตางค์
เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง
และแจ้งรายละเอียดการโอน
พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
ที่หลังไมค์ได้เลย
หรือตามร้านหนังสือค่ะ

ขอบคุณค่ะ





ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง
ของ "โสดในซอย"
โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน
วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน
ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ








ขายหรือให้เช่า
ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์
35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ไลน์ aazz999




Friends' blogs
[Add โสดในซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.